บทที่ 277 บุกโจมตีและสังหารในคืนสายฝนกระหน่ำ

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 277 บุกโจมตีและสังหารในคืนสายฝนกระหน่ำ

บทที่ 277 บุกโจมตีและสังหารในคืนสายฝนกระหน่ำ

‘แม้ตึกจะสูงเท่าใด แต่ก็ต้องสร้างขึ้นจากพื้นดิน’

เปรียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่ว่าใครก็จำเป็นจะต้องรู้ถึงหลักในการไหลของพลังปราณในร่างกายเสียก่อน จากนั้นจึงจะสามารถเรียนรู้การควบคุมพลังปราณในร่างกายให้เคลื่อนไปได้ดั่งใจนึก

ดังนั้นโจวอี้จึงสอนวิธีการฝึกยุทธ์ให้กับลูกสาวทั้งสองคนอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป เขาเพียงอธิบายสิ่งที่ต้องให้ความสนใจในเบื้องต้นเท่านั้น เขายังไม่ได้สอนในสิ่งที่ต้องใช้ความเข้าใจระดับสูง เพราะตอนนี้เขาคิดว่ามันยังไม่จำเป็น

แม้ว่าลูกสาวทั้งสองจะมีพรสวรรค์ในการฝึกยุทธ์ แต่พวกเธอเพิ่งจะรับรู้ได้ถึงพลังปราณเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นคงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าพวกเธอจะสามารถควบคุมพลังปราณได้ดั่งใจนึก

ภายในห้องนั่งเล่น

โจวอี้มองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นแม่เฒ่าเทียนจี้

“คุณย่าอยู่ที่ไหนเหรอครับ?” โจวอี้หันไปถามเหม่ยหลาน

“เธอขอให้ฉันบอกคุณว่าเธอกำลังจะไปเซี่ยงไฮ้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะกลับมาเมื่อไหร่” เหม่ยหลานหยุดถูพื้นและหันมาตอบกลับด้วยความเคารพ

ถูกต้องแล้ว!

ทัศนคติของเธอที่มีต่อโจวอี้นั้นเปลี่ยนไปเป็นการให้ความเคารพอย่างมาก! และหลังจากที่เธอรู้ว่าโจวอี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ เธอจึงประหม่าทุกครั้งที่เห็นโจวอี้

เซี่ยงไฮ้?

โจวอี้ขมวดคิ้ว เขามีความรู้สึกที่คลุมเครือว่าการที่แม่เฒ่าเทียนจี้ไปที่เมืองเซี่ยงไฮ้นั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของวัตถุดิบยาที่นิกายเร้นลับซื้อไปจำนวนมาก

แม่เฒ่าเทียนจี้จะไปที่ไหนในเซี่ยงไฮ้งั้นเหรอ?

น่าจะเป็นคลังสินค้าของท่าเรือโกลเด้นเกทใช่ไหม?

จู่ ๆ โจวอี้ก็นึกขึ้นได้ว่าแม่เฒ่าเทียนจี้ได้เล่าให้อาจารย์ของเขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจารย์ของเขาไม่พอใจที่เสี่ยวหู่ถูกไล่ล่าและได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นอาจารย์และเหล่าผู้คนของสำนักโอสถน่าจะมีแผนทำอะไรบางอย่างกับนิกายเร้นลับ

ต้องตามไป!

ตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งแล้ว บางทีอาจช่วยได้ถ้าไล่ตามพวกเขาไปทัน

โจวอี้ตัดสินใจและบอกถงหู่ให้อยู่บ้านเพื่อคอยปกป้องลูกสาวทั้งสองของเขาไว้

อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เขาออกจากบ้าน เขาก็ได้รับโทรศัพท์

“คุณแน่ใจใช่ไหม?” โจวอี้ขมวดคิ้วขณะถามปลายสาย

“เราไม่แน่ใจ 100% แต่ตระกูลเยี่ยนติดต่อผู้คนมากมายเลยเพื่อกว้านซื้อวัตถุดิบยาจำนวนมหาศาลจากมณฑลซานตงและอันฮุย และตอนนี้พวกเขากำลังเดินทางไปเมืองเซี่ยงไฮ้ ตระกูลเยี่ยนสนิทสนมกับผู้เฒ่าไป๋จากนิกายดอกบัวขาว ดังนั้นผมก็เลยสงสัยว่าตระกูลเยี่ยนกับนิกายเร้นลับน่าจะมีความเชื่อมโยงกัน” เสียงของเฉิงฮ่าวดังมาจากปลายสาย

ตระกูลเยี่ยน?

โจวอี้จดจำชื่อนี้ไว้และถามกลับไปว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”

“ใกล้ ๆ ตลาดยา”

“ถ้างั้นคุณรีบพาคนของคุณมาด้วย เราจะไปพบกันที่จุดให้บริการแรกของทางด่วนเซี่ยงไฮ้-หนานจิง เราจะพูดถึงรายละเอียดต่อไปหลังจากที่เจอกัน”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

โจวอี้ก็พบกับเฉิงฮ่าวซึ่งพาลูกน้องคนสนิทมาด้วยสี่คน

โจวอี้ทิ้งรถของเหลียนซานไว้ที่จุดให้บริการแรกของทางด่วนเซี่ยงไฮ้-หนานจิง จากนั้นก็ขึ้นรถของเฉิงฮ่าวไป

รถสีดำสองคันมุ่งหน้าไปที่เซียงไฮ้ทันที

“คุณช่วยบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตระกูลเยี่ยนมาหน่อย” โจวอี้กล่าว

“ตระกูลเยี่ยนเป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในมณฑลซานตง เยี่ยนชางคุน ผู้นำของตระกูลมีอายุมากกว่า 60 ปีแล้ว ว่ากันว่าระดับยุทธ์ของเขาทะลวงไปถึงระดับปรมาจารย์ จำนวนปรมาจารย์ในตระกูลเยี่ยนทั้งหมดน่าจะมีประมาณสามคน”

“ตระกูลเยี่ยนไม่ได้มีสมาชิกคนใดเป็นคนของหน่วยงานรัฐ แต่พวกเขามีอิทธิพลล้นเหลือในโลกธุรกิจ พวกเขาเป็นเจ้าของบริษัทที่จดทะเบียนไปมากกว่าโหล และมีทรัพยากรทางการเงินที่มหาศาล…”

เฉิงฮ่าวใช้เวลาราวห้านาทีเพื่ออธิบายสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับตระกูลเยี่ยน ท้ายที่สุดเขากล่าวเสริมไปว่า “ตามข้อมูลจากคนของผม คนของตระกูลเยี่ยนที่เป็นผู้รับผิดชอบในการซื้อวัตถุดิบยาในปริมาณมากวันนี้ก็คือเยี่ยนเทียนหรู ลูกพี่ลูกน้องของเยี่ยนชางคุน ซึ่งเขาเองก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับปรมาจารย์เช่นกัน”

“พี่เฉิง คุณน่าจะเดาได้ถูกต้องแล้ว ตระกูลเยี่ยนและนิกายเร้นลับน่าจะเชื่อมโยงกันอย่างลับ ๆ จริง ๆ” โจวอี้หรี่ตาและเยาะเย้ยออกมา “เท่าที่ผมรู้ นิกายเร้นลับกำลังกว้านซื้อวัตถุดิบยาทั้งที่ตลาดจินหลิงและจากเมืองโดยรอบ ซึ่งตอนนี้ตระกูลเยี่ยนก็ทำเช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นกลุ่มเดียวกัน”

สีหน้าของเฉิงฮ่าวเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะความกังวล

ถ้าหากโจวอี้ต้องการจัดการกับตระกูลเยี่ยน เขาอาจจะไม่ต้องกังวลมากนัก แต่ถ้าโจวอี้ต้องการจัดการกับนิกายเร้นลับ …แบบนี้ย่อมเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

เขาไม่กลัวความตาย แต่เขาไม่ต้องการทุบหินด้วยไข่

โจวอี้ดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความคิดของเฉิงฮ่าว เขายิ้มออกมาและพูดว่า “ถ้าผมเดาได้ถูกต้อง อาจารย์ของผมก็น่าจะกำลังไปที่เซี่ยงไฮ้”

ประมุขสำนักโอสถ?

ไม่ใช่แค่โจวอี้และนิกายเร้นลับที่มีปัญหาส่วนตัวเหรอ? มันเป็นปัญหาทั้งสำนักโอสถและนิกายเร้นลับเลยงั้นเหรอ?

สีหน้าของเฉิงฮ่าวเปลี่ยนไปทันที เขาพูดว่า “ในเมื่อผมสัญญาแล้วว่าจะทำอะไรบางอย่างตอบแทนคุณ คุณก็สามารถบอกผมได้เลยว่าผมต้องทำอะไรต่อจากนี้”

“คนของคุณกำลังติดตามขบวนขนวัตถุดิบยาของตระกูลเยี่ยนใช่ไหม?” โจวอี้ถาม

“ใช่ รถตู้คอนเทนเนอร์พวกนั้นยังคงอยู่บนทางหลวง และคาดว่าจะไปถึงเซี่ยงไฮ้ในสองหรือสามชั่วโมง”

“เรามาขัดขวางขบวนขนวัตถุดิบยาชุดนั้นกันเถอะ!” แววตาของโจวอี้วาววับอย่างเจ้าเล่ห์

สี่ทุ่ม

ท้องฟ้าเหนือเซี่ยงไฮ้ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ

เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางสายฝนที่รุนแรง

ณ ท่าเรือโกลเด้นเกท

รถตู้คอนเทนเนอร์สองคันค่อย ๆ แล่นไปเรื่อย ๆ ในรูปแบบขบวนที่เป็นระเบียบ และกำลังเข้าใกล้คลังสินค้าที่อยู่ปลายทางมากขึ้นเรื่อย ๆ

ด้านหน้าของรถตู้คอนเทนเนอร์สองคันมีรถออฟโรดสีดำขับนำหน้าเปิดไฟส่องทางสว่างจ้า ส่วนที่เบาะหลังของรถออฟโรดมีชายคนหนึ่งที่ใบหน้ามีแผลเป็นกำลังสาปแช่งสภาพอากาศที่เลวร้ายในตอนนี้

ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่ารถทั้งคันลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ชายร่างใหญ่ที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นรีบถีบประตูเปิดออกอย่างรวดเร็ว ร่างของเขาพุ่งออกไปนอกรถทันที

ฉัวะ!

แสงวาบของดาบทำให้ศีรษะของชายที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นถึงกับลอยขึ้นไปบนอากาศในทันใด

หลังจากนั้น ศีรษะดังกล่าวก็ถูกกุมไว้ในมือของชายแข็งแกร่งซึ่งสวมเสื้อกันฝนสีดำและหน้ากากตัวตลก

ร่างที่รวดเร็วราวกับผีร้ายที่ซุ่มอยู่รอบ ๆ พลันพุ่งผ่านสายฝนและกระโดดขึ้นไปบนรถตู้คอนเทนเนอร์และรถออฟโรดสีดำ

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

แสงและเงาของดาบส่องประกายวาบขึ้นอีกหลายครั้ง

ภายในเวลาเพียงครึ่งนาที คนทั้งหกในยานพาหนะสามคันก็ถูกลากออกไปสังหารที่นอกรถ

เมื่อยางของรถออฟโรดสีดำแตะพื้นอีกครั้ง มันก็ยังคงเคลื่อนไปข้างหน้า

บัดนี้รถทั้งสามคันได้เปลี่ยนเจ้าของไปเรียบร้อยแล้ว

สิบนาทีต่อมา รถสามคันก็แล่นผ่านบริเวณที่มีตู้คอนเทนเนอร์วางซ้อนกันมากมาย ก่อนจะหยุดอยู่ที่นอกโกดังภายใต้คำสั่งของผู้นำที่อยู่ด้านหน้า

ชายร่างกำยำสามคนลงมาจากรถออฟโรดสีดำ พวกเขาถือร่มและสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างละเอียด

“ใครเป็นคนรับผิดชอบ?” เกาถงรีบเดินเข้ามาถามพร้อมกับชายฉกรรจ์สี่คนในชุดเสื้อกันฝน

“ผมเอง!” ชายวัยกลางคนที่ใบหน้ามีรอยแผลเป็นตอบกลับ

“ตระกูลเยี่ยน?” เกาถงถามพลางมองสำรวจคนสามคนที่อยู่ข้างหน้าเขา

“ใช่ นายท่านรองสั่งให้เรามาส่งสินค้า และบอกว่าจะมีคนมารับของที่นี่” ชายหน้าแผลเป็นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ผมคือคนที่รับหน้าที่รับมอบสินค้า คุณไปที่โรงเก็บของตรงนั้นเพื่อหลบฝนก่อน ผมจะรีบให้คนไปขนย้ายวัตถุดิบยาใส่โกดังเดี๋ยวนี้แหละ”

“ได้” ชายหน้าแผลเป็นพูดพร้อมกับพยักหน้า

“เอาเลย!” เกาถงกล่าวขณะหันไปหาคนอีกสี่คนที่อยู่ข้างหลัง

ทว่าทันทีที่ชายทั้งสี่หันหลังจากไป มีดเล่มหนึ่งก็แทงเข้าที่แผ่นหลังของเกาถง มันตัดขั้วหัวใจโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

ชายหน้าแผลเป็นคือผู้ลงมือ!

ในขณะเดียวกันนั้น ชายร่างกำยำอีกสองคนก็กระโดดออกจากด้านหลังไปหาชายร่างใหญ่สี่คนที่เพิ่งหันหลังเดินจากไปอย่างดุดัน

ด้วยการลอบโจมตีเช่นนี้ ชายร่างใหญ่สี่คนจึงถูกสังหารอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่เกินห้าวินาที

“มีศัตรู!!!”

ชายร่างกำยำในชุดสีดำคำรามลั่นจากอีกมุมหนึ่ง

หลังจากที่เขาตะโกน มีดเล่มหนึ่งก็แทงเข้าทะลุคอเขาอย่างเงียบ ๆ

สายฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก

…ท่ามกลางการสังหารที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว