ตอนที่ 255 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 2

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 255 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 2
ตอนที่ 255 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 2

“ห้องครัว? ยัยลูกสาวไปวุ่นวายอะไรอีกล่ะ!” จักรพรรดิอมยิ้มและยืนขึ้น “ไปเถอะ ไปดูเธอกัน”

หลังจากสวี่หลิงอวิ๋นพาชาร์ลกลับมาที่วัง เธอก็ให้ชาร์ลเอาเอเลี่ยนเป็ดกุนดักออกมาเป็นอย่างแรก…

เป็ดกุนดักพวกนี้มีรูปร่างเรียบแบน มีเกล็ดหนาแน่น มีความคล้ายคลึงกับปลา แต่กลับมีแขนขายาวและปากแบน

เหมือนกับตุ่นปากเป็ด

ทว่าดูน่ากินและอวบอิ่มกว่าตุ่นปากเป็ด!

“ว้าว ๆๆ! เจ้าตัวนี้ดูดีทีเดียว!” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองบริเวณโดยรอบ และเริ่มปล่อยให้แขนกลจัดการกับเป็ดอ้วน

ขณะเดียวกันชาร์ลจับตามองเป็ดเหล่านั้นอย่างตั้งใจ เขาหยิบสมุดโน้ตขนาดเล็กออกมาจดขั้นตอนการทำอาหารขององค์หญิงสามเป็นครั้งคราว

แขนกลทำความสะอาดเป็ดกุนดักอย่างว่องไว แล้วเกล็ดทั้งหมดก็ถูกถลกออกอย่างราบรื่น

เสียงขูดเกล็ดมีความคล้ายคลึงกับเสียงขูดเหล็กเล็กน้อย เสียง ‘ปัง ๆ’ ดังขึ้นขณะขูดเกล็ดออก แสดงให้เห็นว่าเกล็ดของเป็ดกุนดักเหล่านี้แข็งแรงแค่ไหน

สวี่หลิงอวิ๋นหยิบเกล็ดขึ้นมาแล้วเคาะดู เฮ้ มันดูเหมือนแผ่นเหล็กจริง ๆ ด้วย! น่าเสียดายจัง ถ้าของแบบนี้อยู่บนพื้นโลกคงเอามาทำเป็นชุดเกราะได้!

หรือเอาไปทำเสื้อผ้าหยกลวดทอง

หลังจากขูดเกล็ดเสร็จสิ้นแล้ว สวี่หลิงอวิ๋นก็ใช้นิ้วจิ้มลงไปที่เนื้ออ่อนนุ่มชวนสัมผัส “โอ้ เหมือนกับเนื้อเป็ดเลย!”

ช่างเถอะ ก็แค่ทำตามกรรมวิธีเนื้อเป็ด!

ต้องทำความสะอาดเป็นอย่างแรก การทำความสะอาดเนื้อเป็ดค่อนข้างสำคัญ สวี่หลิงอวิ๋นไม่มั่นใจว่าเนื้อเป็ดกุนดักจะแตกต่างจากเนื้อเป็ดจริง ๆ มากแค่ไหน เธอจึงทำได้เพียงย่างมันตามแบบฉบับเป็ดย่างดั้งเดิมเท่านั้น

ในส่วนของขั้นตอนแรกจะต้องทำกึ๋น ช่องลม ส่วนขั้นตอนถัดมาคือการเติมลมเข้าไปด้านใน เพื่อให้ลมพองตัวเข้าสู่ไขมันชั้นใต้ผิวหนังและช่องลมส่วนอื่นของเป็ด

ขั้นตอนการทำเป็ดดั้งเดิมจะต้องตัดส่วนอื่น ๆ ออก แต่สำหรับเป็ดกุนดัก… ไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนนี้ แค่เอาอวัยวะภายในออกมาล้างให้สะอาดก็พอ

หลังจากล้างช่วงท้องและข้อต่อเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการลวก ซึ่งจำเป็นจะต้องเทน้ำเดือดลงบนตัวเป็ด

เป็ดตัวอื่นก็ทำแบบนี้เช่นเดียวกัน ขั้นตอนต่อไปคือการแขวนเป็ดเอาไว้ แต่สวี่หลิงอวิ๋นชอบหมักเป็ดให้เสร็จก่อนจึงจะนำไปแขวน

เธอเทส่วนผสมเครื่องหมักดองที่เตรียมไว้ใส่เข้าไปในเป็ดกุนดักตัวใหญ่ที่มีขนาดสองถึงสามเมตร ใส่เห็ดและส่วนผสมอื่น ๆ เข้าไปในช่องท้องด้านในโดยเฉพาะ

จากนั้นจึงให้แขนกลแทงจุดขนาดเล็ก แต่จะต้องไม่ทะลุไปจนถึงชั้นผิวหนังด้านนอก และปล่อยให้เครื่องปรุงรสได้คลุกเคล้ากับเนื้อด้านในอย่างเต็มที่เพื่อให้ผลลัพธ์จากการหมักออกมาดีที่สุด

ตามปกติแล้วจะต้องใช้ระยะเวลาในการหมักอย่างน้อยหนึ่งวันจึงจะเสร็จ

แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปัจจุบันจึงมีเครื่องจักรที่ช่วยให้เธอทำงานเสร็จลุล่วงได้เร็วที่สุด

การหมักใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น และเนื้อสามารถดูดซับเครื่องปรุงรสได้อย่างเต็มที่ ห้องครัวที่ทันสมัยสามารถคำนวณการดูดซึมเครื่องปรุงรสของเนื้อสัตว์ได้อย่างพิถีพิถัน หลังจากดูดซึมได้หกสอบถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว สวี่หลิงอวิ๋นก็หยิบเป็ดกุนดักออกมา

และแล้วก็ถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุด! การลงสีลูกกวาด!

การลงสีลูกกวาดจะเจือจางด้วยคาราเมลที่ทำมาจากน้ำผึ้งและน้ำตาลทรายขาว ด้วยน้ำในอัตราส่วนหนึ่งต่อเจ็ด จากนั้นจึงเทลงบนเนื้อเป็ด

ขั้นตอนของมืออาชีพไม่จำเป็นต้องหมักเนื้ออีก เพียงแต่ใส่น้ำเชื่อมเข้าไปข้างในอีกครั้ง ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นกลับเลือกที่จะแขวนผึ่งเอาไว้หลังจากลงสีแล้วแทน

แต่เธอจะไม่ใส่น้ำเชื่อมเข้าไปด้านใน

เกี่ยวตะขอแขวน เอาออกมาผึ่ง และแขวนไว้อีกรอบ!

และแล้วฉากที่ทุกคนหลงรักก็มาถึง นั่นคือเป็ดย่าง!

น่าเสียดาย ถึงแม้ว่าพระราชวังจะมีขนาดใหญ่ แต่ที่นี่กลับไม่มีเตาย่างขนาดใหญ่!

สวี่หลิงอวิ๋นไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากปล่อยให้เครื่องจักรกลสีชมพูจัดการทุกอย่างไป และครั้งนี้มันก็รับผิดชอบหน้าที่ครั้งยิ่งใหญ่ในการย่างเป็ด

น่าเสียดายที่เครื่องจักรกลสีชมพูตัวนี้พูดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันคงถุยน้ำลายใส่หน้าสวี่หลิงอวิ๋นไปแล้ว!

ฮึ่ม! ยัยสารเลว เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน ทำไมเธอไม่ใช้ ‘ดวงดาวนำโชค’ ที่โอคาซีมอบใหม่มาย่างเป็ดบ้างล่ะ? เคยใช้งานมันบ้างไหม?!

สวี่หลิงอวิ๋นไม่สามารถทนใช้ดวงดาวนำโชคได้! เพราะนั่นคือวัยเยาว์ของโอคาซี!

เครื่องจักรกลสีชมพูพูดอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงนิ่งเงียบและแบกรับความรับผิดชอบอันหนักอึ้งที่มันไม่สมควรมาแบกรับ และแปรสภาพตัวเองเป็นเตาย่างขนาดใหญ่

เป็ดกุนดักถูกแขวนเอาไว้ข้างในเตาย่าง…

สวี่หลิงอวิ๋นนับเวลาถอยหลัง และภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที เธอก็ได้กลิ่นหอมเย้ายวนใจลอยออกมา!

“ใช่แล้ว! ต้องรสชาติแบบนี้สิ!” น้ำลายของสวี่หลิงอวิ๋นหยดลงมาบนเครื่องจักรกล และสูดดมกลิ่นอย่างแรง “อ่า! กลิ่นหอมจัง!”

กลิ่นหอมเกินห้ามใจลอยตลบอบอวลไปทั่ว!

สาวใช้ที่กำลังทำงานอยู่ได้กลิ่นหอมลอยมา และกลืนน้ำลายอย่างอดใจไม่ไหว “กลิ่นมาจากห้องครัวเหรอ? วันนี้จะมีแขกมาใช่ไหม? พ่อครัวเตรียมอาหารมารอต้อนรับแขกอยู่งั้นเหรอ?”

“ไม่เห็นต้องคิดเลย นั่นไม่ใช่พ่อครัวเราหรอก!” สาวใช้ผู้ฉลาดปราดเปรื่องส่ายหัว “คงจะเป็นองค์หญิงสามเข้าไปวุ่นวายในครัวอีกน่ะสิ”

“อา อยากกินจัง!” สาวใช้ทั้งหลายลูบท้องของพวกเธออย่างเศร้าโศก

“ถ้าได้กินของอร่อย ๆ ที่องค์หญิงสามทำนะ เฮ้อ ฉันจะยอมกระโดดลงจากตึกเลย!”

“นี่ อย่ามาพูดไร้สาระนะ!” สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างเย้ยหยันอย่างหยาบคาย “ถ้ากระโดดลงจากตึกแล้วมันเห็นผล ป่านนี้คงตายกันไปครึ่งวังแล้ว!”

จักรพรรดินีสูดดมกลิ่นหอมมาตลอดทางเดิน และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนมุมปากของเธอ

“เมื่อวานเราเอาแต่กังวลว่าจะเตรียมอาหารอะไรสำหรับงานเลี้ยงเต้นรำดี แต่ตอนนี้เรานึกออกแล้ว”

สาวใช้ยิ้มเช่นกัน “องค์หญิงสามช่างมีจิตใจบริสุทธิ์นักเพคะ ได้ยินมาว่าเธอใช้พลังจิตขับร้องเพลงจนจบไปถึงสองรอบ!”

“สมาชิกราชวงศ์อื่นยังไม่ทรงพลังเท่าองค์หญิงสามของเราด้วยซ้ำ!”

จักรพรรดินียิ้ม “อย่าได้ชมต่อหน้าเธอเชียวล่ะ ถ้าเกิดเผลอชมเข้า หางของเธอก็คงจะชี้ขึ้นฟ้าอีก!”

สาวใช้ยิ้มแย้ม “ถึงองค์หญิงสามจะชอบสร้างเรื่อง แต่ทุกอย่างก็อยู่ในความพอดีนะเพคะ”

“หม่อมฉันเคยพูดว่าองค์ชายรองเหมือนท่าน แต่ดูเหมือนว่าองค์หญิงสามจะเหมือนท่านที่สุดนะเพคะ!”

จักรพรรดินีพยักหน้า และตระหนักได้ว่าลูกชายผู้ดื้อรั้นกำลังทุกข์ทรมาน เมื่อก่อนลูกชายคนนี้ดูจะฉลาดหลักแหลม แต่ตอนนี้ทำไมถึงโง่เขลานัก?!

“ตอนนี้องค์ชายรองอยู่ไหน?”

“เหมือนว่าองค์ชายรองจะยังอยู่ที่สถาบันหรือเปล่าเพคะ?” สาวใช้กล่าวออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก “หม่อมฉันยังไม่ได้ข่าวว่าองค์ชายรองเสด็จกลับมาเลยเพคะ”

“ฮึ่ม!” สีหน้าของจักรพรรดินีดูไม่ค่อยดีนัก

เธอไม่รู้ว่าลูกบ้าคนนี้จะลงมือทำอะไรอีก? จะไปดึงจักรวรรดิอื่นเข้ามาเป็นพวกเดียวกันอีกไหม! แยกอะไรสำคัญไม่ออกเสียจริง!

เจ้าหน้าที่ผู้ติดตามเป็นเจ้าที่ราชการยศสำคัญจำนวนกี่คน? ถ้าเกิดเขาไปสร้างสัมพันธ์อันดีงามกับพวกนั้นล่ะ? มันคงจะไม่คุ้มกับผลประโยชน์ของชาติ!

“แล้วชายใหญ่ล่ะ?” ลูกชายคนโตใสซื่อเกินไป ถึงแม้ว่าทักษะการต่อสู้ของเขาจะยอดเยี่ยม ทว่าความคิดของเขายังไม่ยืดหยุ่นมากนัก และมักจะถูกต่อว่าครั้งเมื่อยังเป็นเด็ก ส่วนตอนนี้…เว้นแต่เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงที่มีอำนาจ ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่กล้าที่จะมอบบัลลังก์ให้เจ้าลูกคนนี้

“องค์ชายใหญ่กลับมาก่อนหน้านี้แล้วเพคะ ตอนนี้น่าจะพูดคุยกับกองกำลังทหารอยู่หรือเปล่า?”