บทที่ 299 กับดักตะปู

บทที่ 299 กับดักตะปู

“อ๊าก เท้าข้า!”

“ใครก็ได้ช่วยที เท้าข้าเละหมดแล้ว!”

ยิ่งผ่านไปก็ยิ่งมีคนส่งเสียงร้องชวนเวทนาดังมากขึ้น เพียงแต่บางคนที่อยู่ด้านหลังของกลุ่ม ตอนนี้กลับแตกตื่นยิ่งกว่า เพราะกลุ่มคนด้านหน้าถูกสังหารไปโดยไม่มีแม้โอกาสได้ส่งเสียงร้อง!

กับดัก!

มีกับดักที่หน้าหมู่บ้าน!

บางคนที่อยู่ด้านหลังทราบสถานการณ์ ตอนนี้จึงรีบหยุดเดิน

ทว่ากลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังถัดไปนั้นไม่ทราบ พวกเขายังคงมุ่งหน้ามา เป็นการผลักให้คนที่อยู่ด้านหน้าต้องไปต่อไม่หยุด บางคนล้มลงกับพื้น บ้างก็ถูกคนด้านหลังเหยียบ บ้างก็ถูกชนจนไร้ทางเลือก จึงต้องวิ่งออกไป แต่สุดท้ายก็เจอเช่นเดียวกับคนอื่นก่อนหน้าที่แผดร้องเสียงดัง

ผ่านไปครู่หนึ่ง ทั้งคณะจึงชะลอความเร็ว กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังต่างต้องชะงักเมื่อได้เห็นสภาพเลวร้ายของกลุ่มคนที่นำหน้าไป

หน้าหมู่บ้านมีหลุมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เหนือปากหลุมมีใบไม้และโคลนปิดบังเอาไว้อย่างแนบเนียน ทหารกองทัพกบฏเหล่านี้ไม่ทันเห็น เมื่อวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านด้วยความกระหาย จึงร่วงหล่นลงไป และภายในหลุมเหล่านี้ ก็มีไม้ไผ่ที่ถูกเหลาจนแหลมคมปักเอาไว้กับพื้น หันส่วนแหลมขึ้นด้านบน คนที่ร่วงลงไป ก่อนจะทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างก็ถูกไม้ไผ่แหลมเหล่านี้แทงทะลุเรียบร้อยแล้ว

หลุมกับดักเหล่านี้ อู๋ฝานค่อนข้างเชี่ยวชาญ ตอนที่เขาสังหารเสือร้ายลายจุดก่อนหน้า ก็ใช้กับดักเช่นเดียวกันลงมือ และวันนี้ แม้ต้องจัดการกับเป้าหมายที่แตกต่างออกไปบ้าง แต่มันก็ยังประสบความสำเร็จเช่นที่ควรจะเป็น

นอกจากหลุมเหล่านี้ กองทัพกบฏก็ยังต้องหวาดกลัวที่ได้พบว่าทางที่นำไปสู่หมู่บ้าน แท้จริงแล้วมีตะปูเหล็กจำนวนมากโรยเอาไว้ พวกมันมีขนาดค่อนข้างเหล็ก ทั้งยังซ่อนอยู่ใต้ใบไม้แห้ง เมื่อรวมเข้ากับความกระหายบุกหมู่บ้านของกองทัพกบฏ ก่อนจะทันรู้ตัวเท้าของพวกเขาก็ไม่อาจรอดพ้นแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงล้มไปทีละคน เท้าที่ถูกตะปูเหล็กขนาดเล็กแทงจนบาดเจ็บต่างก็มีเลือดไหลนอง ไม่อาจเดินดี ๆ ได้อีกต่อไป

ตะปูบางส่วนนั้นเหลือมาจากการที่อู๋ฝานสร้างอาวุธและเครื่องป้องกันในช่วงเวลาที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือทางโรงตีเหล็กมีเก็บไว้ใช้งานจำนวนหนึ่ง ของเหลือที่แหลมคมจากช่างตีเหล็กซุน พวกมันถูกอู๋ฝานนำมาขัดเกลาใช้งาน เพื่อโรยปูพรมทางหน้าหมู่บ้านในยามนี้

เมื่อผนวกตะปูเหล็กเข้ากับหลุมกับดัก มันจึงกลายเป็นการขัดขวางเส้นทางบุกของกองทัพกบฏที่มาเยือนหมู่บ้าน ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายรุกคืบเข้ามาต่อ โอกาสในครั้งนี้ ทำให้กองทัพกบฏก็ตายไปหลายสิบคนแล้ว และยังมีอีกหลายร้อยคนที่ไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้

อีกทั้งคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังเป็นวัยหนุ่มและวัยกลางคนที่เรี่ยวแรงดี เพราะต้องการบุกปล้นชิงหมู่บ้านก่อนใคร พวกเขาจึงวิ่งนำหน้า ความเร็วของคนหนุ่มและวัยกลางคนเหล่านี้ ย่อมรวดเร็วกว่าเด็กหรือคนแก่ ดังนั้นกำลังหลักเช่นพวกเขาจึงโดนกับดักเล่นงานอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

สถานการณ์ตอนนี้ ทำให้กองทัพกบฏเกิดความลังเลที่จะบุกเข้าไปเช่นที่เคยเป็น

“เกิดอะไรขึ้น?” ตอนนี้เองที่โฉวหย่งเชาตระหนักถึงสถานการณ์ผิดปกติ เขาขี่ม้ามาด้านหน้าเพื่อสอบถาม

ตอนที่ได้เห็นว่าหน้าหมู่บ้านเกิดเรื่องราวใดขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาตอบ เพราะเขาได้ทราบด้วยตัวเองแล้ว

เห็นได้ชัดว่าคนของหมู่บ้านแห่งนี้เตรียมกับดักที่ทางเข้าหมู่บ้านรออยู่ก่อนแล้ว พวกเขาไม่คาดว่าจะเจอสถานการณ์เช่นนี้ เพราะพวกเขาไม่เคยเจอกับดักเล่นงานมาก่อน

มันจึงทำให้โฉวหย่งเชาค่อนข้างประหลาดใจ หมู่บ้านก่อนหน้านี้ พวกเขาปล้นชิงได้อย่างราบรื่น จึงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าที่นี่จะมีสถานการณ์เกินคาดคิด

แต่ไม่นานเขาก็สะกดความประหลาดใจเอาไว้ สายตาเย็นเยียบมองทางเข้าหมู่บ้านพร้อมตะโกนเสียงดัง “คิดว่าของแค่นี้ จะหยุดพวกเราไม่ให้เข้าหมู่บ้านได้หรือยังไง?”

ถัดจากนั้น เขาจึงหันไปบอกกับผู้คนรอบด้าน “ตัดพงไม้สองข้างทางออกมา ใช้พวกมันกวาดตะปูบนถนนออกไปให้หมด!”

ทางเข้าหมู่บ้านมีกับดัก โฉวหย่งเชาไม่คิดเก็บมาใส่ใจจริงจัง ทุกวันนี้ไม่ได้สงบสุขอีกต่อไป จะมีหมู่บ้านบางแห่งที่คิดปกป้องตัวเอง สร้างการป้องกันขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

หลังรับคำสั่งจากโฉวหย่งเชา คนส่วนหนึ่งจึงเร่งเข้าไปตัดกิ่งไม้และพงไม้ เพื่อใช้พวกมันกวาดตะปูเหล็กที่ขวางทางอยู่ออกไป

แนวคิดนี้อาจดี แต่เมื่อนำมาใช้จริงแล้วก็พบว่ายากที่จะเก็บกวาด

กิ่งของต้นไม้ พวกมันย่อมมีใบไม้อยู่จำนวนมาก การใช้พวกมันกวาดตะปู ไม่มีทางหมดจด และตะปูกว่าครึ่งก็ฝังอยู่ในโคลน บางส่วนก็อยู่ใต้ใบไม้แห้ง ทำให้การเก็บกวาดเป็นเรื่องยาก

ตราบใดที่ไม่อาจเก็บตะปูเหล็กบนทางออกไปจนหมด ทหารกองทัพกบฏเหล่านี้ก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปอย่างบุ่มบ่าม เท้าของพวกเขาทำจากเลือดเนื้อ ไม่ใช่เหล็กขึ้นรูป หากถูกแทงย่อมต้องเจ็บปวดแสนสาหัส อีกทั้งตะปูเหล็กเหล่านี้ยังมีสนิท ที่อาจทำให้พวกเขาตายได้ในภายหลังบราวนี่ออนไลน์

โฉวหย่งเชาเผยสีหน้าอัปลักษณ์ออกมา หมู่บ้านอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่พวกเขากลับถูกกับดักเล่นงานจนไม่อาจไปต่อ เรื่องนี้ทำให้ทั้งหงุดหงิดและร้อนใจ

ไม่ว่าด้วยอะไร พวกเขาก็จะต้องพิชิตหมู่บ้านแห่งนี้ให้ได้!

“ทุกคนหมอบลงกับพื้น แล้วเก็บตะปูขึ้นมาทีละตัวให้หมด! ข้าอยากเห็นนักว่าพวกมันจะมีฝีมือสักแค่ไหนกัน!” โฉวหย่งเชาตะโกนออกคำสั่ง “เมื่อใดบุกเข้าไปได้ ข้าจะสังหารให้หมดทั้งหมู่บ้าน ไม่ให้เหลือแม้สักตัว!”

แม้เป็นวิธีการที่ไร้ประสิทธิภาพที่สุด แต่ก็ใช้งานได้จริงที่สุดเช่นกัน และมันต้องใช้เวลา

ทั้งที่หมู่บ้านอยู่ห่างเพียงแค่สี่ฉื่อ ทางก็ไม่มีอะไรมาขวางกั้น ทั้งยังมีคนกลุ่มใหญ่ แต่พวกเขาเชื่อว่าจะสามารถเก็บของทั้งหมดได้ในครึ่งหรือหนึ่งชั่วยาม เมื่อถึงตอนนั้นก็จะไม่มีอะไรที่สามารถขวางไม่ให้พวกเขาบุกเข้าหมู่บ้านได้อีก!

การต้องมาวุ่นวายกับหมู่บ้านขนาดเล็กเช่นที่นี่ มันทำในใจโฉวหย่งเชาโกรธอย่างบอกไม่ถูก เขาสาบานจะสังหารทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อระบายโทสะทันทีที่บุกเข้าไปได้

ภายใต้คำสั่งการของโฉวหย่งเชา กองทัพกบฏจึงหมอบคลานลงกับพื้นเพื่อเริ่มเก็บตะปูเหล็ก แต่ตะปูเหล็กที่ซุกซ่อนเอาไว้ลึกนั้น จะหาให้พบไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นบ่อยครั้งจึงมีคนถูกตะปูเหล็กแทงทะลุฝ่าเท้า ทว่าสภาพสถานการณ์ตอนนี้ก็ดีกว่าก่อนหน้าอยู่บ้าง

ทว่าอู๋ฝานมีหรือจะปล่อยให้อีกฝ่ายเก็บตะปูเหล็กได้ง่าย ๆ?

ไม่มีทาง!

“ทุกคนเตรียมพร้อม เล็งเป้ายังกองทัพกบฏ ยิง!” อู๋ฝานตะโกนด้วยเสียงอันดัง

หน่วยรักษาการณ์กว่าหกสิบคน ตอนนี้อู๋ฝานแบ่งออกเป็นสองแถว แถวหน้าคุกเข่าลง ทุกคนต่างถือธนูที่ชายหนุ่มเป็นคนสร้าง หลังอีกฝ่ายออกคำสั่ง ลูกธนูเหล่านั้นจึงพุ่งออกไปหากองทัพกบฏที่อยู่หน้าหมู่บ้านประหนึ่งฝูงตั๊กแตน

เพื่อป้องกันหมู่บ้านเร้นลับในครั้งนี้ อู๋ฝานต้องจ่ายเงินแลกเลือด ไม่เพียงดาบใหญ่ที่แต่ละคนถือครอง ทว่ายังรวมถึงชุดเกราะเต็มยศ อีกทั้งพวกเขาต่างก็ถือธนูคันใหญ่พร้อมลูกธนูเอาไว้ด้วย ระดับของอาวุธยุทธ์เหล่านี้ แม้กระทั่งกองทัพประจำการจากราชสำนักก็ไม่อาจเทียบเคียง

แต่เพราะหน่วยรักษาการณ์เหล่านี้ได้รับการฝึกซ้อมเพียงแค่ไม่กี่วัน ระเบียบการจัดแถวยังไม่เรียบร้อยดีด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการคาดหวังฝีมือการยิงธนูที่ดี แต่เพราะโชคดีที่ปัจจุบันกองทัพกบฏรวมตัวกันอยู่ตรงหน้าจำนวนมาก และเพราะกับดักตะปูและหลุม พวกเขาจึงไม่อาจเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วได้ เป้ามีชีวิตที่เชื่องช้าเช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องง่ายที่ไม่ว่าใครก็สามารถยิงให้ถูก

แม้ว่าลูกธนูมากมายเหล่านี้ไม่ทราบว่าพวกมันกำลังมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายใด แต่สุดท้ายพวกมันพุ่งเข้าใส่กลุ่มคน พร้อมกับเสียงร้องโอดโอยที่ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง