บทที่ 257 งานเลี้ยงวันเกิด

เจ้าของร้านพิศวง

บทที่ 257 : งานเลี้ยงวันเกิด

“อย่าประมาทเรื่องนี้เชียวนะจือซู่ เหตุผลเดียวที่บริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์กุมอำนาจปกครองนั่นก็เพราะพวกเราได้รับสัมปทานพัฒนาทรัพยากรจากเมืองเขตล่างแต่เพียงผู้เดียวนะ”

“หากมีองค์กรอื่นเข้ามาควบคุมทางเชื่อมอีกทางหนึ่งได้ล่ะก็ บริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์จะตกจากบัลลังก์ ยิ่งไปกว่านั้น พอพูดถึงอำนาจการกระจายสินค้าของหอการค้าแอชแล้ว ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะท่วมตลาดในเวลาอันสั้น ถึงตอนนั้นผลกระทบจะรุนแรงนะ…”

เมื่อเขาเห็นเธอถอนหายใจ จี้ป๋อหนงจึงพูดต่ออย่างหนักใจ “จุดยืนของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ไม่เคยมั่นคงเลยในสมัยก่อตั้ง หอการค้าแอชถูกก่อตั้งขึ้นโดยสมาพันธ์ดรูอิด และสังคมผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็ยอมรับพวกเขาเป็นพวกเดียวกันด้วย หากแผนของพวกเขาสำเร็จขึ้นมา ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติส่วนมากจะเปลี่ยนไปหาหอการค้าแอชแทน”

“แต่ว่าลูกก็ไม่ต้องกังวลเวอร์วังอะไรเกินเหตุนักก็ได้ พวกระดับสูงตัวจริงในหมู่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจะสนับสนุนเรา เพราะพวกเราเป็นคนธรรมดานี่แหละ พวกเขาสบายใจได้กับการผูกขาดที่มีอยู่เพราะต่อให้บริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์จะประสบความสำเร็จ แต่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็จะสามารถริบมันคืนได้ทุกเมื่อ”

“ต่อให้เราเสียสถานะยิ่งใหญ่ของเราไป แต่บริษัทโรลล์ต้องยังอยู่เพื่อคานอำนาจกับหอการค้าแอช”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “สุดท้ายแล้ว ก็ต้องหลังจากที่ลูกตั้งรกรากด้วยฐานะของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้อย่างมั่นคงแล้วนั่นแหละ บริษัทโรลล์จึงจะได้เติบโตในโลกของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้อย่างแท้จริง”

“และก่อนหน้านั้น…”

จี้จือซู่โยนเอกสารทิ้งไป กอดอกของเธอแล้วพูดขัด “ก่อนหน้านั้นเราก็ควรมุ่งเป้าไปที่ความเสถียรจะดีที่สุดใช่ไหมคะ? รักษาบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ไว้ให้ได้มากที่สุดแล้วพยายามยื้อหอการค้าแอชไว้จนกว่าทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันได้เหรอคะ?”

“แต่ว่า…” รอยยิ้มของเธอกว้างขึ้นในขณะที่เธอหัวเราะคิกคักราวจิ้งจอกแสนกล “ทำไมต้องลำบากลำบนขนาดนั้นด้วยล่ะคะ?”

จี้ป๋อหนงไม่เห็นด้วยกับความมั่นใจเกินเหตุของลูกสาวของเขานิดหน่อย แล้วเขาก็เถียงยิ้ม ๆ “ถึงพ่อจะไม่เคยไปเจอเจ้าของร้านหนังสือด้วยตัวเองมาก่อน แต่จากทุกข้อมูลที่รวมมาได้ ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเขาแข็งแกร่งมากนะ”

“แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ นอกเสียจากทางเชื่อมนั่นจะถูกปิด การผูกขาดธุรกิจของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์จะอยู่ในความเสี่ยง ต่อให้เจ้าของร้านหนังสือจะทำแบบนั้นได้ก็ตาม แต่ลูกจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะช่วยแน่ ๆ? เพราะถึงอย่างไรตาแก่ธรรมดา ๆ อย่างพ่อก็ไม่ได้มี ‘ศักยภาพ’ น่าลงทุนอะไรเลยนะ”

“ยิ่งกว่านั้น การปิดทางเชื่อมก็แก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมดด้วย เรื่องนี้ซับซ้อนมากและต้องไตร่ตรองอย่างละเอียด ถ้าเราลงมือช้าไป บริษัทโรลล์อาจจะเสียหายไปมากกว่านี้อีกนะ…”

“บางทีลูกอาจคิดว่าพ่ออนุรักษ์นิยมมากเกินไป แต่เราจะฝากความหวังให้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมากเกินไปไม่ได้หรอก ในสายตาพวกเขาแล้ว เราก็แค่สิ่งมีชีวิตธรรมดาเหมือนมดบนพื้นนั่นแหละ ทำไมพวกเขาต้องยอมลดตัวลงมาร่วมมือกับมดด้วยล่ะ?”

จี้ป๋อหนงพูดจากประสบการณ์ความเป็นมือเก่าพลางทิ้งตัวลงพิงเก้าอี้ของเขาอย่างจนใจ

จี้จือซู่ส่ายหน้าแล้วขัดการบ่นของบิดา “แนวความคิดของพ่อถูกและเป็นเหตุเป็นผลมากจริง ๆ ค่ะ แต่ในความเห็นหนูแล้ว พ่อยังดูถูกอิทธิพลและลักษณะนิสัยของคุณหลินอยู่นะคะ”

“ข้อมูลบางอย่างถูกหอพิธีกรรมต้องห้ามระงับไว้โดยจงใจ และหนูก็ไม่สะดวกจะเปิดเผยมันเหมือนกัน แต่พ่อต้องเข้าใจนะคะว่าคุณหลินก้าวข้ามระดับเหนือนภาไปแล้วค่ะ และคนอย่างเรา ๆ ก็เดาเจตนาของเขาไม่ได้หรอก”

จี้จือซู่พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นอีก “ในตอนที่หนูเริ่มติดต่อกับร้านหนังสือ หนูก็เพิ่งจะเข้าสู่ระดับสัตว์ประหลาดและไม่ได้ต่างกับคนธรรมดามากเท่าไรนักเลย หนูไม่ต่างจากมดตัวหนึ่งเลยค่ะ”

“ทุกคน ไม่ว่าจะเหนือธรรมชาติหรือไม่ ต่างก็เหมือนมด ความรื่นเริงที่เขาได้รับจากการ ‘หยอกมดเล่น’ ก็ย่อมเหมือน ๆ กันอยู่แล้วนะคะ”

“ดังนั้นพ่อน่ะหายห่วงได้เลยค่ะ”

จี้จือซู่พูดต่อด้วยรอยยิ้ม “ตราบใดที่พ่อเต็มใจจะไปหาเขา หนูก็คิดว่าคุณหลินจะยิ่งกว่าเต็มใจที่จะเสนอความช่วยเหลือให้นะคะ ที่จริงเขายินดีเลยล่ะ”

“แล้วก็…คุณหลินในตอนนี้ก็มีอิทธิพลมหาศาลต่อผู้มีอำนาจตัดสินใจหลักของหอพิธีกรรมต้องห้ามและสมาคมแห่งสัจธรรมด้วย ถ้าหนูเดาถูก รองประธานแอนดรูว์ได้กลายเป็นสาวกคนหนึ่งของร้านหนังสือไปแล้วค่ะ ตราบใดที่เราดึงคุณหลินมาเป็นพวกเราได้ สองฝ่ายนั้นก็จะมาอยู่ฝั่งเราด้วยเหมือนกันนะคะ”

จี้ป๋อหนงมีความประทับใจต่อแอนดรูว์อยู่ไม่น้อย ในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นที่คฤหาสน์ หนุ่มเนื้อหอมที่เฒ่าชราลงแล้วคนนี้โดดเด่นท่ามกลางเหล่านักวิชาการผู้เย็นชาเย่อหยิ่งของสมาคมแห่งสัจธรรมเสมอ ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ทั้งคู่ยังเคยสนทนากันมาบ้างแล้วด้วย

เมื่อประธานมาเรียแห่งสมาคมแห่งสัจธรรมเก็บตัวแยกออกไป รองประธานทั้งสองก็กุมอำนาจสูงสุด

จากรายงานข่าวล่าสุดของจี้จือซู่ ปรากฏว่าแอนดรูว์ได้รับความนิยมมากพอจะเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจหลักในสมาคมแห่งสัจธรรมได้

นี่ทำให้จี้ป๋อหนงเรรวน ถ้าเป็นเช่นนั้น หากได้เจ้าของร้านหนังสือมาอยู่ฝั่งพวกเขาล่ะก็ บริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ก็จะมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งมาก…

ทว่าเขาก็ยังแสดงท่าทีลังเลอยู่

ลักษณะนิสัยของผู้มีพลังเหนือธรรมชาตินั้นไม่แน่ไม่นอนเกินไป และจี้ป๋อหนงก็ยังเคลือบแคลงในคำกล่าวอ้างของลูกสาวของเขาเองด้วย แม้ว่าเธอจะมั่นใจมากก็ตาม

ยิ่งกว่านั้น หอการค้าแอชยังไล่จี้พวกเขามาติด ๆ และเขาจะหายไปไหนไม่ได้ หากจี้ป๋อหนงลุกออกไป พวกเขาจะปรี่เข้ามาประชิดได้ทัน ซึ่งนั่นอาจนำไปสู่ความเสียหายใหญ่หลวงได้ ในกรณีร้ายแรงที่สุด พวกเขาก็อาจจะล่มจมจนฟื้นตัวไม่ได้อีกเลยก็ได้

การก้าวต่อนั้นเท่ากับการเดิมพัน…

การเดิมพันที่ถูกต้องจะทำให้เกิดอนาคตที่น่าเฝ้ารอ แต่ทว่าการเดิมพันนั้นผิดพลาดก็จะทำให้เขาเสียทุกอย่าง

จี้ป๋อหนงพรมนิ้วของตัวเองลงบนโต๊ะเบา ๆ สีหน้าของเขาจริงจังในขณะที่กำลังไตร่ตรองสถานการณ์

จี้จือซู่ทอดสายตามองทิวทัศน์ด้านนอกไปไกล เฝ้ามองแสงสว่างที่ส่องสว่างบนคฤหาสน์อันไร้ขอบเขตราวแสงดาวบนฟ้ายามราตรี “กำไรส่วนใหญ่ของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์มาจากบุคคลธรรมดา กำไรพวกนั้นถือว่ามหาศาลแล้วสำหรับคนทั่วไป แต่เพราะเหตุผลเดียวกัน พวกผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจึงมองข้ามบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ไป เพราะสิ่งเหล่านี้มันได้มาง่ายมากสำหรับพวกเขา”

เสียงของเธอแหบและพร่าเล็กน้อยราวกับเป็นคำเชื้อเชิญของนางปีศาจ “พ่อคะ พ่อไม่คิดเหรอว่าพ่อกำลังวางเกวียนไว้หน้าม้า? คิดสิคะว่าเราต้องการอะไรกันแน่ การเข้าไปในโลกของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติใช่ไหมล่ะคะ”

“ตราบใดที่บริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์สามารถขอสิทธิ์กระจายหนังสือจากร้านหนังสือมาได้ ลืมไปเลยค่ะกับอีแค่เรื่องเข้าไปยังโลกนั่น พวกผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจะปรี่เข้ามาคุกเข่าอ้อนวอนกับเรากันอย่างเต็มใจด้วยซ้ำไป…”

ดวงตาของเธอลุกโชนโชติช่วงขณะที่พูดเสริม “หนังสือพวกนั้นคือสมบัติที่แท้จริงค่ะ นี่คือโอกาสที่บริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์ต้องการเพื่อที่จะได้มาซึ่งความยำเกรงจากผู้มีพลังเหนือธรรมชาตินะคะ!”

“ตราบใดที่เราสามารถเลื่อนขึ้นสู่ระดับที่สูงกว่าและมีรากฐานที่มั่นคงได้ กำไรทั้งหมดในตอนนี้ไม่มีค่าอะไรเลยค่ะ นั่นเป็นความคิดที่ใจแคบมาก หอการค้าแอชจะต้องสูญเสียให้กับการขาดการมองการณ์ไกลของพวกเขาค่ะ”

“แล้วก็ความเป็นห่วงผลได้ทางทรัพย์สินทางโลกนี่คือสิ่งที่ขวางหนทางสู่ความสำเร็จของบริษัทพัฒนาทรัพยากรโรลล์อยู่นะคะ!”

ประหนึ่งรู้แจ้งขึ้นมากะทันหัน จี้ป๋อหนงลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วพูดลอดไรฟันออกมา “ลองเดิมพันตามนี้ดูกัน!”

เขาวางฝ่ามือลงบนเอกสารบนโต๊ะแล้วกวาดเอกสารที่ยังไม่ได้รับการจัดเรียงเกี่ยวกับการตัดสินใจและการเคลื่อนไหวของหอการค้าแอชลงบนพื้น ในขณะที่เขาบอกจี้จือซู่ว่าเขาจะไปพบเจ้าของร้านหนังสือในวันพรุ่งนี้

แล้วหลังจากที่จู่ ๆ เขาก็นิ่งไปครู่หนึ่ง เขาก็แย้มยิ้มออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ในเมื่อเราจะทำแล้ว แล้วทำไมไม่ไปให้สุดเลยล่ะ? จือซู่ ลูกมั่นใจไหมว่าจะเชิญคุณหลินมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดอายุยี่สิบของลูกได้?”