บทที่ 270 เข้าสู่ปัญหา

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 270 เข้าสู่ปัญหา

บทที่ 270 เข้าสู่ปัญหา

โจวอี้มองสมาชิกตระกูลหยวนด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

บุญคุณความแค้นระหว่างตระกูลหยวนกับผู้อื่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

เขาเป็นแค่หมอ

หมอที่มีหน้าที่รักษาและช่วยชีวิตผู้ป่วยเท่านั้น

โจวอี้ไม่ได้รักษาหญิงชราเพราะเขาไม่มีทางช่วยได้ แต่สำหรับชายชราหยวนนั้นสามารถรักษาได้

หลังจากฝังเข็มล้างพิษแล้ว เขาก็เขียนใบสั่งยาให้หยวนตงลู่

“หมอโจว แล้วพิษในตัวผมกับน้องสาว…” หยวนตงลู่ดูลังเล

“ผมช่วยคุณแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าหากผมช่วยพวกคุณทั้งหมด แผนที่อีกฝ่ายวางไว้จะล้มเหลว และก่อนที่คุณจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร อีกฝ่ายจะยิ่งเดือดดาลมากกว่าเดิม และเมื่อถึงตอนนั้น อีกฝ่ายคงจะฆ่าพวกคุณด้วยยาพิษที่รุนแรงกว่านี้ ถูกต้องไหม?” โจวอี้อธิบายอย่างใจเย็น

“เอ่อ…” หยวนตงลู่ลังเลขึ้นมาอีกรอบ

เขารู้ว่าโจวอี้พูดถูก

หากยังหาตัวคนทำผิดไม่พบแล้วถอนพิษออกไปทั้งหมดเสียก่อน อีกฝ่ายคงจะทั้งโกรธและอับอาย ซึ่งนั่นอาจจะนำไปสู่การใช้พิษที่รุนแรงที่สุดเพื่อปิดฉากครอบครัวของเขาทันที

แต่จะรู้ได้ยังไงว่าคนที่ลงมือคือใคร?

“คุณจำไม่ได้จริง ๆ เหรอว่าคุณเคยทำให้ใครโกรธเคืองมาก่อน ตระกูลหยวนของคุณไม่มีศัตรูเลยจริง ๆ เหรอ?” โจวอี้ถามหยวนตงลู่

“นี่…” หยวนตงลู่เปิดปากแล้วเงียบไป

แน่นอนว่าตระกูลหยวนมีศัตรู…หลายคนเลยด้วยซ้ำ

พวกเขาอยู่ในแวดวงธุรกิจมาหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่วงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และมีส่วนร่วมในการรื้อถอนซึ่งเป็นสาเหตุไม่ทางตรงก็ทางอ้อมที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตหรือพิการ ดังนั้นจึงชัดเจนว่ามีคนจำนวนมากที่จะต้องเกลียดชังตระกูลหยวน

โจวอี้เห็นท่าทีของอีกฝ่ายแล้วก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ยอมพูด เขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะถามต่อ

จากนั้นโจวอี้ก็เบนสายตาไปที่หยวนโหรวและเอ่ยว่า “ผมขอเงินค่ารักษา”

“เท่าไหร่?” หยวนโหรวถาม

“500,121 หยวน”

“…” หยวนโหรวจ้องมองอย่างโง่งม

นั่นไง!

ชายคนนี้ต้องการเงินที่ซื้อเฟอร์เร็ตคืน!

แต่ทำไมมันถึงมีเพิ่มมาอีก 120 หยวน?

โจวอี้มองสีหน้าโง่งมของเธอและเดาว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาพูดต่อไปอีกว่า “ค่ารถ 60 หยวน ไปกลับรวมเป็น 120”

“ได้ คุณชนะแล้ว!” หยวนโหรวไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอไม่คิดเลยว่าหมอโจวจะมีนิสัยพยาบาทขนาดนี้!

แต่เขาก็เก่งในด้านการแพทย์อย่างที่ใครก็เถียงไม่ได้!

เงินครึ่งล้าน…ฉันยอมให้!

โจวอี้กล่าวลาครอบครัวหยวนและเดินออกจากบ้าน ในขณะที่เหลียนซานก็เดินตามเขามาด้วย

“คุณกำลังจะไปไหน?” โจวอี้ถาม

“กลับบ้านค่ะ” เหลียนซานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา “หมอโจว คุณช่วยครอบครัวของหยวนโหรวได้ไหม? เธอเป็นเพื่อนของฉัน และเราสนิทกันมาก ฉันไม่อยากเห็นพวกเขาต้องเป็นอะไรไป”

“หมอเหลียน การเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความแค้นระหว่างผู้อื่นคือการทำให้ตัวเองเข้าไปสู่วังวนแห่งความบาดหมางที่จบลงด้วยเลือด วิธีการของอีกฝ่ายนั้นโหดร้ายมาก เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนในตระกูลหยวนได้กระทำบางอย่างที่ไม่น่าให้อภัย คุณต้องการที่จะเข้าไปอยู่ในวังวนนั้นจริง ๆ เหรอ?” โจวอี้ถามอย่างใจเย็น

“ฉันไม่ต้องการแบบนั้น แต่ฉันแค่อยากปกป้อง…” คำพูดของเธอเริ่มอึกอัก

ทันใดนั้น เธอก็ตระหนักได้ว่าเธอคงจะกลายเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ หากจะต้องปกป้องตระกูลหยวน

อีกฝ่ายต้องการให้ตระกูลหยวนตายด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง ดังนั้นหากเธอปกป้องตระกูลหยวน มันก็เหมือนกับว่าเธอยืนหยัดที่จะต่อสู้กับอีกฝ่าย

โจวอี้มองใบหน้าซีดเซียวของเหลียนซาน ก่อนจะตบไหล่เธอแล้วพูดว่า “ผมรู้ว่าคุณเป็นคนจิตใจดี แต่การที่คุณเข้าไปแทรกแซงเรื่องบุญคุณความแค้นของคนอื่นแบบนี้ มันเป็นไปได้มากว่าจะเป็นคุณเองที่ถูกไฟคลอกตาย หรือไม่ก็ไฟนั้นอาจจะลามไปเผาครอบครัวของคุณทั้งหมดด้วยซ้ำ ดังนั้น ถ้าหากเจอเรื่องแบบนี้อีก ต้องคิดให้ชัดเจนแล้วตัดสินใจดี ๆ”

“อืม!” เหลียนซานพยักหน้าอย่างหดหู่

“แต่ผมก็สามารถทำอะไรบางอย่างได้นะ”

“คุณจะทำอะไร?” เหลียนซานถาม

“โฮ่ ๆ…”

โจวอี้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดหมายเลขของใครบางคน หลังจากที่อีกฝ่ายรับสาย เขาก็เล่าเรื่องราวของตระกูลหยวน สุดท้ายก็เสริมว่า “ปรสิตโลหิตเป็นพิษมาก ผมคิดว่าคุณควรจัดการพวกมัน ไม่งั้นมันอาจจะปลิดชีวิตคนอีกมากถ้าคนคนนั้นใช้มันทำความชั่ว”

“เราจะค้นหาและกำจัดมันทันที!”

“อืม!”

โจวอี้วางสาย เขามองเหลียนชานซึ่งเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ มีคนเต็มใจที่จะจัดการเรื่องราวนี้แล้ว น้องสาวคนดีของคุณจะไม่ตาย เราไปกันเถอะ!”

“หมอโจว คุณโทรหาใคร?”

“ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าคนได้ เข้าใจไหม?” โจวอี้เอ่ยขึ้น

“…”

เหลียนซานไม่ถามอะไรอีก เธอเดินตามโจวอี้ไปด้วยสายตาแปลก ๆ เธอคิดว่าหมอโจวดูลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ

โจวอี้กลับไปถึงช็องเซลิเซ่ ลานติง วิลล่าโดยที่ประหยัดเงินไปได้ 60 หยวนเพราะเหลียนซานมาส่งเขา

หลังจากกล่าวขอบคุณแล้ว ขณะที่โจวอี้กำลังจะเข้าไปในบ้าน เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากถงหู่

“เสี่ยวหู่ นายยังไม่กลับมาอีกเหรอ?” โจวอี้ถาม

“ยังเลย ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ”

“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”

“ผมติดตามขบวนรถที่ขนส่งวัตถุดิบยาไปถึงท่าเรือในเซี่ยงไฮ้ และพบว่าวัตถุดิบยาทั้งหมดถูกขนถ่ายใส่ตู้คอนเทนเนอร์แล้ว จากนั้นพวกมันก็ถูกขนเข้าไปเก็บในโกดัง ผมจับตาดูโกดังนั้นนานกว่าครึ่งวัน และพบว่ามีวัตถุดิบยาอีกสามขบวนรถที่ถูกเอามาเก็บในโกดังเพิ่ม”

“นี่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะซื้อวัตถุดิบยาในตลาดยาจินหลิงเท่านั้น แต่ยังกว้านซื้อมาจากเมืองอื่น ๆ อีก พวกเขากำลังทำอะไรกันแน่?” โจวอี้ถาม

“มีคนอย่างน้อยหลายสิบคนเฝ้าอยู่รอบโกดัง มีทั้งแบบเปิดเผยและแอบซุ่ม พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ฝึกยุทธ์ และสองคนในจำนวนพวกเขาก็แข็งแกร่งมาก” ถงหู่กล่าว

แข็งแกร่งมาก?

ถงหู่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับปรมาจารย์ แต่กลับพูดว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก หมายความว่าอีกฝ่ายย่อมไม่อ่อนแอไปกว่าระดับปรมาจารย์ใช่ไหม?

โจวอี้ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นมาว่า “เสี่ยวหู่ มีกองกำลังมากมายในโลกผู้ฝึกยุทธ์ที่เราไม่รู้จัก และยังมีอีกหลายตัวตนที่เราไม่สามารถเข้าไปยุ่งด้วยได้ ดังนั้นนายไม่ต้องเฝ้าแล้ว กลับมา และจำไว้ว่าอย่าให้ใครตามมาได้”

“พี่…” เสียงถงหู่หยุดไปกะทันหัน

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เจอแล้ว! ไอ้เวร…”

คำสบถสุดท้ายดังขึ้นก่อนที่จะมีเสียงต่อสู้ดังขึ้นจากปลายสาย มันเป็นเสียงปะทะกันของอาวุธมีคม จากนั้นการโทรก็สิ้นสุดลงทันที

หลังจากสายถูกตัดไปแล้ว สีหน้าของโจวอี้ก็ย่ำแย่ลง

“คุณย่า…”

“เกิดอะไรขึ้น?” แม่เฒ่าเทียนจี้ออกมาจากบ้านพร้อมไม้เท้าด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง

“ถงหู่อาจตกอยู่ในอันตราย เรารีบไปที่เซี่ยงไฮ้กันเถอะ!” โจวอี้กล่าว ก่อนจะหันไปหาเหลียนซานที่ตื่นตระหนกกับการปรากฏตัวของแม่เฒ่าเทียนจี้อย่างกะทันหัน

“หมอเหลียน ผมยืมรถของคุณหน่อย! ส่วนคุณเรียกแท็กซี่กลับไปเองก่อน!”

“ได้…” ทันทีที่เหลียนซานพยักหน้าตกลง เธอก็เห็นว่าโจวอี้และแม่เฒ่าเทียนจี้ได้เข้าไปนั่งอยู่ในรถแล้ว

จากนั้นรถก็พุ่งทะยานไปข้างหน้า!