บทที่ 103 ผมไปหาบำบัดรักษาด้านบุรุษเวช

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“ฉัน….. ฉันไม่มีวันรังเกียจคุณ! คุณ…….คุณช่วยทำตัวปกติสักหน่อยได้ไหม!”

เฉินฮวนฮวนตกใจแทบหัวใจวายตาย เพราะเฟิงหานชวนยื่นหน้าเข้ามาในซอกคอของเธอแทบจะไม่ทันตั้งตัว

“ผมไม่เชื่อ คุณรังเกียจผม” เฟิงหานชวนกระตุกมุมปากเงียบ ๆ ริมฝีปากบางซุกไซ้ไปตามลำคอของเธอ จากนั้นก็เลื่อนขึ้นมาบนปลายคาง ก่อนจะยื่นหน้ามาตรงหน้าของเธอ

ปลายจมูกแตะปลายจมูก ริมฝีปากของทั้งคู่ห่างกันแค่ครึ่งเซนติเมตรเท่านั้น ดวงตาทั้งสี่ประสานกันและกัน บรรยากาศภายในห้องเหมือนจะเงียบสงัดลงทันตา

เฉินฮวนฮวนไม่กล้าจะหายใจ เธอรู้สึกสมองว่างเปล่า ลืมสิ้นแม้แต่จะดิ้นให้หลุดจากพันธนาการนี้ อีกทั้งเฟิงหานชวนก็ไม่เคยทำเรื่องที่เกินเลยกับเธอด้วย

เพียงแต่ ริมฝีปากของผู้ชายขยับใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เธอไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากพูด

เธอไม่ได้รังเกียจเขาเพราะเขาเป็นลูกนอกสมรสจริง ๆ

เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปากไว้ แล้วส่ายหน้าเล็กน้อยอยู่ในขอบเขตที่จำกัด เพื่อแสดงคำตอบของตัวเอง

“ถ้าไม่ใช่เพราะรังเกียจ แล้วทำไมคุณถึงถามคำถามนี้กับผม หือ?” เฟิงหานชวนยังคงแสดงอากัปกิริยาเมื่อสักครู่ ด้วยการจูบคุกคามและเค้นถาม

ลมหายใจของเขาพ่นใส่แทบจะทั่วใบหน้าและในจมูกของเธอ อีกทั้งเธอยังได้กลิ่นมินต์จาง ๆ อีกด้วย ทำให้รู้สึกสบาย

เฟิงหานชวนเคยบอกว่าเขาเป็นโรคกลัวเชื้อโรค เฉินฮวนฮวนสัมผัสได้ เขาเป็นผู้ชายที่สะอาดมาก

เธออยากจะตอบกลับ แต่ก็ไม่กล้าพูด ยังคงเม้มปาก เลื่อนศีรษะออกไปด้านข้างเล็กน้อย ถ้าขยับแบบนี้ ริมฝีปากของเธอและริมฝีปากของเฟิงหานชวนก็ประกบกันแล้วนะสิ

“ฉัน…..ฉันแค่สงสัย ไม่ได้รังเกียจ ก็คุณบอกให้ทำความเข้าใจ ฉันก็เลยถามคำถาม” เฉินฮวนฮวนไม่กล้าอ้าปากมากนัก ได้แต่ขยับปากในพื้นที่ที่จำกัด พูดเสียงเบา ๆ

เธอจำเป็นต้องอธิบายเรื่องนี้ ที่เธอถามเฟิงหานชวนไม่ใช่เพราะอยากถามอะไรนะ เพียงแค่สงสัยเฉย ๆ เท่านั้น และไม่ได้มีเจตนาอื่นด้วย

“ในเมื่อคุณไม่ได้รังเกียจผม งั้นก็พิสูจน์ให้ผมดูสิ” เฟิงหานชวนอยากจะแกล้งสาวน้อยคนนี้ คงจะสนุกไม่น้อย

ดูท่าทางจะมีความสุขมากด้วย น่ารักเกินไปแล้ว

“พิ พิสูจน์?” เฉินฮวนฮวนแปลกใจ จึงถามอีกว่า : “พิสูจน์ยังไง?”

“จูบผม หรือไม่ก็ช่วยผมเรื่องหนึ่ง” เฟิงหานชวนพูดอย่างไม่อาย

เฉินฮวนฮวน : “………”

ความรู้สึกเมื่อสักครู่ที่เฟิงหานชวนพูดมากขนาดนั้น แถมยังใส่ร้ายเธอว่ารังเกียจเขาอีก เพียงเพื่อจะเล่นลูกไม้เจ้าเล่ห์นี้งั้นเหรอ?

“คุณถอยออกไปเลย!” เธอขมวดคิ้ว และพูดด้วยความไม่พอใจ

“ได้ คุณให้ถอยผมก็ถอย ผมจะถอย” เฟิงหานชวนปล่อยตัวเธอ ก่อนจะพลิกตัวนอนหงายอยู่ข้างกายของเธอต่อไป

เฉินฮวนฮวนหันไปมองเขา ไม่รู้ว่าทำไม เธอพบว่าใบหน้าของเฟิงหานชวนนั้นดูจะเต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ

หรือว่าเขาจะรู้สึกว่าเธอรังเกียจเขาจริง ๆ ?

“เฮ้ เฟิงหานชวน” เธอเรียกเขา และอธิบายอีกครั้งว่า : “ฉันไม่ได้รังเกียจคุณจริง ๆนะ คุณก็รู้จักแฟนคนเก่าของฉันเยี่ยจิ่งเฉินนี่ คุณเคยเจอเขาในร้านชานมแล้ว เขาเองก็เป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเยี่ยเหมือนกัน ถ้าฉันรังเกียจลูกนอกสมรสจริง ๆ เมื่อก่อนฉันก็คงจะไม่คบกับเขาหรอก และไม่มีทางมีรักครั้งแรกกับลูกนอกสมรสด้วย”

“ดังนั้น ฉันไม่ได้รังเกียจคุณจริง ๆ นะ และไม่ได้เลือกปฏิบัติกับคุณด้วย” เฉิวนฮวนฮวนอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง เธอกลัวว่าจะทำร้ายจิตใจของเฟิงหานชวนจริง ๆ

ถึงอย่างไร ถ้าเป็นคนที่จิตใจไม่เข้มแข็ง หรือเป็นเพราะฉายาอย่าง “ลูกนอกสมรส” แบบนี้ คงจะไร้เรี่ยวแรงไปเลย

“เฉินฮวนฮวน ผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม” สายตาของเฟิงหานชวนเหม่อมองไปบนเพดานห้อง แต่เขาพูดประโยคนี้กับเฉินฮวนฮวนที่อยู่ข้างกาย

เฉินฮวนฮวนเกิดความสงสัย จึงรีบถามว่า : “ทำไมจะไม่ยุติธรรมล่ะ?”

“คุณก็เคยมีแฟนมาก่อน เคยมีรักครั้งแรก แต่ประสบการณ์เรื่องความรักของผมนั้นว่างเปล่า คุณจะชดเชยให้ผมยังไง?” เฟิงหานชวนไม่ได้หันหน้าไป แต่กลับใช้สายตาเหล่มองไปยังเฉินฮวนฮวนที่อยู่ข้าง ๆ

“หา?” เฉินฮวนฮวนงุนงงทันใด ก่อนจะพูดอย่างหมดปัญญาว่า : “มีแบบนี้ด้วยเหรอ? ฉันเคยมีรักครั้งแรก คุณไม่เคยมีรักครั้งแรก ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยนี่? ทำไมฉันต้องชดเชยให้คุณด้วย?”

“เพราะคุณช่วงชิงรักแรกของผมไปนะสิ” เฟิงหานชวนลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นก็มองลงไปยังผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง

เฉินฮวนฮวนเองก็รีบลุกขึ้นมานั่งเช่นกัน จากนั้นก็สบตากับเฟิงหานชวน เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความรู้สึกสับสน ก่อนจะพูดว่า : “ฉันไปแย่งชิงรักแรกของคุณยังไง? คุณจะเคยมีหรือไม่มีรักครั้งแรก เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”

ตอนนี้เธอรู้สึกประหลาดใจจริง ๆ ผู้ชายแบบเฟิงหานชวน อายุมากขนาดนี้แล้วยังไม่เคยมีความรัก เธอเดาได้เลยว่าเฟิงหานชวนต้องมีอีคิวต่ำเกินไปแน่ ๆ

ไม่อย่างนั้น คนที่โดดเด่นแบบนี้อย่างเขา แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน

“ตอนนี้เราอยู่ในช่วงอยู่ก่อนแต่ง ถ้าอยู่ก่อนแต่งสำเร็จแล้ว งั้นก็แสดงว่าเราเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ แล้วล่ะสิ?”

“ถ้าในกรณีที่เรากลายเป็นสามีภรรยากันจริง ๆแล้ว งั้นก็หมายความว่าต่อไปจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นแล้ว”

“ดังนั้น เฉินฮวนฮวน ถ้าอยู่ก่อนแต่งสำเร็จแล้ว คุณก็คือรักครั้งแรกของผม”

เฟิงหานชวนพูดแบบนี้ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจังมาก ทำให้เฉินฮวนฮวนที่อยู่ตรงหน้าตะลึงไม่น้อย

เมื่อเธอได้สติกลับมา ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าคำพูดนี้มันมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่ก็พูดไม่ออกว่าไม่ชอบมาพากลตรงไหน

เห็น ๆ อยู่ว่าเฟิงหานชวนพูดสมเหตุสมผล แต่เธอดันรู้สึกไม่ชอบมาพากลตรงไหนก็ไม่รู้?

“งั้น งั้น งั้น ……. งั้น ………” เธอก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน

เธอพบว่า ตอนที่เฟิงหานชวนพูดนั้น บางอย่างในคำพูดนั้น เหมือนจะคลุมเครืออยู่เล็กน้อย

“ฮวนฮวน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นการอยู่ก่อนแต่ง แต่ในโหมดของสามีภรรยาก็เข้ากันได้ดี ดังนั้นระหว่างเราสองคนไม่ควรจะมีความลับใด ๆ ต่อกัน ใช่ไหม?” เฟิงหานชวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาฉับพลัน

เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าสมองของตัวเองนั้นไล่ตามไม่ทัน เธอรีบพยักหน้าโดยที่ยังไม่ทันได้คิด และตอบไปว่า : “อื้อ”

เธอเป็นคนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายและโปร่งใส เธอไม่มีความลับอะไรเลย ความลับเพียงเรื่องเดียวก็คือค่ำคืนที่น่าหวาดกลัวในบลูส์คลับคืนนั้น แต่เฟิงหานชวนก็รู้เรื่องนี้แล้ว

ดังนั้น ต่อหน้าเขา เธอก็ไม่มีความลับใด ๆ กับเขา

ตรงกันข้ามกลับเป็นเฟิงหานชวน เธอไม่เข้าใจเขา ไม่เข้าใจเลยสักนิด เธอรู้สึกว่าเฟิงหานชวนดูยาก เดาไม่ออก

“ดี งั้นผมจะแชร์ความลับในวันนี้ ผมไปบำบัดรักษาด้านบุรุษเวช” เฟิงหานชวนมองไปยังผู้หญิงตรงหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง และพูดอย่างเคร่งขรึม

“บำบัด บำบัดรักษาด้านบุรุษเวช!?” เฉินฮวนฮวนเบิกตากว้าง จากนั้นก็โพล่งออกไปแทบจะทันใดว่า : “คุณใช้การไม่ได้จริงเหรอ?”

ตอนที่อธิบายอยู่หน้าประตูในตอนกลางคืน นายท่านบอกว่าเฟิงหานชวนใช้การไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงอ้างชื่อในนามของเฟิงเฉินเหยี่ยน แล้วก็ให้แต่งงานกับเฟิงหานชวน ผู้หญิงที่แต่งงานเข้ามาในบ้านจะได้ไม่ต้องรังเกียจที่เขาใช้การไม่ได้

ก่อนหน้านั้นฝั่งนั้นต่างก็เข้มงวดกับเฟิงหานชวนมาก ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นจนมาถึงช่วงสุดท้าย แต่เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกว่าเฟิงหานชวนนั้นปกติมาก

“ทุกอย่างเพราะคุณ” เฟิงหานชวนพูดทั้งสี่พยางค์ออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

เฉินฮวนฮวนยิ่งสงสัยเข้าไปอีก จึงโต้แย้งกลับไปว่า : “คุณใช้การไม่ได้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?”

“ถ้าคุณไม่ใช้หัวเข่ากระแทกผม ผมต้องไปหาหมอไหมล่ะ?” เมื่อเฟิงหานชวนพูดประโยคนี้จบ ก็ลงจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำไป

หรงจิ่นซิวได้จัดยาทาแบบครีมให้เขา เขาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงสูท

แต่เฉินฮวนฮวนยังคงนั่งอยู่บนเตียง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความงุนงงและไม่รู้จะทำยังไง จนถึงขั้นกังวลใจด้วยซ้ำ

การกระแทกนั้น ทำร้ายเฟิงหานชวนจนบาดเจ็บเลยเหรอ?