บทที่255 ฉันต้องการหม่ามี้
“ยาไม่รู้ชนิดงั้นเหรอ?ยานี้จะทำให้ความทรงจำหายไปด้วยงั้นเหรอ?” ลี่จุนซินได้ยินแบบนี้ก็ตกใจไม่น้อยเลย
“แต่เมื่อมาคิดๆ ดูแล้ว ยาพวกนี้มันผิดกฎหมาย อีกอย่างคนที่กรอกยาใส่ปากจะต้องใจโหดมาก กรอกยาเยอะขนาดนี้โดยไม่เบามือกับเด็กเลยล่ะ” หลันเยว่เฉินมีแววตาแห่งความเกลียดชังขึ้นมา
เขาทำงานด้านการแพทย์มาตั้งนาน ยังไม่เคยเห็นใครลงมือกับเด็กได้มากขนาดนี้เลย
ลี่จุนถิงกลัวว่ายาไม่ทราบชนิดนี้จะไปทำลายร่างกายของถวนจื่อ: “แล้วยานี้มีผลอะไรกับร่างกายของถวนจื่อไหม?”
หลันเยว่เฉินส่ายหัว: “ถวนจื่อจะไม่ได้รับอันตรายต่อชีวิต แต่ว่า……”
หลันเยว่เฉินพูดพลางมองลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงมองท่าทีของหลันเยว่เฉิน ในใจก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม: “คุณมองฉันทำไม พูดมาเลยตรงๆ”
“แต่ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับสมองของถวนจื่อหรือเปล่า ยาชนิดนี้มันแรงมาก จะเกิดปปัญหากับประสาทแน่นอน”
ลี่จุนถิงนิ่งไป ก่อนจะจับมือของหลันเยว่เฉิน: “เกิดปัญหากับสมองหมายความว่าอย่างไร ถวนจื่อฉลาดขนาดนี้เขาจะ……”
ถวนจื่ออยู่กับเขามาตั้งนาน ความฉลาดของเขานั้นลี่จุนถิงเคยเห็นอย่างแน่นอน ถ้าเกิดสมองเกิดปัญหา ถึงแม้ต้วเองจะรับได้ แต่ไม่รู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะรับได้หรือเปล่า
“ฉันเพิ่งจะล้างท้องให้เขา แต่ว่า อาจไม่ได้ผลดีเท่าไหร่ ดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะเตรียมใจเอาไว้ดีๆ” หลันเยว่เฉินพูดจบก็ถอนหายใจ เขาเองก็ชอบเด็กคนนี้ ไม่ใช่แค่น่ารัก ปากหวาน แถมฉลาดอีกด้วย
ถ้าเกิดว่าเกิดปัญหากับสมองจริงๆ หลันเยว่เฉินทำได้แค่บอกว่าเสียดายความสามารถของเด็กคนนี้จริงๆ เลย
หลันเยว่เฉินพูดจบ ลี่จุนถิงก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาไร้แวว
ลี่จุนซินยืนอยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน ตอนนี้เขาก็มีสีหน้าซีดไปเหมือนกัน
หลันเยว่เฉินพูดมากไปกว่านี้ ลี่จุนซินคิดว่าสีหน้าตัวเองจะดูแย่มากกว่าเดิม
จู่ๆ เธอก็วงวัย ว่าก่อนหน้านี้ที่ตัวเองทำไปนั้นมันถูกหรือเปล่า
เพื่อไม่ให้เจียงหยุนเอ๋อกับน้องชายตัวเองคบกัน เลยดึงเด็กคนนี้เข้ามาด้วย ทำให้เขาถูกคนอื่นมาทำแบบนี้ใส่
ตอนแรก ความรู้สึกผิดมันขึ้นมาในใจ ลี่จุนซินขบริมฝีปาก ก่อนจะก้มหน้าขอโทษลี่จุนถิง: “จุนถิง ขอโทษนะ ทั้งหมดเป็นเพราะพี่ไม่ดีเอง ไม่ควรจะลากถวนจื่อเข้ามาด้วยเลย”
ลี่จุนถิงจ้องลี่จุนซินด้วยสายตาเย็นชา: “หึ คุณไม่ต้องมาขอโทษฉัน เดี๋ยวถวนจื่อฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณไปขอโทษเขาด้วยตัวเองเถอะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ลี่จุนซินก็ก้มหน้าไม่พูดอะไร
ลี่จุนถิงกำหมัดแน่น ก่อนจะกัดฟันพูดออกไป: “ฆาตกรโหดร้ายขนาดนี้ ถึงแม้ฉันจะต้องตามหามากแต่ไหนฉันก็จะไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน”
ลี่จุนซินคิดในใจ ถ้าเกิดสุดท้ายฆาตกรปรากฏตัวแล้ว เธอเองก็จะไม่ปล่อยฆาตกรคนนั้นไปเด็ดขาด
เมื่อถวนจื่อถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน ลี่จุนถิงกับลี่จุนซินก็รีบเดินตามเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย
ลี่จุนถิงนั่งอยู่ข้างเตียงตลอดเวลา ลี่จุนซินโน้มน้าวให้ลี่จุนถิงไปพักผ่อน แล้วให้คนรับใช้มาดูแลถวนจื่อแทน
ใครจะไปรู้ว่าลี่จุนถิงจะพูดว่า: “หรือว่าคนรับใช้ดูแลไม่พออีกเหรอ?ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะคนรับใช้พวกนี้ ถวนจื่อคงจะไม่เกิดอะไรขึ้นแบบตอนนี้หรอก”
ลี่จุนซินได้ยินดังนั้นก็ก้มหน้าลง เขารู้ว่าที่ลี่จุนถิงอ้างนั้น อันที่จริงอยากจะบอกว่าตัวเองไม่ควรเอาพวกเขาแม่ลูกมาขังไว้
แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้จะมาเสียดายก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ลี่จุนซินเห็นว่าโน้มน้าวลี่จุนถิงไม่ได้ ก็เลยอยู่ในห้องพักผู้ป่วยไม่นานก่อนจะออกไป
ตกดึก ถวนจื่อยังไม่ฟื้นขึ้นมา
ซู่จี้งยี้เองก็มาที่โรงพยาบาลเพื่อหาลี่จุนถิง
“คุณ จับตาดูตระกูลส้งให้ดี” ลี่จุนถิงมองถวนจื่อที่อยู่บนเตียง ด้วยแววตาอ่อนโยน แต่น้ำเสียงกลับเย็นชา
“ทำไมต้องจับตามองตระกูลส้ง?” ซู่จี้งยี้ไม่เข้าใจ
ลี่จุนถิงพูดด้วยเสียงเย็นชา: “ฉันเพิ่งจะบอกว่าไม่แต่งงาน สุดท้ายถวนจื่อก็ถูกปล่อยออกมา คุณคิดว่าเรื่องนี้นอกจากตระกูลส้ง จะมีใครทำอีกเหรอ?”
ซู่จี้งยี้อึ้งไป พูดแบบนี้ก็มีเหตุผล ถ้าเกิดพูดกันอีกอย่าง ก็คือว่าบังเอิญเป็นอย่างมาก
ลี่จุนถิงสงสัยเป็นอย่างมาก เจียงหยุนเอ๋อก็ถูกคนตระกูลส้งจับไปหรือเปล่า
“ครับ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะส่งคนไปจับตามอง” พูดจบ ซู่จี้งยี้ก็ออกไป
ยังดีที่ วันที่สอง ถวนจื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว
เมื่อเห็นถวนจื่อลืมตาขึ้นมา ลี่จุนถิงที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงทั้งคืนก็รีบเข้ามา ใบหน้ามีความตื่นเต้นดีใจไม่น้อยเลย
เหมือนกับเขาเป็นคนที่จะไม่แสดงสีหน้าออกมา แต่ทำให้เขาแสดงอารมณ์ออกมาได้แบบนี้มันไม่ง่ายเลยล่ะ
จากนั้น เมื่อเห็นอารมณ์ของถวนจื่อ ลี่จุนถิงก็เกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นมา
ตอนแรกเขายังมีความหวังอยู่ แต่มาเห็นตอนนี้ เหมือนกับที่หลันเยว่เฉินพูดไม่มีผิด สีหน้าของถวนจื่อนั้นดูไม่ดีเลย
แววตาของถวนจื่อนั้นยังไม่ได้สติ มองลี่จุนถิงอยู่นาน ก็เอียงคอถามออกมา: “คุณเป็นใครเหรอ?”
สีหน้าของลี่จุนถิงนั้นหนักใจมากกว่าเดิม เขาเงียบไปนาน กว่าจะฝืนยิ้มออกมา: “ถวนจื่อ ฉันแด๊ดดี้ไง”
“แด๊ดดี้?แต่ว่า……ฉันจำคุณไม่ได้” ถวนจื่อมองลี่จุนถิงด้วยความสงสัย
เมื่อได้ยินแบบนั้น ในใจของลี่จุนถิงก็หนักอึ้ง ดูๆ ไปแล้ว……ถวนจื่อจะจำตัวเองไม่ได้จริงๆ
“ถวนจื่อ หลายวันมานี้คุณไปไหนมา?คุณยังจำได้ไหม?”
เมื่อได้ยินคำถามของลี่จุนถิง ถวนจื่อก็คิดอย่างเชื่อฟัง แต่เพียงไม่นาน เขาก็เอามือกุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวด พลางพูด: “โอ้ย……ทำไมฉันคิดอะไรไม่ออกเลย ปวดหัวมาก……”
เห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ลี่จุนถิงก็พูดออกไปด้วยความรีบร้อน: “คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิดแล้ว!”
“จริงสิ!ฉันต้องไปหาหม่ามี้!” จู่ๆ ถวนจื่อก็คิดขึ้นมาได้ แต่เพียงไม่นานก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด “แต่ว่า หม่ามี้อยู่ที่ไหนกันแน่นะ?”
เมื่อเห็นถวนจื่อทำท่าคิด ลี่จุนถิงเลยลองถาม: “คุณยังจำได้ไหมว่าหม่ามี้คือใคร?”
“จำได้อยู่แล้ว!หม่ามี้ฉันชื่อเจียงหยุนเอ๋อ!” ถวนจื่อพูดด้วยความมั่นใจ
เมื่อดูๆ ไปแล้ว ถึงถวนจื่อจะลืมเรื่องไปมากมาย แต่กับคนที่คุ้นเคย ก็ยังจำได้อยู่ในใจ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ลี่จุนถิงก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
“ถวนจื่อฟังนะ ฉันจะช่วยหาหม่ามี้ แต่ตอนนี้คุณต้องอยู่ในโรงพยาบาลรักษาตัวก่อน รู้ไหม?” ลี่จุนถิงพูดกับถวนจื่อด้วยความอดทน
ถวนจื่อมองลี่จุนถิงด้วยความสงสัย พลางถาม: “แต่ว่า ทำไมคุณต้องมาช่วยฉันหาหม่ามี้ด้วยล่ะ?”