ตอนที่ 145 การต่อสู้หน้าประตู

ถังลี่เสวี่ยตกตะลึงเมื่อชายผมดําสวมกอดเธออย่างกะทันหัน แต่เธอก็ตื่นขึ้นจากความ งุนงงของเธอหลังจากนั้นครู่หนึ่ง และผลักเขาออกไป

ชายผมดําเดินถอยหลังหลายก้าวหลังจากที่ถังลี่เสวี่ยผลักเขา และมองถังลี่เสวี่ยอย่างสงสัย

“เป็นอะไรของนายเนี่ย! เห้อ… เขาคอยจับตาดูร่างกายฉันอยู่หรือเปล่า!” ถังลี่เสวี่ยจ้องไปที่ชายผมดําด้วยความระมัดระวัง และรังเกียจ

อย่างไรก็ตาม ญาญ่าและปิงอี้ไม่มีเหตุผลเท่ากับถังลี่เสวี่ย ทั้งคู่พุ่งเข้าหาชายผมดําทันที หลังจากที่ถังลี่เสวี่ยผลักเขาออกไป

เหวี่ยงแขนเล็กๆของเธอลงและใบมีดลม] ที่คมหลายอันก็บินลงมาจากข้างบนอย่างรวดเร็วใส่ชายผมดํา

ชายผมดําเอียงร่างกายอย่างว่องไวสองสามครั้งเพื่อหลบ (ใบมีดลม] ที่แหลมคมของญาญ่าได้อย่างง่ายดาย

การเคลื่อนไหวที่สบาย และแม่นยําของเขาทําให้ถังลี่เสวี่ยตระหนักว่าชายผมดําคนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ

ปิงอี้ไม่ปล่อยให้ชายผมดํามีโอกาสหายใจ เธอพุ่งเข้าหาเขาและเปิดใช้งานพลังเยือกแข็งของเธอในทันที!

ออร่าเยือกแข็งที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมาจากร่างกายที่เพรียวบางของเธอที่มีสัดส่วนพอเหมาะ!

ชายผมดําเดินไปทางซ้ายเพียงไม่กี่ก้าว และรัศมีเยือกแข็งของปิงอี้หยุดห่างจากเท้าของเขาไม่กี่เซนติเมตร

ถังลี่เสวี่ยขมวด เมื่อเธอเห็นสิ่งนั้น ชายผมดําคนนี้สามารถก้าวออกจากขอบเขตออร่าเยือกแข็งของปิงอี้ได้อย่างแม่นยําเพียงไม่กี่ก้าว!

โชคดีที่ไอ้โรคจิตนี้… ไอ… ฉันหมายถึงผู้ชายที่หล่อเหลาคนนี้ไม่มีเจตนาจะตอบโต้หรือทําร้ายเรา ถ้าเขาตอบโต้ขึ้นมาฉันสงสัยว่าเราจะสามารถชนะได้ไหม แม้ว่าเราสามคนจะร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับเขา!”

ถังลี่เสวี่ยตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมโจมตีชายผมดํากับญาญ่า และปิงในตอนนี้ เธอเลือกที่จะเฝ้าสังเกตเขาต่อไปอีกสักหน่อย และเธอก็จะหยุดการต่อสู้ในภายหลัง เพราะเธอไม่ได้รู้สึกถึงเจตนาร้ายใดๆจากเขา

อันที่จริงชายหนุ่มรูปงามเริ่มตื่นตระหนกหลังจากญาญ่าและปิงอี้โจมตีเขาพร้อมกัน เขายังเหลือบมอง ถังลี่เสวี่ยด้วยดวงตาสีเขียวที่น่าสงสารเหมือนขอความเมตตาจากเธอ

ถังลี่เสี่ยเลิกคิ้วขึ้น อย่างไรก็ตาม เธอเริ่มรู้สึกว่าดวงตาสีเขียวที่มีน้ําตาของชายผมดํารูปหล่อคนนี้ดูคุ้นๆกับเธอจริงๆ แต่เธอก็ยังจําไม่ได้ว่าเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

“ฉันสาบานได้เลยนะว่าไม่เคยพบเขามาก่อนตั้งแต่เริ่มเข้ามาที่นี่! ฉันก็พบแค่จิ้งจอกสามตัวที่ผ่านการทดสอบมาด้วยกัน อาจารย์เหมยหลาน และหรงเจียเท่านั้นเองนี่! ฉันไม่เคยพบเขาสักหน่อย! ถังลี่เสวี่ยเม้มริมฝีปาก และเอานิ้วถูหน้าผากของเธอในขณะที่พยายามจํา

ญาญ่ารวบรวมกําลังทั้งหมดของเธอ ในขณะที่ชายผมดํากําลังวุ่นวายอยู่กับปิงอี้ เธอพร้อมที่จะใช้การเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอ [พายุไซโคลนตัดเฉือน]

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะยิงใส่ชายผมดํา

ฟูวววว!!!

แรงกดดันมหาศาลลงมากดพวกเขาทั้งหมดลง ล็อคพวกเขาทั้งหมดไว้ในที่ที่พวกเขายืน และป้องกันไม่ให้พวกเขาเคลื่อนไหว

ถังลี่เสวี่ย ญาญ่า ปิงอี้ และชายผมดําถูกบังคับให้ต้องคุกเข่าลง เพราะแรงกดดันมหาศาลนั้น

“ห้ามมิให้ต่อสู้ในสถาบันจิ้งจอกนับหมื่น! นี่เป็นคําเตือนครั้งแรก และครั้งสุดท้ายของคุณ! หากคุณต้องการต่อสู้ ทุกคนสามารถไปที่สนามต่อสู้ในพื้นที่ตะวันตก คุณสามารถต่อสู้ได้ นั่น!” เสียงที่สง่างามแต่เคร่งขรึมดังก้องอยู่ในใจของพวกเขา

หลังจากที่เสียงหายไป แรงกดดันในร่างกายของพวกมันก็หายไปเช่นกัน และพวกเขาสามารถขยับร่างกายได้เหมือนเดิม

ถังลี่เสวี่ย และคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากที่พวกเขาสามารถขยับร่างกายได้ และพวกเขาไม่กล้าที่จะเริ่มต้นการต่อสู้อีกครั้ง

ญาญ่าวิ่งกลับไปที่ถังลี่เสวี่ยกอดแขนของเธออย่างขอโทษ ถังลี่เสวี่ยยิ้มอย่างอ่อนโยน และลูบหัวเล็กๆของญาญ่า ขณะที่บอกว่าไม่ใช่ความผิดของเธอผ่านการเชื่อมโยงในใจของพวกเขา

ปิงอี้ก็เข้าหาถังลี่เสี่ยโดยก้มศีรษะลงราวกับว่าเธอกําลังขอโทษถังลี่เสวี่ยเช่นกัน

ถังลี่เสวี่ยก็พยักหน้าและยิ้มเบา ๆ ให้กับป่งอี้ แต่เนื่องจากความแตกต่างของความสูง ถังลี่เสวี่ยต้องยกมือขึ้นสูงที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อลูบหัวปิงอี้สองสามครั้ง

ญาญ่าและบังอี้แสดงออกถึงความสุข และความพึงพอใจ ซึ่งทําให้ถังลี่เสวี่ยหัวเราะคิกคักกับพฤติกรรมของพวกเขา

จากนั้นชายหนุ่มรูปงามผมดําก็เข้าหาถังลี่เสวี่ย และพยายามเลียนแบบปิงอี้ เขาก้มศีรษะลงอย่างขอโทษต่อถังลี่เสวี่ย เพียงเพื่อพบกับการจ้องมองที่ดูถูกเหยียดหยามของถังลี่เสวี่ย

ชายหนุ่มรูปงามผมดําหลั่งน้ําตาเมื่อเขาเห็นสายตาที่แปลกแยกของถังลี่เสวี่ยที่มองมาที่เขา

จากนั้นเขาก็กลับกลายเป็นจิ้งจอกโดยไม่รู้ตัว และวิ่งหนีจากถังลี่เสวี่ยไป

รูปร่างที่แท้จริงของเขาคือจิ้งจอกสองหางสีดําที่ใหญ่กว่าร่างจิ้งจอกของถังลี่เสวี่ยเล็กน้อย

ตอนนี้ถังลี่เสี่ยจําจิ้งจอกสองหางได้ จริงๆแล้วเขาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางของถังลี่เสวี่ย ก่อนที่เธอจะเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ นั่นคือ จิ้งจอกดํา!

ตอนนี้ถังลี่เสวี่ยเริ่มรู้สึกผิดจริงๆ ที่ปฏิบัติกับเขาเหมือนคนแปลกหน้า

“รอเดี๋ยว! นี่ไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย โอเค! ก่อนหน้านี้เขามักจะสวมผ้าพันคอสีแดง และหมวกฟาง แล้วฉันจะจําเขาได้ยังไงก็เขาไม่ได้สวมของพวกนั้นอยู่! ฮืม… ถูกแล้ว! ดังนั้นมันเป็นความผิดของเขาเองทั้งหมด!” ถังลี่เสวี่ยตัดสินใจที่จะผลักดันความผิดทั้งหมดของเธอกลับไปที่จิ้งจอกดํา

อย่างไรก็ตาม ถังเสวี่ยจําได้ว่าอาจารย์เหมยหลานพูดอะไรบางอย่างเอาไว้ก่อนหน้านี้ คือ อาจารย์ที่มีผมสีแดงพยายามจะล่อให้เธอเข้าร่วมคลาสปฏิบัติการ เพราะแฟนของเธอหรืออะไรบางอย่าง

“จิ้งจอกสามตัวชั้นยอดที่เข้ามาในนี้โดยไม่จําเป็นต้องผ่านการทดสอบใดๆ ควรจะสามารถเข้าร่วมคลาสเรียนชั้นยอดได้โดยตรงเหมือนกับที่อาจารย์เหมยหลานอธิบายให้เราฟังก่อนหน้านี้” ถังลี่เสวี่ยยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆสักครู่แล้วคิด

ญาญ่าและปิงอี้ต้องการเตือนถังลี่เสวี่ยว่าพวกเขาจะไปสาย ถ้าพวกเขายังอยู่ตรงนี้ต่อไป แต่พวกเขาก็รออย่างอดทน เพราะเห็นว่าถังลี่เสวี่ยเหมือนกําลังจะคิดอะไรที่สําคัญๆอยู่

“เหตุใดผู้สอนผมสีแดงคนนั้นจึงพยายามล่อลวงให้ฉันเข้าร่วมคลาสปฏิบัติการของเธอก่อนหน้านี้ ก็เพราะว่าจิ้งจอกดํานั้นจะตัดสินใจเข้าร่วมชั้นเรียนใดก็ตามที่ฉันอยู่ด้วย” ดวงตาสีฟ้าบุษราคัมของ ถังลี่เสวี่ยสว่างขึ้นหลังจากที่เธอเชื่อมโยงเบาะแสทั้งหมดเข้าด้วยกัน

“หึม… หมายความว่าฉันได้รับ [ศิลปะแห่งการปกปิด] จากอาจารย์เหมยหลานเพราะเขางั้นหรอ? เฮ้อ…. ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกผิดมากขึ้นแล้ว! ฉันควรจะขอโทษเขาเป็นการส่วนตัวในภายหลัง เมื่อฉันได้พบกับเขาอีกครั้ง… ถังลี่เสวี่ยคลิกลิ้นของเธอขณะที่แตะหน้าผากของเธอด้วยนิ้วเรียวของเธอด้วยความรู้สึกผิด

ในขณะที่ถังลี่เสวี่ยกําลังคิด จิ้งจอกสองหางสีเหลืองหวงห่าว และจิ้งจอกสีม่วงสองหางกันอาโอเมียวรีบออกมาจากห้องของพวกเขาในร่างมนุษย์

พวกเขาจ้องไปที่ถังลี่เสวี่ยและปิงอื้อย่างแปลกประหลาดครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเร่งไปยังแผ่นที่ลอยอยู่เพื่อที่พวกเขาจะได้ออกจากอาคารสูงนี้ และมุ่งหน้าไปยังอาคารที่สง่างามในพื้นที่ทางเหนือ

“เอ๊ะ? พวกเขาไปไหน… อี้ย! เกือบลืมไปเลย! เราจะสาย! ไปกันเถอะ ญาญ่า” ถังลี่เสวี่ยตามหวงห่าวและกัน อาโอเมียวอย่างเร่งรีบ เธอรีบไปที่แผ่นลอยอย่างรวดเร็วพร้อมกับปิงอี้ด้วย

หลังจากนั่งบนแผ่นลอย และลงจากชั้น 32 กลับไปที่ชั้น 1 ถังลี่เสวี่ย และกลุ่มของเธอก็กระโดดลงจากที่นั่นแล้วพวกเขาก็รีบออกจากโรงแรมสูงที่หรูหราของพวกเขา

ถังลี่เสวี่ยและกลุ่มของเธอมีเพียง [การแปลงร่าง: ร่างมนุษย์] ที่ไม่สมบูรณ์ของพวกเขาเมื่อวานนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่คุ้นเคยกับร่างมนุษย์ของพวกเขามากนัก

พวกเขาสะดุดหลายครั้งเมื่อวิ่งไปยังอาคารที่งดงามที่สุดในทางเหนือ และเกือบจะก้มหน้าลงกับพื้นสองสามครั้ง โชคดีที่พวกเขาทั้งหมดมีประสบการณ์การต่อสู้ และการตอบสนองที่รวดเร็วจึงทําให้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น

พวกเขาชนคนเดินผ่านไปมาสองสามคนระหว่างทาง และได้รับคําสาปแช่งจากพวกเขาเป็นของขวัญ

โชคดีที่คนที่ผ่านไปมาทั้งหมดนั้นไม่ถือสาอะไรมาก ไม่งั้นเขาคงเริ่มสร้างความวุ่นวาย และขอค่าชดเชยจากถังลี่เสวี่ย และกลุ่มของเธอแล้ว

ในท้ายที่สุด พวกเขาทั้งหมดรวมถึง ถังลี่เสี่ยตัดสินใจยกเลิกการแปลงร่าง: ร่างมนุษย์ และกลับสู่ร่างจิ้งจอกของพวกเขา

ตอนนี้ความเร็วของพวกเขาเพิ่มขึ้นมากในทันที และพวกเขาสามารถพุ่งเร็วขึ้นสามเท่าไปยังสถานที่ที่พวกเขากําลังมุ่งหน้าไปโดยไม่สะดุดหรือชนกับผู้อื่น! เหตุผลก็คือพวกเขาสามารถใช้ความเร็วเต็มที่ได้แล้วตอนนี้ แทนที่จะเป็นหนึ่งในสามของสถานะโดยรวมในร่างมนุษย์ก่อนหน้านี้

พวกเขาทั้งหมดรวมถึงถังลี่เสวี่ยเพิ่งตระหนักได้ว่าตอนนี้ สถาบันจิ้งจอกนับหมื่นนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้

อาคารที่สง่างามในพื้นที่ทางตอนเหนือดูเหมือนอยู่ใกล้พวกเขามาก แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่กว่ายี่สิบนาทีจึงจะไปถึงที่นั่น

ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังต้องค้นหารอบๆ เพื่อค้นหาว่าทางเข้าอาคารจริงๆอยู่ที่ใด หลังจากที่พวกเขามาถึงอาคารอันงดงามนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงมาสายตั้งแต่วันแรกเลย

ถังลี่เสวี่ยและคนอื่น ๆ ดูซีดเซียว และหมดแรงทันทีที่พวกเขามาถึงหน้าอาจารย์เหมยหลาน

“พวกคุณมาช้า เมื่อฉันบอกว่าคุณทุกคนต้องมาที่นี่ก่อน หมายความว่าทุกคนต้องมาเร็วกว่าฉัน! ลบสามสิบเครดิตสําหรับพวกคุณทั้งหมด!” อาจารย์เหมยหลานยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นเคย แต่น้ําเสียงของเธอเห็นได้ชัดว่าไม่อ่อนโยนเลย ขณะที่เธอดุพวกเขาทั้งหมดอย่างรุนแรง

ถังลี่เสวี่ยและคนอื่นๆ เหนื่อยเกินกว่าจะสนใจคําพูดของอาจารย์เหมยหลาน ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยให้คําพูดของเธอเข้ามาทางหูขวา และออกมาจากหูซ้ายของพวกเขา

อาจารย์เหมยหลานปิดปากของเธอด้วยแขนยาว และหัวเราะคิกคักอย่างเงียบ ๆ

หากเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 2 ที่ได้ยินคําพูดของเธอ พวกเขาจะร้องไห้ทันที และขอให้เธอลดโทษลง แต่นักเรียนใหม่เหล่านี้ไม่ตอบสนองเลยเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด

นี่คือเหตุผลที่เธอชอบแกล้งนักเรียนใหม่มากที่สุด และลงโทษพวกเขาอย่างรุนแรง เป็นเพราะเธอชอบใบหน้าตลกๆ ที่พวกเขาจะทําเมื่อรู้ว่าเครดิตเหล่านั้นมีค่าเพียงใดในภายหลัง