บทที่ 241 คะแนนเท่ากัน

ใต้เท้าจูได้ดูแลการสอบครั้งใหม่นี้เป็นการส่วนตัว เขารีบดำเนินการสอบให้เร็วขึ้น คณาอาจารย์ที่มีคุณวุฒิหลายคนต่างพากันเร่งรีบออกข้อสอบโดยใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น

วันต่อมาจึงได้มีการส่งรายชื่อนักเรียนที่จะขอเข้าสอบใหม่อีกครั้ง

เมื่อใต้เท้าจูดูรายชื่อแล้วก็ต้องประหลาดใจเพราะในการลงทะเบียนสอบครั้งนี้มีผู้เข้าสอบใหม่มากกว่าสี่สิบคน! ทั้งเว่ยจื่ออั๋งและสวี่เจวี๋ยจะผ่านสี่สิบคนนี้ไปได้หรือไม่? แต่…ช่างเถอะ…ไม่ว่าพวกเขาจะผ่านหรือไม่ผ่าน ล้วนแต่เป็นเรื่องของเด็กสองคนนั้นหาได้เกี่ยวข้องกับเขาไม่? เขาไม่ควรจะกังวลเรื่องนี้ เหนืออื่นใดคือต้องจัดการให้เรื่องนี้ยุติลงโดยเร็วเป็นดีที่สุด

ใต้เท้าจูรีบให้คนจัดห้องสอบทันที

“สำนักศึกษาหลวงแยกห้องเรียนเป็นสองห้อง ใช้เป็นสถานที่สอบ”

เมื่อพูดจบเขาหันไปสั่งเจ้าหน้าที่ว่า

“แจ้งผู้สมัครสอบว่าเราจะสอบใหม่ในวันพรุ่งนี้”

เจ้าหน้าที่รับคำสั่งพร้อมกับจากไปอย่างเร็ว

ถังหลี่เองก็ได้รับแจ้งจากทางการเรื่องการสอบในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน สองสามวันมานี้ถังหลี่ยุ่งวุ่นวายมาก

ไป๋เสี่ยวเชิงหรือหลูหลิงมาหาถังหลี่พร้อมกับบทความที่เขียนโดยฉินเหวินซวนและนักเรียนหลายคนที่มีชื่อเสียง เมื่อต้าเป่าสวี่เจวี๋ยเห็นบทความของคนเหล่านั้น พวกเขาจึงมีความมั่นใจขึ้นมาเป็นอักโข

ทั้งคู่ปราศจากความกังวล แต่กลับกระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์และความสามารถของพวกเขา

ในไม่ช้าวันสอบก็มาถึง ครอบครัวสกุลเว่ยตื่นเต้นมาก ถังหลี่ตื่นแต่เช้าปลุกเอ้อร์เป่าและซานเป่า เมื่อออกมาข้างนอก จึงพบว่าทั้งต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยแต่งตัวเรียบร้อยรออยู่แล้ว หลังรับประทานอาหารมื้อเช้าเรียบร้อยแล้วพวกเขาเดินทางไปยังสำนักศึกษาหลวงทันที

ระหว่างทางที่ไปมีนักเรียนหลายคนมองทั้งคู่ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร บางคนก็กระซิบด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

แต่ต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยเชิดหน้าขึ้นไม่สนใจคนเหล่านั้น ท่านแม่บอกว่า มีเพียงคนไร้ความสามารถเท่านั้นที่ชอบโอ้อวด ผู้ที่มีความสามารถที่แท้จริงจะพิสูจน์ด้วยการกระทำของเขา

สวี่เจวี๋ยและต้าเป่าจะตบหน้าคนเหล่านี้และเปลี่ยนคำว่าร้ายให้กลายเป็นเพียงข่าวลือ กำจัดคนเหล่านั้นออกไปจากชีวิตเสีย!

เมื่อครอบครัวสกุลเว่ยมาถึงประตูสำนักศึกษา หลังจากยืนรออยู่ครู่หนึ่งประตูห้องสอบก็เปิดออก

“ไปเถอะสวี่เจวี๋ย ต้าเป่า แม่จะรอพวกเจ้าอยู่ข้างนอกนะ” ถังหลี่ให้กำลังใจลูกชาย

“ท่านแม่ ข้าจะทำข้อสอบให้เต็มที่ไม่ทำให้ท่านเสียหน้าแน่นอน!” ต้าเป่ากล่าว

“ท่านพี่รอฟังข่าวดีได้เลย!” สวี่เจวี๋ยพูดขึ้น เด็กหนุ่มทั้งสองคนเดินเข้าไปยังห้องสอบด้วยท่าทีมั่นใจ จากนั้นผู้เข้าสอบจึงได้ทยอยกันเข้าไปในห้อง

ประตูของสำนักศึกษาปิดลง

การสอบครั้งนี้มีระยะเวลาเพียงหนึ่งวันเท่านั้น อย่างไรก็ตามที่ด้านหน้าก็มีผู้ปกครองและนักเรียนหลายคนมายืนรอกันที่หน้าประตู มีผู้อาวุโสสามหรือห้าคน พวกเขาไปยืนรอบ ๆ ข้างกายฉินเฉียนเป็นส่วนใหญ่

“นายท่านฉิน ครั้งนี้ใต้เท้าจูมาคุมการสอบด้วยตัวเอง อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่จำนวนมากมาเฝ้าคุมการสอบ ต่อให้บางคนมีความสามารถเหนือธรรมชาติก็ไม่อาจโกงข้อสอบได้อย่างแน่นอน”

“ใช่ หากพวกเขาทำข้อสอบในครั้งนี้ไม่ได้ ย่อมหมายความว่าพวกเขาทุจริตข้อสอบในครั้งที่แล้ว!”

“ผู้ที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งย่อมเป็นนายน้อยฉินเป็นแน่”

“ข้าขอแสดงความยินดีกับนายน้อยฉินล่วงหน้า!”

“นายท่านฉินมีบุตรชายที่มากพรสวรรค์อย่างน่าทึ่ง น่าอิจฉาจริง ๆ”

ฉินเฉียนยิ้มรับคำชมอย่างสุภาพ

“บุตรของพวกท่านเองก็เก่งมากเช่นกัน ผลสอบยังไม่ออกดังนั้นโปรดอย่ายกยอบุตรชายข้าให้มากนักเลย”

ถังหลี่พาซานเป่าและเอ้อร์เป่าไปยืนอยู่รออยู่ใต้ต้นไม้ รอบข้างไม่มีผู้คนมาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ แม้จะดูโดดเดี่ยวไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับการมีคนมาคอยพูดจาประจบสอพลอแล้ว ถังหลี่ย่อมเลือกที่จะอยู่คนเดียวดีกว่า

“น้องสาว”

จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกดังขึ้น

หัวเล็ก ๆ ยื่นออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ เขาจ้องไปที่ซานเป่า แล้วเรียกนางเสียงดัง

เด็กคนนั้นสวมชุดขนสุนัขจิ้งจอกสีขาว เขาเกล้ามวยเหมือนก้อนซาลาเปาไว้บนศีรษะ เป็นเจ้าเด็กอ้วนที่เจอในตลาดคราวที่แล้วนั่นเอง

“น้องสาว เราเจอกันอีกแล้วนะ”

ซานเป่าเอียงศีรษะมองดูเด็กอ้วน นางคิดว่าเขาดูเหมือนซาลาเปาทอด เมื่อนึกถึงของกินซานเป่าก็น้ำลายสอ เอ้อร์เป่ากระโดดออกมาขวางไว้ทันที เด็กชายมองเด็กอ้วนอย่างระแวง แก้มของเอ้อร์เป่าพองขึ้น เขาเท้ามือไว้ที่สะโพกราวกับเสือน้อยที่ดุร้าย เด็กอ้วนถูกจ้องเช่นนั้นก็ชะงัก คราวที่แล้วเขากลัวจนต้องหนีไป แต่คราวนี้เขาจะไม่หนีอีกแล้ว!

“นางเป็นน้องสาวข้า หากเจ้ายังไม่ไปข้าจะทุบตีเจ้า!” เอ้อร์เป่ากล่าวอย่างดุดัน เมื่อได้ยินเช่นนั้นเด็กอ้วนรีบวิ่งหนีไปทันที

ถังหลี่อดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นเอ้อร์เป่ารังแกเด็กน้อย

นางเห็นเด็กอ้วนคนนั้นวิ่งด้วยขาสั้น ๆ ของเขาไปหาชายหนุ่มผู้หนึ่ง เด็กน้อยสูดน้ำมูก ชายหนุ่มมองไปที่เด็กอ้วนนิ่ง ๆอย่างพูดไม่ออก

“เป็นอะไร?”

ดูเหมือนเขาจะสังเกตว่ามีคนกำลังมองเขาอยู่ เขาจึงหันกลับไปมองถังหลี่แล้วส่งยิ้มให้ หญิงสาวเห็นเช่นนั้นจึงส่งยิ้มตอบกลับไป

คุณชายหน้าหยกผู้นี้รูปร่างสง่างามราวกับพญามังกร ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมกล้า แต่พลังปีศาจที่ตื่นขึ้นมาของถังหลี่บอกนางว่า แท้จริงแล้วชายหนุ่มผู้นี้เป็นสตรี! ในตอนแรกถังหลี่คิดว่าสตรีที่ปลอมเป็นบุรุษนั้นดูอย่างไรก็ย่อมมองออกว่าเป็นสตรี แต่หญิงสาวผู้นี้ทำให้ความคิดของนางเปลี่ยนไป คนที่อยู่ต่อหน้าถังหลี่นั้นช่างปลอมตัวเป็นบุรุษได้อย่างกล้าหาญ และสง่างามกว่าผู้ชายหลายคนที่ถังหลี่เคยได้พบเห็นมาเสียอีก

เมื่อถังหลี่มองคนผู้นั้น นางเองก็มองถังหลี่เช่นกัน หญิงสาวลูบคางด้วยท่าทีสนใจในตัวถังหลี่เป็นอันมาก นางเป็นคนรอบรู้มองผู้คนออก ที่ห่างไกลเช่นนี้มีหญิงสาวไม่ธรรมดาแอบซ่อนอยู่

“พี่สาว..” เจ้าเด็กอ้วนที่นั่งอยู่บนตักของนางร้องโอดครวญขึ้น นางใช้พัดด้ามจิ้วในมือปิดปากและเคาะศีรษะเขา เจ้าเด็กอ้วนคนนั้นรีบเปลี่ยนสรรพนามเรียกใหม่ทันที

“พี่ชาย ฮือออ.. ข้าอยากได้น้องสาว..”

“ถ้าอยากได้น้องสาวเจ้าก็ต้องไปแย่งชิงด้วยตัวเอง อย่าเอาแต่ร้องไห้เมื่อเจอปัญหา”

นางพูดไม่ออกอยากจะเตะเจ้าเด็กคนนี้ออกไปไกล ๆ แต่สุดท้ายก็ทำใจไม่ได้เพราะเป็นน้องชายของนางเอง

จะทำอย่างไรได้? เอาไปโยนทิ้งก็ไม่ได้เช่นกัน…

นางเม้มริมฝีปากอย่างหงุดหงิด เมื่อเห็นน้องชายกำลังจะเอาจมูกที่เปื้อนน้ำมูกมาถูไถที่ตัก นางจึงรีบอุ้มน้องชายขึ้นมาก่อนจะพาเดินออกไป

ถังหลี่ยืนรออยู่บริเวณหน้าประตูพร้อมกับซานเป่าและเอ้อร์เป่า เมื่อถึงช่วงเที่ยงก็พาเด็ก ๆ ไปกินอาหารแล้วกลับมายืนรอทั้งสองคนต่อ

ในยามบ่ายแก่ ๆ จวนเจียนพระอาทิตย์จะตกดิน ประตูของสำนักศึกษาจึงเปิดออก ต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยพากันเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ออกมาพร้อมกัน

พวกเขาพูดคุยซักถามถึงข้อสอบถึงในวันนี้อย่างคึกคัก

เมื่อเห็นถังหลี่ที่ยืนรออยู่หน้าประตู จึงได้เร่งฝีเท้ารีบเดินมาหาทันที

“เป็นอย่างไรบ้าง?”

ถังหลี่ถามอย่างกระวนกระวาย

ไม่ว่าลูกจะเรียนเก่งสักเพียงไหน ผู้เป็นบิดามารดาย่อมอดเป็นห่วงไม่ได้

“ท่านแม่ไม่ต้องกังวล รอฟังข่าวดีก็พอ”

ต้าเป่าพูดอย่างความมั่นใจ

ถังหลี่ถอนหายใจโล่งอก นางพาเด็กทั้งสี่คนกลับไปยังโรงเตี๊ยมเพื่อรอผลการสอบ

ภายใต้การควบคุมของใต้เท้าจู กระดาษคำตอบทั้งสี่สิบห้าแผ่นถูกปิดผนึกและส่งไปยังศาลาว่าการทันที อาจารย์ที่เคารพนับถือห้าท่านได้รับเชิญเป็นคนตรวจข้อสอบเหล่านี้

ใต้เท้าจูให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เขาถึงกับนอนเฝ้าพร้อมภรรยาทั้งคืน ในที่สุดผลลัพธ์ก็ออกมา

เย็นวันต่อมาใต้เท้าจูที่มีอาการง่วงเหงาหาวนอน เมื่อได้ยินว่าผลตรวจข้อสอบออกแล้วเขาก็หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง รีบลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที

“ผลสอบเป็นอย่างไรบ้าง?” ใต้เท้าจูถามอย่างรวดเร็ว

“ใต้เท้าขอรับ กระดาษคำตอบสองใบนี้ยอดเยี่ยมมากจนยากที่พวกเราจะตัดสินได้ ข้าอยากเชิญใต้เท้าให้ร่วมแสดงความคิดเห็นขอรับ!”

ใต้เท้าจูที่ได้ยินก็รู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น

“ใครเป็นเจ้าของกระดาษคำตอบสองใบนี้!”