ตอนที่ 202 เหตุใจจึงไม่ฟาดไปสักครั้ง

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว

บทที่ 202 เหตุใจจึงไม่ฟาดไปสักครั้ง

เมื่อรอให้เด็กทั้งสองลงไปจากลานประลอง ท่านหมอเริ่มก็สะบัดแขนเสื้อของตนพร้อมเอ่ยขึ้น “ขวดยาทั้งสองขวดนี้ ข้าได้เป็นผู้จัดสรรขึ้นเอง แน่นอนว่ายาในขวดทั้งสองนี้เป็นคนละชนิดกัน เชิญทั้งสองท่านลองดมดู หลังจากนั้นให้บอกว่าท้ายที่สุดแล้วยานั้นมีส่วนผสมอะไรบ้างและยานี้เอาไว้ใช้รักษาโรคอะไร ”

ขั้นตอนแรกแน่นอนว่าไม่ได้ยากนัก การดมกลิ่นบอกชนิดยานับว่าเป็นความรู้ขั้นพื้นฐานที่สุด

หมอเสิ่นหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา เขากลับไม่ได้คิดเช่นนั้น

อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว หญิงสาวกลับรู้สึกว่าเรื่องราวมันไม่ควรจะง่ายสิถึงจะถูก เป็นถึงบททดสอบของอดีตผู้นำสำนักแพทย์หลวงจะต้องไม่ง่ายดายเช่นนั้น

หญิงสาวไม่ได้รีบร้อนอะไร จึงยิ้มให้กับท่านหมอเสิ่นแล้วเอ่ยขึ้น “ด้วยความเคารพ เชิญท่านหมอเสิ่นเริ่มก่อน”

“หึ ข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาเชื้อเชิญ แม่นางเริ่มก่อนเถอะ เดี๋ยวผู้คนจะกล่าวว่าข้านั้นรังแกสตรี”

อวี้ชิงลั่วยักไหล่ “ก็ได้เจ้าค่ะ”

ถึงอย่างไรนางก็ไม่ต้องการตามหลังใครอยู่แล้ว การที่ได้ดมแล้วทายก่อนจึงเป็นเรื่องที่ดี ไม่เช่นนั้นเมื่อเปิดขวดทั้งสองออก ผู้ใดจะทราบได้ว่าด้านในนั้นผสมตัวอย่างอะไรไปบ้าง

หมอเสิ่นเม้มริมฝีปาก จู่ ๆ ตนเองก็มีความเข้าใจผิดว่าตนนั้นกำลังตกหลุมพราง แต่ถ้าเอ่ยออกจากปากไป ไม่ใช่ว่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็นว่าตนถูกมองเป็นตัวตลกหรอกหรือ?

“หึ”

อวี้ชิงลั่วบุ้ยปาก หญิงสาวเดินเข้าไปบริเวณด้านหน้าโต๊ะแล้วเปิดขวดยา นาสิกประสาทของนางช่างว่องไวนัก โดยเฉพาะกับกลิ่นของยาและเลือด ส่วนผสมของยาที่อยู่ด้านนั้น จริง ๆ แล้วเป็นส่วนผสมธรรมดา สรรพคุณก็เพียงแค่รักษาอาการเจ็บปวดเล็กน้อย เพียงแต่ว่า…

อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นและหันไปมองท่านหมอเริ่นที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตนเอง หญิงสาวยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ข้าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เชิญท่านหมอเสิ่นเริ่มเลย”

ทันทีที่นางเอ่ยปากขึ้น ท่านหมอเริ่นก็ค่อย ๆ ขยับตัวแล้วเดินเข้าไปบริเวณด้านข้างของท่านหมอเสิ่น

หมอเสิ่นหรี่ตาลงมองท่าทางสงบเยือกเย็นของอวี้ชิงลั่ว ชายหนุ่มยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเปิดขวดยาออก ปลายจมูกของเขาดมกลิ่นยาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาเป็นประกายและสูดหายใจเข้าไปหนึ่งครั้ง เขามีท่าทางที่ดูมั่นใจเป็นอย่างมาก

แต่ในเวลาต่อมาสีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไป ใบหน้าของเขาเริ่มยุ่งเหยิงทันทีในขณะที่เขายืดตัวขึ้น สีหน้าที่มั่นใจแต่เดิมเริ่มสับสนเล็กน้อย ชายหนุ่มจ้องมองขวดยาที่อยู่ข้างหน้า และก้มหน้าลงไปดมยาอีกสองสามครั้ง สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ถูกต้อง นี่มันผิดปกติมาก ๆ เมื่อสักครู่ยังดีอยู่เลย เหตุใดเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ กลิ่นของส่วนผสมจู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปหมดเลย?

หมอเสิ่นก้มหน้าลง ใบหน้าของชายหนุ่มค่อย ๆ ซีดขึ้นมา มือของเขาเองก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เป็นไปไม่ได้ นี่พึ่งจะเป็นด่านแรกเอง ด่านที่เป็นขั้นพื้นฐานสุด ๆ เมื่อครู่ก็เห็น ๆ อยู่ว่าข้ามีคำตอบในใจแล้ว เหตุใดจึงเปลี่ยนเป็นเช่นนี้? ผู้ใดจะรู้ว่าจมูกของเขาจะมีปัญหา?

“ท่านหมอเสิ่น ยังสบายดีอยู่ไม่ขอรับ?” เถ้าแก่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แม่นางคนนั้นเพียงสูดดมเล็กน้อยไม่นานก็เสร็จแล้ว เหตุใดหมอปีศาจเสิ่นท่านนี้กลับใช้เวลานานเช่นนี้ นี่มันก็จะครึ่งเค่อแล้วนะ

“รอก่อน” ท่านหมอเสิ่นโบกมือ ให้ชายชรารีบเดินออกไปเพื่อไม่ให้มารบกวนตน

ในใจของเถ้าแก่เริ่มรู้สึกไม่พอใจ เขาหันกลับมาเอ่ยกับผู้ชมที่ตั้งตารอ “ท่านหมอเสิ่นยังต้องการเวลาอีกเล็กน้อย ทุก ๆ ท่านโปรดรอ”

“เกิดอะไรขึ้น?” ใครบางคนขมวดคิ้วขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะหมดความทดทนแล้ว “ก็แค่ดมยาเท่านั้น เหตุใดจึงใช้เวลานานเช่นนี้? แม่นางชิงยังไม่ใช้เวลานานเท่าเจ้าเลย”

“ก็ใช่น่ะสิ เมื่อครู่ท่านหมอเริ่มก็บอกว่าเป็นหมอต้องรักษาคนไข้ให้ทันเวลาไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ขืนให้ท่านหมอเสิ่นมาช่วยคนไข้ เช่นนั้นแล้วคนไข้ผู้นั้นจะรอไหวหรือ? ”

เสียกโหวกเหวกดังไปถึงหูของท่านหมอเสิ่น ทำให้ในใจของเขาเป็นกังวลเป็นอย่างมาก และท่านหมอเริ่นที่รออยู่ข้าง ๆ เขานั้นก็ทำให้เขาร้อนรนเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงรีมก้มหน้าลงไปแล้วดมอย่างถี่ถ้วน

เย่ซิวตู่เอนหลังพิงตัวด้วยท่าทางสบายๆ ทั้งสองมือของเขาวางไว้บนตัก สายตาของเขาจ้องมองไปที่มือขวาของท่านหมอเริ่นที่ซ่อนอะไรไว้ซักอย่าง

ถ้าหากว่าเมื่อครู่เขานั้นไม่ได้มองผิดไป ในขณะที่อวี้ชิงลั่วดมยานั้น ท่านหมอเริ่นก็จะไปยืนข้าง ๆ พวกเขา และขวดกระเบื้องเคลือบก็ถูกเปิดออก

ภายในขวดกระเบื้องเคลือบนั้นคงจะมีส่วนผสมอะไรสักอย่าง

“ท่านหมอเสิ่น ยังดีอยู่หรือไม่ขอรับ?” เถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมเยว่หมิงเอ่ยถามขึ้น

หมอเสิ่นทนไม่ได้อีกต่อไป เขาทำได้แค่เพียงเช็ดเหงื่อบนศีรษะแล้วเงยหน้าขึ้นมา เอ่ยขึ้นอย่างสงบ “เรียบร้อยแล้ว”

ท่านหมอเริ่นค่อย ๆ พยักหน้า แล้วเดินไปที่บริเวณตรงกลางโต๊ะ ชายชรายิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ตอนนี้ทั้งสองมีคำตอบในใจแล้ว เช่นนั้นแล้วก็บอกส่วนผสมของยาแล้วสพรรพคุณของมัน เชิญแม่นางชิงก่อนดีหรือไม่?”

“ได้สิ” อวี้ชิงลั่วจะอย่างไรก็ได้อยู่แล้ว การแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้ท้าทายหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย

นางก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวแล้วเอ่ยขึ้นอย่างชัดเจน “ส่วนผสมของยามี หม่าหวง(1) ซูเย่(2) เฉียนหู(3) ชิ่งเหริน(3) เจี๋ยเกิ่ง(4) เฉินผี(5) ป้านเซี่ย(5) ฝูหลิง(6) จื่อเขอ(7) สรรคุณรักษาอาการไอที่เกิดจากปัจจัยภายนอก อ้อ เป็นอาการของการตากลมหนาว”

ท่านหมอเริ่นมีดวงตาเป็นประกาย ชายชราปรบมือแล้วพยักหน้า “แม่นางชิงนั้นสุดยอดมาก ๆ ส่วนผสมของยาในขวดยานี้มีส่วนผสมตามที่แม่นางชิงกล่าวมา”

กล่าวเสร็จก็หันไปมองท่านหมอเสิ่น “ท่านหมอเสิ่น ถึงรอบของท่านแล้ว”

“ข้า…” หมอเสิ่นมีใบหน้าขาวซีด เขาขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าคำตอบของอวี้ชิงลั่วนั้นเหมือนกับของตนไม่มีผิด ภายของเขาก็ร้อนรน เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยอย่างภาคภูมิ “เมื่อครู่นี้จมูกของข้าได้รับการกระทบกระเทือน ดังนั้นจึงดมส่วนผสมของยาได้อย่างไม่แจ่มชัด ข้าจึงใคร่ขอให้จมูกของข้ารักษาให้หายก่อนค่อยมาประลองกันอีกครั้ง”

“โห่…” มีคนทนไม่ได้ส่งเสียงโห่ฮาออกมา นี่มันหมายความว่าอะไรกัน จะบอกว่าดมไม่ได้กลิ่นเช่นนั้นหรือ?

ในเมื่อไม่มีความสามารถ ก็ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างตรงไปตรงมา เหตุใดจึงจะต้องเถียงข้าง ๆ คู ๆ เช่นนี้ อย่างนี้มันคดโกงกันเห็น ๆ

“ท่านเสิ่น ถ้าหากว่าท่านไม่สามารถบอกส่วนผสมของยาได้ เช่นนั้นแล้วการแข่งขันรอบแรกนี้ ข้าจึงต้องตัดสินให้แม่นางชิงชนะไป” ท่านหมอเริ่นไม่ถนัดที่จะครื้นเครงไปด้วย จึงเอ่ยขึ้นอย่างสงบเสงี่ยม แต่กลับยืนกรานในคำพูดเป็นอย่างมาก

สีหน้าของท่านหมอเสิ่นบึ้งตึง “พูดเล่น ๆ ของประเภทนี้หมอเล็ก ๆ ในชนบทก็สามารถทายออกมาได้ ข้าเป็นหมอปีศาจ เหตุใดจึงจะทายออกมาไม่ได้ เป็นเพียงเพราะว่าจมูกได้รับการกระทบกระเทือน สถานการณ์ในการประลองครั้งนี้ข้าจึงเป็นรอง”

“อ้อ เจ้าหมอปลอมคนนี้ช่างไม่มียางอายยิ่งนัก” หนานหนานที่ฟุบอยู่ตรงขอบหน้าต่างก็ไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป “ยังจะไร้ยางอายกว่าข้าเสียอีก เวลาที่ท่านแม่ผู้ฉุนเฉียวอารมณ์ดีเช่นนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถยืนอย่างสงบอยู่ตรงนั้นได้ เหตุใดจึงไม่เข้าไปฟาดเขาสักทีล่ะ?”

ท่านหมอเริ่นค่อย ๆ ขมวดคิ้ว ชายชราไม่เชื่อว่าหมอปีศาจที่ร่ำรือกันจะเสเพลได้เช่นนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาเองก็ไม่ต้องการที่มีเหตุผลกับเขาอีกต่อไป “เนื่องจากท่านหมอเสิ่นไม่สามารถบอกได้ เช่นนั้นขอจึงขอประกาศอย่างเป็นทางการ การแข่งขันครั้งนี้แม่นางชิง…”

“ช้าก่อน”

เวลานี้ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากประตูขัดจังหวะการประกาศผลของท่านหมอเริ่นโดยตรง

………………………………………………………………………………………………………………………

麻黄 ตัวยาจากพืชในสกุล Ephedra 3 ชนิด คือ Ephedra cayensis, Ephedra equisetum, and Ephedra sinica มีสรรพคุณลดอาการหนาวสั่นจากการตากลมเย็น แก้หอบหืด และยังเป็นแหล่งของสาร Ephedrine ที่ใช้ในทางวิสัญญีแพทย์ (ภาพจากhttps://so.toutiao.com/search?keyword=%E9%BA%BB%E9%BB%84%E4%B8%BA%E4%BD%95%E8%A2%AB%E5%88%97%E4%B8%BA%E8%BF%9D%E7%A6%81%E5%93%81&pd=synthesis&source=related_search&in_ogs=&search_json=%7B%22from_query%22%3A%22%E5%B0%8F%E6%9F%B4%E8%83%A1%E9%A2%97%E7%B2%92%E8%A2%AB%E5%9B%BD%E5%AE%B6%E7%A6%81%E7%94%A8%E4%BA%86%E5%90%97%22%7D&dvpf=pc)

(2)苏叶 ใบงาขี้ม่อน ใบโอบะ ใบชิโสะ ใบงาเกาหลี (Perilla frutescens) (ภาพจาก https://m.pingguolv.com/sl/yingyang/166695.html)

(3) 前胡 เฉียนหูหรือไจ่โอ๊ว เป็นรากแห้งจากต้นไม้ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Peucedanum praeruptorum Dunn (ภาพจาก https://www.pchouse.com.cn/baike/shenghuo/3916/)

(4)杏仁 ซิ่งเหรินหรือเฮ่งยิ้ง คือเมล็ดอัลมอนด์จีนหรือเนื้อในของเมล็ดแอปริคอต (Prunus armeniaca L.) (ภาพจาก https://baike.baidu.hk/item/%E6%9D%8F%E4%BB%81/580304)

(5)桔梗 เจี๋ยเกิ่งหรือกิ๊กแก้ เป็นตัวยาที่ได้จากต้นบัลลูนฟลาวเวอร์ (Platycodon grandiflorus) มีสรรพคุณลดอาการไอ ขับเสมหะ ขับหนอง (ภาพจาก https://baike.baidu.hk/item/%E6%A1%94%E6%A2%97/6544)

(6)陳皮 เฉินผีหรือเปลือกส้มตากแห้ง (ภาพจาก https://baike.baidu.hk/item/%E9%99%B3%E7%9A%AE/746229 )

(7)半夏 ป้านเซี่ยหรือโหราข้าวโพด เป็นตัวยาที่ได้จากพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinellia ternata (ภาพจาก https://baike.baidu.hk/item/%E5%8D%8A%E5%A4%8F/21892)

(8)茯苓 ฝูหลิง หกเหล็ง หรือโป่งรากสน เป็นราชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Poria cocos (Schw.) Wolf มีฤทธิ์ขับปัสสาวะและบำรุงม้าม (ภาพจาก https://baike.baidu.hk/item/%E8%8C%AF%E8%8B%93/302589)

(9) 枳壳 จื่อเขอหรือจีขัก เป็นผลตากแห้งหั่นแว่นของส้ม bitter orange (Citrus aurantium) (ภาพจาก https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=2f5152813a22b1a45f088a6f)

สารจากผู้แปล

โป๊ะก็คือโป๊ะ เสิ่นเจิ้นก็คือเสิ่นเจิ้นนะหมอเสิ่น สีข้างถลอกหมดแล้วนั่น

ไหหม่า(海馬)