ตอนที่ 70 เกรงว่ามันอาจจะเป็นพระวจนะ!

Game of the World Tree

ในวิหารแห่งธรรมชาติ

นักบวชสาว อลิซ ฟังรายงานของหลี่มู่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียดพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ท่านหลี่มู่หมายความว่า… เดมาเซียถูกพวกออร์คจับตัวไป และเนื่องจากข้อจำกัดด้านพลังของผู้ถูกเลือกในปัจจุบัน …พวกท่านจึงขอให้ข้าร่วมต่อสู้กับพวกมัน?”

หลี่มู่พยักหน้า

“ใช่ครับ นอกจากนี้ ตามที่ท่านอลิซทราบ ผู้ถูกเลือกอย่างผมมีวิธีระบุตำแหน่งสหายผู้ถูกเลือกด้วยกัน ทำให้ตอนนี้พวกเราสามารถทราบตำแหน่งที่อยู่ของเดมาเซียในปัจจุบันได้ครับ”

ทั้งอลิซและเบอร์เซิร์กเกอร์ต่างทราบถึงความสามารถด้านพิกัดของเหล่าผู้ถูกเลือกหลังจากใช้เวลาอยู่กับพวกเขามาพักใหญ่

เนื่องจากเดมาเซียยังคงสถานะปาร์ตี้กับเหล่าเพื่อนร่วมทีมในขณะที่ถูกลักพาตัวไป พิกัดของเขาจึงยังคงปรากฏอยู่ในมินิแมพของระบบ

ด้วยเหตุนี้ แม้จะไม่สามารถติดต่อกับเดมาเซียได้ แต่ข้อมูลด้านตำแหน่งที่อยู่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับบรรดาผู้เล่นแต่อย่างใด

“ผมจึงคิดว่า… การที่เขาถูกออร์คจับตัวไป น่าจะเป็นโอกาสสำหรับพวกเรา …ท่านอลิซเคยเล่าว่าพวกมันน่าจะมีฐานที่มั่นในป่าเอลฟ์ใช่ไหมครับ? ผมคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นโอกาสในการทำลายฐานของพวกมันให้ราบเป็นหน้ากลอง!”

หลี่มู่พิจารณาสีหน้าที่เต็มไปด้วยความลังเลของนักบวชสาว เขากล่าวต่อ

“และคิดว่าท่านเทพธิดาน่าจะยินดีกับเรื่องนี้ครับ…”

“ท่านเทพธิดา…”

หัวใจของอลิซพลันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่มู่

แต่สีหน้าของเธอกลับดูลำบากใจ…

นักบวชสาวใช้เวลาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากจะช่วยนะคะ แต่ถ้าเป็นฐานที่มั่นของออร์ค …มันก็มีโอกาสที่นักบวชของพวกมันจะอยู่ที่นั่นน่ะค่ะ”

อลิซสบตากับหลี่มู่พลางอธิบาย

“ตามที่ท่านหลี่มู่ทราบดีว่าพระมารดามีศัตรูมากมาย ท่านจึงไม่สามารถก้าวสู่ฉากหน้าได้ เนื่องจากเกรงว่าท่านจะตกเป็นเป้าโจมตีของเหล่าศัตรูอีก…”

“ด้วยเหตุนี้ เบอร์เซิร์กเกอร์และข้าผู้เป็นสาวกแห่งธรรมชาติ จึงไม่สามารถแสดงตัวต่อหน้าเหล่าสาวกของเทพองค์อื่น ๆ ได้ …เพราะมันจะนำไปสู่การเปิดเผยเรื่องการฟื้นคืนชีพของพระมารดาก่อนเวลาอันควร”

“แต่พวกท่านแตกต่างออกไป ท่านไม่ใช่สาวกแห่งธรรมชาติ แถมยังมีดวงวิญญาณที่ผิดแผกไปจากพวกเรา ตัวตนของพวกท่านจึงไม่ทำให้เหล่าศัตรูมุ่งเป้ามาที่พระมารดา…”

หลี่มู่ที่ได้ยินคำพูดของอลิซ ทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น

“แต่… พละกำลังของพวกเราไม่เพียงพอกับการต่อกรกับออร์ค แถมผู้นำของพวกมันยังล้มเดมาเซียด้วยการโจมตีเพียงหนึ่งหมัด”

“หนึ่งหมัด…”

อลิซครุ่นคิดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“มันน่าจะเป็นนักรบออร์คที่อยู่จุดสูงสุดของระดับเหล็ก พวกท่านไม่ควรปะทะกับมัน…‘

เธอใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวขึ้น

“เรื่องนี้ข้าขอภาวนาต่อพระมารดาผู้เมตตาและรอบรู้เสียก่อน ท่านย่อมมีทางออกให้กับพวกเราอย่างแน่นอน!”

นักบวชสาวเคลื่อนตัวมาที่รูปสักการะ เธอหลับตาลงและเริ่มอธิษฐาน

อีฟสัมผัสได้ถึงการภาวนาของอลิซในระหว่างที่ตนกำลังใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อเพลิดเพลินไปกับอีบุ๊คที่ชื่อ ‘คู่มือพื้นฐานแห่งการสร้างเกม’

“อลิซนี่นา? มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกผู้เล่นหรือเปล่า?”

เทพธิดาลอบตระหนกและพักการอ่านไว้ชั่วคราว

แม้จะมีระบบเกมคอยอำนวยความสะดวก แต่อีฟก็ไม่สามารถสอดส่องความเคลื่อนไหวของเหล่าผู้เล่นได้ตลอดเวลา

ด้วยเหตุนี้เธอจึงมอบหมายงานให้นักบวชสาวคอยรายงานปัญหาหรือประเด็นต่าง ๆ ที่ได้รับจากผู้เล่น

เกิดอะไรขึ้นกับเหล่าต้นหอมน้อยของเค้า?!

อีฟชำเลืองไปทางกลุ่มแสงสีฟ้าขนาดเล็กอันเป็นตัวแทนของบรรดาผู้เล่นในห้วงมิติปัจเจก แต่กลับไม่พบว่ามีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น

เธอเบาใจขึ้นเล็กน้อย และเริ่มรับฟังคำภาวนาของอลิซ…

เทพธิดาปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อรับฟังไปครู่หนึ่ง

“เดมาเซียโดนออร์คจับไป? พวกผู้เล่นเลยขอความช่วยเหลือจากอลิซ?”

อีฟไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะส่งกระแสจิตเข้าไปในกลุ่มแสงของเดมาเซีย

วิสัยทัศน์ของเทพธิดาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เธอได้ เห็น สถานการณ์ปัจจุบันทางฝั่งเอลฟ์หนุ่ม…

ในถ้ำอันมืดมิด เอลฟ์หัวแดงโดนมัดไว้กับเสาหินในสภาพบาดเจ็บสาหัส เหมือนว่าเขาเพิ่งถูกทรมานอย่างหนักโดยกลุ่มออร์คหนุ่มร่างกำยำที่รายล้อมอยู่

นี่ไม่ใช่แค่การล่าแล้ว! ดูยังไงก็เป็นการทรมานชัด ๆ เลยค่ะ!

เมื่ออีฟนำปัจจัยต่าง ๆ มาประกอบกับบทสนทนาของออร์ค เทพธิดาก็จับต้นชนปลายได้อย่างรวดเร็ว…

“ไม่คิดว่าอูลร์จะส่งคนมาหาสาเหตุเร็วขนาดนี้”

อีฟเริ่มรู้สึกถึงความวิกฤติของสถานการณ์ตรงหน้า และเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของพวกออร์ค หัวใจของเธอก็เต้นแรงด้วยความหวาดวิตก

เดี๋ยวนะ…

เดมาเซียไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ควรจะพูด… ใช่มั้ย?

ในวินาทีนั้น ผู้นำกลุ่มออร์คได้คาดคั้นเอลฟ์หนุ่มด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“เจ้าบอกว่าเจ้าชื่อธานอส? เป็นหัวหน้าหน่วยภายใต้เทพแห่งความตาย? แล้วโซลโซไซตี้นี่คือที่ไหน? อะไรคือดราก้อนบอลและเนตรวงแหวน? แจ็คสแปร์โรว์คือใคร? แล้วขุมทรัพย์ของเขาคืออะไร?”

หินดำถามคำต่อคำ ด้วยข้อมูลที่มันได้รับรู้จากเดมาเซีย สายตาของมันจ้องเขม็งไปที่เอลฟ์หนุ่มอย่างพินิจพิเคราะห์

อีฟ: “…”

นี่เล่นอะไรกันคะ?!

อีฟรู้สึกสับสนเล็กน้อย ราวกับตัวเองได้ข้ามไปนั่งอยู่ในดงเด็กหนวดจากชมรมอนิเมะบนดาวเคราะห์สีคราม…

สีหน้าของเดมาเซียดูตื่นตะลึงไม่แพ้กันเมื่อได้ยินคำถามของหินดำ

“บร๊ะ… ตูแค่พล่ามไปเรื่อย …ไอ้นี่มันเชื่อจริงดิ?”

เขาพึมพำอย่างแผ่วเบา

การที่เหล่าออร์คเชื่อคำพูดของเอลฟ์หนุ่ม ย่อมมีภูมิหลังมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนาน…

เอลฟ์ คือเผ่าพันธุ์อันสูงศักดิ์และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในดินแดนซากัส ได้รับการยกย่องในด้านความสามัคคี ความเมตตา และความซื่อสัตย์มาโดยตลอด

ในพจนานุกรมของเอลฟ์ ไม่มีคำว่าการหลอกลวง

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เอลฟ์โกหกไม่เป็น!

พวกเขาจะพูดความจริง หรือเลือกที่จะไม่พูดเลยเท่านั้น!

…วิถีแห่งความสัตย์ได้กลายมาเป็นอัตลักษณ์ประจำเผ่าพันธุ์ของเอลฟ์ในดินแดนซากัส

ด้วยเหตุนี้ แม้พวกออร์คจะสับสนในเรื่องเล่าแสนประหลาดเพียงใด แต่พวกมันก็เชื่อเป็นตุเป็นตะเมื่อได้ยินคำพูดของเดมาเซีย…

(ขณะเดียวกัน เทพธิดาที่ได้ยินเสียงพึมพำของเอลฟ์หนุ่ม ก็เริ่มที่จะคาดเดาเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้

“เดมาเซียน่าจะยังไม่ได้เล่าอะไรออกไปเพราะโดนรีดความลับ …ล่ะมั้ง?”

เอาเข้าจริง พวกผู้เล่นไม่มีความเกรงกลัวต่อการถูกทรมาน ย่อมไม่มีทางที่จะเผยความลับออกไปด้วยเรื่องแบบนี้

ในทางกลับกัน …ภัยสังคมพวกนี้มีต่างแนวโน้มจะทำสิ่งอุกอาจอื่น ๆ เช่นการลวนลาม NPC

เดมาเซียลอบตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าพวกออร์คเชื่อคำพูดของตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจพูดต่อ

“อะแฮ่ม… โซลโซไซตี้คือที่อยู่ของเทพมรณะ”

“ดราก้อนบอลเป็นสมบัติล้ำค่า ตำนานเล่าว่าถ้ารวมได้ 7 ลูก ก็จะใช้อัญเชิญเทพเจ้ามังกรศักดิ์สิทธิ์ออกมา ดลบันดาลความปรารถนาให้เป็นจริงได้!”

“และเนตรวงแหวนเป็นเวทมนตร์อันทรงพลังที่สืบทอดทางสายเลือด…”

“ส่วน แจ็ค สแปร์โรว์ …เขาเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในแดนมนุษย์! ขุมทรัพย์ของเขาจะมอบทั้งความมั่งคั่ง ชื่อเสียง และอำนาจที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้ค้นพบ!”

เดมาเซียส่ายศีรษะอย่างแผ่วเบาเพื่อเพิ่มความแนบเนียนให้การเล่นละครของตน

อีฟ: “…”

เหล่าออร์คยังคงชะงักด้วยความตื่นตะลึงต่อไป…

อะไรของมันวะ…

ทำไมข้าเข้าใจทุกคำที่มันพูด แต่ไม่เห็นจะเข้าใจเรื่องที่มันกำลังเล่าสักนิด??

ทว่าในวินาทีนั้น นักบวชออร์คกลับอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น

“ข้าเข้าใจแล้ว!!”

ฮะ? …ฮะ?

เดมาเซียมองออร์คใต้เสื้อคลุมหนังแกะด้วยความประหลาดใจ

เข้าใจอะไรของเอ็งฟะ??

อีฟก็ดูสับสนไม่แพ้กัน

มัน …มันเข้าใจอะไรขึ้นมาน่ะ?

มีเพียงหินดำเท่านั้น…

“ท่านนักบวช ท่านเข้าใจสิ่งใดเหรอครับ?”

…ที่เผยแววตาอันเปล่งประกายด้วยความเทิดทูน

แม้ความแข็งแกร่งของมันจะสูงกว่านักบวชออร์คระดับเหล็กขั้นต้น แต่นักบวชผู้นี้สมควรได้รับความนับถือในฐานะข้ารับใช้แห่งองค์พระบิดา!

นักบวชออร์คสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ ครั้งหนึ่ง และเริ่มอธิบายสิ่งที่มันเชื่อว่าตนเข้าใจ…

“เทพมังกร มนตราอันทรงพลัง สมบัติลึกลับ… ท่านหินดำ ข้อความเหล่านี้อยู่เหนือความเข้าใจของพวกเรา เกรงว่าพวกมันอาจจะเป็นสารลับหรือแม้แต่พระวจนะ!”

“แม้ข้าจะไม่เข้าใจ แต่ถ้ารายงานข้อมูลพวกนี้ให้พระบิดา พระองค์ต้องทราบความหมายของพวกมันอย่างแน่แท้!”

ท่าทางของนักบวชดูศรัทธาจนยากที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบ

“ท่านหินดำ ข้าต้องการความช่วยเหลือของท่าน โปรดเตรียมพิธีสังเวยให้พร้อมเพื่อรายงานเรื่องนี้ให้พระองค์ทราบ! พวกเราต้องแจ้งท่านให้เร็วที่สุด องค์พระบิดาจะต้องมอบรางวัลให้กับพวกเราแน่นอน!”

ระดับความศรัทธาของนักบวชออร์ครูปนี้ยังไม่ถึงขั้น คลั่งไคล้

พลังศรัทธาของมันจึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการสื่อสารข้ามภพ นอกเสียจากว่าวิญญาณของมันจะเข้าไปสู่ดินแดนแห่งเทพหลังเผชิญกับความตาย

ด้วยเหตุนี้ พิธีสังเวยจึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด

เดมาเซียและอีฟต่างชะงักอยู่ครู่หนึ่ง จากที่ได้ยินคำพูดของนักบวชเผ่าออร์ค

รางวัลเหรอคะ?

เกรงว่าจะโดนฟาดซักป้าบแทนนะคะ…

เทพธิดาลอบถอนหายใจออกมาเมื่อผ่านไปอีกชั่วขณะ

“สติปัญญาของเอลฟ์ต้องอยู่ระดับไหน ถึงได้โดนพวกสมองกล้ามเหล่านี้ล่าจนแทบจะสิ้นชาติขนาดนี้…”

แต่คิดไปคิดมา เหล่าเอลฟ์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีด้านบื้อ ๆ ไม่แพ้พวกมัน…

ถ้าพวกออร์คจะไม่ฉลาดขนาดนี้ เค้าก็พอจะเบาใจได้ล่ะค่ะ…

แต่เดี๋ยวนะ… พิธีสังเวย?

เทพธิดาพบว่าภายในถ้ำแห่งนี้ไม่มีรูปสักการะของอูลร์ และการบวงสรวงข้ามภพก็ต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก…

เรื่องนี้นับเป็นโอกาสอันดีของเหล่าผู้เล่น

ตราบใดที่ใช้กลยุทธ์อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ แม้ว่าพละกำลังจะต่างชั้นกันเพียงใด แต่พวกผู้เล่นย่อมสร้างความปั่นป่วนให้แก่กับออร์คพวกนี้ได้ไม่ยาก…

นอกจากนี้ อีฟยังมีโอกาสแปลงพวกมันให้เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย

ถึงต้นหอมของเค้าจะต่างชั้นกับพวกออร์คขนาดไหน แต่ถ้าแผนดีก็มีชัยไปเกินครึ่งค่ะ!

เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เทพธิดาก็เตรียมเปิดภารกิจบทใหม่อย่างรวดเร็ว

แต่ในวินาทีนั้น อีฟพลันสังเกตเห็นคุกหินในถ้ำเสียก่อน…

“หือ?”

สายตาของเธอแข็งกร้าวขึ้นมาทันที

“หึหึหึ… ฐานที่มั่นของพวกล่าเอลฟ์…”

น้ำเสียงของเทพธิดาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

เธอไตร่ตรองเนื้อหาของภารกิจอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงแก้ไข ก่อนจะมอบวิวรณ์ให้กับ อลิซ นักบุญแห่งธรรมชาติ

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

T/N: อีฟเดือด…