เมื่อตอนที่เฉินฮวนฮวนยังเป็นเด็ก เธอถูกครอบครัวเลี้ยงดูมาเหมือนไข่ในหิน เธอทั้งไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว แถมยังถูกเฉินซินโหรวแกล้งหลายต่อหลายครั้ง และเธอก็เพิ่งมาเข้าใจในภายหลัง
ตอนนี้เธอไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว นับประสาการใส่ร้ายของเฉินซินโหรวในครั้งนี้ดูต่ำตมจนชัดเจน ช่างน่าขำเสียจริง
“เดี๋ยวก่อน!”
ในขณะเดียวกันเฉินเหม่ยเจวียนก็ตะโกนใส่เธอแล้วชี้ไปที่เฟิงหานชวนและเฉินฮวนฮวน ดวงตาของเธอเบิกกว้างและพูดไม่รู้เรื่อง: “ตอนที่พวกเธออยู่ข้างนอกประตู พวกเธอไม่ใช่อากับหลานสะใภ้? ทำไมเฉินฮวนฮวนพูดอย่างนั้น…”
เฉินฮวนฮวนนึกออกแล้ว ตอนที่เธออยู่ที่ประตูเธอจับแขนของเฟิงหานชวนและบอกว่าเขาเป็นสามีของเธอ
เฉินฮวนฮวนยิ้มและแขนเรียวของเธอก็โอบแขนของเฟิงหานชวนทันที เธอเงยหน้ามองไปที่เฟิงหานชวนและถามว่า: “ฉันขอเปิดเผยความสัมพันธ์ของเราได้ไหม?”
“คุณไม่ได้เปิดเผยมันไปแล้วเหรอ? ยัยซื่อบื้อ”แน่นอนว่าเฟิงหานชวนไม่ได้รู้สึกกังวลเลยที่จะเปิดความสัมพันธ์ของพวกเขา และไม่แม้แต่จะเป็นทุกข์เลยถ้าเฉินฮวนฮวนป่าวประกาศออกไป
อย่างไรก็ตามเขาไม่ควรแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกตื่นเต้นจนเกินไป เขายังคงต้องรักษาภาพลักษณ์ของเขา ถ้าเขาพูดเกินจริงไป อาจทำให้ภรรยาคนนี้รู้สึกกลัวได้?
“คุณก็เหมือนกันนั่นแหละ”เฉินฮวนฮวนรู้สึกผ่อนคลายลง เธอพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
เธอเพิ่งประกาศกับเฉินเหม่ยเจวียนไปอย่างหุนหันพลันแล่นที่ตรงประตู ดังนั้นจึงถือว่าเป็นการป่าวประกาศไปแล้ว
“พวกคุณต้องการที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะจริงๆเหรอ? ถ้าพวกคุณเปิดเผยไปล่ะก็โดนคนอื่นด่าแน่นอน! “เยี่ยจิ่งเฉินเดินเข้ามาและมองไปที่เฉินฮวนฮวนกับเฟิงหานชวน เขาพูดอย่างซีเรียส
“เยี่ยจิ่งเฉิน คุณเป็นอะไรไป?”เฉินฮวนฮวนรู้สึกพูดไม่ออก เธอปล่อยแขนของเฟิงหานชวนออก และกอดอกของเธอ เธอจ้องไปที่เยี่ยจิ่งเฉินแล้วพูดว่า: “ทำไมพวกเราจึงจะต้องถูกวิจารณ์โดยความคิดเห็นของคนอื่นด้วยล่ะ?”
“คุณเป็นภรรยาของเฟิงเฉินเหยี่ยน แต่คุณกลับมาอยู่กับอาสามของเขา จะมาเปิดเผยความสัมพันธ์แบบนี้ได้อย่างไร?”เยี่ยจิ่งเฉินโต้เถียงคำพูดของเฉินฮวนฮวนและหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา
เขานำรูปถ่ายของเฟิงหานชวนและเฉินฮวนฮวนที่จูบกันในรถออกมาโชว์ให้เฉินฮวนฮวนและเฟิงหานชวนดู
เยี่ยจิ่งเฉินรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ยังคงหายใจเข้าลึกๆและพยายามเรียกความกล้าออกมาแล้วพูดว่า: “ถ้าพวกคุณยอมปล่อยซินโหรวไป ผมก็จะเก็บรูปนี้ไว้เป็นอย่างดีและไม่เผยแพร่มันออกไป”
เฉินฮวนฮวนเห็นภาพที่อยู่บนโทรศัพท์ของเยี่ยจิ่งเฉินอย่างชัดเจน เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ในภาพคือเธอและเฟิงหานชวนอยู่ในรถ คือ…คือคืนนั้นนั่นเอง!
มันเป็นคืนที่นายท่านกลับมา เป็นคืนที่เธอเกือบจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเฟิงหานชวนที่บ้าน
เป็นวันที่เฟิงหานชวนไปที่ร้านชานมเพื่อรอเธอเลิกงาน และเยี่ยจิ่งเฉินเองก็มาหาเธอในวันนั้นเช่นกัน แต่ต่อมาเฟิงหานชวนถูกไล่ออกไป ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆที่เยี่ยจิ่งเฉินแอบอยู่ข้างนอกและดูพวกเขา
“เยี่ยจิ่งเฉิน คุณลบมันทิ้งให้ฉันเลยนะ!”เฉินฮวนฮวนคำราม
เธอไม่คิดว่าแผนของเยี่ยจิ่งเฉินจะสูงขนาดนี้ แอบอยู่ข้างนอกเพื่อรอเธอและเฟิงหานชวนน่ะเหรอ?
ในขณะเดียวกันเฟิงหานชวนก็ใช้มือเข้าไปขวางและก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องเฉินฮวนฮวนทันที จากนั้นก็คว้าโทรศัพท์จากมือของเยี่ยจิ่งเฉินมา
หลังจากนั้นเยี่ยจิ่งเฉินก็สงบลงและถูกบังคับให้คุกเข่าลงกับพื้น
“คุณชายสาม ผมไม่ได้โพสต์รูปภาพเหล่านี้และไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย ผมแค่หวังว่าคุณจะปล่อยพวกเราไปและปล่อยครอบครัวเฉินไปก็เท่านั้นเอง”ท่าทางของเยี่ยจิ่งเฉินนั้นดูจริงจังมาก
เฟิงหานชวนทำเพียงแค่หัวเราะเยาะ
“อาเฉิน คุณรู้วิธีทำลายพวกเขาแล้วทำไมคุณไม่บอกฉัน? คุณปิดบังฉันไปกี่เรื่องแล้ว? “ตอนนี้เฉินซินโหรวเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างเฟิงหานชวนและเฉินฮวนฮวนอย่างแจ่มแจ้งแล้ว เพราะอย่างนี้ไง ถึงว่าทำไมเฟิงหานชวนถึงยืนหยัดเคียงข้างเฉินฮวนฮวน
เดิมทีเฟิงหานชวนเป็นอาสาม ไม่คาดคิดเลยว่าจะเข้าไปพัวพันกับหลานสะใภ้ของเขาเอง นี่ถือว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่สำหรับตระกูลเฟิง!
เฉินซินโหรวกัดฟันแน่น เฉินฮวนฮวนมีเสน่ห์อะไรขนาดนั้นถึงทำให้เฟิงหานชวนติดกับ เธอประเมินเฉินฮวนฮวนต่ำไปจริงๆ
“ฮวนฮวน! เธอทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? “เฉินเจี้ยนหมินยืนขึ้นและชี้ไปทางเฉินฮวนฮวน จากนั้นก็ตะโกนด้วยความโกรธว่า: “เธอกล้ายั่วอาของสามีตัวเองได้ยังไง!”
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมนายท่านเฟิงถึงหยุดอัดฉีดทุนให้กับเฉินซื่อกรุ๊ป สรุปแล้วก็เป็นเพราะลูกสาวคนที่สองของเขาที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจนี่เอง กล้าทำสิ่งนี้กับตระกูลเฟิงได้อย่างไร
“เธอทำให้ฉันรู้สึกอับอายจริงๆ! เธอมันไม่รู้จักละอาย ไร้ยางอายจริงๆ! “เฉินเจี้ยนหมินสาปแช่งเฉินฮวนฮวน
“คุณเฉิน”เฟิงหานชวนเอ่ยเบาๆและก้าวไปข้างหน้าเพื่อกันเฉินฮวนฮวนเอาไว้ข้างหลังของเขา
“ใช่ๆๆ คุณชายสาม ลูกสาวของผมทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ กล้าดียังไงถึงมายั่วยวนอาสาม ผมไม่สามารถสอนเด็กผู้หญิงคนนี้ให้ดีได้จริงๆ!”เฉินเจี้ยนหมินโค้งคำนับให้เฟิงหานชวนซ้ำแล้วซ้ำอีก
เฉินเจี้ยนหมินเป็นเหมือนกับจิ้งจอกแก่ๆ พอพูดไปแบบนี้ก็ด่าลูกสาวของตัวเอง ทำเป็นเตือนเฟิงหานชวนและบอกเฟิงหานชวนว่าเขากับเฉินฮวนฮวนทำเรื่องอื้อฉาวให้กับตระกูลเฟิง และบอกให้เขาไม่ออกตัวแทนเฉินฮวนฮวน
เฟิงหานชวนไม่เข้าใจความหมายของเฉินเจี้ยนหมิน เขาเยาะเย้ยอย่างเย็นชาและพูดว่า: “ในฐานะที่คุณเป็นพ่อตาของผม เมื่อสักครู่ผมอุตส่าห์สุภาพกับคุณแล้ว ในเมื่อคุณไม่อยากเสียหน้า ผมเองก็จะไม่ไว้หน้าคุณแล้ว”
“อะ อะไรนะ?”เฉินเจี้ยนหมินเงยหน้ามองขึ้นไปที่เฟิงหานชวนที่สูงกว่าเขาด้วยใบหน้าที่มึนงงพร้อมกับสีหน้าตื่นตระหนกที่แผ่ออกมาจากข้างใน
เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเลย
“คุณเฉินเองก็จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่ดี ไม่รู้ความหมายของคำว่าพ่อตาเลยเหรอ?”เฟิงหานชวนถามกลับ ในขณะเดียวกันก็เอื้อมมือไปโอบเฉินฮวนฮวนเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขา
เขาหันหน้าไปมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากเย็นชาเป็นอ่อนโยน อบอุ่นราวกับแสงสว่างที่ทอดยาวจากขั้วโลกใต้จนไปถึงขั้วโลกเหนือ
เฉินฮวนฮวนเงยหน้าขึ้นและเห็นสายตาที่จ้องมาที่เธอของเฟิงหานฉวน เธอรู้สึกว่าเธอกำลังจะถูกดึงดูดด้วยสายตาตาที่แสนอ่อนโยนของเฟิงหานชวน
“พะ พ่อตา….”เฉินเจี้ยนหมิงพึมพำและทรุดลงไปกับพื้น
ใบหน้าของเขาซีดลงทันที แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสามีของเฉินฮวนฮวนในตอนนี้คือเฟิงหานชวน
“เฟิงหานชวน คุณอย่ามาหลอกคนอื่นนะ! คุณกลัวว่าอาเฉินจะเผยแพร่รูปพวกนี้ออกไปและทำให้ตระกูลเฟิงอับอายใช่ไหม? “เฉินซินโหรวมีสีหน้าหน้าที่โกรธแค้น เธอกัดฟันและคำราม: “เฉินฮวนฮวนแต่งงานกับเฟิงเฉินเหยี่ยนหลานชายที่ไม่ได้เรื่องของคุณอย่างเปิดเผย แล้วทำไมคุณถึงกลับกลายเป็นสามีของเธอได้ล่ะ? พวกคุณสองคนกำลังโกหก!”
“อาเฉียง”เฟิงหานชวนกล่าว
“ครับ คุณชายสาม”บอดี้การ์ดชุดดำเดินออกมา
“ปิดปาก”เสียงต่ำๆของเขาเหมือนเสียงเชลโล่ที่ไพเราะ
แต่บรรยากาศในห้องนั่งเล่นกลับเย็นลงอย่างกะทันหัน
อาเฉียงบอดี้การ์ดได้รับคำสั่งและเดินเข้าไปหาเฉินซินโหรวทันที เขายืนอยู่ข้างหลังของเฉินซินโหรวและดึงผมของเธอ หัวของเธอถูกบังคับให้ยกขึ้น
“เพี๊ยะ”เสียงมันดังมาก
“อ๊าย!”
เฉินซินโหรวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด รอยนิ้วมือสีแดงห้านิ้วปรากฏบนแก้มขาวๆของเธอ