บทที่ 252 ต้มยาที่โรงเรียน

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 252 ต้มยาที่โรงเรียน

บทที่ 252 ต้มยาที่โรงเรียน

หลานซิน หยาหยวน คอนโด

นี่คือเขตที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ของจินหลิง คอนโดทั้งหมดในแถบนี้มีพื้นที่ใช้สอยอย่างน้อย 180 ตารางเมตร

เหลียนซินเฟิงยื่นหัวเข้าไปในห้องครัวด้วยสีหน้าแปลกประหลาดและตะโกนว่า “ครูของเสี่ยวอวี่เพิ่งโทรมาเพื่อให้เราพาเสี่ยวอวี่ไปโรงเรียน!”

“พวกเราไม่ได้ขอลาให้เสี่ยวอวี่แล้วหรอกเหรอ? ไปโรงเรียนทำไมในเมื่ออากาศเริ่มเย็นลงแล้ว?” อวี่เหวินฮุ่ยเดินออกมาจากห้องครัวโดยสวมผ้ากันเปื้อน

“พ่อของถังเหมียวเหมี่ยวบอกว่าวันนี้เขาจะไปที่โรงเรียนเพื่อต้มยาจีนให้เด็ก ๆ เพื่อรักษาและป้องกันโรคหวัด” เหลียนซินเฟิงกล่าว

“พ่อของถังเหมียวเหมี่ยว? อืม ฉันเคยได้ยินมาว่าเขาทำงานในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง แต่เขายังเด็ก ดังนั้นคงมีความสามารถไม่เท่าไหร่ ฉันคิดว่าเราไม่ควรพาเสี่ยวอวี่ไปหรอก” อวี่เหวินฮุ่ยส่ายหน้า

“ผมก็คิดแบบนั้น ก็เลยปฏิเสธครูเล่ยเล่ยไป บอกว่าอาการหวัดของเสี่ยวอวี่รุนแรงมากและจำเป็นต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา” เหลียนซินเฟิงหัวเราะ

“อืม” อวี่เหวินฮุ่ยพยักหน้า

ทันใดนั้นเอง เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น

เหลียนซินเฟิงเปิดประตูและพบเพื่อนบ้าน

หูหลานและลูกชายยืนอยู่หน้าประตู

ครอบครัวพวกเขาสามคนคุ้นเคยกับสองแม่ลูกที่หน้านี้ประตูนี้เป็นอย่างดี เพราะทั้งสองครอบครัวไม่ได้เป็นแค่เพื่อนบ้านกัน แต่ลูกของพวกเขาก็เรียนที่โรงเรียนเดียวกัน ชั้นเดียวกัน และห้องเรียนเดียวกัน

“คุณแม่ของน้องเถาเทานี่เอง คุณมีธุระอะไรเหรอ?” เหลียนซินเฟิงถาม

“ครูเล่ยเล่ยไม่ได้โทรหาคุณเหรอ? เธอบอกว่าหมอโจวกำลังจะไปโรงเรียนเพื่อรักษาและป้องกันโรคหวัดให้เด็ก ๆ เพื่อที่ว่าพวกเด็ก ๆ จะได้กลับไปเรียนได้ตามปกติ ฉันจะไปส่งเถาเทา คุณอยากไปกับฉันไหม? ” หูหลานถามด้วยรอยยิ้ม

“คุณแม่เถาเทา คุณเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เหรอว่าโจวอี้สามารถรักษาได้?” อวี่เหวินฮุ่ยถามด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

“เชื่อเถอะ! เขาเป็นหมอที่ทำงานในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงเชียวนะ!”

“แต่ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง แต่เขาอายุเท่าไหร่เอง คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าเขายังเด็กและอาจมีทักษะการแพทย์ยังไม่เพียงพอ เถาเทาและเสี่ยวอวี่ต่างก็เป็นหวัด อย่าพาพวกเขาออกไปทำให้คนอื่นติดหวัดเลย” อวี่เหวินฮุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง

“โธ่ แม่น้องเสี่ยวอวี่ ฉันถามมาแล้ว หมอโจวมีชื่อเสียงมากในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง แม้แต่เพื่อนของฉันที่อยู่โรงพยาบาลนั้นก็ชื่นชมเขา ดังนั้นฉันคิดว่าเราควรส่งลูกไปโรงเรียนตามคำแนะนำของครูเล่ยเล่ยนะ” หูหลานกล่าว

“งั้นคุณก็ไปเถอะ! ฉันคงไม่ไปด้วยหรอก ฉันไม่เชื่อฝีมือการแพทย์ของโจวอี้ขนาดนั้น” อวี่เหวินฮุ่ยกล่าวอย่างเย็นชา

“ใช่ ๆ” แม้แต่เหลียนซินเฟิงก็พูดเสริม

“ก็ได้!” หูหลานไม่ต้องการพูดอะไรอีกหลังจากเห็นท่าทีของสองสามีภรรยา เธอขอให้ลูกสาวบอกลาพวกเขาแล้วพากันเดินจากไป

เมื่อปิดประตูแล้ว อวี่เหวินฮุ่ยก็พูดอย่างเซ็ง ๆ ว่า “ที่รัก ฉันคิดว่าหูหลานคงถูกลาเตะเข้าที่หัวแล้วมั้ง เมื่อก่อนผู้หญิงคนนี้ฉลาดมากนะ แต่ตอนนี้เธอกลับสับสนเรื่องแบบนี้ได้ยังไง เอาความเจ็บปวดมาล้อเล่นกับลูกตัวเองแบบนี้เนี่ยนะ?”

“ผมก็รู้สึกแบบเดียวกันเลย” เหลียนซินเฟิงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง และมองไปยังโซฟาห้องนั่งเล่นที่มีลูกชายกำลังนอนป่วยอยู่ตรงนั้น เขาโบกมือแล้วพูดว่า “เอาเถอะ ฝนจะตกแล้ว ไปกันเถอะ แล้วก็… เราจะไม่ปล่อยให้เสี่ยวอวี่ไปเล่นกับเถาเทาก่อนที่อาการหวัดของเธอจะดีขึ้น”

“ใช่แล้ว ได้ยินไหมเสี่ยวอวี่ ช่วงนี้อย่าเพิ่งเล่นกับเถาเทา เข้าใจไหม?” อวี่เหวินฮุ่ยถามเด็กน้อย

“อื้ม!”

เช้าวันนี้ ผู้ปกครองของนักเรียนกว่าโหลได้รับโทรศัพท์จากโรงเรียน

บางคนตั้งคำถามและปฏิเสธคำขอของหลี่เล่ยเล่ย บางคนลังเลแต่ก็ตกลง เพราะต้องการให้ลูกไปลองดูสักครั้ง

โจวอี้ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหล่านี้

หลังจากที่เขามาที่ตลาดยาพร้อมกับถงหู่และถังเหมียวเหมี่ยว ถงหู่ก็ไปหาที่จอดรถ ส่วนเขาก็จูงมือลูกสาวเดินเข้าไปในร้านขายยา

เขาเห็นหลานอวี้หรงเจ้าของร้านยา

“หมอโจว ฉันได้เตรียมสมุนไพรทั้งหมดที่คุณโทรบอกแล้ว” หลานอวี้หรงพูดด้วยรอยยิ้ม

“ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ?” โจวอี้ถาม

“ทั้งหมดแปดหมื่นสองพัน ปัดไปปัดมาแล้วโอนแค่แปดหมื่นมาให้ฉันก็พอ” หลานอวี้หรงยิ้ม

“ครับ!” โจวอี้ตรวจสอบวัตถุดิบยาและโอนเงินแปดหมื่นหยวนให้หลานอวี้หรง

จำนวนที่เขาซื้อไม่มากนัก แต่มีอยู่สองรายการเป็นวัตถุดิบยาที่ดีมาก ซึ่งมันมีผลดีกับการรักษาโรคหวัด เขามั่นใจด้วยซ้ำว่าแค่กินเข้าไปตอนเช้า เที่ยง และเย็น เพียงครั้งละหนึ่งรอบ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแม้แต่กับเด็กที่เป็นหวัดรุนแรงก็หายได้ทันใจ

“ผมยังต้องการซื้อวัตถุดิบยาบางอย่างเพิ่ม” โจวอี้กล่าว

“อะไรล่ะ?”

“ดอกไม้นักปราชญ์ รากผอหลัว กิ่งทอง” โจวอี้กล่าว

“ฉันมีดอกไม้นักปราชญ์ แต่ไม่มีรากผอหลัวกับกิ่งทอง วัตถุดิบยาทั้งสองชนิดนี้หายากและล้ำค่าเกินไป” หลานอวี้หรงส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น แต่เมื่อเธอพบว่าโจวอี้แสดงสีหน้าผิดหวัง เธอก็รีบเสริมขึ้นทันทีว่า “แต่ถ้าคุณให้เวลาฉันสักหน่อย ฉันน่าจะหาพวกมันมาขายให้คุณได้”

“ตกลง! จะดีมากถ้าคุณหาพวกมันเจอภายในหนึ่งสัปดาห์” โจวอี้กล่าว

“แต่เรื่องราคา…” หลานอวี้หรงลังเล

“ราคาไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่คุณพบสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ที่มีอายุมากกว่าสามร้อยปี ผมยินดีที่จะซื้อมันในราคาเท่าไหร่ก็ได้”

“งั้นคุณก็รอฟังข่าวดีจากฉันได้เลย” หลานอวี้หรงรู้สึกโล่งใจทันที

เวลา 9.00 น. ถงหู่ขับรถพาโจวอี้และถังเหมียวเหมี่ยวไปถึงโรงเรียน

ความยิ่งใหญ่คับถนนและดุดันของรถ Knight XV ทำให้ทุกคนตกใจ

“หมอโจว ยินดีต้อนรับ” นอกจากหลี่เล่ยเล่ยแล้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอย่างเฉินเยว่ฉินก็ยังออกมาต้อนรับเขา

หลังจากได้รับการรักษาจากโจวอี้ เธอก็เกือบจะหายจากโรคหัวใจแล้ว โจวอี้กล่าวว่าเธอต้องฝังเข็มอีกเพียงสองครั้งเท่านั้น จากนั้นเธอก็จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องทรมานจากโรคอีก

เธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมาแล้วสองครั้ง แต่ละครั้งทำให้หมอต้องตกใจ

ดังนั้นเธอจึงเชื่อมั่นในทักษะทางการแพทย์ของโจวอี้

ครั้งนี้มีไข้หวัดระบาดในโรงเรียน ไม่ว่าครูหรือนักเรียนส่วนใหญ่ล้วนติดเชื้อ

ดังนั้นเธอจึงบอกให้หลี่เล่ยเล่ยไปเชิญโจวอี้มารักษาหวัดให้นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน ซึ่งเธอก็พอใจมากเพราะโจวอี้ยอมตกลง

“คุณเฉิน คุณเล่ยเล่ย ผมนำวัตถุดิบยาทั้งหมดมาด้วยแล้ว ตอนนี้รบกวนพาผมไปที่ห้องครัวที ผมจะต้องใช้เวลาต้มยาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลังจากต้มแล้ว เด็ก ๆ ก็สามารถดื่มได้เลย ” โจวอี้ยิ้ม

“ตามฉันมาเลยค่ะ!” เฉินเยว่ฉินนำทางไปทันที

สิบโมงครึ่ง

โจวอี้ต้มยาจนเสร็จสิ้น มันเพียงพอที่จะใช้ได้ถึง 25 คนเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม มีเด็กเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกผู้ปกครองพามา ดังนั้นจึงมีเด็กเพียง 18 คนที่ได้กินยาจีนของโจวอี้ และอีก 7 ถ้วยยาที่เหลือก็ถูกแจกจ่ายให้แก่ครูและผู้ปกครองสองคนที่เป็นหวัด

เพียงครึ่งชั่วโมงต่อมา

เด็ก ๆ ครู และผู้ปกครองที่รับประทานยาจีนของโจวอี้ก็มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการไอบรรเทาลงอย่างมาก และอาหารคัดจมูกก็หยุดลงแล้ว พวกเขารู้สึกดีขึ้นมากจริง ๆ

ครูและผู้ปกครองทุกคนพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก

โจวอี้ยังไม่ได้กลับบ้านแม้จะเลยเวลาเที่ยงมาแล้ว และพอบ่ายสองก็เริ่มต้มยาแจกทุกคนอีกครั้ง

เมื่อมาถึงช่วงบ่าย ผู้ป่วยที่เป็นหวัดทั้งหมดก็หายดีแล้ว และผู้ป่วยที่เป็นหวัดในขั้นรุนแรง 5-6 คนก็ดีขึ้นมาก

วันนี้จึงถือได้ว่าโจวอี้มาที่โรงเรียนเพื่อปรุงยาให้นักเรียนและอาจารย์ อีกทั้งยังได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

และในไม่ช้า ข่าวนี้ก็ได้แพร่กระจายออกไป…