บทที่ 275 ความโกรธเกรี้ยวของราชากู่

แม้ว่าเซียวเซวียนจิ่นจะสู่ขอล้มเหลว แต่ไม่นานก็ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง เขาเพิ่งเดินมาถึงมุมถนนก็ถูกอาฉือลากเข้าไปในป่า

“ข้าเห็นเจ้าเป็นเหมือนพี่น้อง แต่เจ้าอยากจะได้น้องสาวข้าอย่างนั้นหรือ? นางเพิ่งจะอายุเท่าใดกัน!?” แม้ว่าอาฉือกับอาอินจะไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือด

แต่มิตรภาพตั้งแต่เด็กจนโต บวกกับการที่พึ่งพาอาศัยกันตลอดหลายปีมานี้ อาฉือจึงมองว่าอาอินเป็นน้องสาวที่สนิทที่สุดและรักที่สุดของเขามานานแล้ว

เซียวเซวียนจิ่นแม้ว่าจะมีคุณสมบัติไม่เลว แต่นั่นก็ไม่สามารถเทียบกับน้องสาวของเขาได้

เซียวเซวียนจิ่นไม่แปลกใจที่เขาจะโกรธเพียงนี้ แต่ก็ยังคงบอกความคิดของตัวเองให้เผยจี้ฉือรับรู้ด้วยความจริงใจ

“อย่างไรซะข้าก็ไม่ได้คิดที่จะล้อเล่น ข้าจะทำตามที่ท่านอาสะใภ้บอก และจริงใจกับอาอินให้มาก ๆ ด้วย”

อาฉือมองเซียวเซวียนจิ่นด้วยความรังเกียจ แต่กลับไม่สามารถหาคำพูดที่เหมาะสมมาดุด่าเขาได้ หลังจากคิดอยู่นานก็ได้แต่อัดอั้นจนหน้าแดงก่ำ

เซียวเซวียนจิ่นกลับไม่สนใจ อย่างไรเสียก็ถือเป็นการบอกว่าที่พี่เขยด้วยความจริงใจ ให้พวกเขาดูการกระทำของตนในวันหน้าก็พอแล้ว

ตำแหน่งลูกเขยของตระกูลเผย เขาต้องได้มาครองอย่างแน่นอน!

อาชิงกอดตะกร้าไม้ไผ่ใบเล็กเอาไว้ เขากำลังไปที่แม่น้ำเพื่อจับปูขน และต้องการเรียนวิธีแทงปลาตัวเล็กอีกด้วย

เยว่พั่วหลัวเดินตามหลังเขาอย่างไม่เร่งรีบ ตอนเดินผ่านค่ายพักแรมที่ทางเข้าหมู่บ้าน นางสบตากับหานฉีเข้าพอดี เยว่พั่วหลัวขมวดคิ้วเล็กน้อย คิ้วทั้งสองข้างของคนผู้นี้ไม่เท่ากัน แต่ตอนนี้นางต้องปกป้องราชากู่ เจอกันครั้งหน้าค่อยสังหารก็แล้วกัน เห็นแล้วน่าอึดอัดจริง ๆ

กลับเป็นหานฉีที่มองการแต่งตัวของนางแล้วตกเข้าสู่ภวังค์

เดิมหมู่บ้านตระกูลเฉินไม่มีคนผู้นี้อยู่ หรือว่ามาจากสำนักกู่? แต่เหตุใดนางถึงไปอยู่กับฝ่ายตรงข้ามได้?

อาชิงวิ่งดุกดิกไปที่ริมแม่น้ำ เพิ่งจะถอดกางเกงและกำลังจะลงไปในน้ำ เขาก็บิดก้นไปมาและบอกว่าอยากจะฉี่

เยว่พั่วหลัวได้ยินดังนั้นจึงแข็งเป็นหินไปในทันที แต่ก็ยังสำรวจบริเวณรอบ ๆ และเอ่ยขึ้น “ข้าจะช่วยเลือกที่ที่เหมาะสมให้เจ้าก่อน ส่วนเจ้าก็สวมกางเกงของเจ้าให้เรียบร้อยซะ ลงแม่น้ำไม่จำเป็นต้องถอดกางเกงก็ได้”

อาชิงตอนนี้ปวดฉี่อย่างมากมีอะไรต้องเลือกกัน ปกติเขาแค่หาพงหญ้าก็ได้แล้ว

“อ่อ ๆ” เขาดึงกางเกงขึ้นมาเงียบ ๆ

เยว่พั่วหลัวสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ก่อนจะหยิบท่อนไม้เล็ก ๆ เขี่ยไปเขี่ยมาที่กองฟางใกล้ ๆ บริเวณนั้น

จนกระทั่งรองเท้าสีดำคู่หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า

กว่าเยว่พั่วหลัวจะหาที่ที่ถูกตาต้องใจได้ไม่ใช่ง่าย ๆ หญ้าต้องเป็นสีเดียวกันและสูงเท่ากัน แม้แต่เศษใบไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ด้านบนก็ยังต้องดูเรียบร้อย

แต่กลับถูกคนมาแย่งเช่นนี้ เยว่พั่วหลัวจึงใช้ท่อนไม้เล็ก ๆ เคาะบนรองเท้าสีดำเบา ๆ อย่างไม่พอใจ “ที่ตรงนี้ข้าจองแล้ว เจ้าหลบไปซะ”

หานฉีเอ่ยเสียงเบาขึ้นมา “ท่านใช่กู่หญิงแห่งสำนักกู่หรือไม่?”

เยว่พั่วหลัวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่มีคิ้วยุ่งเหยิงไม่เท่ากันเมื่อครู่ ก็รีบเบือนหน้าหนีทันที เพื่อไม่ให้เสียสายตา

“ใช่แล้วอย่างไร? เจ้าอยากจะดวลกับข้าอย่างนั้นหรือ?”

หานฉีสะอึกขึ้นมาทันที ไม่เข้าใจว่าในหัวของคนต่างแคว้นผู้นี้คิดอะไรอยู่

เขาจึงรีบแสดงตัวทันที “ข้าเป็นลูกน้องของอัครมหาเสนาบดีหาน”

อ่อ ลูกค้าประจำ

ก่อนหน้านี้หานเหล่ยใช้เงินจำนวนมากไปที่สำนักกู่ของพวกเขาเพื่อหาคนที่จะมาเมืองหลวง เดิมทีสำนักกู่ปฏิเสธ แต่จู่ ๆ ราชากู่ก็ถูกขโมยไป สำนักกู่จึงส่งคนออกไปตามหาไม่น้อย เยว่พั่วหลัวจึงต้องรับการค้านี้มา แต่จุดประสงค์หลักก็เพื่อตามหาร่องรอยของราชาร้อยกู่

ตอนนี้ตามหาราชาร้อยกู่พบแล้ว นางต้องสนใจว่าอัครมหาเสนาบดีหานเป็นใครด้วยอย่างนั้นหรือ?

“อ่อ เจ้านั่นเอง เจ้ามาพอดี เงินนี่ข้าขอคืนให้พวกเจ้า งานนี้ข้าไม่ทำแล้ว” เยว่พั่วหลัวเป็นคนคิดอะไรง่าย ๆ ที่แคว้นของพวกนางอยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็พูดตรง ๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดาอย่างมาก ไม่มีใครบังคับใครให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำได้

หานฉีคิดไม่ถึงว่าคนที่มาจากสำนักกู่จะไม่เห็นหัวคนอื่นถึงเพียงนี้ มาถึงแล้วแต่กลับไปอยู่ข้างศัตรูได้

“เผยยวนให้เงินเจ้าเท่าใด พวกเราจะให้สองเท่า”

เยว่พั่วหลัวเห็นว่าเขากำลังจะเหยียบหญ้าที่คัดสรรมาอย่างดีของนาง! ก็ส่งเสียงดุขึ้นมาทันที “อย่าขยับ!”

หานฉีสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ไม่กล้าขยับด้วยความหวาดกลัวจริง ๆ

หากว่าคนจากสำนักกู่ผู้นี้ปล่อยหนอนกู่ใส่เขาสักตัว นั่นถึงแก่ชีวิตเชียวนะ

อาชิงน้อยอั้นไม่ไหวแล้ว เมื่อเห็นว่าอาจารย์อาหลัวยืนไม่ขยับอยู่ตรงนั้นนานแล้ว ก็วิ่งมาถอดกางเกงแล้วฉี่ทันที “ข้าจะฉี่รดกางเกงอยู่แล้ว!”

เขาวิ่งมาอย่างกะทันหัน ส่วนหานฉีก็ไม่กล้าขยับ ทำให้ฉี่อุ่น ๆ ของเด็กน้อยรดไปที่เท้าของเขาเต็ม ๆ

อาชิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “เกือบอั้นไม่ไหวเสียแล้ว”

หานฉีกัดกรามกรอด ดวงตาวาวโรจน์ “เจ้าเด็กน้อย รนหาที่ตายอย่างนั้นหรือ?!”

เยว่พั่วหลัวตั้งท่าป้องกันทันที พลางจ้องมองหานฉีเขม็ง หากว่าเขากล้าก้าวมาข้างหน้าเพียงหนึ่งก้าว นางก็จะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆ ทันที

อาชิงเงยหน้าขึ้นมองเขา “ข้าเพียงแค่ฉี่เท่านั้น”

ไม่ได้รนหาที่ตายเสียหน่อย?

หานฉีมองออกว่าสตรีสำนักกู่ผู้นี้ใส่ใจเจ้าเด็กนี่อย่างมาก จึงสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นมา “ข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่ ล่วงเกินอัครมหาเสนาบดีหานเจ้ารู้หรือไม่ว่าจะมีจุดจบเช่นไร?”

เยว่พั่วหลัวหมุนกระดิ่งในมือ “ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่เอา เจ้าเอาเงินคืนไปซะ”

เอ่ยจบนางก็หยิบตั๋วเงินปึกหนึ่งออกมาจากห่อเงินที่เอวแล้วโยนให้ “นี่คือเงินมัดจำที่พวกเจ้าจ่ายให้ข้าก่อนหน้านี้ ข้าไม่ได้ใช้แต่อย่างใด กฎของชาวจงหยวนข้ารู้ดี”

“เช่นนั้นเกรงว่าเจ้าคงจะดูถูกพวกเราชาวจงหยวนเกินไปแล้ว แล้วเจ้าจะตอบแทนสิ่งที่เราสูญเสียระหว่างที่รอเจ้าเช่นไร?”

เยว่พั่วหลัวดวงตาเข้มขึ้นมาทันที “ดูท่าเจ้าจะหาเรื่องข้าให้ได้สินะ เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดให้มากความ ลงมือเถอะ!”

นางจับอาชิงที่สวมกางเกงเรียบร้อยแล้วโยนไปยังที่ปลอดภัย และกางนิ้วทั้งห้าของนางออกตวัดไปที่ใบหน้าของหานฉีทันที

ในแง่ความแตกฉานของศิลปะการต่อสู้หานฉีย่อมไม่เป็นรอง เยว่พั่วหลัวมองตามร่างของเขาไม่ทัน เวลานี้เขาก็มาอยู่ที่ด้านหลังของนางแล้ว

ทั้งสองต่อสู้กันจากชายป่าจนไปถึงริมแม่น้ำ

อาชิงกระวนกระวายอยู่ที่มุมหนึ่ง เห็นอาจารย์อาหลัวถูกพลังดาบของหานฉีผู้นั้นบีบให้ถอยร่นไปเรื่อย ๆ จึงล้วงเอาบรรดาลูก ๆ ในตะกร้าไม้ไผ่ของตัวเองออกมาแล้วโยนพวกมันไป

หานฉีกำลังเตรียมที่จะสังหารเยว่พั่วหลัว อาศัยที่กำลังภายในของตัวเองสูงส่งกว่า ทำให้เยว่พั่วหลัวไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจะปล่อยหนอนกู่ใส่

แต่ใครจะคิดว่าจะมีคางคกสองตัวกระโดดออกมาจากด้านข้าง และเกาะอยู่ที่เสื้อด้านหลังของเขา

เมื่อหันกลับมามองก็เห็นว่าเป็นเจ้าปีศาจตัวน้อยนั่นอีกแล้ว หานฉีจึงถลาตรงไปหาอาชิง ก่อนจะบีบคอของอาชิงและยกร่างของเขาขึ้นมา

“อาชิง!” เยว่พั่วหลัวรีบวิ่งไปทางเขา

ดวงตาของหานฉีดุดันขึ้น พลางออกแรงที่ข้อมือเต็มที่ ดูท่าทางเหมือนจะบีบคออาชิงจนใกล้จะตายแล้ว ทว่าทันใดนั้นก็มีเงาดำออกมาจากปากที่อ้าเล็กน้อยของอาชิง และหายเข้าไปในข้อมือของหานฉี กล้ามเนื้อที่เดิมยังเป็นปกติอยู่ก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทในพริบตา พิษที่รุนแรงกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้าสู่หัวใจของหานฉีอย่างฉับไว

แน่นอนว่าหานฉีเองก็สังเกตเห็นสิ่งนี้แล้วเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าสตรีสำนักกู่ผู้นี้จะมีความสามารถเช่นนี้ด้วย อยู่ไกลกันก็ยังสามารถปล่อยพิษกู่ที่รุนแรงเช่นนี้ใส่เขาได้

เขาไม่มีเวลาจะสนใจอาชิงแล้ว เขายื่นมือออกไปสกัดจุดต่าง ๆ ของตัวเองเอาไว้ แต่ราชาร้อยกู่ไหนเลยจะสามารถหยุดยั้งได้เพียงแค่การสกัดจุด!

พิษของราชาร้อยกู่ ทั้งใต้หล้าล้วนไร้พ่าย!

หานฉีรู้สึกว่าเขาหายใจไม่ออกไปชั่วขณะ พริบตาต่อมาไอสีดำก็กระจายจากลำคอขึ้นไปที่หัวของเขา เสียงกัดแทะดังก้องอยู่ในหัวของเขา มีเพียงเยว่พั่วหลัวเท่านั้นที่รู้ว่าหานฉีตายแล้ว ถูกราชาร้อยกู่ทำให้กลายเป็นหุ่นเชิดอย่างสมบูรณ์แล้ว

อาชิงน้อยจับคอเล็ก ๆ ของตัวเองและไอค่อกแค่กอยู่ที่พื้น จากนั้นหนอนสีดำตัวเล็ก ๆ ก็กระโดดออกจากร่างของหานฉีและกระโดดกลับมา

.

.

.

! อ่านก่อนใครพร้อมลงต่อเนื่องวันละ 4 ตอน!

! อ่านก่อนใครพร้อมลงต่อเนื่องวันละ 4 ตอน!

แลกของสะสมฟรี เฉพาะที่ https://novelkingdom.co/ เท่านั้น