บทที่ 253 หายดี
บทที่ 253 หายดี
ไข้หวัดเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย
เริ่มจากใครคนหนึ่งเริ่มเป็นหวัด จากนั้นเชื้อก็จะแพร่กระจายไปทั้งครอบครัว
โจวอี้สามารถรักษาไข้หวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ปกครองหลายคนรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาหวังว่าโจวอี้จะต้มยาจีนให้ลูก ๆ ของพวกเขาเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชั้นของถังเหมียวเหมี่ยว
ดังนั้นผู้ปกครองที่มารับเด็กจึงรวมตัวกันปรึกษาหารือและแนะนำให้ผู้ปกครองที่เป็นแกนนำหลายคนเป็นตัวแทนเข้าไปในโรงเรียนเพื่อหารือกับผู้อำนวยการโรงเรียนและครูประจำชั้น
ภายในชั้นเรียนของถังเหมียวเหมี่ยว
เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นครูหรือผู้ปกครองของนักเรียนคนอื่น ๆ พวกเขาล้วนมีรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้า
โดยเฉพาะผู้ปกครองที่เลือกไว้วางใจโจวอี้นั้นดูเบิกบานที่สุด
โชคดีที่พวกเขาเลือกที่จะพาลูกมาโรงเรียนและกินยาจีนที่โจวอี้เตรียมไว้ให้
หูหลานเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
เธอยืนอยู่ท่ามกลางบรรดาผู้ปกครองของนักเรียนคนอื่น ๆ พลางเหลือบมองลูกสาวที่มีสีหน้าดูอมชมพูสดใสมากขึ้น และนึกถึงเรื่องของเหลียนซินเฟิงและอวี่เหวินฮุ่ยได้ทันที สองสามีภรรยาคู่นั้นไม่ต้องการให้เสี่ยวอวี่มาที่โรงเรียน ดังนั้นจึงพลาดยาจีนที่หมอโจวเป็นคนต้ม
เธอตัดสินใจที่จะไม่ให้เถาเทาลูกสาวของเธอไปเล่นกับเสี่ยวอวี่ในช่วงนี้ เพราะลูกสาวของเธออาจติดเชื้อหวัดจากเสี่ยวอวี่อีกรอบ
เมื่อเสียงกริ่งหลังเลิกเรียนดังขึ้น เด็ก ๆ ในโรงเรียนอนุบาลก็ต่อคิวกันอยู่ที่หน้าห้องเรียนเพื่อเตรียมเดินออกจากโรงเรียน
โจวอี้ไม่รีบร้อน เขาจูงมือเล็ก ๆ ของลูกสาวแล้วเดินตามเฉินเยว่ฉินไปที่ห้องทำงานของเธอ
“หมอโจวนั่งลงก่อนเถอะค่ะ” เฉินเยว่ฉินกล่าวทักทายพลางหยิบกล่องช็อกโกแลตออกมาจากลิ้นชัก ก่อนจะใส่ไว้ในมือของถังเหมียวเหมี่ยว
“ขอบคุณค่ะคุณครู!” ถังเหมียวเหมี่ยวยิ้มหวาน
“ด้วยความยินดี!” เฉินเยว่ฉินค่อย ๆ ลูบศีรษะเล็ก ๆ ของถังเหมียวเหมี่ยว จากนั้นเธอก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “หมอโจว วันนี้เรารบกวนคุณมากจริง ๆ สมุนไพรพวกนั้นมีราคาเท่าไหร่คะ ฉันจะจ่ายให้”
“ไม่ต้องหรอก ๆ ผมอยากต้มยาจีนให้กับพวกเด็ก ๆ อยู่แล้ว ถ้าผมเก็บเงิน ผมคงนอนไม่หลับแน่” โจวอี้โบกมือ
“ไม่ได้หรอก เราเป็นคนเชิญคุณมาโรงเรียนเพื่อต้มยาให้กับเด็ก ๆ มันเป็นการรบกวนคุณ และมันไม่สมควรอย่างยิ่งที่คุณจะต้องควักเงินตัวเองซื้อยามาให้เรา” เฉินเยว่ฉินกล่าวอย่างจริงจัง
“คุณเฉิน มันไม่ใช่เงินมากมายอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล” โจวอี้ส่ายหัว ก่อนจะอุ้มลูกสาวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วพูดว่า “ผมเต็มใจที่จะรักษาเด็ก ๆ เพราะมันเป็นมาตรการป้องกันอย่างหนึ่งให้กับลูกสาวของผมด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้วลูกสาวของผมต้องมาโรงเรียน ดังนั้นผมเองก็ต้องหาทางทำอะไรสักอย่างไม่ให้เธอติดเชื้อหวัด!”
เฉินเยว่ฉินเห็นทัศนคติที่แน่วแน่ของโจวอี้แล้วจึงเลิกที่จะเกลี้ยกล่อมเขาอีก
เธอรู้สึกขอบคุณและรู้สึกว่าถังเหมียวเหมี่ยวเป็นดาวนำโชคสำหรับครูและเด็ก ๆ ทุกคนในโรงเรียนนี้
แน่นอนว่าเป็นดาวนำโชคของเธอด้วย
เฉินเยว่ฉินมองมาที่ถังเหมียวเหมี่ยว และเธอไม่สามารถซ่อนความรักใคร่เอ็นดูนี้ได้เลย
กริ๊ง…
โทรศัพท์มือถือของเฉินเยว่ฉินดังขึ้น เธอมองโจวอี้ด้วยท่าทางขอโทษแล้วหันไปรับโทรศัพท์ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดจากปลายสาย สีหน้าของเธอก็ดูแปลกไปทันที
เธอคุยกับอีกฝ่ายสั้น ๆ แล้ววางสาย
โจวอี้พบว่าเฉินเยว่ฉินกำลังมองเขาอย่างกระอักกระอ่วน เขาจึงถามออกไป
“เกิดอะไรขึ้น?”
“แค่ก ๆ หมอโจว ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากแผนกรักษาความปลอดภัย พวกเขาบอกว่าผู้ปกครองที่มารับนักเรียนได้ยินข่าวเกี่ยวกับการต้มยาจีนของคุณ พวกเขาก็เลยหวังว่าคุณจะเตรียมยาจีนให้กับอาจารย์ทุกคนและนักเรียนในโรงเรียน เพื่อไม่ให้ครูและนักเรียนต้องเผชิญกับไข้หวัดอีกต่อไป” เฉินเยว่ฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มแห้ง
“อาจารย์และนักเรียนทุกคน?”
โจวอี้ตกตะลึง จากนั้นก็พยักหน้าและพูดว่า “ถ้าครูและนักเรียนทุกคนในโรงเรียนนี้เลิกเป็นหวัดก็คงดี”
เฉินเยว่ฉินรู้สึกละอายใจเล็กน้อย
เพราะเธอยังพูดไม่จบ
เนื้อหาที่หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยบอกเธอทางโทรศัพท์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
“คือ…” เฉินเยว่ฉินลังเล
“ทำไม? มีอย่างอื่นอีกเหรอครับ?”
“พวกผู้ปกครองบอกว่าพวกเขายินดีจ่ายค่ายาและช่วยคุณต้มยา แต่พวกเขาแค่หวังว่าคุณจะต้มยาให้ได้มากขึ้นเพื่อเผื่อบรรดาพ่อแม่ที่เป็นหวัดด้วยน่ะ”
“ฮ่า เรื่องแค่นี้เอง! ถ้ายาจีนที่ผมต้มสามารถรักษาเด็ก ๆ ได้ แต่พอกลับบ้านไป พวกเขาก็ไปติดหวัดจากพ่อแม่ต่อ แบบนี้มันก็เท่ากับว่าไม่เกิดประโยชน์อะไร ดังนั้นการต้มให้ทุกคนกินทั้งหมดย่อมดีที่สุด!” โจวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คุณจะทำเหรอ?” เฉินเยว่ฉินตกตะลึง
“ใช่ครับ” โจวอี้ยิ้ม
“ฉันขอขอบคุณจากใจจริงนะคะ” เฉินเยว่ฉินรู้สึกขอบคุณ จากนั้นเมื่อเธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและเตรียมจะโทรหาหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเพื่อขอให้พวกเขานำตัวแทนผู้ปกครองเข้ามา จู่ ๆ เธอก็นึกอะไรบางอย่างออก “หมอโจว คุณต้องการวัตถุดิบยาเท่าไหร่? คุณช่วยเขียนรายการให้ทางเราได้ไหม ฉันจะได้ส่งคนไปซื้อให้”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปซื้อเอง!”
“ไม่ดีหรอก แค่นี้ก็ลำบากมากแล้ว ฉันไม่สามารถปล่อยให้คุณซื้อวัตถุดิบยาเองได้อีกแล้ว” เฉินเยว่ฉินกล่าวอย่างเร่งรีบ
“โรงเรียนของคุณรวยมากไหม?” โจวอี้ถาม
“ใช่! แม้ว่าจะไม่มากมายมหาศาล แต่ถ้าเป็นแค่เงินสำหรับซื้อยาจีนก็น่าจะเพียงพอ” เฉินเยว่ฉินยิ้ม
“คุณเฉิน ยาจีนชุดที่ผมเพิ่งต้มไป ผมใช้เงินทั้งหมดแปดหมื่นหยวนเพื่อซื้อวัตถุดิบยาเหล่านั้น แม้ว่าจะมีวัตถุดิบยาเหลืออยู่บ้าง แต่วัตถุดิบยาที่ผมซื้อมาก็เพียงพอแค่รักษาได้สี่สิบคนเท่านั้น เอาล่ะ ตอนนี้คุณบอกมาทีว่าโรงเรียนของคุณมีกี่คน และครอบครัวพวกเด็ก ๆ เหล่านั้นมีกี่คน”
“แปดหมื่น?” เฉินเยว่ฉินจ้องมองโจวอี้ด้วยแววตาเหลือเชื่อ
“แปดหมื่นหยวน ราคานี้เป็นราคาที่เจ้าของร้านขายยาลดให้ผมแล้ว” โจวอี้ยิ้ม
เฉินเยว่ฉินตกตะลึง
ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมยาจีนของโจวอี้ถึงได้ดีนัก
วัตถุดิบยาราคา 80,000 หยวน!
ใช้รักษาได้เพียง 40 คนเท่านั้น
มีครูและนักเรียนกี่คนในโรงเรียนนี้?
รวม ๆ แล้วก็คงมีมากกว่า 800 คน!
และถ้าหากเพิ่มผู้ปกครองของนักเรียนเข้าไปอีก แม้ว่าแต่ละครอบครัวจะมีสมาชิกสามคน แต่จำนวนทั้งหมดอาจจะเป็น 2450 คน แต่ถ้าหากครอบครัวมีสมาชิกมากกว่านั้นล่ะ… 3000 คนก็คงเป็นไปได้
วัตถุดิบยาจำนวน 80,000 หยวนสามารถรักษาคนได้ 40 คน ซึ่งเท่ากับ 2,000 หยวนต่อคน
ถ้าคำนวนให้กิน 3,000 คน คุณจะต้องใช้เงินหกล้านในการซื้อวัตถุดิบยาทั้งหมด!
แค่ไข้หวัดระบาดรอบเดียว แต่กลับทำให้โรงเรียนต้องเสียเงินหกล้าน!
โจวอี้มองท่าทีที่ดูสับสนของเฉินเยว่ฉิน มุมปากของเขายกขึ้นทันที จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาและกดโทรออก
“เฮ้ น้องโจว โทรมาชวนฉันดื่มเหรอ?” เสียงหัวเราะของหวงไห่เทาดังออกมาจากปลายสาย
“จะชวนกินยาจีน จะกินไหมล่ะ?” โจวอี้หยอกล้อ
“บ๊ะ! ฉันไม่ป่วยสักหน่อย จะไปกินยาจีนขม ๆ ของนายทำไม เอ๊ะ เดี๋ยวนะ หรือว่ากำลังหมายถึงกินยาที่นายจะทำขายให้ตระกูลหวงของฉันเหรอ?” หวงไห่เทาถามด้วยแววตาเป็นประกาย
“ไม่ใช่” โจวอี้ตอบกลับ จากนั้นจึงเล่าเกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดในโรงเรียน และสุดท้ายก็พูดว่า “คุณคือหัวหน้าใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ ดังนั้นคุณต้องจ่ายเงินเอง”
“ไม่มีปัญหา ราคาเท่าไหร่ล่ะ?” หวงไห่เทาร่ำรวยมากอยู่แล้ว ดังนั้นขอแค่เพียงโจวอี้บอกมา เขาก็ยินดีที่จะตกลง
“คุณเฉิน ทั้งหมดมีกี่คน ราคาเท่าไหร่?” โจวอี้ถาม
“ตามการคาดการณ์ก็จำนวนคนประมาณสามพันคน ค่าใช้จ่ายก็ประมาณหกล้านหยวน” เฉินเยว่ฉินพูดพลางมองไปที่โจวอี้
“อืม!” โจวอี้ตอบรับและบอกหวงไห่เทาว่าเขาต้องการเงินเท่าไหร่ จากนั้นก็วางสาย
เฉินเยว่ฉินสะดุ้งได้สติก่อนจะมองโจวอี้แล้วถามว่า “หมอโจว คุณคุ้นเคยกับคุณหวงมากเลยเหรอ?”
“พูดว่าคุ้นเคยคงไม่ถูก! เรียกว่าเป็นเพื่อนตายน่าจะดีกว่า”
โจวอี้หัวเราะ
เพื่อนตาย?
เฉินเยว่ฉินตกตะลึง
ขณะนี้เธอเริ่มรู้สึกเกรงกลัวโจวอี้บ้างแล้ว
เดี๋ยวนะ
ทันใดนั้นเธอก็จำอะไรบางอย่างได้ และสีหน้าของเธอก็ดูแปลกไปทันที
“หมอโจว ตอนที่เราพบกันครั้งแรก เราไปสถานีตำรวจด้วยกัน ตอนนั้นคุณดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณหวงใช่ไหม?” เฉินเยว่ฉินถาม
“โฮ่ ผมรู้จักเขาในตอนนั้น แต่เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้จักผม” โจวอี้ยิ้ม
“แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก? ทำไม?” เฉินเยว่ฉินรู้สึกสับสนกับคำพูดของโจวอี้
“เพราะตอนนั้นเขาเป็นหนี้ผม เขาเลยกลัวว่าผมจะทวงหนี้เขาต่อหน้าผู้คนมากมาย” โจวอี้หัวเราะ
“…”