ตอนที่ 111: ถึงตาผมแล้วสินะ 2

เฉียนเย่พลันพยักหน้าพร้อมกับตะโกนขึ้นมา “ก็ได้ ถ้าคุณเสี่ยวเฉิงต้องการแบบนั้น อันที่จริง การเดาลูกเต๋า ของอีกฝ่ายเป็นอะไรที่ยากมาก ๆ เลยนะครับ แล้วสรุปก็คือใครเดาถูกคนนั้นคือผู้ชนะของเกมนี้ใช่ไหม?”

เสี่ยวเฉิงตอบกลับ “ใช่แล้ว เราต้องเดาตัวเลขของอีกฝ่ายให้ถูกต้อง ถ้าเราทั้งคู่เดาพลาด ก็จะยังไม่มีใครได้เป็นผู้ชนะ”

เฉียนเย่เผยยิ้มอย่างขมขึ้น “แต่คือ… งั้นผมว่าเราทั้งสองก็ไม่ควรเล่นนะ เพราะพวกเราทั้งคู่คงเดาตัวเลขของอีกฝ่ายไม่ถูกหรอก”

“งั้นเหรอ? คุณไม่กล้าพอที่จะเล่นหรือยังไงกัน?” เสี่ยวเฉิงถาม

ทันทีที่เสี่ยวเฉิงพูดจบ ผู้ชมต่างก็เริ่มตะโกนโห่ร้องใส่เฉียนเย่ พวกเขาพลันจ้องมองชายผู้มาจากบริษัทเหว่ยเนชั่นอย่างรังเกียจ เพราะตอนแรกเฉียนเย่ยังทําตัวราวกับตัวเองช้ําชองและเก่งกาจเรื่องลูกเต๋าอยู่เลย

ทันทีที่รู้ตัวว่าถูกจ้องมอง เฉียนเย่ก็พลันพูดขึ้นมา “ผมเอาชนะคุณได้แน่นอนถ้าเราเพิ่มกฎบวกลบสองเข้าไป… ผมหมายความว่าหากตัวเลขที่คุณทอยได้คือ 25 แล้วผมเดาตัวเลขที่อยู่ระหว่าง 23 ถึง 27 ผมก็จะเป็นผู้ชนะ เอาแบบนี้แทนไหมล่ะ? คุณกล้าหรือเปล่า? ผมรู้นะว่าคุณกําลังพยายามทําให้เกมนี้ไม่มีผู้ชนะ แต่แบบนั้นก็คงจะน่าเบื่อและใช้เวลานานไปหน่อย”

เสี่ยวเฉิงเผยยิ้ม “ได้สิ งั้นเราก็จะเล่นกันแบบนั้น ยังไงเสีย คุณเฉียนเย่ครับ เชิญคุณเลือกจํานวนลูกเต๋ก่อนได้เลยครับ”

“ไม่เอาน่า คุณเลือกเลย” เฉียนเย่สวนกลับ

“งั้นมาเล่นกันสักสิบลูกก็แล้วกัน!” เสี่ยวเฉิงตอบกลับ

“ได้เลย!” เฉียนเย่ตอบกลับ

หลังจากนั้น พนักงานพลันนําลูกเต๋มาทันที ในตอนนี้ เสี่ยวเฉิงและเฉียนเย่ต่างก็ตรวจสอบอุปกรณ์การเล่นไม่นานนัก เสี่ยวเฉิงก็พลันกล่าวคําพูดกับเฉียนเย่ “คุณเริ่มก่อนก็ได้”

อันที่จริง ใครก่อนใครหลังนั้นไม่สําคัญอะไรเลย แต่ทว่า เฉียนเย่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาพลันหยิบถ้วยขึ้นมาแล้วโกยลูกเต๋ทั้งหมดบนโต๊ะเข้าไปอย่างราบรื่น ระหว่างนั้น เสียงปรบมือจากผู้ชมก็พลันดังขึ้น นั่นเป็นเพราะมันเป็นเรื่องยากมากที่จะโกยลูกเต๋ทั้งสิบเข้าไปในถ้วยได้ในคราวเดียว เห็นได้ชัดเลยว่าชายคนนี้มากฝีมือไม่น้อย

กก กก กก กก กก…

ในตอนนี้ เฉียนเย่กําลังเขย่าลูกเต่อยู่

ถ้าเป็นในหนัง ในเวลานี้ พระเอกก็คงจะหลับตาแล้วตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ แต่ในความเป็นจริง เสี่ยวเฉิงทําเพียงแค่หยิบบุหรี่ออกมาจุดและนั่งมองเท่านั้น ทุกคนดูผ่อนคลายไม่น้อย

ระหว่างมองดูจากด้านข้าง ทันทีที่เห็นว่าเสี่ยวเฉิงนั้นสงบนิ่งขนาดไหน เซินเหยาก็พลันรู้สึกทิ้งเล็กน้อย เธอถึงกับบ่นพึมพํากับตัวเอง ทําตัวอวดเก่งได้น่าหมั่นไส้จริง ๆ เลยนะ

ทันใดนั้น เฉียนเย่ก็พลันยกถ้วยขึ้นสูงและกระแทกกลับลงไปที่โต๊ะพร้อมกับตะโกนถามเสี่ยวเฉิง “คุณเดาได้เลย”

เสี่ยวเฉิงพลันพ่นควันสีขาวออกมาและหรี่ตาลง ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าดวงตาของเขาเป็นประกายอยู่ครู่หนึ่งระหว่างที่ควันกําลังลอยขึ้น

เสี่ยวเฉิงพลันใช้ดวงตาเอ็กซ์เรย์มองดูลูกเต๋ภายในถ้วย ทันใดนั้น เขาก็หัวเราะและกล่าวคําพูดออกมา “1, 1, 1, 2, 3, 4, 5, 5, 5, 6 แต้มรวมทั้งหมดคือ 33 คุณเปิดถ้วยได้เลย”

ทันทีที่เฉียนเย่ยกถ้วยขึ้น ทุกคนต่างก็เดินเข้ามารอบโต๊ะเพื่อดูผลลัพธ์ ระหว่างนั้น ชายคนหนึ่งก็พลันตะโกนนับเลขเสียงดัง “1 สามลูก 2 หนึ่งลูก 3 หนึ่งลูก 4 หนึ่งลูก 5 สามลูก แล้วก็ 6 หนึ่งลูก! เดี๋ยวก่อนสิ! คุณเสี่ยวเฉิงเดาถูกหมดเลย!”

“ไม่จริงน่า! ไม่ใช่แค่ผลรวมถูกเท่านั้นนะ แต่เขายังเดาตัวเลขของลูกเต๋แต่ละลูกถูกหมดเลยด้วย! ให้ตายเถอะพระเจ้า!”

ฝูงชนพลันส่งเสียงดังด้วยความตกใจทันที และเฉียนเย่ในตอนนี้ก็ถึงกับเหงื่อไหลอาบหน้าไม่หยุด

เสี่ยวเฉิงพลันเผยยิ้ม เซินเหยาเองก็เช่นกัน

ทันใดนั้น ใบหน้าของเฉียนเย่ก็พลันมีดลง…

เป็นไปไม่ได้!

มันเป็นไปไม่ได้”

“ไอ้หมอนี่เดาถูกได้ยังไง?! มันเดาตัวเลขบนลูกเต๋าแต่ละลูกถูกหมดได้ยังไงกัน?”

ทันใดนั้น นายน้อยฉันก็พลันวิ่งไปที่โต๊ะพร้อมกับกล่าวคําพูดขึ้น “เดี๋ยวก่อนสิทุกคน มันยังไม่จบเลยนะ… คุณเสี่ยวเฉิง ตาคุณเขย่าถ้วยแล้ว”

หลังจากนั้น เสี่ยวเฉิงก็ขยับบุหรี่ไปไว้ข้างปาก พร้อมกับพับแขนเสื้อขึ้นและกล่าวคําพูด “ถึงตาผมแล้วสินะ”

ในตอนนี้ ผู้ชมทุกคนรอบโต๊ะต่างก็เฝ้าดูว่าเสี่ยวเฉิงจะทําตัวเป็นเหมือนพระเอกในภาพยนต์หรือไม่ เขาจะโชว์เทคนิคระดับพระกาฬออกมาให้เห็นไหม แม้แต่เซินเหยาเองก็ยังอยากรู้อยากเห็นว่าเสี่ยวเฉิงจะรู้วิธีการเขย่าลูกเต๋าหรือเปล่า…

แต่ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้กลับทําให้ฝูงชนต้องตกใจอีกครั้ง!

นั่นเป็นเพราะเสี่ยวเฉิงทําเพียงแค่ใช้นิ้วหยิบลูกเต๋ขึ้นมาทีละลูกและใส่ลงไปในถ้วย…

ทันทีที่เห็นเช่นนั้น เซินเหยาก็แทบอยากจะเอาเท้าก่ายหน้าผากแล้วหงายท้องล้มลงไปนอนกับพื้นเลย