ตอนที่ 272 หาคู่ให้เฮยจือหม่า
ตอนที่ 272 หาคู่ให้เฮยจือหม่า
มู่อั้นอั้นดูเหมือนจะมีความฝันที่ยาวนาน เธอนอนหลับไปอย่างสุขสบาย
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าฝันว่าอะไรบ้าง เพราะไม่ได้นอนหลับอย่างผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้ว และเมื่อมีเสียงร้องเพลงที่ไพเราะอยู่ในหู ก็ยิ่งทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม
เธอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ พอตื่นขึ้นอีกครั้ง มือและเท้าที่พันธนาการไว้ก็คลายออก ในขณะที่รถบ้านแล่นออกไปอย่างราบรื่น พระอาทิตย์ที่กำลังส่องแสงตอนเที่ยงนอกหน้าต่าง และพื้นที่รกร้างข้างทาง
เธอนอนหลับจนถึงวันรุ่งขึ้นเลยหรอ?
เมื่อซูเถาสังเกตเห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้ว ก็ออกจากระบบ และเดินออกจากห้องนอนของรถบ้าน แล้วถามอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
“คุณเป็นยังไงบ้างคะ?”
มู่อั้นอั้นยังคงงุนงงเล็กน้อย เธอพยายามเรียกหาชวีจิ้งอวิ๋นในใจ แต่ไม่มีการเคลื่อนไหว อีกฝ่ายดูเหมือนจะหลับไปและไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
มู่อั้นอั้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เธอหายไปแล้วเหรอ?”
ซูเถากล่าวว่า “มันเร็วขนาดนี้เชียวเหรอ ฉันเพิ่งสะกดจิตเธอไป และยังต้องทำอีกสองสามครั้งก่อนที่เธอจะหายไปจริง ๆ”
การหายตัวไปเป็นการล้างสมองชวีจิ้งอวิ๋นทำให้เธอเลิกควบคุมร่างกายนี้โดยสิ้นเชิง และจากนั้นก็ค่อย ๆ สูญเสียความรู้สึกไป
ชวีจิ้วอวิ๋น ‘ตาย’ โดยไม่รู้ตัว
มู่อั้นอั้นมีความสุขมาก เดิมทีเธอคิดว่าคงต้องใช้เวลามากกว่านี้
เธอพูดอย่างขอบคุณ “วิธีนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนและมีชีวิตจริง ๆ ขอบคุณเถ้าแก่ซูที่ให้ฉันมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง”
ซูเถาลูบมือเธอและถามว่า “ฉันจำได้ว่าคุณเคยบอกว่าครั้งหนึ่งคุณอยากไปทางเหนือเพื่อหาญาติ แล้วตอนนี้ล่ะ?”
แสงในดวงตาของมู่อั้นอั้นหรี่ลง ก่อนจะส่ายหัวและพูดว่า
“ไม่แล้ว ฉันไม่ได้ยินข่าวคราวของเขามาหลายปีแล้ว หรือไม่เขาก็อาจจะจากไปนานแล้วก็ได้ และตอนนี้ฉันก็มีชีวิตที่ดีแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่อยากสร้างปัญหาอีกต่อไป”
ซูเถาพยักหน้า “ตกลง แต่ถ้าในใจคุณยังมีความคิดถึงอยู่ คุณสามารถโพสต์ประกาศคนหายบนเว็บไซต์ทางการของเราได้ หากมีเบาะแส ฉันจะส่งคนไปช่วยตามหาพวกเขาด้วย”
ตอนนี้ซูเถาถือว่ามู่อั้นอั้นเป็นตัวของตัวเอง และก็ไม่รังเกียจที่จะใช้เวลา และพลังงานเพื่อช่วยหากเธอเป็นตัวตนของเธอเอง
นอกจากนี้ หากไม่พบชุดอาวุธที่ถานหย่งทิ้งไว้ บางทีเธออาจจะใช้ผลึกนิวเคลียสไปโดยเปล่าประโยชน์ก็ได้
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ มู่อั้นอั้นรู้สึกประทับใจมาก และพยักหน้าอย่างแรง “ขอบคุณนะเถ้าแก่ซู”
มู่อั้นอั้นอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าชะตากรรมของเธอจะแตกต่างออกไปหรือไม่ ถ้าเธอได้พบกับซูเถาก่อนพบกับถานหย่ง
แต่ถึงจะไม่มีคำว่าถ้า รอยแผลเป็นที่มองไม่เห็นก็จะจางลงได้เอง
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะมีชีวิตที่ดีและทำงานหนักเพื่อเถ้าแก่ซู
เมื่อพูดถึงงาน ซูเถารู้สึกว่าการที่จะให้มู่อั้นอั้นทำงานที่ภูเขาผานหลิวก็ไม่เหมาะสมกับเธอแล้ว ดังนั้นจึงให้มู่อั้นอั้นไปเป็นผู้ช่วยของหม่าต้าเพ่า คอยอยู่ช่วยงานเขา
หม่าต้าเพ่าก็ยังไม่ไว้วางใจมากนักที่จู่ ๆ ชวีจิ้งอวิ๋นกลายเป็นมู่อั้นอั้น เขาแอบทำตัวไม่ถูกและกลัวเล็กน้อย
ปรสิตฟังดูน่ากลัว
มันสามารถซ่อนอยู่ลึกลงไปในจิตสำนึกของผู้คน ใช้ประโยชน์จากความไม่พร้อมของผู้คนเพื่อครอบครองและควบคุมร่างกายและจิตใจของคนผู้นั้น
มู่อั้นอั้นยิ้มให้เขาอย่างสดใสด้วยท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตนและให้ความเคารพ “รบกวนผู้จัดการหม่าด้วยนะคะ ในอนาคตมีเรื่องอะไรให้บอกฉันได้ตลอดเลยนะคะ”
รูปร่างหน้าตาของหญิงสาวตรงหน้ายังคงเหมือนเดิม แต่หม่าต้าเพ่าดูเหมือนจะเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่สดใสและกระฉับกระเฉงผ่านการแสดงออกของเธอ
ความลำบากใจและความกังวลของหม่าต้าเพ่าหายไปมาก และเขาก็เผยรอยยิ้มที่จริงใจออกมา “ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันนะ”
เช่นเดียวกับดอกทานตะวันอย่างมู่อั้นอั้นที่ไม่สามารถกำจัดพลังงานแห่งชีวิตที่มีต่อดวงอาทิตย์ได้
ซูเถาได้รับอิทธิพลจากความสุขและความคิดบวกของเธอ จากนั้นเธอก็ทำงานหนักขึ้นเพื่อทำการก่อสร้าง
ระหว่างการเดินทางสองวันมานี้ เธอจะทำการสร้างโรงเรียนในตอนเช้า และโทรหาผู้อาวุโสเหม่ยในตอนบ่ายเพื่อหารือเกี่ยวกับการวางแผนและการออกแบบสถานที่ฝึกกองกำลังป้องกันตนเองเถาหยาง
ซูเถาต้องการสร้างสนามฝึกแบบมืออาชีพ ไม่ใช่สนามฝึกแบบของเหลยสิง ซึ่งดูสบาย ๆ และหน้าที่หลักคือความบันเทิง
เมื่อพื้นที่ของกลุ่มเป้าถูถูกสร้างขึ้น ซูเถาเสนอว่าควรสร้างไซต์แบบมืออาชีพ ที่มีสนามยิงปืน สนามฝึกซ้อมที่ครอบคลุม สนามกรีฑา และอื่น ๆ
แต่เหลยสิงปฏิเสธทันที “อะไรคือความเป็นมืออาชีพหรือไม่ ตราบใดที่มีที่ดินที่สามารถวิ่งได้ก็เพียงพอแล้ว ที่เหลือพวกเราขอเป็นพวกสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิง”
มันเป็นสไตล์ของเขาจริง ๆ
การออกแบบของผู้อาวุโสเหม่ยนั้นไม่ได้ทำให้ผิดหวัง มันดูเป็นมือสมัครเล่นมาก และจากระยะไกล ดินแดนเป้าถูก็ดูเหมือนโรงแรมรีสอร์ทในโลกไซเบอร์
ซูเถายังคงต้องการเป็นมืออาชีพมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วเธอต้องการฝึกฝนความสามารถและต้องการพัฒนาในระยะยาว
ผู้อาวุโสเหม่ยตรวจสอบข้อมูลจำนวนมาก และด้วยความช่วยเหลือจากระยะไกลของสือจื่อจิ้นผู้เป็นมืออาชีพ การวางแผนและการออกแบบสนามฝึกของกองกำลังป้องกันตนเองเถาหยางจึงถือกำเนิดขึ้น
แต่สิ่งที่ทำให้ซูเถาเสียใจก็คือการออกแบบนั้นครอบคลุมพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร
นี่ขนาดว่าเป็นการวางแผนขั้นต้นเท่านั้น
สนามกรีฑาที่มีเส้นรอบวง 400 เมตรเพียงอย่างเดียวกินพื้นที่ 10,000 ตารางเมตรแล้ว
สนามยิงปืนในร่มและกลางแจ้งครอบคลุมพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร
สนามฝึกที่ครอบคลุมเป็นสนามที่มีอุปกรณ์กีฬา สิ่งกีดขวาง และสิ่งที่คล้ายกันต่าง ๆ และต้องใช้พื้นที่อย่างน้อย 2,000 ตารางเมตร
ส่วนที่เหลืออีก 1,000 ตารางเมตรใช้สร้างหอพักเพื่อตอบสนองความต้องการรายวันของกองกำลังป้องกันตนเอง
ซูเถาดูด้วยความพึงพอใจ เพราะเธอไม่อยากลดขนาดลง ดังนั้นเธอจึงได้แต่ปลอบใจตัวเอง และสร้างพื้นที่ 1,400 ตารางเมตรที่มีอยู่ก่อน
ในความเป็นจริงเธอยังมีผลึกนิวเคลียสอยู่ 14 อันสุดท้ายอยู่ในมือ แต่เธอลังเลที่จะใช้มันในตอนนี้ บางทีอาจมีของล้ำค่าบางอย่างในซินตูที่ต้องแลกกับผลึกนิวเคลียส
ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง
นี่เป็นคืนที่สองที่พวกเขาอยู่บนท้องถนน และเพราะว่ามีเฮยจือหม่า พวกเขาจึงสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของซอมบี้ตัวใหญ่และตัวเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพในตอนกลางคืน ดังนั้นการเดินทัพจึงเร็วขึ้นมาก
ซูเถาปิดระบบเพื่อเสร็จสิ้นการก่อสร้างสำหรับวันนี้ เธอหาวและเตรียมตัวเข้านอน
เฮยจือหม่าซึ่งกลับมาจากการลาดตระเวนรู้สึกกระสับกระส่าย และเสียงการติดสัดของมันนั้นทำให้เธอปวดหัว
แม้แต่สือจื่อจิ้นที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนั่งเล่นของรถบ้าน ก็ต้องตื่นขึ้น และคว้าตัวเฮยจือหม่าด้วยมือข้างเดียว จากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างแล้วโยนมันออกจากรถ
เฮยจือหม่าไปก่อกวนรถคันอื่นต่อ
ในตอนเช้า ขณะที่ซูเถากำลังจะเรียกทุกคนออกจากรถเพื่อรับประทานอาหารเช้า ก็ได้ยินเจี่ยนไคอวี่คำรามอยู่ในรถข้างหน้า
“เฮยจือหม่าฉี่ใส่กระเป๋าผม!”
ทุกคนตกใจและเริ่มคุ้ยกระเป๋าเพื่อดูว่ามีร่องรอยของอาชญากรรมหรือไม่
โชคดีที่ไม่มี!
มีเพียงเจี่ยนไคอวี่เท่านั้นที่เป็นผู้ถูกเลือก
ดูเหมือนว่าเฮยจือหม่าจะรู้ว่าเขาทำผิดพลาด หูของมันลู่ลงและกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถและเอนตัวนอนลงโดยไม่กล้าปรากฏตัว
เจี่ยนไคอวี่วิ่งออกจากรถพร้อมกับกระเป๋าที่ยังมีน้ำหยดอยู่ เขาโกรธมากจนอยากจะปีนหลังคารถเพื่อจับแมวผู้ต้องสงสัย
เฮยจือหม่ากระโดดลงจากรถ หลังจากนั้นมันก็วิ่งไปที่เท้าของซูเถาพร้อมปีนขึ้นบนตัวเธอเพื่อหาที่กำบัง
ซูเถาหัวเราะเจือความขุ่นเคือง และมองไปที่มัน
เฮยจือหม่าหรี่ตาไม่กล้าขยับ
เจี่ยนไคอวี่จ้องมองมันด้วยความโกรธ แต่เขาก็ดุมันเพียงไม่กี่คำ และคิดว่าโชคไม่ดีเอง จากนั้นเขาก็นำของในกระเป๋าออกมาผึ่งให้แห้ง
กระเป๋าเต็มไปด้วยสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน และอื่น ๆ
ของของเขาแทบทั้งหมดก็ต้องเปื้อนไปด้วยฉี่แมว
ซูเถาโทษเขา เธอเองก็รู้สึกผิด
“เดี๋ยวฉันจะเอาของชุดใหม่มาให้นะคะ ช่วงนี้มันติดสัด ก็เลยขับถ่ายไปเรื่อย มันควบคุมไม่ได้ ครั้งต่อไปมันก็จะไปฉี่ที่เดิมในที่ที่มีกลิ่นฉี่เดิมของมัน”
เจี่ยนไคอวี่ไม่รู้จริง ๆ ว่าเฮยจือหม่ากำลังอยู่ในช่วงติดสัด
มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เนื่องจากพวกเขาอยู่กับเฮยจือหม่ามานาน และนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นมันปัสสาวะเลอะเทอะ
เจี่ยนไคอวี่ลืมตาขึ้นเล็กน้อยและถามคำถามแปลก ๆ
“แล้วหาคู่ไว้ให้มันหรือยัง”