ตอนที่ 112: ให้ตายเถอะ แบบนี้ก็ได้ด้วย

เสี่ยวเฉิงพลันใส่ลูกเต๋ทั้งสิบลงไปในถ้วย แต่ทว่า ระหว่างที่เสี่ยวเฉิงกําลังพยายามเขย่าถ้วย ลูกเต๋าสองลูกก็พลันหลุดรอดกระเด็นออกมา สรุปก็คือเสี่ยวเฉิงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกมเขย่าลูกเต๋เลยด้วยซ้ํา!

ฝูงชนพลันตกตะลึง พวกเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกระหว่างจ้องมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทําไมมันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเร็วขนาดนี้ล่ะ?

ขอบคุณพระเจ้า!’เซินเหยาพลันครุ่นคิด ดีนะที่เราไม่ได้ไปนั่งอยู่ข้างหมอนั่น ไม่งั้นขายขี้หน้าตายแน่เลย ถ้าเซินเหยานั่งอยู่ข้างเสี่ยวเฉิงในตอนนี้ เธอต้องรีบวิ่งไปหาปมาคุมหัวแน่

อันที่จริง เสี่ยวเฉิงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการเขย่าลูกเต๋เลยแม้แต่น้อย และเขาก็ไม่น่าเสนอเกมแนว “เดาตัวเลข” แบบนี้แต่แรกเลยด้วย

ทันทีที่เสี่ยวเฉิงโยนลูกเต๋สองลูกเข้าไปในถ้วย เขาก็เริ่มเขย่าอีกครั้ง สําหรับคราวนี้ อย่างน้อยก็ไม่มีลูกเต๋าหลุดรอดออกมาแล้ว

ถึงกระนั้น นี่ก็เป็นสิ่งที่เผยให้เห็นว่าเสี่ยวเฉิงยังเป็นมือใหม่ อีกทั้ง เฉียนเย่ที่เป็นกังวลก่อนหน้านี้ก็พลันรู้สึกโล่งใจแล้วด้วย สําหรับตอนนี้ เฉียนเย่ก็กําลังจดจ่อกับการฟังเสียงลูกเต๋กลิ้งไปกลิ้งมาในถ้วย

หากพูดตามเหตุและผล ลูกเต๋สิบลูกที่ถูกเขย่าพร้อมกันนั้นฟังยากมาก และเฉียนเย่เองก็ไม่ได้มั่นใจ 100% กับการคาดเดาของตัวเองเท่าไหร่นัก แต่ตามกฎแล้ว เฉียนเย่ยังสามารถชนะได้ตราบเท่าที่เขายังมีกฎบวกสองลบสองอยู่… นอกจากนี้ ถ้าสามารถชนะในรอบนี้ได้อย่างน้อยเขาก็สามารถยืดเวลาไปเสี่ยงเดาในรอบสองได้อีก อีกทั้ง ในตอนนี้ เฉียนเย่ยังคงเชื่อว่าเสี่ยวเฉิงตอบถูกหมดก็เพราะโชคช่วย

แต่ทว่า ทันใดนั้น เฉียนเย่ก็พลันเริ่มได้ยินความถี่เสียงที่ซับซ้อนมากกว่าเดิมภายในถ้วย และทันทีที่เฉียนเย่มองไปยังเสี่ยวเฉิง เขาก็พลันตระหนักได้ว่าตัวเองไม่สามารถเดาอัตราการสั่นสะเทือนของลูกเต๋ภายในถ้วยได้อย่างแม่นยําต่อไปแล้ว

ใช่แล้ว! ด้วยความเร็วในการเขย่า เสี่ยวเฉิงได้เร่งความถี่พร้อมกับเพิ่มความเร็วในการกลิ้งและกระเด้งของลูกเต๋าภายในถ้วยอย่างน่าตกตะลึง

ระหว่างมองไปยังเฉียนเย่ เสี่ยวเฉิงก็พลันเผยยิ้มออกมาพร้อมกับส่งสายตาประมาณว่า “อยากฟังมากใช่ไหมล่ะ? มาดูกันเถอะว่านายจะไล่ตามลูกเต๋ของฉันทันไหม… ตอนนี้ฉันเขย่าถ้วยได้ห้าครั้งต่อวินาที ป่านนี้ ลูกเต๋คงเด้งกระจายไปคนละทิศคนละทางหมดแล้ว ฮ่าฮ่า ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างนายจะเดาถูกน่ะ!” นั่นคือ สิ่งที่เสี่ยวเฉิงต้องการจะสื่อออกมา

ทว่า นี่เป็นแผนการของเสี่ยวเฉิงมาตั้งแต่ต้น ด้วยความที่เสี่ยวเฉิงไม่รู้วิธีเขย่าลูกเต๋ ดังนั้น ถ้าเขายอมเล่นเกมเขย่าลูกเต๋าหาจํานวนสูงหรือจํานวนต่ํากับเฉียนเย่ตั้งแต่เริ่มแรก เสี่ยวเฉิงจะต้องแพ้อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เสี่ยวเฉิงยังสามารถเล่นเกมเดาตัวเลขอะไรแบบนี้ได้อยู่ นั่นเป็นเพราะหนึ่ง เขามีสายตาเอ็กซ์เรย์ที่สามารถมองทะลุเข้าไปดูตัวเลขภายในถ้วยได้ และสอง ความเร็วในการเขย่าถ้วยของเสียวเฉิงถือว่าเร็วมาก เร็วจน ทําให้เฉียนเย่ฟังเสียงลูกเต๋ไม่ทันเลยทีเดียว สําหรับสองเหตุผลนี้ เสี่ยวเฉิงจะต้องชนะศึกครั้งนี้อย่างแน่นอน

ในตอนนี้ ยิ่งเฉียนเย่ตั้งใจฟังมากเท่าไหร่ เขาก็พลันรู้สึกราวกับสมองกําลังถูกรบกวนมากขึ้นเท่านั้น ไม่นานนัก เขาก็เริ่มปาดเหงื่อบนใบหน้าออกอีกครั้ง

ทว่า เสี่ยวเฉิงพลันหยุดเขย่ากะทันหันพร้อมด้วยกระแทกถ้วยลงบนโต๊ะ หลังจากนั้น เขาก็มองไปยังเฉียนเย่ และพูดขึ้น “ตาคุณเดาแล้ว”

สมองของเฉียนเยู่ในตอนนี้เหมือนถูกปั่นรวมกันอยู่ในเครื่องปั่น เขากําลังเดาอะไรอยู่กันแน่ใจียนเย่เดาเลขอะไรไม่ได้เลย ความถี่ที่เสียวเฉิงก่อก่อนหน้าทําให้เฉียนเก่ประเมินทุกอย่างผิดไปหมดอย่างน่าใจหาย

ทันทีที่เห็นเฉียนเย่เหงื่อออก นายน้อยฉันก็พลันขมวดคิ้วและเดินเข้ามาถาม “เกิดอะไรขึ้นกันเหรอครับ?”

“ผม…” เฉียนเย่ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา… เขาพลันรู้สึกกังวลกับสายตาของผู้คนที่จับจ้องและมองมา อันที่จริง เฉียนเย่ไม่อยากตอบคําถามของเสียวเฉิงเลยด้วยซ้ํา เพราะนั่นจะทําให้ตัวเขาเองต้องอับอายขายขี้หน้า เฉียนเย่เดาตัวเลขอะไรไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว!

“เร็วสิ ตอบไปเลย คุณเดาเลขอะไรเอาไว้ล่ะ?” ผู้ชมจํานวนมากจากฝูงชนเริ่มส่งเสียงตะโกน

ไม่นานนัก เซินเหยาก็พลันเดินเข้ามาพร้อมกับพูดขึ้นเสียงเพื่อปลุกระดม “ตอนแรกคุณยังอวดเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? คุณเฉียนเย่คะ นี่คุณดังในหมู่นักพนันได้เพราะเส้นสายหรือเปล่าเนี่ย?”

“พล่ามบ้าอะไรของเธอกัน?” เฉียนเย่ตะโกน “มีใครในอุตสาหกรรมการพนันบ้างล่ะที่ไม่รู้จักทักษะในด้านลูกเต๋าของผม?!”

“งั้นทําไมคุณไม่ตอบล่ะ?” เซินเหยาถาม

เฉียนเย็พลันหลับตาและพยายามสงบสติอารมณ์ หลังจากนั้น เขาก็ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาในการคาดเดาเพียงคร่าว ๆ ทันใดนั้น เขาก็พลันกล่าวคําพูดออกมา “ผมขอเดาว่า 35”

เสี่ยวเฉิงพลันรีบยกถ้วยขึ้นทันที แต่ทว่า ลูกเต๋าข้างในกลับเป็นเลข “1, 1, 2, 2, 3, 3, 3, 5, 5, 6”