บทที่ 311 สายโทรเข้าจากติงอวิ๋น

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 311 สายโทรเข้าจากติงอวิ๋น

บทที่ 311 สายโทรเข้าจากติงอวิ๋น

“ไม่ค่ะ ทุกอย่างปกติดี ฉันอยู่ที่โรงงานตลอดเวลา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบ “บางที ครั้งก่อนอาจเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้”

เดิมเจ้าหย้าหนานเองก็สงสัยเช่นกันว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งก่อนเป็นฝีมือคนวางเพลิง และคนที่มีความตั้งใจขนาดวางเพลิงได้ เพราะต้องการทำให้คำสั่งซื้อของเธอไม่อาจส่งมอบ ผู้ต้องสงสัยรายแรกย่อมต้องเป็นเถ้าแก่หลิว

แต่ช่วงที่ผ่านมานี้ สถานการณ์ของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างเงียบสงบดี ไม่มีอะไรผิดปกติหรือผิดสังเกต คำสั่งซื้อที่ได้รับมาก็เกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหากมีใครคิดขัดขวางหรือหยุดไม่ให้เธอทำสำเร็จ พวกเขาก็จะต้องลงมือแล้ว ถ้าปล่อยเธอผลิตจนเสร็จเรียบร้อย อีกฝ่ายก็ไม่มีโอกาสอีกต่อไป

ในเมื่อไม่มีเรื่องผิดปกติใดเกิดขึ้น เจ้าหย้าหนานจึงอดคิดไม่ได้ว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งก่อนอาจจะเป็นเพราะอุบัติเหตุจริง ๆ

“ต้องไม่ประมาทนะครับ” อู๋ฝานตอบกลับ เขาไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนเจ้าหย้าหนาน “ตราบใดที่ยังไม่ได้ส่งรายการสั่งซื้อจนเสร็จ ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดอะไรสักอย่างขึ้นครับ”

“ค่ะ ฉันทราบดี” เจ้าหย้าหนานพยักหน้าตอบรับ

แม้เจ้าหย้าหนานจะมีความเห็นว่าไฟไหม้ครั้งก่อนอาจเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะประมาท ทุกกระบวนการล้วนอยู่ในความระมัดระวัง เพราะมันเกี่ยวข้องกับอนาคตของครอบครัวเธอ หากเกิดอุบัติเหตุใดขึ้น ครั้งนี้เธอจะเจ็บสาหัส

อู๋ฝานที่ได้เห็นว่าเจ้าหย้าหนานยังระวังไม่ได้ผ่อนคลาย เขาจึงวางใจไปได้ระดับหนึ่ง

จู่ ๆ เจ้าหย้าหนานก็สีหน้าขาวซีด ร่างกายโอนเอนไปมาราวกับจะล้มพับลงไป

อู๋ฝานเร่งรีบเข้าไปคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้นครับ? ไม่สบายงั้นเหรอ?”

“นิดหน่อยค่ะ” เจ้าหย้าหนานพยักหน้ารับด้วยสีหน้าซีดเซียว “บางทีอาจจะเพราะโหมงานหนักเกินไป ผ่านช่วงนี้ไปก็น่าจะดีขึ้นแล้วค่ะ”

คำสั่งซื้อครั้งนี้ไม่ได้สำคัญแค่กับโรงงานเฟอร์นิเจอร์ แต่ยังรวมถึงครอบครัวของเจ้าหย้าหนานด้วย เพราะครั้งก่อนเกิดเพลิงไหม้ หญิงสาวจึงไม่กล้าประมาทและคอยเฝ้าดูคำสั่งซื้อทั้งหมดซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระทั่งว่ากินนอนอยู่ที่โรงงานแห่งนี้ทั้งวัน เพื่อคอยจับตามองทุกอย่างในโรงงาน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

“ทำไมไม่กลับไปพักสักหน่อยล่ะครับ เดี๋ยวผมอยู่ที่นี่ให้เอง” อู๋ฝานบอกกับเจ้าหย้าหนาน

โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งนี้ก็เป็นของอู๋ฝานเช่นเดียวกัน เขาฝากงานทั้งหมดที่นี่เอาไว้กับเจ้าหย้าหนานเกินไป เมื่อตอนนี้เห็นอีกฝ่ายเกือบล้มป่วยเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ในใจก็รู้สึกผิด

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังไหว” เจ้าหย้าหนานพยายามฝืนยิ้มออกมา “ไว้เสร็จงานนี้เมื่อไหร่ ฉันคงต้องขอเถ้าแก่ใหญ่ไปพักหลาย ๆ วันหน่อยแล้วละค่ะ”

“แน่ใจนะครับ?” อู๋ฝานถามด้วยความไม่มั่นใจ

“ค่ะ” เจ้าหย้าหนานพยักหน้ารับ

“ก็ได้ครับ ถ้าไม่ไหวแล้ว ต้องบอกผมนะครับ ไม่ใช่ฝืนตัวเองจนเกินไป เข้าใจไหมครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม

อู๋ฝานอยากให้เจ้าหย้าหนานได้พัก แต่เขาเองก็ทราบดีว่าหญิงสาวตั้งความคาดหวังกับคำสั่งซื้อครั้งนี้ขนาดไหน ต่อให้เขาบอกให้เธอไปพักผ่อน แต่ก็พอเดาได้ว่าคงไม่ได้พักผ่อนด้วยดี เพราะใจของเธอจะยังเอาแต่คิดถึงและห่วงที่นี่

“ค่ะ ฉันทราบดี” เจ้าหย้าหนานรู้สึกปั่นป่วนขึ้นในใจขณะตอบรับ “ขอบคุณค่ะ”

ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับทางบ้าน เจ้าหย้าหนานจึงรับผิดชอบช่วยเหลือทั้งโรงงานและครอบครัวของเธอ สถานการณ์ตอนนี้ที่หากประมาทจะทำให้ทั้งครอบครัวสูญเสียจนไม่เหลืออะไร มันย่อมเป็นภาระทางใจอันยิ่งใหญ่กับหญิงสาว อีกทั้งเธอยังเพิ่งเข้ามาทำงานตรงนี้ได้ไม่นาน เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีประสบการณ์ เมื่อเรื่องที่ผ่านมาสะสมรวมกัน จะทำทั้งกายและใจเหนื่อยล้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

นอกจากนี้ พ่อของเธอยังล้มป่วย ทำให้แม่ของเธอต้องคอยอยู่ดูแล คนทั้งสองที่มีเรื่องให้ต้องกังวลมากแล้ว เจ้าหย้าหนานจึงไม่อาจรบกวนคนทั้งสองให้มาดูแลที่นี่ได้ เธอทำได้เพียงแต่ต้องสู้ด้วยตัวเอง อีกทั้งเธอยังไม่มีใครให้พูดคุยหรือปรับทุกข์กับเรื่องที่กำลังเผชิญอยู่

ทว่าตอนนี้ที่อู๋ฝานแสดงความจริงใจมอบให้ ย่อมทำให้เธอเริ่มปันใจ และขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ชายหนุ่มก็ยังประคองเธอเอาไว้ ทำให้เจ้าหย้าหนานอดไม่ได้ที่จะเผยใบหน้าแดงระเรื่อ

ในช่วงเย็น อู๋ฝานเดินทางกลับจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ พร้อมกับได้รับสายโทรเข้าที่ไม่คาดคิด

“นายน้อยอู๋ สวัสดีครับ ผมติงอวิ๋น ขอสอบถามว่าจำผมได้ไหมครับ?” ปลายสายเอ่ยแนะนำตัวเองพลางถามเสร็จสรรพ

“จำได้ครับ ผู้จัดการติงมีอะไรหรือเปล่า?” อู๋ฝานถามกลับบราวนี่ออนไลน์

“เรื่องเป็นแบบนี้ครับ” ติงอวิ๋นตอบกลับมา “ครั้งก่อนคุณเอาชนะยอดฝีมือไหน่ไชจากอาณาจักรแห่งช้างได้ใช่ไหมล่ะครับ ตอนนี้อาจารย์ของเขาแวะมาเคาะประตูบ้านของเราแล้วครับ แถมยังชนะยอดฝีมือของคลับเราไปหลายคน ตอนนี้เขาเลยต้องการท้าทายคุณ เพราะอย่างนั้น…”

ติงอวิ๋นพูดน้ำไหลไฟดับด้วยความยากลำบาก ทางหนึ่งนั้น อาจารย์ของไหน่ไชมาเคาะประตูคลับของพวกเขา พร้อมเอาชนะยอดฝีมือไปคนแล้วคนเล่า อีกทั้งยังเป็นชัยชนะแบบบดขยี้ให้แหลก ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร คู่ต่อสู้ทั้งหมดไม่มีใครได้เดินลงจากสังเวียนด้วยตัวเองสักคน สถานการณ์ตอนนี้ มันกระทบกับกิจการของทางคลับ ทำให้แทบไม่มีใครกล้าที่จะท้าทายอาจารย์ของไหน่ไช หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป คลับของเขาอาจจะต้องปิดตัวลง

สาเหตุที่อาจารย์ของไหน่ไชมาที่คลับของพวกเขา ก็ชัดเจนว่ามาเพราะอู๋ฝาน ชายหนุ่มเป็นคนทำให้ลูกศิษย์ของเขาได้รับบาดเจ็บหนัก กระทั่งทำลายการฝึกฝนซะด้วยซ้ำ อาจารย์ของไหน่ไชจึงมาตามหาเพื่อล้างแค้น เพราะเรื่องดังกล่าว เขาจึงไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น ทั้งยังพุ่งเข้าปะทะ โดยขอให้ทางคลับติดต่อกับอู๋ฝาน เพื่อเรียกให้เขาออกมายอมรับคำท้า ไม่เช่นนั้นแล้ว อีกฝ่ายจะอยู่ที่คลับต่อไป เอาชนะทุกคนที่เข้ามา จนสุดท้ายเป็นการทำลายกิจการของทางคลับ

หากอีกฝ่ายเป็นคนธรรมดา ติงอวิ๋นคงติดต่อหาไปแล้ว แต่อู๋ฝานเป็นคนที่หวังจื่อหมิงพามา และจากท่าทีของอีกฝ่าย เขาก็ทราบได้ว่าชายหนุ่มไม่ใช่คนธรรมดา กับคนเช่นนั้น ติงอวิ๋นไม่กล้ายั่วยุ เขาทราบดีว่าตนไม่มีคุณสมบัติอะไรไปขอให้อีกฝ่ายมารับคำท้าครั้งนี้ เพราะอย่างไรก็เห็นได้ชัดว่าอันตรายกว่าครั้งก่อน

ดังนั้นแล้ว ตอนที่ติงอวิ๋นรับหน้าครั้งแรก เขาจึงไม่ได้คิดติดต่ออู๋ฝาน แต่เลือกที่จะส่งยอดฝีมือของทางคลับไปสู้กับอาจารย์ของไหน่ไช โดยหวังว่าจะมีสักคนที่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้

แต่เขากลับต้องผิดหวัง ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้กับอาจารย์ของไหน่ไชได้สักคน กระทั่งว่าพ่ายแพ้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ มันจึงทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะขึ้นสู้กับอาจารย์ของไหน่ไชอีก อย่างไรอีกฝ่ายก็ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ใครสู้ด้วย หากไม่ตายก็บาดเจ็บปางตาย

ติงอวิ๋นที่เห็นดังนั้น ด้วยความหมดหนทาง จึงต้องติดต่อหาอู๋ฝาน

“อาจารย์ของไหน่ไชเหรอครับ?” อู๋ฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกินเลยถึงขนาดนั้น หลังตีลูกสุนัขไปแล้ว พ่อสุนัขกลับโผล่ออกมาซะได้ “เขามานานแค่ไหนแล้วครับ”

“สี่วันแล้วครับ” ติงอวิ๋นตอบกลับ “สี่วันมานี้ จัดการนักสู้ของเราไปยี่สิบสามคนแล้วครับ”

เห็นได้ว่าอาจารย์ของไหน่ไชไม่ใช่คนธรรมดา แต่พอคิดดูแล้ว ไหน่ไชที่สำเร็จขอบเขตสว่างขั้นกลาง คนที่เป็นอาจารย์ให้เขาได้ ย่อมต้องมีกำลังไม่ด้อยกว่าอย่างแน่นอน

“บังเอิญว่าเย็นวันนี้ผมมีเวลาว่างพอดี ไว้เดี๋ยวไปดูทางนั้นหน่อยก็แล้วกันครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “ส่วนว่าจะเอายังไง ไว้ค่อยพูดคุยกันอีกครั้งนะครับ”

อู๋ฝานไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ แม้เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเขาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องออกหน้า ทางคลับไม่มีคุณสมบัติพอจะผลักดันหรือบังคับ ตนและทางคลับไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรต่อกันทั้งสิ้น ตกลงหรือไม่นั้นก็อยู่ที่เขาตัดสินใจทั้งสิ้น