ตอนที่ 138.1 ผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่คนที่สองแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน! (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วตะลึงงันขณะตัวสั่นต่อหน้ารูปเหมือนบรรพชนจอมปราชญ์

เหตุใดจู่ๆ มันก็ทำงาน

หลี่ฉางโซ่วมุมปากกระตุกไม่หยุดโดยไม่เอ่ยวาจาใดสักคำ เขาเพียงแค่ถวายเครื่องสักการะบูชาและก้มกราบกรานท่านปรมาจารย์สูงสุดแห่งเต๋าเท่านั้น…

ดูเหมือนว่า เขาจะคุ้นเคยกับอักขระเต๋านี้อย่างแน่นอน

ย้อนกลับไปในตอนนั้น อาจารย์ลุงจิ่วอูร้องไห้ในขณะที่ร้องขอให้ประทานอักขระเต๋าให้เขา ตามด้วยศิษย์น้องหญิงตัวอันตราย ข้ายังพยายามเปลี่ยนข้อความคำพูดของเขาอย่างระมัดระวังและเกือบจะไม่อาจเชิญภาพเหมือนนั้นมาปรากฏให้เห็นได้

ทว่าตอนนี้…ง่ายดายเพียงนี้หรือ

หลี่ฉางโซ่วตื่นขึ้นทันที จากที่เขาหมอบคว่ำหน้าและถอนหายใจออกมา

ในที่สุด ปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพก็เริ่มจำเขาได้!

แม้ความปลอดภัยในชีวิตของเขาจะไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง แต่การสนับสนุนที่เขามีนั้นยิ่งใหญ่กว่าเมื่อก่อนหลายเท่า! แต่สิ่งที่หลี่ฉางโซ่วไม่เข้าใจคือ…เขาไม่เคยได้ยินคำแนะนำใดๆ ผ่านพลังปราณส่งเสียง หรือมีความเข้าใจใดๆ แม้ในขณะที่อักขระเต๋ากำลังวนเวียนอยู่รอบๆ กายเขา

ชั่วขณะต่อมา…

อักขระเต๋ายังคงวนอยู่รอบๆ ขณะที่ภาพเหมือนได้กลับคืนสู่ความสงบตามปกติ

ในขณะนี้ ผู้อาวุโสสองคนที่สัมผัสได้ถึงอักขระเต๋าก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเช่นกัน แต่พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งอื่นใด

ทันใดนั้น ผู้อาวุโสทั้งสองคนต่างก็มองดูธูปยาวสามดอกและเกิดความคิดเหมือนกันขึ้นมาพร้อมๆ กัน

น่าจะเป็นเพราะเครื่องถวายสักการะแตกต่างออกไป

หลังจากนั้นไม่นาน…หลี่ฉางโซ่วก็เป็นเพียงคนเดียวท่านั้นที่สัมผัสได้ว่าอักขณะเต๋ายังอยู่รอบๆ แต่ในเวลานี้ไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ เกี่ยวกับภาพเหมือน และผู้อาวุโสที่อยู่รายรอบก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก

เพราะหลี่ฉางโซ่วก็ได้มาถวายเครื่องสักการะมากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว…

แม้หลี่ฉางโซ่วจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและรู้สึกสับสน แต่เขาก็ยังหมอบอยู่ที่นั่นเงียบๆ และรอคำแนะนำชุดต่อไปจากปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพ

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ไม่ใช่แค่หลี่ฉางโซ่วคนเดียวเท่านั้นที่ตกตะลึง…

ใต้ต้นไม้โบราณที่คุ้นเคยในสวนด้านหลังของวังดุสิตแห่งวังสวรรค์เก้าชั้น สายลมโชยค่อยๆ แผ่กระจายกลิ่นแปลกๆ ออกไปเงียบๆ…

โอ้ เด็กชายตัวน้อยสองคนของท่านบรรพชนไท่ชิงกำลังพยายามหลอมโอสถวิญญาณ และดูเหมือนว่าเตาหลอมนี้กำลังจะแหลกสลายไปอีกครั้ง

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตู ซึ่งสวมชุดคลุมยาวสีดำกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะใต้ต้นไม้ เขาขมวดคิ้วและคาดการณ์คำนวณต่อไป

ในภาพที่ปรากฏออกมาในใจของเขา ศิษย์หนุ่มน้อยกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้ารูปเหมือนของท่านอาจารย์ เขาไม่ได้เอ่ยอะไรและเพียงแค่คุกเข่าลงอยู่ตรงนั้นเงียบๆ

สถานการณ์นี้…

แน่นอนว่า เขาสามารถตรวจจับได้เพราะท่านบรรพชนไท่ชิงกระตุ้น ‘ประสาทสัมผัส’ ของเขาโดยผ่านพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูไม่เข้าใจ

แต่ในเวลานี้ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูก็รู้สึกพิศวงสงสัย

เมื่อเขาคาดการณ์คำนวณ จึงรู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในสำนักตู้เซียนแห่งดินแดนเทวะบูรพา ซึ่งเกือบจะถูกทำลายไปเมื่อก่อนหน้านี้

เขาไม่รู้ว่าศิษย์หนุ่มคนนี้ต้องการขออะไรจากการคุกเข่าครั้งนี้

ในเวลานี้ สำนักตู้เซียนสงบสุขมาก และไม่มีเรื่องสำคัญใดเกิดขึ้น

“ในเมื่อมันสามารถกระตุ้นเตือนท่านอาจารย์ได้ เช่นนั้น ต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่ๆ…”

เสวียนตูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและเริ่มสรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์หนุ่มคนนั้น และในที่สุด ผลที่ได้…

“น่าสนใจ มีคนปกปิดความลับสวรรค์ให้เขาหรือ”

เสวียนตูเลิกคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็เหยียดมือซ้ายของเขาออกไปในอากาศบางๆ และสะบัดปลายนิ้วอย่างช้าๆ ราวกับหมึกที่สาดกระเซ็น แล้วแผนภาพไท่จี๋ก็ลอยอยู่ในฝ่ามือของเขา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นและชี้นิ้วดาบไปที่ภาพแผนภาพไท่จี๋ จากนั้นเสวียนตูก็หลับตาและจดจ่อสมาธิกับการคาดการณ์ทำนายเหตุการณ์

ในไม่ช้า เสวียนตูก็ตระหนักรู้แจ้ง

ในขณะนั้น เขาสัมผัสได้ในใจว่า คนผู้นั้นมีนามว่า หลี่ฉางโซ่ว ศิษย์รุ่นเยาว์ของสำนักตู้เซียน ซึ่งมีอายุน้อยกว่าสองร้อยปี…

“มันจบแล้ว?”

เสวียนตูประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นจึงไตร่ตรองข้อมูลที่ได้รับจากแผนภาพไท่จี๋อย่างรอบคอบแล้วเลิกคิ้วขึ้น

เขาไม่อาจสรุปพลังของศิษย์น้อยผู้นี้โดยใช้แผนภาพไท่จี๋ได้ ซึ่งมันแปลกมากเกินไปสักหน่อย เสวียนตูตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่ง คราวนี้เขาพลันยืนยันได้อย่างรวดเร็วว่า ท่านอาจารย์ของเขาได้ช่วยศิษย์น้อยคนนี้ปกปิดอะไรบางอย่างมาก่อน…และดูเหมือนว่าเรื่องจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

น่าสนใจ นานกี่ปีแล้วที่อาจารย์ไม่ทำการเคลื่อนไหวใดๆ นับตั้งแต่มหาสงครามจอมเวท-ปีศาจ จักรพรรดิทั้งแปดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้กลับมายังถ้ำเมฆไฟ และจอมปราชญ์เทพทั้งหกอาศัยอยู่อย่างสันโดษ และไม่ได้เผยตัวต่อหน้าผู้อื่นอีกเลย

บัดนี้ท่านอาจารย์กลับลงมือช่วยเหลือศิษย์รุ่นเยาว์ที่อยู่ ‘ห่างไกล’ เพื่อปกปิดความลับของสวรรค์…

เรื่องสำคัญอะไรขนาดนั้น

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูไม่กล้าถามท่านอาจารย์ของเขา เพราะกลัวว่าจะถูกอาจารย์ลงโทษได้ง่าย เพราะทุกครั้งที่เกิดขึ้น เขาจะถูกกักขังเป็นเวลานับหมื่นปีขึ้นไป…

ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศิษย์หนุ่มคนนี้ เขาจึงถามศิษย์คนนี้ได้โดยตรง

เสวียนตูจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนช้าๆ ชายเสื้อคลุมยาวของเขาพลันร่วงหล่นลงเหมือนสายน้ำ และจากนั้นก็เกิดตระหนักรู้แจ้งขึ้นในใจของเขา…

‘เผ่ามังกรเข้าสู่สวรรค์’ นั่นคือคำแนะนำสั้นๆ จากท่านอาจารย์จอมปราชญ์

ทันใดนั้น เสวียนตูก็พลันเข้าใจในทันทีว่า ศิษย์รุ่นเยาว์ที่คุกเข่าอยู่ด้านล่างเป็นคนสำคัญในการเข้าสู่สวรรค์ของเผ่ามังกร!

เวลานี้ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูยังไม่รู้วิธีที่เผ่ามังกรสามารถเข้าสู่สวรรค์ได้ และเหตุใดพวกเขาจึงทำเช่นนั้น รวมถึงบทบาทของศิษย์คนนี้ในเรื่องนั้นอีกด้วย…ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูพลันขมวดคิ้วและพึมพำว่า “ท่านอาจารย์โปรดบอกศิษย์ด้วยเถิด ท่านสามารถส่งข้อความถึงศิษย์ได้โดยตรงผ่านพลังปราณส่งเสียงได้หรือไม่ การให้ศิษย์ได้รู้แจ้งในทันที ท่านจะทำให้ศิษย์รู้สึกว่าเต๋าของศิษย์ไร้ความหมายแล้วขอรับ”

หลังจากกล่าวจบ จู่ๆ เสวียนตูก็ตระหนักถึงการรู้แจ้งในใจของเขาอีกครั้ง…

‘ข้าจะทำในครั้งต่อไปอย่างแน่นอน’

เสวียนตูเงียบงันทันที

จากนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูก็ก้มศีรษะลงและถอนหายใจ ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าแล้วหายตัวไปจากวังดุสิต

สวรรค์ทั้งเก้าชั้นมีเมฆหมอกและไม่มีผู้ใดรู้ว่ามีคนเข้าและออกจากประตูสวรรค์ไปเมื่อใด

ในชั่วพริบตานั้น ศิษย์คนแรกของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินผู้นี้ได้ก้าวเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว แล้วฉับพลันนั้นเขาก็ได้ข้ามผ่านภูเขาและแม่น้ำมาแล้วหลายพันแห่ง และทันใดนั้น เมื่อหันมองย้อนกลับไป เขาก็พุ่งผ่านมาห้าดินแดนเทวะแล้ว…

หลังจากนั้นไม่นาน เสวียนตูก็มาปรากฏตัวเหนือสำนักตู้เซียน และยืนอยู่บนค่ายกลที่บางและเรียบรื่น

แต่ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นร่างของเขาได้

หลังจากกวาดพลังสัมผัสเซียนรับรู้ออกไปแล้ว เสวียนตูก็ยิ้มออกมาทันที

การวางระบบของคู่บำเพ็ญเต๋าในสำนักได้ผลไม่เลวเลย เวลานี้ มีคู่รักมากมายหลายคู่ในสำนัก

หากสามารถเพิ่มความพยายามให้เข้มข้นเพิ่มขึ้นจนเจริญพันธุ์ได้มากกว่านี้ สำนักบำเพ็ญเต๋าหยินจะต้องยินดีอย่างแน่นอน

ในขณะนั้น เสวียนตูก็ชี้ไปที่ยอดเขาพิชิตสวรรค์ และจู่ๆ ก็หายตัวไปอย่างเงียบๆ โดยไม่มีผู้ใดรับรู้

ในหอไป่ฝานแห่งยอดเขาพิชิตสวรรค์ ขณะนี้ หลี่ฉางโซ่วซึ่งหมอบอยู่บนพื้นพลันรู้สึกว่าอักขระเต๋ารอบตัวเขาค่อยๆ หายไป ในคราแรกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเช่นกัน

ท่านจอมปราชญ์เทพไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆ…เป็นไปได้หรือไม่ว่า เขากำลังบอกให้ข้าจัดการเรื่องของสำนักเทพทะเลทักษิณอย่างกล้าหาญเพราะข้ามีท่านจอมปราชญ์เทพช่วยสนับสนุนข้า และทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็หยุดความรู้สึกผิดหวังของเขาอย่างรวดเร็ว เดิมทีสำนักตู้เซียนถูกสร้างขึ้นโดยศิษย์ในนามของท่านจอมปราชญ์เทพ ดังนั้น เกรงว่าแม้แต่ท่านเจ้าสำนักของเขาก็ยังไม่ได้รับการดูแลจากท่านจอมปราชญ์เทพด้วยซ้ำ…

โดยเฉพาะ ‘ขาใหญ่[1]’ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือสุดพิเศษในเรื่องความเงียบและไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของผู้ใด

เช่นนั้น คุกเข่าอีกสักครู่?

คุกเข่าอีกสักครู่เถิด

ขณะที่เขากำลังคิดเรื่องเช่นนี้อยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังชัดเจนขึ้นในหูของเขา

“จงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของสำนักตู้เซียนสามพันลี้ เพื่อมาพบข้า”

หือ?

หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็แผ่พลังสัมผัสเซียนรับรู้ของเขาออกไปตรวจดูบริเวณโดยรอบแล้วถอนกลับมาทันที

ไม่มีอะไร

จากนั้น เขาจึงลุกยืนขึ้นและมองไปที่รูปเหมือนของท่านจอมปราชญ์เทพ ไม่มีความผันผวนของอักขระเต๋า แม้ว่าเขาจะฉงนฉงายในใจ แต่เขาก็ตัดสินใจจะอธิษฐานอยู่ที่นั่นต่อไปอีกชั่วขณะหนึ่ง หากพลังปราณส่งเสียงนี้มาจากปรมาจารย์สำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน แล้วเหตุใดเขาจึงไม่ปรากฏกายในสำนักตู้เซียน นี่เป็นปัญหาจริงๆ

[1] ขาใหญ่ ผู้ที่ทรงพลังอำนาจยิ่งใหญ่มาก ในที่นี้ก็คือผู้ช่วยเหลือที่ทรงพลังอำนาจยิ่งใหญ่ซึ่งหมายถึงท่านบรรพชนไท่ชิง