“อาจารย์หลิวอากาศข้างนอกค่อนข้างหนาว ข้าจะพาท่านเข้าไปในพระราชวังก่อนละค่อยพูดคุยกันเป็นอย่างไร?”ลู่เฟิง ได้กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

“ขอรับ”

ลู่เฟิง ได้ พาหลิวจี๋ ไปที่ห้องศึกษาและมองไปที่เขา”อาจารย์หลิว ท่านคิดยังไงกับสถานการณ์ปัจจุบันของอาณาจักรหนานหยาน?”

หลิวจี๋ รู้สึกตะลึง เขาไม่คิดเลยว่า หลังจาก ลู่เฟิง พาตัวเองมาที่ห้องศึกษา ก็เริ่มถามคำถามเพื่อยืนยันความสามารถของเขาก่อนเลย

หลิวจี๋ ได้ครุ่นคิดและตอบกลับ”ฝ่าบาท ข้าน้อยจะพูดอย่างตรงไปตรงมา สถานการณ์ของอาณาจักรหนานหยานตอนนี้ นับว่าเป็นวิกฤติร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรมา แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็นับเป็นโอกาสใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรเช่นเดียวกัน”

“ทำไมหละ?”ลู่เฟิงกล่าวถาม

หลิวจี๋ ได้ยิ้มเล็กน้อย”ตอนนี้ กองทัพของอาณาจักรไป๋หลัน ได้บุกโจมตี สิบสามมณฑลซีหยาง แม้ว่า อาณาจักรหงเป่า และ อาณาจักรอู๋เซียง จะยังไม่เคลื่อนไหว แต่ข้าน้อยคิดว่า สองอาณาจักรนี้น่าจะส่งทหารมาอย่างแน่นอนเพราะพวกเขาจะไม่ยอมนิ่งดูดายและเสียโอกาสที่ดีเช่นนี้ไป”

ลู่เฟิง ได้พยักหน้าอย่างลับ ๆ หลิวจี๋ ผู้นี้ สมควรได้รับการขนานนามว่าเป็นนักกลยุทธ์ที่ดีคนนึงในยุคสามก๊กจริง ๆ

บทสนทนาระหว่างเขากับ เจี๋ยสวี่ ซุนฮก กั๋วเจีย และ คนอื่น ๆ นั้นอาจจะดูธรรมดา แต่พอกลับเป็น หลิวจี๋ มันกลับทรงพลังอย่างแปลกประหลาด

เขาได้ตอบกลับ”เป็นเช่นนั้นจริง ข้าได้รับข่าวมาว่าอาณาจักรหงเป่า และ อาณาจักรอู๋เซียง กำลังระดมกองทัพขนาดใหญ่ ในไม่ช้า พวกเขาจะต้องบุกโจมตีอาณาจักรหนานหยานของข้าอย่างแน่นอน”

หลังจาก หยุดไปชั่วครู่ เขาก็กล่าวถาม”ถ้าเป็นเช่นนี้ ฉไน อาจารย์หลิว ถึงบอกว่า นี่เป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรหนานหยานเล่า?”

“ฝ่าบาท หากอาณาจักรหนานหยาน สามารถเอาชนะกองกำลังสามอาณาจักรได้ สิ่งนี้จะไม่เรียกว่าทรงพลังหรอกหรอ แม้ว่านิกายดาบวิญญาณจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ต้องหวาดกลัวอาณาจักรหนานหยาน ที่ได้รับผลประโยชน์มากมายจากสงคราม อย่างน้อยก็เงินอาหารรวมถึงทรัพยากร ด้วยของจากทั้งสามประเทศนี้ย่อมชดเชยคืนได้มากหลายเท่าตัว”

“สิ่งสำคัญเลยก็คือ เมื่อสามอาณาจักรเหล่านี้ตกลงสู่ความหวาดกลัวเมื่อไหร่ กองทัพของพระองค์ก็ย่อมสามารถยึดครองทั้งสามอาณาจักรเหล่านี้ได้ เพราะหากเราเอาชนะกองทัพของพวกเขาในเวลานี้ได้ก็เท่ากับสร้างความเสียหายให้กับกองกำลังของพวกเขาอย่างแน่นอน”

หลิวจี๋ ได้ตอบกลับ

ลู่เฟิง ได้ยินสิ่งที่หลิวจี๋ พูด เขาได้คิดตามและพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แม้ว่าสิ่งที่อาณาจักรหนานหยานเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้คือวิกฤติร้ายแรงแต่มันก็นับเป็นโอกาสจริง ๆ

การแสดงออกของ หลิวจี๋ นั้นแตกต่างจากสิ่งที่คนทั่วไปคิด มันสมควรจารึกชื่อของเขาไว้ในประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่จริง ๆ

แต่…

ลู่เฟิงมองไปที่ หลิวจี๋ และกล่าวถาม”สิ่งที่อาจารย์หลิวพูดมา มันคือผลลัพธ์จากการเอาชนะทั้งสามกองกำลังพันธมิตร ดังนั้นอาจารย์หลิวคิดว่าอาณาจักรหนานหยานจะชนะการศึกครั้งนี้หรือไม่?”

“อาณาจักรหนานหยาน มีโอกาสที่จะชนะอย่างมาก แต่ต้องประสบพบกับความสูญเสียอย่างหนัก!”หลิวจี๋ ได้ตอบกลับ

“ทำไม?”

“แนวหน้าของเมืองฉิวซาน ได้รับการคุ้มกันโดยแม่ทัพเฒ่าเหลียนป๋อ มีเพียงคนไม่กี่คนในโลกที่สามารถเทียบกับความสามารถของแม่ทัพเฒ่าเหลียนป๋อในการปกป้องเมืองได้ ตราบใดที่เขาไม่ได้โจมตีโดยไม่ได้รับอนุญาติ ก็ย่อมไม่น่ามีปัญหาเกี่ยวกับแนวหน้าของเมืองฉิวซาน”

“ส่วนแนวหน้าของเมืองเร้ดเมเปิ้ล ความแข็งแกร่งของอาณาจักรอู๋เซียง อยู่ในระดับต่ำจนไม่น่าเป็นห่วง ฝ่าบาทมีโอกาสได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน สิ่งเดียวที่ยากจะจัดการก็คืออาณาจักรไป๋หลัน แต่เพราะ ที่นั่น มี เจี๋ยสวี่ คอยคุ้มกันอยู่ด้วย ดังนั้นในระยะเวลาอันสั้นนี้จึงไม่น่าเป็นกังวล”

“หากฝ่าบาทเอาชนะ อาณาจักรอู๋เซียง และดึงกองกำลังออกมา เมื่อถึงเวลาอีกสองประเทศก็จะพ่ายแพ้! แต่ทั้งสามอาณาจักรนั้นต่างก็มีกำลังพลจำนวนมาก แม้ฝ่าบาทจะได้รับชัย แต่ก็ต้องสูญเสียกำลังพลอย่างหนัก”หลิวจี๋ ได้ตอบกลับ

ลู่เฟิง ได้พยักหน้า”คำพูดของอาจารย์หลิว ข้าเข้าใจ อาณาจักรอู๋เซียง แม้จะมีประสิทธิภาพในการรบที่ต่ำแต่พวกเขาก็มีกองกำลังจำนวนมาก แม้ข้าจะมีความมั่นใจในการเอาชนะอาณาจักรอู๋เซียง แต่ข้าเองก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะอาณาจักรอู๋เซียงในระยะเวลาอันสั้น”

“ตอนนี้อาณาจักรไม่สามารถทำสงครามยืดเยื้อเกินไปได้…”

ลู่เฟิง มองไปที่ หลิวจี๋ และโค้งคำนับด้วยความสุภาพ”เช่นนั้นอาจารย์หลิว ท่านยินดีจะช่วยข้าแก้ไขวิกฤติปัญหาอาณาจักรอู๋เซียง หรือไม่?”

หลิวจี๋ ไม่ได้ตอบทันที แต่เขาได้กล่าวถาม”หลิวจี๋ ขอบังอาจทูลถามฝ่าบาท ตำแหน่งจักรพรรดิของพระองค์เป็นสิ่งสำคัญสุดสำหรับราชวงศ์ในใจของพระองค์หรือไม่?”

“ย่อมแน่นอน!”ลู่เฟิง ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“เช่นนั้นโปรดยกโทษให้ด้วยที่ หลิวจี๋ ต้องขอลา!”หลังจาก ที่หลิวจี๋ พูดจบ เขาก็เตรียมจากไป

ลู่เฟิง ได้ดึงเขาเข้ามาและพูดขึ้นทันที”อาจารย์หลิว ใยท่านต้องรีบร้อนขนาดนั้น ข้ายังพูดไม่จบเสียหน่อย หากสิ่งของแค่นี้เป็นสิ่งสำคัญในใจสุดของข้าก็นับว่าทำให้ท่านหัวเราะเยาะแล้ว”

“หลิวจี๋มิกล้า!”หลิวจี๋ ได้หยุดชะงัก”หลิวจี๋ ได้เดินทางไปยังอาณาจักรเล็กใหญ่ในหยูโจวมาแล้วกว่าสิบแห่ง แต่หลิวจี๋ ไม่เคยพบคนที่สามารถทำให้ หลิวจี๋ ยอมภักดีได้ เหวินเหอ เคยบอกต่อ ข้ามาหลายครั้งแล้วว่า ฝ่าบาท เป็นนายท่านที่มากความสามารถ ดังนั้น หลิวจี๋ จึงต้องการเดินทางมาพบพระองค์ด้วยตนเอง แต่ความทะเยอทะยานของพระองค์กลับมีเพียงแค่ราชวงศ์เท่านั้น นี่ทำให้ หลิวจี๋ รู้สึกผิดหวังมาก”

หลิวจี๋ ผิดหวัง ในการเป็นราชวงศ์หรือไม่?

เจ้าสุดยอดมาก!

เขามีความสามารถที่จะดูถูกสิ่งแค่นี้จริง ๆ

มันเป็นธรรมชาติที่ คนที่มีความสามารถมักจะเลือกนายที่มีความทะเยอทะยานอย่างแท้จริง

ลู่เฟิง ได้มองไปที่ หลิวจี๋ และตอบกลับ”เช่นนั้นข้าขอกล่าวถามท่าน”

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ลู่เฟิง ก็มองไปที่ หลิวจี๋ ก่อนที่จะกล่าวถาม”สำหรับท่านแล้วการยึดครองประเทศทั้งหมดในทวีปคิวชูท่านมีความเห็นเช่นไร?”

หลิวจี๋ รู้สึกตกใจอย่างมาก ฝ่าบาท ต้องการ ยึดครองประเทศทั้งหมดในทวีปคิวชู สิ่งนี้แม้แต่ราชวงศ์ใหญ่ ๆ ยังไม่กล้าเพ้อฝันถึง?

นี่…

ในความคิดของ หลิวจี๋ เขาเพียงต้องการหานาย ที่พร้อมจะบุกเบิกสร้างราชวงศ์ใหม่ ๆ แต่ ใครจะไปคิดว่า ลู่เฟิง จะคิดจะยึดครองทุกสิ่งในทวีปคิวชู

นี่ทำให้ หัวใจของเขารู้สึกตะลึงเล็กน้อย

“อาจารย์หลิวเต็มใจจะช่วยบรรลุสิ่งปราถนาสูงสุดของข้าหรือไม่?”ลู่เฟิง มองไปที่ หลิวจี๋ และยิ้มเบา ๆ

หลิวจี๋ ได้กล่าวถามเล็กน้อย”ฝ่าบาท พระองค์มีความมั่นใจว่าจะสามารถทำได้หรือไม่?”

“ทำไมจะไม่มีล่ะ?”

ลู่เฟิงหัวเราะออกมา”เจี๋ยสวี่,ซุนฮก,กั๋วเจีย รัฐมนตรีภายใต้เงื้อมมือของข้า จางซุนหวูจี๋ รัฐมนตรีเหล่านี้ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการปกครองประเทศหรืออย่างไร?”

“ยังมี แม่ทัพเกาชุน,แม่ทัพเฒ่าเหลียนป๋อ แม่ทัพทหารม้าลิโป้ และ คมดาบที่ฟาดฟันศัตรู แม่ทัพเมิ่งเถียน เตียวอุ๋น คนเหล่านี้ ไม่ใช่แม่ทัพที่มีชื่อเสียงหรือแข็งแกร่งอย่างไร?”

“หากทำงานร่วมกับพวกเขาแล้ว ทำไมข้าถึงไม่มีความกล้าเล่า? ตอนนี้ข้าอายุเพียง 16 ปี ข้ายังมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน ด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าที่มากความสามารถ พวกเขาสามารถช่วยเหลือข้าในการรวบรวมกำลังพลหรือประชากรเพื่อเริ่มต้นการก่อตั้งจักรวรรดิ และ นำไปสู่การยึดครองทวีปคิวชูได้”

เขามองไปที่ หลิวจี๋ ด้วยท่าทียิ่งใหญ่”ถ้าอาจารย์หลิวเต็มใจช่วยเหลือข้า ข้าก็จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นอย่างมาก!”

หลิวจี๋ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและกล่าวถาม”หลิวจี๋ มีทางเลือกหรือไม่?”

“ไม่!”

ลู่เฟิง ได้ตอบกลับโดยไม่ลังเล

ลู่เฟิง ได้มองไปที่ หลิวจี๋ และตอบกลับ”อาจารย์หลิว เป็นบุคคลที่มากพรสวรรค์ และ ข้าเองก็เป็นคนที่ทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง หากอาจารย์หลิวยินดีช่วยเหลือข้าบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นข้าจะรู้สึกขอบคุณอย่างมาก แต่ถ้าไม่ช่วยข้า ข้าเองก็ไม่อาจปล่อยคนมีความสามารถเช่นท่านไปยังประเทศศัตรูในอนาคตของข้าได้”

“ฝ่าบาทตรัสเช่นนี้ พระองค์ คิดจะฆ่า หลิวจี๋ ใช่หรือไม่?”

“แน่นอน,หากไม่คิดรับใช้ข้า แล้ว ท่านคิดว่าข้าจะปล่อยให้ท่านหลุดไปยังประเทศของศัตรูหรือไม่?”ลู่เฟิงได้ตอบกลับเบา ๆ

ราชาที่มีเมตตานั้นมีอยู่มาก

แต่ถ้าความเมตตานั้นจะนำพาความวิบัติมาสู่ประเทศของตน มันย่อมกลายเป็นเรื่องที่ตลกขบขันจริง ๆ

หลิวจี๋ มองไปที่ ลู่เฟิง และคุกเข่าลงกับพื้น”ข้าน้อย หลิวจี๋ ถวายบังคมฝ่าบาท ข้าน้อยยินดีใช้ทั้งหมดที่มีเพื่อเติมเต็มความฝันที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์”

หลิวจี๋ ได้นึกถึงความทะเยอทะยานของ ลู่เฟิง และ มุมมองในความไร้กรุณาของอีกฝ่ายเมื่อครู่นี้ นับว่าเป็นความเมตตาสำหรับเขาจริง ๆ