ตอนที่ 81-3 จัดงานวันเกิด

เมื่อได้ยินคํากล่าวเหล่านั้น หยุนจี้ก็เพียงยิ้มอย่างขมขึ้น ซึ่งหมายความว่าคุณหนูใหญ่ผู้นี้มีความแตกต่างจากผู้อื่นที่มักจะดูถูกและเหยียดหยามตนเองอยู่ตลอดเวลา

หลี่จางเลอยิ้มเบา ๆ จากนั้นพวกนางก็สนทนาเกี่ยวกับหัวข้ออื่น ๆ ต่อไป เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของหยุนจี้

หลังจากครึ่งชั่วโมงของการสนทนาผ่านไป หยุนก็เริ่มเกิดความประทับใจคุณหนูใหญ่ผู้นี้ ตอนที่กําลังจะจากไปยังคิดว่าจะหาเวลามาคุยกับนางอีกในครั้งต่อไป

เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้แล้ว สาวใช้ตันเซียงก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดแปลกไป วันนี้คุณหนูใหญ่ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่น่ารักและเข้าถึงได้ง่าย

แต่ในความเป็นจริงนางเป็นผู้ที่มีนิสัยหยิ่งผยอง ขณะที่จิวหยินเหนียงมีภูมิหลังที่ต่ําต้อย แล้วคุณหนูใหญ่สามารถคุยกับนางได้อย่างมีความสุขจริงหรือ? เรื่องนี้มันช่างแปลกจริง ๆ !

เมื่อดูภาพเงาของหยุนจางหายไปจากสวนแล้ว หลี่จางเล่อก็ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า

“ไปกันเถิด”

เมื่อสาวใช้ตันเซียงเห็นว่าหลี่จางเลอยิ้มก็อดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะลง

หลี่จางเล่อเข้าไปในบ้านพักของฮูหยินใหญ่และอยู่สนทนากับมารดาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง และเมื่อเดินกลับออกมา ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ขณะที่ต้นเซียงเฝ้าดูนางด้วยความรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น เพราะทุกครั้งที่คุณหนูใหญ่แสดงรอยยิ้มนี้ มัน หมายความว่าจะต้องมีคนโชคร้ายเสมอ ก็แค่นั้น…

แล้วคราวนี้จะเป็นผู้ใด?

ซึ่งหากเป็นเพียงจิวหยินเหนียงมันก็คงไม่เพียงพอที่จะทําให้คุณหนูใหญ่มีความสุขได้……

ครึ่งเดือนต่อมาฮูหยินใหญ่ได้ส่งคนไปเรียกหลี่เสี่ยวหรันมาหา ซึ่งเวลานั้นเขาเพิ่งกลับมาถึงบ้านพัก เขาจึงกล่าวว่ามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทําในห้องทํางาน ขณะที่ฮูหยินใหญ่รอจนกระทั่งค่ํามืดแล้วนางก็ยังคงไม่เห็นหน้าเขา

ฮูหยินใหญ่จึงสั่งให้คนไปเรียกอีกครั้ง หลังจากรอเขาอยู่พักใหญ่ในที่สุดนางก็เห็นเขาเดินเข้ามาจากทางประตู

จึงรีบเดินออกไปช่วยเขาถอดเสื้อนอก และเฝ้าดูการแสดงออกของเขาพร้อมกับกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า

“อีกสองวันจะเป็นวันเกิดของจิวหยินเหนียง ข้าคิดว่าเราควรจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้กับนาง”

หลี่เสี่ยวหรันเงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปในดวงตาของฮูหยินใหญ่อย่างเย็นชา

ขณะที่ฮูหยินใหญ่รู้สึกกังวลอยู่ข้างใน แต่ใบหน้าของนางยังคงมีรอยยิ้มที่น่ายินดี

เสี่ยวหรันมองเห็นบางอย่างที่ผิดปกติในแววตาของนางจึงปัดมือของฮูหยินใหญ่ออกและตอบอย่างใจเย็นว่า

“ข้ารู้แล้ว…แต่ช่วงนี้ข้างานยุ่งมาก เจ้าช่วยเป็นธุระให้ด้วยก็แล้วกัน”

“ท่านพี่ ข้าเตรียมขนมเอาไว้แล้ว ท่านควรลองชิมดูก่อน” ฮูหยินใหญ่กล่าวอย่างกระตือรือร้น

หลี่เสี่ยวหรันส่ายหัวทันที

“ไม่”

หลังจากที่กล่าวแล้ว เขาก็หันหลังกลับไปที่บ้านพักของจิวหยินเหนียง

ทําให้แม่นมหลินรู้สึกไม่สบายใจเมื่อมองไปที่นายหญิง ขณะที่ฮูหยินใหญ่หัวเราะอย่างเย็นชาและเผยให้เห็นรอยยิ้มที่คมชัด

ขนมบนโต๊ะถูกทิ้งไว้โดยไม่มีผู้ใดแตะต้อง และตอนนี้ความหอมหวานนั้นได้ถูกหมางเมินจนไม่มีผู้ใดต้องการทานมันอีกต่อไป

อีกด้านหนึ่งไปจอกระซิบกับหลี่เว่ยหยางเกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตระกูลหลีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ตามคําสั่งของคุณหนู

นางรายงานตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนกระทั่งถึงเรื่องใหญ่ และไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องที่คุณหนูใหญ่นั่งคุยกับจิวหยินเหนียง อีกทั้งยังรายงานเรื่องที่มีข่าวว่าฮูหยินใหญ่กําลังเตรียมงานฉลองวันเกิดให้กับจิวหยินเหนียง

หลังจากที่ไปจ่อรายงานเสร็จแล้ว สาวใช้ก็กล่าวอีกว่า

“คุณหนู เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าฮูหยินใหญ่จะเริ่มดึงจิวหยินเหนียงเข้ามาเป็นพวกตัวเอง”

หลี่เว่ยหยางยิ้มและส่ายหัวเบา ๆ

“ในฐานะแม่ใหญ่ของครอบครัว หากมิสามารถควบคุมนางบําเรอของสามีได้ ก็คงจะต้องคิดหาวิธีกําจัดพวกนาง

นอกจากซื้อหยินเหนียงและหลิวหยินเหนียงแล้ว ตอนนี้ท่านพ่อชื่นชอบจิวหยินเหนียงอีกคน และมิสนใจแม้แต่จะให้เกียรตินาง แล้วเจ้าคิดว่าฮูหยินใหญ่จะปล่อยให้จิวหยินเหนียงมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหรือไม่?”

ไปจอตกตะลึงแล้วกล่าวว่า

“ความหมายของคุณหนูคือ…”

“เพียงแค่จิวหยินเหนียงคงยังมิเพียงพอที่จะตอบสนองความริษยาของพวกเขา หากพวกเขาสามารถกําจัดเสี้ยนหนามทั้งหมดได้มันก็จะสมบูรณ์แบบ”

แสงเทียนจากโคมไฟที่กําลังส่องสว่างอยู่บนหน้าต่างไม้นั้นทํา ให้เกิดเงาบนใบหน้าของหลี่เว่ยหยาง ซึ่งมันดูเหมือนว่ามีความมืดปกคลุมใบหน้าของนาง

ตอนสายของวันรุ่งขึ้นแม่นมหลินเดินผ่านทางเดินมาอย่างเคร่งขรึม ในขณะที่แสงแดดส่องกระทบผนังของลานภายในทําให้พวกเขามีแสงระยิบระยับ

ทําให้หญิงวัยกลางคนผู้นี้ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ และสาวใช้ที่อยู่ด้านข้างเฝ้าดูนางที่รีบร้อนเดินมาโดยมีแม่นมที่รูปร่างแข็งแรงสองสามคนเดินตามหลังนางมาด้วย

“นั่นแม่นมหลินจะไปไหนหรือ? เหตุใดจึงต้องรีบร้อนถึงเพียงนี้?” สาวใช้กระซิบกับอีกคนด้านข้าง

“เจ้ามิรู้หรือว่า จิวหยินเหนียงกําลังจะฉลองวันเกิดของนาง โดยฮูหยินใหญ่ต้องการจัดงานฉลองให้นางเป็นการส่วนตัว!

มีจาน มีผ้าและผ้าไหมโบราณทั้งหมด….. ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้แล้วทั้งหมด เห็นว่าฮูหยินดูแลจิ๋วหยินเหนียงดีมาก!”

“ใช่แล้ว! ตอนนี้ใบหน้าของ ซื้อหยินเหนียงเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว และแม้แต่หลิวหยินเหนียงเองก็ปิดประตู และไม่ได้ก้าวออกไปเลย! เพราะการดูแลจิวหยินเหนียงเช่นนี้มิเคยมีมาก่อนในตระกูลหลี่ของเรา”

“ก็คงเป็นเพราะนายท่านชื่นชอบจิวหยินเหนียงมาก! เจ้าทุกคนมิเห็นหรือว่านายท่านเอาอกเอาใจนางมากเป็ นพิเศษและพักผ่อนอยู่ที่ตําหนักของนางตั้งครึ่งเดือนมาแล้วนับตั้งแต่แต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลหลี่

และหลังจากที่จิวหยินเหนียงแต่งงานเข้ามานางก็มิได้แตะต้องเสื้อผ้าจิ๋วจีนเก่าของนางเลย เพราะนายท่านโปรดปรานนางจึงสั่งให้ตัดเย็บชุดจิ๋วใหม่และให้นางร้องเพลงให้นายท่านฟังทุกคืน!”

“อะไร! เจ้ามิรู้หรือ!“สาวใช้อีกคนกระซิบว่า

“ข้าได้ยินมาจากแม่นมโจวว่า จิวหยินเหนียงมิใช่คนธรรมดา นางยังสาวและงดงาม อีกทั้งยังรู้วิธีที่จะทําให้ผู้ชายพึงพอใจ…เจ้าคงมิเข้าใจเรื่องเช่นนี้!

ขณะที่หลี่เว่ยหยางเดินผ่านสวนมาในตอนนั้น สาวใช้ทุกคนก็รีบปิดปากและยืนจ้องหน้ากันและกันอยู่ที่นั่น

หลี่เว่ยหยางยิ้มเบา ๆ และกล่าวว่า

“แยกย้ายกันไปได้แล้ว ระวังแม่นมหลินได้ยินเรื่องนี้แล้วจะลงโทษพวกเจ้าทั้งหมด”

เมื่อได้ยินคําเตือนสาวใช้เหล่านั้นก็รู้สึกขําขันและแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว

โดยพวกนางรู้สึกเสมอว่าคุณหนูสามเป็นคนดีมาก โดยปกติแล้วคุณหนูจะไม่ดูถูกสาวใช้ ซึ่งแตกต่างจากคุณหนูห้าที่มักจะข่มเหงและทําร้ายพวกนางอยู่เสมอ

หลี่เว่ยหยางเฝ้าดูภาพเงาของแม่นมหลินหายไปจากทางเดิน พร้อมกับขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้โดยไม่ทราบว่า ครั้งนี้ฮูหยินใหญ่กําลังวางแผนจัดงานฉลองขนาดใหญ่ให้กับ จิวหยินเหนียงอย่างไร?

หรือบางที่นางอาจคิดมากเกินไป…..