ตอนที่ 269 ปรสิต

ตอนที่ 269 ปรสิต

หลังจากที่เจียงอวี่รู้ว่ามีข่าวคราวของเจียงถงน้องสาวของเขาที่หายไป ฝ่ามือคู่นั้นพลันสั่นสะท้าน หัวใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ อยากจะรีบไปกับขบวนรถของซ่งเยว่ปินด้วยตัวเองในตอนนี้

หลังจากสามปีเต็ม ในที่สุดเขาก็ได้ข่าวของน้องสาวอีกครั้ง!

แต่เขาก็ต้องยับยั้งตัวเองเอาไว้

หัวหน้าทีมซ่งจะเป็นคนส่งคนมาที่นี่โดยเร็วที่สุด

ภารกิจที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการติดตามซูเถาไปยังซินตู และปกป้องเธอตลอดการเดินทาง

ซูเถาให้ความมั่นใจกับเขา “หัวหน้าทีมซ่งและคนอื่น ๆ จะไปถึงซินตูได้ภายในสี่วันอย่างช้าที่สุด และถ้าเราออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ก็จะได้พบกับพวกเขาที่นั่นพอดี คุณอดใจรออีกสามสี่วันนะ ถึงตอนนั้นคุณอยากจัดการยังไงฉันก็จะไม่ห้ามคุณ”

เจียงอวี่หายใจเข้าลึก ๆ และตอบว่า “ผมเชื่อคุณ”

“อื้ม นี่มันก็ดึกมากแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เจ็ดโมงเราจะออกเดินทางกัน”

เจียงอวี่ลังเลอยู่สองวินาทีแล้วพูดว่า

“มีอีกอย่างหนึ่ง ผมเพิ่งค้นพบว่าบางครั้งชวีจิ้งอวิ๋นมักจะพูดกับตัวเอง”

ซูเถาผงะไปครู่หนึ่ง เธอเกือบลืมเรื่องชวีจิ้งอวิ๋นไปสนิท

เนื่องจากเธอยอมจำนนอย่างกะทันหัน แม้ว่าเธอจะดูแปลกไปเล็กน้อย แต่เพราะตนเองยุ่งเกินไป ซูเถาไม่มีกะจิตกะใจที่จะสนใจอีกฝ่าย แล้วก็ลืมเธอไป

“เธอพูดกับตัวเองว่ายังไง”

เจียงอวี่ขมวดคิ้วและลังเล

“มันแปลกมาก มันเหมือนกับโรคหลายบุคลิกที่ผมรู้จัก คุยกับตัวเอง เหมือนว่าเธอเจ็บปวดทรมานมาก ผมคิดว่าเธอควบคุมไม่ได้นิดหน่อย หรือเราควรขอให้หัวหน้าชีช่วยจับตาดูเธอมากกว่านี้ ผมกลัวว่าเธอจะไปสร้างปัญหาหลังจากที่เราออกเดินทางไป”

ซูเถาขมวดคิ้วและถามว่า “เธอเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“สองสัปดาห์มานี้ ก่อนหน้านี้ก็ปกติดี ผมก็เลยประหลาดใจ”

วันรุ่งขึ้นขณะที่ฟ้ายังไม่สว่าง ซูเถากำลังจะไปบอกชีอวิ๋นหลัน ก็ประจวบเหมาะกับที่ชีจิ้งอวิ๋นเดินทางมาหาเธอด้วยตัวเอง

ใบหน้าเธอดูซีดเซียวราวกับว่าไม่ได้นอนมาหลายวัน

จากมุมมองของซูเถา เธอเห็นรอยขีดข่วนบริเวณคอของอีกฝ่าย

ทำร้ายตัวเองเหรอ?

‘ชวีจิ้งอวิ๋น’ กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ราวกับว่าต้องการขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อเธอเปิดปาก ใบหน้าก็บิดเบี้ยว และอารมณ์ของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอก็ต้องผงะเมื่อเธอเห็นซูเถา ทันใดนั้นเธอก็กัดฟันนิ้วเกร็งและพูดด้วยความโกรธ

“ซูเถา! แกฆ่าถานหย่ง! แกฆ่าเขา! แกไม่แม้แต่จะให้ฉันเห็นศพเขา แก…”

เจียงอวี่เตะเธอไป

ซูเถาถอยหลังไปครึ่งก้าวและต้องตกใจเมื่อพบว่านี่คือชวีจิ้งอวิ๋นตัวจริง!

ชวีจิ้งอวิ๋นลุกขึ้น และต้องการที่จะพุ่งตัวเข้ามา แต่เธอก็โดนเข้ากับข้อศอกของเจียงอวี่ทำให้หมดสติ

ซูเถาขมวดคิ้วก่อนจะย่อตัวลงและพับแขนเสื้ออีกฝ่าย ก่อนจะพบบาดแผลบนแขนของหญิงสาว

มีที่ขาด้วย และมีแผลลึกที่ท้อง

เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ไปหาจงเกาอี้เพื่อจัดการกับมัน เพียงแค่พันผ้าพันแผลด้วยตัวเอง ซึ่งยังคงมีเลือดไหลซึมออกมา

ประหลาด

“พาเธอไปให้หมอจงตรวจก่อน”

เจียงอวี่มัดเธอที่นอนอยู่บนพื้นและเตรียมส่งพวกเธอไปที่คลินิก

เป็นผลให้ทันทีที่มาถึงคลินิก ‘ชวีจิ้งอวิ๋น’ ตื่นขึ้น เมื่อเธอเห็นซูเถา เธอก็จับแขนของซูเถาแล้วพูดออกมาอย่างอ่อนแรง

“เถ้าแก่ซู ช่วยฉันด้วย!”

จงเกาอี้วิ่งรีบวิ่งเข้ามา “เกิดอะไรขึ้น?”

ซูเถากล่าวกับเขาว่า “ขอเราใช้ห้องทำงานคุณสักครู่ จัดการแล้วจะรีบออกไปทันที”

หลังจากปิดประตูห้องทำงานแล้ว เจียงอวี่ก็มัด ‘ชวีจิ้งอวิ๋น’ ไว้กับเก้าอี้

‘ชวีจิ้งอวิ๋น’ ไม่ได้ดิ้นรนเลย หรือบางทีเธออาจจะไม่มีแรง

“บอกฉันมา เกิดอะไรขึ้น เธอเป็นใคร”

‘ชวีจิ้งอวิ๋น’ เม้มริมฝีปาก “มีอะไรสดชื่น ๆ ไหม ตราบใดที่ฉันพักผ่อนน้อย เธอก็จะออกมา”

ซูเถาขอให้เจียงอวี่ไปซื้อกาแฟให้เธอ

‘ชวีจิ้งอวิ๋น’ ดื่มเสร็จในอึกเดียวหลังจากนั้นเธอก็พูดว่า

“ฉันขอโทษ เถ้าแก่ซู ฉันไม่ใช่ชวีจิ้งอวิ๋นจริง ๆ ฉันแค่ ‘ยืม’ ร่างของเธอ…”

ซูเถาหรี่ตาแล้วถามว่า “คุณยืมมันมาได้ยังไง”

‘ชวีจิ้งอวิ๋น’ เงียบไปสองวินาทีแล้วพูดว่า

“ชื่อจริงของฉันคือมู่อั้นอั้น ไม่รู้ว่าตอนที่คุณสอบสวนถานหย่งคุณพอจะได้ยินขื่อของฉันบ้างไหม ฉันถูกถานหย่งจับตัวมาเมื่อสิบห้าปีก่อน ตอนนั้นฉันอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น เข้าพาฉันไปที่สถานีเก่า ฉันพักได้แค่สองวัน สุดท้ายฉันก็ถูกเขา…”

มู่อั้นอั้นเล่าเรื่องของเธอ และก็ต้องกัดฟันเมื่อเล่ามาถึงจุดนี้

“ฉันไม่สามารถต่อต้านเขาได้ ดังนั้นฉันจึงต้องเสียตัวให้กับเขา แต่ฉันคิดอยู่เสมอว่าจะไปทางเหนือเพื่อตามหาครอบครัวของฉัน ฉันหนีหลายครั้งแต่ก็ต้องถูกจับกลับมา ต่อมาเมื่อชวีจิ้งอวิ๋นเข้ามา ถานหย่งก็เลยเริ่มไม่สนใจฉัน และคลายการป้องกันฉันลงมาก”

“ฉันวางแผนที่จะหนีอีกครั้ง แต่ชวีจิ้งอวิ๋นรู้เข้า เธอก็เลยบอกถานหย่ง และใส่ร้ายฉันว่าวางแผนจะออกไปข้างนอกเพื่อนัดพบกับผู้ชาย ถานหย่งโกรธมากและทุบตีฉันจนตาย”

มู่อั้นอั้นยังคงมีความจรงจำของสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้น

“ฉันรู้สึกชัดเจนว่าฉันตายแล้ว ฉันนึกว่าฉันตายแล้วจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าพระเจ้าสงสารฉันหรือยังไง เพราะฉันได้ค้นพบว่าฉันเหมือนมีพลังเหนือธรรมชาติที่เรียกว่า ‘ปรสิต’”

“ตอนนั้นฉันลนลานมาก ฉันแค่อยากจะมีชีวิต ดังนั้นฉันจึงแฝงเข้าไปในร่างกายของชวีจิ้งอวิ๋น แต่ฉันพบว่าฉันทำได้เพียงแฝงตัวเท่านั้น แต่ออกไปไม่ได้ และควบคุมเธอไม่ได้ ฉันอยู่อย่างนี้มาสิบปี…”

“ต่อมาชวีจิ้งอวิ๋นอาจได้รับบาดเจ็บสาหัส ในช่วงที่เธอโคม่า ฉันสามารถควบคุมร่างกายนี้ได้ ชวีจิ้งอวิ๋นดูเหมือนจะสังเกตเห็นเช่นกัน และเริ่มต่อสู้ทางความคิดกับฉัน”

“ก่อนหน้านี้ฉันมีอำนาจเหนือกว่า แต่หลังจากที่ร่างกายนี้เกือบจะฟื้นตัว สติของเธอก็แข็งแกร่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เธอทำสำเร็จ ฉันจึงเริ่มทำร้ายตัวเอง แม้ว่าการทำอย่างนั้นฉันเองจะเจ็บปวดก็ตาม แต่ถึงอย่างไรพอเวลาผ่านไปไม่นานเธอก็จะกลับมาต่อต้านอีกครั้ง”

“ฉันเพิ่งตระหนักได้ว่า ต้องให้จิตสำนึกของเธอตาย หรือไม่เธอก็ต้องเต็มใจที่จะเชื่อฟัง ไม่อย่างนั้นฉันก็จะเป็นปรสิตตลอดไป”

หลังจากพูดจบ มู่อั้นอั้นก็มองไปที่ซูเถาอย่างมีความหวัง

ซูเถาก็เลยพูดออกมาว่า “ฉันช่วยคุณไม่ได้ และคุณก็คงเห็นแล้วว่าฉันไม่มีประโยชน์”

มู่อั้นอั้นกระตือรือร้นขึ้นมา

“คุณทำได้ คุณเอาผลึกนิวเคลียสของเหลียนซาไปหรือเปล่า ใช้ผลึกนิวเคลียสของเธอเพื่อสะกดจิตและล้างสมองของชวีจิ้งอวิ๋น หลังจากนั้นไม่นาน เธอจะเชื่อฟัง!”

ถ้าเธอไม่เตือนซูเถา เธอก็ลืมมันไปจริง ๆ

“ทำไมฉันต้องช่วยคุณด้วย” เธอถามกลับ

มี๋อินของเหลียนซามีอายุการใช้งานเพียงหกวัน และผลึกนิวเคลียสจะใช้งานไม่ได้หลังจากเลยหกวันไป

การช่วยชีวิตมู่อั้นอั้นไม่ได้ให้ประโยชน์ใด ๆ แก่เธอเลย

มู่อั้นอั้นรีบบอกกับซูเถาว่า “ถ้าคุณช่วยฉัน ฉันจะทำประโยชน์ให้คุณ ไม่เหมือนชวีจิ้งอวิ๋นที่ต้องการฆ่าคุณ”

ซูเถาถามเธอ “คุณมีทักษะที่ควรค่าแก่การบันทึกไว้หรือเปล่า”

แม้ว่าเธอจะเป็นผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ แต่ปรสิต… ก็ไม่มีประโยชน์อะไรในทันที

มู่อั้นอั้นยังคงเงียบและไม่พูดอะไร

ซูเถามองดูเวลาเกือบจะเจ็ดโมงแล้ว และเจียงอวี่ที่อยู่ในเงาก็เตือนเธอด้วยว่าหลินฟางจือกำลังเดินทางมาหาเธอ

ซูเถายืนขึ้นและเตรียมจะจากไป

มู่อั้นอั้นกลัวมากว่าถ้าเธอจากไป เธอจะไม่มีอนาคตในร่างกายของชวีจิ้งอวิ๋น ดังนั้นเธอจึงตะโกนอย่างลนลานทันที

“ฉันรู้ว่าถานหย่งมีของดีซ่อนอยู่ คุณต้องสนใจแน่ ๆ! สถานีเก่าอยู่มาหลายปีแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่ถานหย่งจะเก็บเงินสกุลเหลียนปังไว้เพียงอย่างเดียว เมื่อเขาพบของดีในกองคาราวานที่ผ่านมาสถานีเก่า เขาก็ได้ทำการซ่อนมันเอาไว้”

ซูเถาไม่เชื่อเสียทีเดียว

สถานีเก่าอยู่ในอาณาเขตระบบของเธอมานานแล้ว ถ้ามีอะไรดี ๆ อยู่จริง ๆ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่พบมันตอนที่เธอกำลังสร้าง

มู่อั้นอั้นดูเหมือนจะเดาความคิดของเธอได้ “มันไม่ได้ซ่อนอยู่ในสถานีเก่า มันอยู่ที่อื่น”