เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเฟิงหานชวนน่าจะชอบผู้หญิงคนนั้นมากแต่ไม่ได้ใช้เวลากับผู้หญิงคนนั้น
มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ชอบเฟิงหานชวน และเฟิงหานชวนเองก็จีบเธอไม่ติด
“ไอย่า!”
ตอนนี้เฉินฮวนฮวนนึกไม่ออกและเธอก็รู้สึกปวดหัวไปหมด เธอเห็นเฟิงหานชวนเอามือแตะหน้าผาก
“ฉันพูดถึงอดีตที่น่าเศร้าของคุณ คุณจะแก้แค้นฉันคืนไหม?”เฉินฮวนฮวนใช้มือลูบหน้าผาก
“เฉินฮวนฮวน ผมชื่นชมจินตนาการของคุณนะ”น้ำเสียงของเฟิงหานชวนรู้สึกได้ถึงความหมดหนทางอธิบาย
อันที่จริงเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ แต่อีกฝ่ายคือเฉินฮวนฮวน ยังไงเขาก็ต้องอธิบายให้เธอฟังให้ชัดเจน
“เอ่อ…..”เฉินฮวนฮวนพูดไม่ออก
เธอรู้สึกว่าตัวเองแทงเข้าที่หัวใจของเฟิงหานชวนและนั่นคือเหตุผลที่เขาเอามือแตะหน้าผาก
เฟิงหานชวนถอนหายใจ ดวงตาสีดำของเขาเขาจ้องมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ภายใต้ร่างของเขา เขาเอ่ยอย่างเฉื่อยชาว่า: “อาหาน คือชื่อที่แม่เรียกผม”
“แม่ของคุณ?”ดวงตาของเฉินฮวนฮวนเบิกกว้างขึ้นในทันที ราวกับว่าจิตใจของเธอไม่สามารถหันหลังกลับไปอีกได้แล้ว
ไม่ใช่ป็อปปี้เลิฟ ไม่ใช่รักแรก ไม่ใช่แฟนเก่า แต่เป็นแม่ของเฟิงหานชวน?
นี่…..เธอกำลังเข้าใจผิดครั้งแล้วครั้งเล่า!
ในใจของเฉินฮวนฮวนแอบตัดสินใจไปก่อน ก่อนที่เธอจะรู้และเข้าใจความจริง เธอไม่พูดและไม่ถามอะไรเลย
หรือถ้าเธอพูดอะไรผิดไป มันจะน่าอายสำหรับเธอ
“อืม”เฟิงหานชวนตอบกลับแล้วพลิกตัวนอนข้างๆเฉินฮวนฮวนเหมือนเดิม
ตอนนี้ทั้งสองนอนเคียงข้างกันโดยหน้ามองขึ้นไปบนเพดาน
“อื้ม อะ โอเค”เฉินฮวนฮวนตอบกลับแบบตะกุกตะกัก
ตอนนี้เธอรู้สึกอายมากจริงๆ เธอเหมือนคนที่เห็นแก่ตัวเลย
เมื่อเห็นว่าเฟิงหานชวนไม่ได้พูดอะไร เฉินฮวนฮวนก็เม้มปากและอธิบายด้วยเสียงเบาๆว่า: “ที่ฉันเพิ่งพูดไปไม่ได้หมายความอย่างอื่นเลย ฉันคิดอย่างนั้นเลยพูดแบบนั้นออกไป เพราะฉันไม่รู้เรื่องของคุณ ดังนั้น…เพราะฉะนั้นอย่าถือสา…”
“คุณพูดว่าคุณไม่รู้เรื่องของผมเหรอ?”เฟิงหานชวนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เขาหันกลับมาอีกครั้งและนอนตะแคงหันหน้าไปทางเธอ
เฉินฮวนฮวนชำเลืองมองเขา ในใจของเธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนไปมองที่โคมไฟคริสตัลบนเพดาน เพื่อหลีกเลี่ยงการจ้องมองกับผู้ชายตรงหน้าของเธอ
เพราะว่าเธอรู้สึกอับอายเกินไป จึงไม่กล้ามองตรงๆไปที่เฟิงหานชวน
“อืม คุณอย่าเก็บเอาไปใส่ใจเลย ผู้หญิงที่เป็นรักแรกอะไรนั่น ฉันก็พูดไปเรื่อย”เฉินฮวนฮวนกัดริมฝีปากของเธอ
“ฮวนฮวน สิ่งที่คุณต้องการจะสื่อจริงๆ คือคุณต้องการที่จะเข้าใจและรับรู้เรื่องราวของผมใช่ไหม?”เฟิงหานชวนเม้มริมฝีปากของเขา เขายื่นมือออกมาและลูบผมที่ระอยู่ระหว่างหน้าผากของเธอเบาๆ
เมื่อเฉินฮวนฮวนได้ยินดังนั้นร่างกายและสีหน้าของเธอก็แข็งทื่อทันที
เขา เขา เขา….เฟิงหานชวนเขากำลังพูดถึงอะไร?
“ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องของคุณสักหน่อย!”เธอรีบแย้งกลับไปทันที
เฟิงหานชวนพูดอย่างกับว่าเธอชอบเขามาก จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเพียงแค่คู่ทดลองแต่งงานเท่านั้น
และก่อนที่ความจริงจะถูกเปิดเผย เธอเองก็เกลียดเฟิงหานชวนมากๆอยู่แล้ว เพราะตอนนั้นเธอคิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี!
เธออยากจะไปรู้เรื่องของเขาได้อย่างไร?
“คำว่าทดลองการแต่งงาน มันก็คือการทดลองการแต่งงานจริงๆ ก็คือต้องเข้าใจและรู้เรื่องของอีกฝ่าย คุณอยากรู้เรื่องของผมมันก็เป็นเรื่องปกติ”เฟิงหานชวนพยายามระงับรอยยิ้มของเขาและพยายามพูดอย่างเคร่งขรึม
ตอนนี้เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเธอยากที่จะกำจัดความสัมพันธ์และหลีกเลี่ยงข้อสงสัยทั้งหมด
“ใช่ๆๆ คุณพูดอย่างไรก็อย่างนั้นแหละ ฉันไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”เฉินฮวนฮวนก่ายหน้าผาก เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกทำตัวไม่ถูก
“ไม่มีอะไรจะพูดก็แปลว่าอยากรู้ คุณอย่างรู้เรื่องอะไรก่อน คืนนี้ยังอีกยาว พวกเราค่อยๆคุยกันก็ได้…”เสียงทุ้มๆของเฟิงหานชวนมันดูคลุมเครือมากขึ้นเรื่อย ๆ
เฉินฮวนฮวนรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของเฟิงหานชวน เธอมองเขาอย่างระมัดระวังและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า: “ไม่เป็นไรที่จะพูดคุย แต่ก็แค่คุยกันนะ”
“แน่นอนว่าพูดคุยก็คือพูดคุย หรือว่าคุณคิดว่ามันเป็นการพูดคุยประเภทไหนกัน?”เฟิงหานชวนรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องคิดอะไรลึกซึ้งแน่ แต่การจินตนาการของเธอก็ดูน่ารักดี
“เอ่อ…..”เฉินฮวนฮวนหมดคำจะพูด ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอเป็นคนที่มีจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์เลย
อย่างไรก็ตามเธอก็ยังคงหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง: “ฉันจะไม่กลัวเลย ถ้าคุณไม่เคยทำแย่มาก่อน”
เฉินฮวนฮวนร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่ดีของเฟิงหานชวนก่อนหน้านี้
“หลังจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว”เมื่อเฟิงหานชวนนึกถึงเรื่องที่เขาไม่ดีทำต่อเฉินฮวนฮวนก่อนหน้านี้ น้ำเสียงของเขาก็อ่อนลงมากกว่าเดิมทันที
“โอเคๆ ฉันจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก”เฉินฮวนฮวนไม่ต้องการพูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้อีกแล้วเพราะมันน่าอาย
แม้ว่าทั้งสองจะเคยเห็นร่างกายของกันและกันทั้งหมดแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากนึกถึงความทรงจำที่สุดจะทนนั่น
มันน่าละอาย!
“เอาล่ะ เลิกสนใจเรื่องนี้ได้แล้ว”เฟิงหานชวนอยากจะยิ้ม แต่เขาก็ยังคงกลั้นไว้
ถ้าอยากจะเปลี่ยนเรื่องพูดก็เปลี่ยนสิ ทำไมยังพูดออกมาอยู่อีก ซื่อบื้อจริงๆ
“ความจริงฉันมีเรื่องจะถามคุณ”เฉินฮวนฮวนไม่รู้สึกเกรงใจและกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า: “พี่ชายคนโตและพี่รองของคุณแก่กว่าคุณหลายปี และอาเหยี่ยนก็เป็นหลานชายคนโตของคุณ ซึ่งเขามีอายุน้อยกว่าคุณเพียงแค่สี่หรือห้าปี คุณ…”
เธอรู้สึกนายท่านเฟิงดูๆแล้วน่าจะเจ้าชู้มาก เขาอายุเจ็ดสิบปีแล้ว แต่ก็ยังพานางแบบที่อ่อนกว่าในวัยยี่สิบต้นๆกลับมาด้วย และเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาไม่เคยขาดเลย
ยิ่งกว่านั้นเฟิงเจิ้งหมิงลูกคนโตของตระกูลเฟิงที่เธอเคยพบไปแล้ว เขาเป็นพ่อของเฟิงเฉินเหยี่ยนและเธอรู้สึกว่าเฟิงเจิ้งหมิงและเฟิงหานชวนไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไหร่
อันที่จริง เธอมีข้อสงสัยนี้มาตลอด แต่เธอไม่เคยถามเรื่องนี้เลย
“ใช่”
ก่อนที่เฉินฮวนฮวนจะพูดจบเฟิงหานชวนก็ชิงตอบเธอเสียก่อน
“ฉัน……ฉันยังถามไม่จบ “เฉินฮวนฮวนรู้สึกสับสนเล็กน้อย
“ผมรู้ว่าคุณอยากถามอะไร คุณอยากถามว่าผมเป็นลูกนอกสมรสหรือเปล่าใช่ไหม ใช่ผมเป็น”เฟิงหานชวนตอบอย่างตรงไปตรงมา
เพียงแต่ว่าพ่อเคยสั่งไว้นานมาแล้วว่าใครก็ตามที่กล้าพูดถึงเรื่องนี้ ใครคนนั้นก็จะโดนปิดปาก
ดังนั้นเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เฉินฮวนฮวนจะไม่รู้
“ห้ะ?”เฉินฮวนฮวนอ้าปากค้างแล้วตัวแข็งทื่อทันที
เธอเดาเรื่องนี้ไม่ผิด? เฟิงหานชวนเป็น…
“คุณภรรยา คุณจะรังเกียจผมไหม?”เฟิงหานชวนจงใจเลื่อนหน้าไปที่ด้านข้างของใบหน้าของเฉินฮวนฮวน ริมฝีปากของเขาเกือบจะแตะไปที่ใบหูของเธอ
หลังจากที่เขาถามคำเหล่านี้อย่างแผ่วเบา ลมหายใจร้อนๆก็พัดผ่านเข้าที่ใบหูของเธอ เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าตัวของเธอเริ่มสั่น
ลมหายใจของเขานั้นใกล้มาก และเขาก็หายใจออกอีกครั้ง ลมหายใจของเขาเป่าไปที่ลำคอของเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนหดศีรษะลงไปโดยไม่รู้ตัว เธอตั้งใจจะตอบเขาทันที แต่การกระทำของเฟิงหานชวนทำให้เธอลืมคำตอบที่จะตอบไปเลย ตอนนี้เธอทำได้แต่ก้มหน้าลงเท่านั้น
“ถ้าคุณไม่ตอบ แสดงว่าคุณรังเกียจที่ผมเป็นลูกนอกสมรส?”เฟิงหานชวนเข้าใกล้เธอมากขึ้น เขาแทบรอไม่ไหวที่จะใช้ริมฝีปากบางของเขาประทับลงไปที่คอขาวๆของเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนรีบยื่นมือออกไปผลักเขา แต่เฟิงหานชวนก็คว้าข้อมือของเธอไว้เสียก่อน