บทที่254 สถานการณ์ของเด็กไม่ดีเท่าไหร่
“อุบัติเหตุนั้นตรวจสอบมาแล้ว ทางตำรวจก็ตรวจสอบแล้ว ตอนนี้สามารถยืนยันได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นคือคุณนาย” ซู่จี้งยี้เอาข้อมูลที่เอามาให้เจียงหยุนเอ๋อ
ลี่จุนถิงรับมาจากมือของซู่จี้งยี้มือสั่น สุดท้ายเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เกิดขึ้น
นี่ถือเป็นข่าวดีหรือเปล่าเนี่ย?
ผ่านมาหลายวันแล้ว ถึงจะได้ข่าวของเจียงหยุนเอ๋อแล้ว แต่กลับเป็นข่าวที่เจียงหยุนเอ๋อตกลงไป แล้วไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร
ลี่จุนถิงไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้ตัวเองควรดีใจหรือเสียใจ
“ในกระเป๋าเป็นเสื้อผ้าขายรุ่ยของคุณนาย เป็นตายที่ตกลงไป ถูกต้นไม้เกี่ยวขาด” ซู่จี้งยี้เห็นว่าลี่จุนถิงมองเศษเสื้อที่ขาดที่อยู่ในถุงใส
ลี่จุนถิงขมวดคิ้วเป็นปม เพราะก่อนหน้าที่เจียงหยุนเอ๋อจะเกิดอุบัติเหตุ ลี่จุนถิงไม่เห็นเจียงหยุนเอ๋อ ดังนั้นเลยไม่มั่นใจนี่ใช่เจียงหยุนเอ๋อหรือเปล่า
ซู่จี้งยี้หยิบออกมาจากกระเป๋าอีกด้าน: “มีสร้อยคออีก น่าจะเป็นของคุณนายที่ทำตก”
ลี่จุนถิงมีม่านตาหดลง ไม่รู้ว่าเสื้อผ้านั้นใช่หรือไม่ แต่ว่าสร้อยเส้นนี้ ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อใส่อยู่ตลอด และเป็นเส้นที่เธอชอบมากที่สุดด้วย
“อีกอย่าง……” ซู่จี้งยี้พูดไปได้สักพักก็ลังเล
“พูด!” ลี่จุนถิงไม่อยากจะทำร้ายตัวเองทีละนิดๆ แล้ว พูดออกมาให้หมดเลยดีกว่า
“นี่เป็นรอยเลือดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายเอาไว้ได้” ซู่จี้งยี้พูดพลางส่งรูปให้ลี่จุนถิง
เมื่อครู่เป็นแค่ถุงสองใบ เขาไม่กล้าส่งรูปให้ เพราะกลัวว่าลี่จุนถิงจะรับไม่ได้
ช่วงนี้ลี่จุนถิงดูซึมลงเพราะเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อไปไม่น้อย แล้วก็ผอมซูบลงด้วย
เมื่อก่อนเขาที่ดูดีตลอด ตอนนี้คางก็มีหนวดเคราเฟิ้ม แต่กลับดูหล่อมากขึ้นหลายเท่าเลย
ลี่จุนถิงรับรูปจากซู่จี้งยี้ และคิดว่ารอยเลือดสีดำแดงในรูปนั้นมันทิ่มแทงตา อ้าปากค้าง ก่อนจะพูดออกไปด้วยเสียงแหบแห้ง: “เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอย่างไร?”
“ฉันไปยืนยันกับทางตำรวจ มั่นใจได้นี่เป็นรอยเลือดของคุณนาย แต่ว่า” ซู่จี้งยี้เงยหน้ามองลี่จุนถิง ก่อนจะพูดต่อ “แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่เจอคุณนาย คงจะถูกช่วยแล้ว หรือไม่ก็……”
คำพูดประโยคหลังนั้น ซู่จี้งยี้เองก็ไม่กล้าพูด เขากลัวว่าลี่จุนถิงจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ที่ตัวเองพูดออกไปเมื่อครู่ สีหน้าของลี่จุนถิงดูไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ เลย
ลี่จุนถิงเอาแต่จ้องรูปภาพนั้น ในมือก็อดไม่ได้ที่จะกำแน่น รูปก็ถูกกำเอาไว้เหมือนกัน
ไม่รู้ว่าตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อจะเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ลูกในท้องของเธอด้วย
ลี่จุนถิงพูดเสียงเย็นชา: “ไปตรวจสอบ ให้ได้วงกว้างที่สุด ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาให้เจอ” ลี่จุนถิงกลืนน้ำลาย ประโยคท้าย พูดออกมาอย่างยากเย็น “ถึงจะตาย ฉันเองก็ต้องเห็นศพเธอ”
“ครับ” ซู่จี้งยี้รู้สึกได้ถึงความกดดันของลี่จุนถิง เขาเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ ไม่ให้ตัวเองจะบ้าตาย
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของลี่จุนถิงก็ดังขึ้นมา
ลี่จุนถิงรับสายอย่างหน้ามืดมน: “ฮัลโหล”
“จุนถิง คือว่า……” ลี่จุนซินพูดตะกุกตะกัก
เมื่อได้ยินเสียงของลี่จุนซิน ลี่จุนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เหมือนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก: “พูดสิ”
เพียงคำเดียว ลี่จุนซินแค่คิดว่าปลายสายนั้น เธอรู้สึกได้ถึงความโกรธของลี่จุนถิงเป็นอย่างมาก
“ถวนจื่อกลับมาแล้ว แต่ว่าสถานการณ์ของเขานั้นมันเหมือนจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“อะไรนะ?” เมื่อได้ยินข่าวนี้ ลี่จุนถิงก็ดีใจและตกใจมาก
หาถวนจื่อเจอแล้ว ลี่จุนถิงก็ดีใจ แต่เกิดเรื่องกับถวนจื่อ ลี่จุนถิงก็เป็นห่วงเป็นอย่างมาก
เจอเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ตอนนี้สถานการณ์ของตัวเองก็ตื่นตัวขึ้นเป็นอย่างมาก
“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” ลี่จุนถิงยืนขึ้นก่อนจะออกจากห้องทำงาน
“ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล คุณรีบมาดูเถอะ” ลี่จุนซินพูดด้วยความร้อนใจ
หลังจากที่ลี่จุนถิงวางสายก็ออกจากห้องทำงาน: “โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
ลี่จุนถิงขับรถ เหยียบคันเร่งเต็มแรง โดยไม่รู้ว่าฝ่าไฟแดงไปเท่าไหร่แล้ว
แต่เขารีบเร่งมากจริงๆ เลยไม่ได้สนใจขนาดนั้น
ตอนที่ลี่จุนถิงไปถึงโรงพยาบาล ลี่จุนซินยังอยู่
“จุนถิง” ลี่จุนซินรีบเข้ามาต้องรับ
ลี่จุนถิงพูดพลางเดินไปด้วยความรีบร้อน จากนั้นจึงถามด้วยความเป็นห่วง: “ตอนนี้ถวนจื่อเป็นอย่างไรบ้าง? ”
“ตอนนี้กำลังช่วยอยู่ ฉันเองก็ไม่รู้แน่ชัดเท่าไหร่” ลี่จุนซินเงยหน้ามองห้องผ่าตัดด้วยความร้อนใจ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ลี่จุนถิงหรี่ตาลง ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “ถวนจื่อกลับมาเองงั้นเหรอ?”
ลี่จุนซินพยักหน้า
“เขากลับมาได้อย่างไร?”
“ตอนเช้าตรู่ ถวนจื่อถูกทิ้งอยู่ข้างถนนของคฤหาสน์ หลังจากที่ยามมาเห็นเข้า เลยติดต่อฉัน” ลี่จุนซินอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
ลี่จุนถิงโกรธเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้แล้วว่าอารมณ์ตอนนี้มันเป็นอย่างไร
เมื่อได้ฟังคำพูดของลี่จุนซิน และคิดภาพตาม ลี่จุนถิงก็สงสารจับใจ และโกรธเป็นอย่างมาก
ลูกของเขานั้นควรจะเป็นคนใหญ่คนโตอันดับต้นๆ เลย แล้วดูตอนนี้สิ?
ถูกคนเอามาทิ้งไว้ข้างทาง?ตอนเช้าตรู่งั้นเหรอ?
“จากนั้นฉันพาเขากลับไปที่คฤหาสน์ ให้คนดูแลเขาให้ดี แต่จากนั้นฉันพบว่าเขาบาดเจ็บ แถมสถานการณ์ดูไม่ดี ฉันเลยส่งเขาไปโรงพยาบาล” ลี่จุนซินกลัวว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น
ลี่จุนถิงนิ่งไป แต่ก็ไม่สามารถระบายความโกรธใส่ลี่จุนซินได้ ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เธอเป็นคนทำ
ลี่จุนถิงหาที่นั่งข้างนอกห้องผ่าตัดก่อนจะนั่งลง
เขามานั่งอยู่ที่นี่อีกครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ต้องมานั่งเพราะเจียงหยุนเอ๋อ ตอนนี้มาเพราะถวนจื่อ
ทั้งหมดต้องโทษตัวเอง โทษตัวเองที่ไม่รักษาแม่ลูกเอาไว้ให้ดี ทำให้เขาถูกแกล้ง แต่ยังต้องมาอดทนแบบนี้อีก
ผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมง ไปในห้องฉุกเฉินก็มืดลง
คนที่ออกมาจากห้องฉุกเฉินนั้นก็คือหลันเยว่เฉิน
ลี่จุนถิงรีบลุกขึ้นวิ่งมา: “เยว่เฉิน ถวนจื่อเป็นอย่างไรบ้าง?”
ครั้งนี้ สีหน้าของหลันเยว่เฉินดูหนักใจ
ลี่จุนถิงมองสีหน้าของหลันเยว่เฉิน ก็คิดว่าคงจะไม่ใช่เรื่องดี ในใจก็หนักใจเช่นกัน: “เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นรึเปล่า?ถวนจื่อเป็นอะไรกันแน่?”
หลันเยว่เฉินจับแขนทั้งสองข้างของลี่จุนถิง: “คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ ฟังฉันก่อน ถวนจื่อได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นบาดแผลภายนอก สิ่งที่หนักก็คือข้างใน เขาถูกคนให้กินยาอะไรก็ไม่รู้ ฉันเพิ่งจะวิเคราะห์ไป ยานี้ทำให้ความทรงจำหายไปได้น่ะ”