บทที่ 292 วันส่งท้ายปีเก่า

บทที่ 292 วันส่งท้ายปีเก่า

หง่าง ๆ

เสียงระฆังทึบกึกก้องที่ดังขึ้นนั้นประหนึ่งดังมาจากฟากฟ้า ทั้งเมืองหลวงต่างก็ได้ยินกันทั่ว

ทันทีที่พวกเขาได้ยินเสียงระฆัง ผู้ใหญ่ที่เคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้วต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องและกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ แม้แต่เปลวเทียนในโคมนักษัตรที่พวกเขาถือก็ยังวูบไหวไปมา ราวกับพวกมันมีความสุขกับการแสดงพลุเช่นกัน

ตอนนี้เสี่ยวเป่าเองยืนอยู่ข้างท่านพ่อพลางถือโคมไฟรูปหนูอันงดงามไว้ ดวงตากลมโตสดใสคู่นั้นตั้งตารอการแสดงพลุที่กำลังจะมาถึง

ในที่สุดหลังจากระฆังดังครบสามครั้งพร้อมกับเสียงแหลมที่ดังก้อง ประกายไฟสายหนึ่งพลันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนระเบิดออกมาจนทำให้ทั่วทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสวในพริบตา

ดวงตาของเสี่ยวเป่าเบิกกว้าง ก่อนใบหน้าอันบอบบางจะฉายแววตื่นเต้นยินดี

“ว้าว! ท่านพ่อ ดูพลุนั่นสิเพคะ มันใหญ่มาก!”

“ท่านพี่ดูสิเพคะ มันสวยมาก”

ครั้งนี้นางสามารถร่วมชมพลุกับผู้คนมากมายได้แล้ว

ทุกคนสัมผัสได้ถึงความสุขและความตื่นเต้นของเสี่ยวเป่า จึงพากันมองดูด้วยความเอ็นดู

เมื่อใดก็ตามที่นางถาม ทุกคนก็พร้อมที่จะตอบรับ ทำให้เสี่ยวเป่ารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

เจ้าตัวน้อยสวมเสื้อคลุมเทศกาลสีแดง ยืนอยู่ระหว่างท่านพ่อและพี่ชายด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า

ทางเหล่าเด็กน้อยมากมายในเมืองหลวงต่างก็มีความสุขเช่นเดียวกับตน

พวกเขาถือโคมนักษัตรของตัวเอง บ้างก็จับมือบิดามารดาหรือขี่บนไหล่บิดาพลางหัวเราะร่าอย่างมีความสุขขณะชมพลุ

ไม่ว่าจะรวยหรือจน เมื่อถึงปีใหม่ ไม่ว่าผู้ใดก็วาดหวังว่าปีหน้าจะดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ

การแสดงพลุกินเวลานานกว่าสองเค่อ

เมื่อไร้เสียงพลุ ท้องฟ้าทั้งหมดพลันเงียบสงบลงถนัดตา

แต่ในความเป็นจริง จากหอคว้าดารานี้ เสี่ยวเป่าสามารถมองเห็นว่า ถึงแม้ความตื่นเต้นบนท้องฟ้าหายไปแล้ว หากความตื่นเต้นในโลกมนุษย์ยังคงดำเนินต่อไป

ในคืนที่มืดมิด โคมแดงที่ห้อยอยู่ใต้ชายคาและบนต้นไม้นั้นมองเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษ

บางทีโคมไฟแค่ใบสองใบอาจไม่โดดเด่นนัก แต่เมื่อรวมตัวกันดุจทะเลดารา กลับดูงดงามยิ่ง

ชู่…

ทันใดนั้น ประกายไฟในหลายจุดก็สว่างขึ้น

เสี่ยวเป่ารีบดึงท่านพ่อให้ช่วยอุ้มนางขึ้นสูง พลางพยายามยื่นคอเล็ก ๆ เพื่อชะเง้อมองออกไปข้างนอก

อะไรน่ะอะไร นั่นคืออะไรน่ะ

มันค่อนข้างคล้ายกับพลุ แต่ดูแตกต่าง

“พลุโอ่ง”

หนานกงฉีจวินเป็นคนบอก ก่อนจะพูดอวด

“นี่คือสิ่งที่ข้าชอบดู”

มันคล้ายกับพลุแต่ก็แตกต่าง เพราะพลุสามารถพุ่งขึ้นไปสถานที่ที่สูงมากได้ ในขณะที่พลุโอ่งนั้นพุ่งได้สั้นกว่ามาก แต่เมื่อจุดแล้ว ประกายไฟจะกระจายออกเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่เรืองแสงได้ ก่อนที่ประกายไฟเหล่านั้นจะกระจายออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนดาวตกที่ร่วงหล่นตกลงมา

แม้จะคงอยู่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ช่วงเวลาอันน่าพิศวงนั้นก็มิอาจลืมเลือนได้

นอกจากนี้ พระราชวังยังได้จัดเวทีสำหรับการแสดงพลุ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งด้านล่างของหอคว้าดารา

โดยเมื่อเทียบกับข้างนอกแล้ว พลุในพระราชวังมีขนาดใหญ่และงดงามกว่ามาก

ครั้นเหล่ามืออาชีพโยนเหล็กหลอมขึ้นสู่ท้องฟ้า เหล็กหลอมนั้นก็กลายเป็นประกายไฟกระจัดกระจายลงมา ครั้นตกกระทบเวทีที่เตรียมไว้ ก็ระเบิดประกายอันงดงามตระการตา

เสี่ยวเป่ามองลงไปขณะที่ยืนอยู่ชั้นบน หลังจากร้องว้าวด้วยความประหลาดใจ นางก็ปรบมือและกระโดดโหยงเหยงด้วยความตื่นเต้น

“ช่างงดงามยิ่ง!”

หนานกงฉีจวินหัวเราะอย่างมีความสุขเช่นกัน “ใช่ ๆ ข้าเองก็ว่ามันงดงามยิ่ง!”

เสียงหัวเราะเริงร่าดังขึ้นบนหอคอย โดยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาเช่นนี้พาให้คนอื่น ๆ รู้สึกมีความสุขเช่นกัน

นับตั้งแต่เข้ามาในวัง ปีนี้คงนับเป็นปีที่มีความสุขที่สุดแล้ว

ในอดีตพวกนางต่างมาที่หอคว้าดาราแห่งนี้เพื่อชมพลุเช่นกัน แต่พระพักตร์ที่เย็นชาและไร้อารมณ์ของฝ่าบาท รวมถึงรัศมีอันทรงพลังนั้น ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูเคร่งเครียดเล็กน้อย เมื่อพระองค์ไม่ได้ตรัส ก็ทำให้ทุกคนที่เห็นต่างไม่กล้าแม้แต่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ

ยามนี้ช่างดียิ่ง มีองค์หญิงน้อยคนเดียวก็เทียบเท่าคนสิบคน นางชอบพูดคุยและหัวเราะกับบรรดาองค์ชาย ทำให้บรรยากาศครึกครื้นอย่างยิ่ง

นี่ต่างหากเล่าคือบรรยากาศการฉลองปีใหม่ที่พึงมี

หลังจากชมพลุแล้วก็มีคนเริ่มปล่อยโคมขึ้นฟ้าบราวนี่ออนไลน์

เสี่ยวเป่าถามอย่างกังวลขณะมองโคมที่ลอยอยู่รอบ ๆ

“ท่านพ่อเพคะ ถ้าโคมตกลงมา มันจะเผาบ้านคนอื่นหรือไม่”

หนานกงสือเยวียน “ไม่”

เสี่ยวเป่า: ข้าไม่เชื่อ!

หนานกงฉีซิวอธิบายด้วยรอยยิ้ม “เสด็จพ่อได้สั่งให้องครักษ์จินอู่และคนอื่น ๆ คอยลาดตระเวนแล้ว ในสภาพอากาศเช่นนี้ล้วนมีหิมะอยู่ทุกหนทุกแห่ง ฉะนั้นหลังจากโคมตกลงมาจึงไหม้ไม่นานนัก”

แม้ว่าจะรู้ถึงอันตราย แต่หลาย ๆ คนก็ยังคงปล่อยโคมกันทุกปี

ได้ยินเช่นนั้นเสี่ยวเป่าถึงได้วางใจ

หลาย ๆ คนมาปล่อยโคมด้วยกัน เสี่ยวเป่าเห็นกระทั่งโคมที่ลอยละล่องไปนอกกำแพงพระราชวังด้วยซ้ำ

เมื่อมีอันแรกก็จะมีอันที่สอง โคมอันแล้วอันเล่าจะมารวมกัน

โคมในมือของเสี่ยวเป่ากับบรรดาพี่ชายก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ช่างเป็นภาพที่งดงามจับตา…

ในขณะนี้ทุกคนต่างประสานมือเพื่ออธิษฐาน

ทางเสี่ยวเป่าเองก็หลับตาและอธิษฐานเช่นกัน

ขอให้ท่านพ่อกับท่านพี่มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขตลอดไป

ในที่สุดโคมก็ลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับคำอธิษฐานนับพัน

ถึงจะดูดี แต่ก็อันตรายเช่นกัน

โชคดีที่มีทหารลาดตระเวนอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อโคมตกลงมา พวกเขาก็จะสามารถดับไฟได้ทันเวลา

ปีนี้โชคดีมากที่โคมเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้

ในที่สุดเสี่ยวเป่าก็วิ่งไปที่แม่น้ำในพระราชวังเพื่อจุดโคม

นางได้ยินมาว่าโคมนี้สามารถไปที่ยมโลกเพื่อส่งข้อความถึงญาติที่เสียชีวิตได้ เสี่ยวเป่าต้องการส่งข้อความถึงท่านแม่คนงามของนาง โดยบอกยามนี้ว่านางมีชีวิตที่ดี นางมีท่านพ่อ และท่านพ่อก็รักนางมาก ทั้งยังมีบรรดาพี่ชายอีกมากมายที่เอ็นดูนางด้วย

ตอนนี้เสี่ยวเป่าเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลก!

หลังจากเล่นสนุกและตื่นเต้นมาทั้งวัน เสี่ยวเป่าก็เหนื่อยมากจนหาวหวอด ก่อนจะนอนซบบนไหล่กว้างของท่านพ่อจมสู่ห้วงนิทราไป

ทว่าแม้ร่างกายของนางอยากจะนอนแค่ไหน แต่ปากเล็ก ๆ ยังคงพึมพำไม่หยุด

“ท่านพ่อเพคะ วันนี้เสี่ยวเป่ามีความสุขยิ่ง เสี่ยวเป่าได้ชมพลุกับท่าน พลุงดงามมาก โคมก็ด้วย วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดสำหรับเสี่ยวเป่าเลย…”

ในที่สุดเด็กน้อยก็ไม่สามารถต้านทานความง่วงได้ เสียงของนางเบาลงเรื่อย ๆ ก่อนเอียงศีรษะพับหลับไป

ใบหน้าขาวอวบแนบชิดไหล่ของท่านพ่อจนแก้มกองเป็นก้อน ขณะที่มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เสียงลมหายใจแผ่วเบาดังเข้าหูหนานกงสือเยวียนเป็นระยะ

เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย ก่อนยกคางขึ้นเพื่อลูบผมยาวสลวยของลูกสาว

“เจ้ามีความสุขเพียงนั้นเชียว?”

หนานกงสือเยวียนกระซิบ แต่ไม่มีใครตอบคำถามของเขา แววตาของหนานกงสือเยวียนหรี่ลงเจือแววเอ็นดู

เจ้าตัวเล็กนี่ช่างพอใจง่ายเสียจริง

คืนหนึ่งผ่านไป เสี่ยวเป่าที่ได้นอนหลับเต็มอิ่ม นางก็กลับมาเป็นเจ้าก้อนแป้งน้อยที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลังอีกครั้ง

ครั้นนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน นางก็ยังรู้สึกไม่ค่อยเต็มอิ่มนัก

สนุกจริง ๆ ฮิฮิ…

ท่านพ่อไม่อยู่แล้ว หลังจากแต่งตัว เสี่ยวเป่าจึงถามไปรอบ ๆ ก่อนพบว่าท่านพ่อไปออกกำลังกาย นางพลันเม้มริมฝีปากแล้วทอดถอนใจ

“ท่านพ่อทรงพลังยิ่งนัก”

ปีใหม่แล้วยังไม่ลืมออกกำลังกายด้วย