ตอนที่ 144 ศิลปะแห่งการปกปิด

แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กๆน้อยๆ ที่นิ้วที่เธอกัดก่อนหน้านี้อยู่

“นี่คือความจริงงั้นหรอ? มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม ขอฉันหยิกแก้มดูหน่อยแล้วกัน

ถังลี่เสวี่ยรู้สึกเจ็บแสบที่แก้มของเธอ เมื่อเธอใช้นิ้วของเธอหยิกแก้มเธอเอง จากนั้นเธอก็รู้ทันทีว่าเธอไม่ได้อยู่ในความฝันเลย!

ถังลี่เสวี่ยกระโดดลงจากเตียงด้วยความตื่นตระหนก และรีบจับไขใบใหญ่ไว้ข้างเตียงของเธอ

ให้ตายสิ เจ้าไข่ตะกละที่โง่เขลา! เอาแผ่นหินโบราณของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! อาเจียนมันออกมาเดี๋ยวนี้! ถังลี่เสวี่ยกัดฟัน และพ่นไฟด้วยความโกรธ ในขณะที่ยังคงเขย่าไขใบใหญ่ในมือของเธออย่างรุนแรง

แต่คําตอบของไข่ใบใหญ่ต่อการกระทําหยาบคายของถังลี่เสี่ยเป็นเพียงเสียงกลืนน้ําลายดังๆ

ด้วยเหตุนี้ความฝันของถังลี่เสวี่ยในการจะใช้พลังแบบนั้นเพื่อผนึกศัตรูจากแผ่นหินโบราณก็เป็นได้แค่ฝันไปตลอดกาล

ถังลี่เสี่ยคิดว่าควรจะทิ้งไข่ที่อวดดีนี้ หรือทุบมันลงบนพื้นแข้งที่เย็นยะเยือกนี้ดี แต่ถ้าไข่นี้แตกเป็นชิ้นๆ เธออาจจะต้องสูญเสียสองเท่า ดังนั้นเธอจึงทําได้เพียงแค่ระงับความโกรธของเธอเอาไว้

ใครจะรู้ว่าไข่ใบใหญ่เริ่มเปลี่ยนแปลงแล้วหลังจากที่มันกลืนแผ่นหินโบราณไป!

อักษรรูนสีดําลึกลับจํานวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนพื้นผิวสีขาวบริสุทธิ์ของไข่

ไข่ขนาดใหญ่ก็เริ่มผลิตหมอกสีเข้มออกมา หมอกดําปกคลุมไข่ขนาดใหญ่ทั้งหมด ทําให้ถังลี่เสวี่ยไม่สามารถมองเห็นอักษรรูนสีดําลึกลับบนพื้นผิวของไข่ขนาดใหญ่ได้อีกต่อไป

ความกดดันและออร่าที่ปล่อยออกมาจากไข่ขนาดใหญ่นั้นทรงพลัง ทําให้หายใจไม่ออกจนถังสี่เสวี่ยหายใจลําบาก เหงื่อเย็นเริ่มไหลออกจากหน้าผากของเธอ

ญาญ่ากระโดดลงจากเตียง เธอตื่นขึ้นด้วยความตกใจ และตื่นตระหนกเพราะเหตุนี้

ญาญ่าต้องการรีบไปหาถังลี่เสวี่ย และช่วยถังลี่เสวี่ยให้พ้นจากอันตราย แต่เธอก็รู้ทันทีว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะถังลี่เสี่ยกําลังทดลองอะไรบางอย่าง

ญาญ่าบินไปไกลเท่าที่จะทําได้ เพื่อให้อยู่ห่างจากไข่ประหลาดนี้ เธอเริ่มสั่นด้วยความกลัวจากมุมห้องที่ไกลที่สุดในห้องนอนของถังเสวี่ย

ออร่าที่น่ากลัวจากไข่ขนาดใหญ่นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่ถังสี่เสวี่ยรู้สึกมาก่อน มันไม่ใช่ปีศาจเหมือนที่เธอรู้สึกจากผู้ฝึกตนปีศาจที่นิกายปีศาจอสูร

ออร่าของไข่นี้มันบริสุทธิ์มากเพราะไม่เคยทําบาปมาก่อน แต่กลับรู้สึกชั่วร้าย และน่ากลัวด้วยเช่นกัน ไข่นั้นไม่ได้โหดร้ายเลยเพราะตัวไข่เองก็ไม่เคยฆ่าสิ่งมีชีวิตใด ๆ มาก่อน แต่ออร่าที่ปล่อยออกมานั้นดุร้ายและโหดร้ายมาก

ถังลี่เสวี่ยรีบคว้าไข่ใบใหญ่ แล้วโยนกลับเข้าไปในรายการระบบของเธอ

จากนั้นยังลี่เสวี่ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากที่แรงกดดันมหาศาลจากไข่ขนาดใหญ่ได้หายไปแล้วในตอนนี้

ถังลี่เสวี่ยเช็ดเหงื่อเย็นของเธอด้วยแขนยาว ขณะที่เธอยังคงหายใจอย่างหนักหน่วงอยู่

เธอนั่งลงที่เตียงอย่างเหนื่อยๆ แล้วบอกญาญ่าว่าตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี เพื่อที่เธอจะได้ไปนอนอีกครั้ง

ญาญ่ามองกลับไปที่ถังเสวี่ยอย่างสงสัย แต่เหมือนปกติ ญาญ่าเชื่อคําพูดของถังลี่เสวี่ยเสมอ ดังนั้นเธอจึงผล็อยหลับไปอีกครั้งเกือบจะในทันที หลังจากที่เธอนอนลงบนเตียงนุ่มสบายข้างถังลี่เสวี่ย

ไข่อะไรวะเนี่ย! ออร่าของมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก! สิ่งมีชีวิตอะไรจะเกิดจากไข่ที่น่ากลัวใบนี้ เมื่อกี้นี้มันทําให้ฉันรู้สึกกลัวมาก! และมันยังไม่ได้ฟักออกมาด้วยซ้ํา!” ถังลี่เสวี่ยยังคงรู้สึกบอบช้ําจากแรงกดดันมหาศาลของไข่ใหญ่และออร่าที่ชั่วร้าย

“เฮ้อ… จะทําอย่างไรดี? ฉันควรจะหยดเลือดของฉันลงบนมันในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้มันฟักออกในไม่ช้าหรือฉันควรจะปิดผนึกตลอดไป และปล่อยให้มันเน่าในช่องเก็บของระบบของฉันดีล่ะ?”

แต่ฉันก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้นว่าสิ่งมีชีวิตชนิดใดจะเกิดจากไข่นี้ แต่… แต่ออร่าของมันดูชั่วร้าย และชั่วร้ายมาก! ถ้าเป็นไข่ปีศาจล่ะ? มันจะโจมตีฉันหรือแทงข้างหลังฉันหลังจากที่โตขึ้นหรือไม่?

เหมือนเช่นเคย เมื่อถึงลี่เสวี่ยพบกับปัญหาที่ซับซ้อนซึ่งเธอไม่สามารถตัดสินใจหรือแก้ไขได้ในตอนนี้ เธอก็จะโยนมันทิ้งไป แล้วค่อยคิดใหม่ในภายหลัง

“ฉันยังจําเป็นต้องหยดเลือดลงบนไข่นั้นอีกยี่สิบเก้าวันอยู่ดี… ฉันจะคิดในภายหลัง เมื่อฉันเหลือเวลาอีกสามหรือห้าวัน!”

ถังลี่เสวี่ยดึงสิ่งของชิ้นสุดท้ายที่เธอได้รับจากกระเป๋าอวกาศของเธอออกมาเพื่อตรวจสอบ

มันเป็นหนังสือทรุดโทรมที่เธอได้รับจากอาจารย์เหมยหลาน หลังจากที่เธอตัดสินใจเข้าร่วมคลาสเรียนของเธอ!

ตอนแรกถังลี่เสวี่ยไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากของขวัญของอาจารย์เหมยหลาน แต่ใครจะคิดว่าหนังสือที่ทรุดโทรมเล่มนี้เป็นสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดในตอนนี้

ถังลี่เสวี่ยตกตะลึงเมื่อเธอพลิกหน้าหนังสือที่ทรุดโทรมเล่มนี้ทีละหน้าอย่างระมัดระวังเพื่อค้นหาส่วนสําคัญของเนื้อหา

ถังลี่เสี่ยคิดถูกแล้ว เนื้อหาของหนังสือที่ทรุดโทรมนี้ไม่ได้เกี่ยวกับวิชาศิลปะการต่อสู้เลย แต่มันมีค่ามากกว่านั้นโดยเฉพาะสําหรับเธอ!

หนังสือที่ทรุดโทรมนี้แบ่งออกเป็นสามส่วน

ส่วนแรกของหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับ [หายตัวไป] ฟังดูเหมือนเทคนิคร่างกายโปร่งแสง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ มันสอนวิธีที่จะทําให้บุคคลนั้นปรากฏตัวของพวกเขาโดยไม่ถูกตรวจจับ และสามารถหายตัวไปจากสายตาทุกคนได้ ไม่ว่าจะถูกขังอยู่ หรืออยู่ระหว่างการต่อสู้หรือไม่ก็ตาม มันทําให้ผู้ใช้หายไปจากสายตาของทุกคน และไม่สามารถตรวจจับได้ โดยไม่ต้องใช้ทักษะซ่อนตัวเพื่อทําให้ล่องหน

อย่างไรก็ตาม ถังลี่เสวี่ยมีความสามารถ [ปกปิด] และความสามารถขั้นเทพ [รูปแบบเทพ] ดังนั้นเธอจึงไม่จําเป็นต้องเรียนรู้ (หายตัวไป] นี้

ส่วนที่สองของหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับ [ลบล้างออร่า]

ผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ต่อสู้มาแล้วหลายพันครั้งในสถานการณ์อันตรายใดๆ จะพัฒนาความรู้สึกที่เฉียบแหลมในการตรวจจับ แม้แต่ความตั้งใจหรือออร่าเพียงเล็กน้อยที่เข้าใกล้พวกเขา นี่คือเหตุผลที่ลุงอ้วนและอาจารย์เหมยหลานสามารถตรวจพบถังลี่เสวี่ยได้ในขณะที่เธอยังอยู่ใน (ร่างเทพ]

อย่างไรก็ตามเมื่อเชี่ยวชาญ โลบล้างออร่า] ส่วนนี้ก็สามารถลบความตั้งใจ ความประสงค์ และออร่าทั้งหมดได้! ทําให้เหมือนเป็นเพียงหินกรวดหรือหินข้างถนน บุคคลนั้นจะไม่สามารถตรวจพบได้แม้ว่าจะยืนอยู่ข้างหลังผู้เชี่ยวชาญที่สามารถตรวจจับความรู้สึกที่เฉียบแหลมก็ตาม

ส่วน [ลบล้างออร่า) นี้คือสิ่งที่ถังลี่เสวี่ยต้องการมากที่สุด! เพราะมันจะทําให้ใครก็ตามไม่สามารถตรวจพบเธอได้เลย ขณะที่เธออยู่ใน (ร่างเทพ]!

ส่วนสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้มันยิ่งบ้ามาก มันถูกเรียกว่า [หนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

เมื่อชํานาญแล้ว ก็สามารถผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติได้ สามารถเดินไปได้ทุกที่โดยไม่ถูกกีดขวาง และไม่มีใครสังเกตเห็นเลย

อย่างไรก็ตามส่วนสุดท้ายนี้ลึกซึ้งเกินไป และเป็นไปไม่ได้ที่ถังลี่เสวี่ยจะเชี่ยวชาญได้ในตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงทําได้แค่พักไว้ก่อน

ว้าว… ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเนื้อหาของหนังสือโทรมเล่มนี้มันสุดยอดมาก! ช่างเป็นสมบัติล้ําค่า! ดูเหมือนว่าฉันจะต้องขอบคุณอาจารย์หลานอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ถังลี่เสวี่ยปิดหนังสือที่ทรุดโทรมในมือของเธอ จากนั้นก็นั่งสักครู่เพื่อสงบสติอารมณ์และความตื่นเต้นของเธอ

แน่นอนว่าถังลี่เสวี่ยยังคงไม่เข้าใจเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ เธอเพียงอ่านแค่ส่วนสําคัญๆจากหน้าแนะนําเท่านั้น แต่เธอก็ไม่ได้กังวลเลย เพราะเธอยังมีระบบของเธออยู่!

ถังลี่เสวี่ยส่งความคิดของเธอไปยังระบบว่าต้องการเรียนรู้เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ และเคาะพื้นผิวของหนังสือที่ทรุดโทรมเบา ๆ

ดิง!

[คุณต้องการที่จะเข้าใจศิลปะแห่งการปกปิดด้วยราคา 120 เหรียญเทพหรือไม่? ใช่ไม่ใช่]

“ศิลปะแห่งการปกปิด? ฟังดูดีนะ! แต่ 120 เหรียญเทพนั้นค่อนข้างแพงอยู่นะ เพราะว่า [ศิลปะสัตว์อสูรในตํานานทั้งสี่] ของฉันมีราคา 210 เหรียญเทพ โอ้ อืม… หวังว่าฉันจะสามารถเชี่ยวชาญได้อย่างรวดเร็ว เพราะนั่นจะหมายถึงฉันไม่ได้ใช้เหรียญเทพเหล่านี้โดยเปล่าประโยชน์: ใช่!”

ข้อมูลจํานวนมหาศาลจากหนังสือที่ทรุดโทรมถูกส่งผ่านระบบไปยังจิตใจของเธอในทันที

ถังลี่เสวี่ยรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง เมื่อระบบได้ส่งข้อมูลจํานวนมากเข้าไปในสมองของเธอ

กระบวนการทําความเข้าใจใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น แต่ยังลี่เสวี่ยเองก็รู้สึกว่ามันใช้เวลานาน

ยิ่งกว่านั้นวันนี้เธอเหนื่อยมามากแล้ว เธอจึงผล็อยหลับไปบนเตียงข้างๆญาญ่า โดยที่ไม่สังเกตเลยหลังจากที่ความเจ็บปวดนั้นบรรเทาลงแล้ว

หลังจากที่เธอผล็อยหลับไป [การแปลงร่าง: ร่างมนุษย์] ของเธอก็ถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ และเธอก็เปลี่ยนกลับเป็นร่างจิ้งจอกจันทราสีเงินเช่นเดิม

เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนของถังลี่เสวี่ยผ่านช่องว่างเล็กๆ ระหว่างหน้าต่าง

ถังลี่เสี่ยยังคงหลับสนิทมาก แต่ญาญ่าตื่นแล้ว และตอนนี้ญาญ่ายังคงพยายามปลุกถังเสวี่ย เนื่องจากเธอจําได้ว่าพวกเขาควรจะมารวมกันที่ทางเข้าอาคารทางเหนือในช่วงเช้าของวันนี้

ตอนนี้ญาญ่ายังคงเขย่าร่างที่มีขนยาวของถังลี่เสวี่ย ในขณะที่ยังคงส่งเสียงน่ารัก

“ญาญ่า ญาญ่า- ให้ดังที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อปลุกถังลี่เสวี่ย

ถังลี่เสวี่ยค่อยๆลืมตาขึ้น เธอเงียบขรึมและกระโดดลงจากเตียงทันที

“โอ๊ย บ้าเอ้ย! เราเกือบจะสายแล้ว! ไปกันเถอะ ญาญ่า!?

ถังลี่เสี่ยพาญาญ่าไปที่ห้องน้ําและอาบน้ํากับญาญ่าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็เปิดใช้งาน [การแปลงร่าง: ร่างมนุษย์] ของเธออีกครั้ง และแปลงร่างเป็นร่างมนุษย์ที่สวยงามของเธอก่อนจะออกจากบ้าน

ถังลี่เสวี่ยดึงการ์ดทองแดงของเธอออกจากกล่องเล็กๆสีดําหลังประตูหน้าลานบ้าน และฉากลานรอบๆ ของเธอก็จางหายไปในทันที กลับกลายเป็นห้องมืดขนาดเท่าตู้เสื้อผ้า

เธอโยนการ์ดทองแดงลงในกระเป๋าอวกาศ และผลักประตูที่อยู่ข้างหน้าเธอ

เมื่อเธอออกจากห้อง เธอได้พบกับบิงอี้ที่ยังคงรอเธออยู่หน้าประตู

การแสดงออกที่เยือกเย็นของปิงอี้หายไป ขณะที่เธอยิ้มอย่างสวยงามราวกับดอกไม้บานเมื่อเธอเห็นถังลี่เสวี่ย

เมื่อปิงอี้กําลังจะเข้าไป และทักทายถังลี่เสวี่ย ก็มีคนทําตัดหน้าเธอไปก่อนแล้ว

ชายหนุ่มรูปงามที่มีผมยาวสีดํานุ่มสลวยเดินเข้ามาใกล้ถังหลี่เสวี่ยด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนอย่างโง่เขลาบนใบหน้าที่บอบบางของเขา แต่หางจิ้งจอกขนสีดําของเขา และหูจิ้งจอกสีดําคู่หนึ่งบนหัวของเขาทําให้เขาดูน่ารักขึ้น

เขาสวมชุดสีขาวเช่นเดียวกับถังลี่เสวี่ยและปิงอี้ ดวงตาสีเขียวเข้มของเขายังคงจดจ่ออยู่กับถังลี่เสวี่ยเพียงคนเดียวตั้งแต่ต้น

ถังลี่เสวี่ยยอมรับว่าในบรรดาสุนัขจิ้งจอกตัวผู้ที่หล่อเหลาในร่างมนุษย์ที่เธอเห็นหลังจากที่เธอเข้ามาใน สถาบันจิ้งจอกนับหมื่นเมื่อวานนี้ ตัวที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้หล่อที่สุด

แม้แต่ถังลี่เสวี่ยก็ยังหลงใหลในรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาของเขา

แต่ถังเสวี่ยแน่ใจว่าเธอไม่เคยเห็นชายคนนี้ หรือติดต่อกับเขามาก่อน หลังจากที่เธอเข้ามาในสถาบันจิ้งจอกนับหมื่นเมื่อวานนี้

เมื่อถึงสี่เสวี่ย ญาญ่าและปิงอี้ ยังคงรู้สึกสงสัยในตัวตนของชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ชายคนนั้นก็รีบไปหาถังลี่เสวี่ย และสวมกอดร่างเพรียวของเธอเอาไว้

การกระทํากะทันหันของชายผมดําคนนี้ทําให้ถังลี่เสวี่ย ญาญ่าและบังอี้ตกใจกันเป็นอย่างมาก!

อุณหภูมิภายในโถงทางเดินลดต่ําลงเป็นอย่างมากจากการแสดงออกของปิงอี้และญาญ่า น้ําแข็งและลมเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นพายุหิมะที่ปกคลุมโซนที่ 11 ทั้งหมดด้วยน้ําค้างแข็งหนาทึบในตอนนี้