ตอนที่ 455 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่หนึ่ง (2) ตอนที่ 456 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่หนึ่ง (3)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 455 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่หนึ่ง (2) / ตอนที่ 456 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่หนึ่ง (3)
ตอนที่ 455 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่หนึ่ง (2)

หลี่จื่อมู่ยังคงปฏิเสธต่อไป แต่ทันใดนั้นมีกลุ่มคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้าแล้วร่อนลงบนพื้น

การปรากฏตัวของคนกลุ่มนี้ทำให้เหล่าลูกศิษย์ที่หมดแรงตกใจเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อพวกเขาใบหน้าของคนเหล่านั้น หัวใจที่ตื่นตระหนกตกใจก็สงบลงทันที

คนเหล่านั้นต่างสวมเสื้อผ้าของสาขาจึงรู้ทันทีว่าเป็นศิษย์ของตึกรอง ศิษย์ของตึกหลักที่ดูถูกศิษย์ของตึกรองมาโดยตลอดต่างขมวดคิ้วทันที

แต่ร่างสองร่างที่ตกลงมาหลังจากนั้นทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก

เมื่อจวินอู๋เสียและฟ่านจิ่นถึงพื้น หลี่จื่อมู่ที่นั่งอยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นทันที เขามองดูเสื้อผ้าที่เรียบร้อยของจวินอู๋เสียแล้วมองฟ่านจิ่นที่ยืนอยู่ข้างๆ นาง เขาก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา

ทั้งๆ ที่เขาควรจะเป็นคนที่ถูกปกป้องมากที่สุด เพราะเหตุใดฟ่านจิ่นผู้ชนะศึกประลองภูติวิญญาณเป็นอันดับสี่จึงคอยปกป้องจวินอู๋เสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หลี่จื่อมู่ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เมื่อเขามองดูสภาพของตัวเองและกลุ่มลูกศิษย์ที่ถูกฝูงหมาป่าเดียวดายไล่ล่า เขายังต้องลดตัวมารักษาความสัมพันธ์กับผู้คนในกลุ่ม แต่จวินอู๋เสียเล่า นางยังคงปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองของฟ่านจิ่น อย่าว่าแต่บาดแผลเลย เพราะแม้แต่เสื้อผ้าก็ยังไม่มีรอยยับแม้แต่น้อย

ถ้าไม่มีเรื่องที่จวินอู๋เสียแย่งตำแหน่งตั้งแต่แรก คนที่ฟ่านจิ่นดูแลก็คงเป็นเขาใช่หรือไม่

ถ้ามีฟ่านจิ่นดูแล เขาก็คงปลอดภัยในป่าประลองวิญญาณใช่หรือไม่ มองฟ่านจิ่นที่ไม่เพียงแต่ดูแลจวินอู๋เสียเขายังดูแลลูกศิษย์ของตึกรองอีกหลายคนและทุกคนก็ต่างปลอดภัยดี หลี่จื่อมู่รู้สึกอิจฉาตาร้อนจนแทบบ้า

ความคิดแบบนี้ผุดขึ้นมาในหัวของหลี่จื่อมู่ไม่หยุด สายตาที่เขามองไปทางจวินอู๋เสียก็ชั่วร้ายมากขึ้น

“ศิษย์พี่ฟ่าน! ดีมากจริงๆ ที่ได้พบศิษย์พี่ที่นี่!” หลี่จื่อมู่เก็บสายตาชั่วร้ายในดวงตาของเขาและมองไปที่ฟ่านจิ่น

“…” ฟ่านจิ่นชะงักงันไปทันทีเมื่อถูกเขาเรียกแบบนี้

“ศิษย์พี่ฟ่าน นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาป่าประลองวิญญาณ ข้าไม่คุ้นเคยกับที่นี่ ข้าขอเดินกับศิษย์พี่ได้หรือไม่ ถึงแม้ว่าพลังวิญญาณของข้าจะไม่สูง แต่วงแหวนภูติวิญญาณกับทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณของข้าก็ยังมีประโยชน์ ให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่” เมื่อหลี่จื่อมู่ตัดสินใจจะพึ่งฟ่านจิ่นเขาก็ไม่สนใจเลยว่าเขากำลังพูดต่อหน้าศิษย์พี่ที่ดูแลตัวเอง เพราะเขาเชื่อว่าขอแค่เขาอยู่กับฟ่านจิ่นเป็นเวลานาน ฟ่านจิ่นก็จะเข้าใจว่าเขาที่เป็นศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณนั้นดีกว่าจวินอู๋เสียมาก

ทันทีที่หลี่จื่อมู่พูดจบ ฟ่านจิ่นยังไม่ทันโต้ตอบ สีหน้าของศิษย์พี่ที่ดูแลหลี่จื่อมู่ก็เปลี่ยนทันที

“หลี่จื่อมู่ เจ้าคนอกตัญญู!” เขาเกือบสูญเสียแขนของตัวเองเพื่อช่วยหลี่จื่อมู่ แต่เมื่อหลี่จื่อมู่เห็น ฟ่านจิ่นก็ทิ้งเขาทันที เขาไม่เคยพบเจอคนแบบนี้มาก่อน

หลี่จื่อมู่กัดฟันไม่กล้าหันกลับไปมอง เขาทำได้เพียงแต่มองฟ่านจิ่นด้วยสายตาวิงวอน

เขาเชื่อว่าฟ่านจิ่นจะรับเขาไว้ เพราะเขาแข็งแกร่งกว่าจวินอู๋เสียและศิษย์ของตึกรองมาก แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณได้ แต่คนอื่นไม่รู้ ในสายตาของคนอื่น เขายังคงเป็นศิษย์สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณที่เป็นที่ต้องการเหมือนเดิม

ฟ่านจิ่นขมวดคิ้วแล้วมองหลี่จื่อมู่ด้วยความขยะแขยง สิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุดคือคนที่อกตัญญูแบบนี้ เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าแม้ว่ากลุ่มนี้จะถูกฝูงหมาป่าเดียวดายไล่ตาม แต่บนตัวหลี่จื่อมู่กลับไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย แต่คนอื่นกลับมีบาดแผลไม่มากก็น้อย เห็นได้ชัดว่ากลุ่มนี้พยายามปกป้องเขา แต่เขากลับหันมาขอร้องเขา เลวจริงๆ!

ตอนที่ 456 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่หนึ่ง (3)

ก่อนที่ฟ่านจิ่นจะพูดอะไรออกมา จวินอู๋เสียก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “พาเขาไปด้วย”

คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้ทุกคนชะงักงันไปทันที

ฟ่านจิ่นไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง จวินอู๋เสียให้เขาพาหลี่จื่อมู่ไปด้วย คนชั่วที่ทำให้จวินอู๋เสียไม่มีที่ในสำนักศึกษาเฟิงหัวคนนี้ นางต้องการให้เขาพาไปด้วยหรือ

หลี่จื่อมู่ก็มองจวินอู๋เสียอย่างสงสัย เขาเดาว่าฟ่านจิ่นจะรับเขา และจวินอู๋เสียจะต้องคัดค้านอย่างแน่นอน แต่เขาไม่คิดว่าคนที่พูดก่อนจะเป็นจวินอู๋เสีย

แม้แต่คนในกลุ่มของหลี่จื่อมู่ก็ยังมองจวินอู๋เสียด้วยความตกใจ

พวกเขาทุกคนรู้ ‘ความบาดหมาง’ ระหว่างจวินอู๋เสียและหลี่จื่อมู่เป็นอย่างดี ช่วงนี้จวินอู๋เสียซ่อนตัวอยู่ในลานป่าไผ่ไม่ออกมา และหลี่จื่อมู่ก็ใช้เรื่องของจวินอู๋เสียเรียกความสงสารและความเห็นอกเห็นใจจากทุกที่ สองคนนี้เป็นศัตรูกันแน่นอน

แล้วเพราะเหตุใดจวินอู๋เสียถึงปล่อยให้ฟ่านจิ่นรับหลี่จื่อมู่ไปด้วย

พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ

จวินอู๋เสียเหลือบมองฟ่านจิ่น คำปฏิเสธที่ติดอยู่ตรงปากจึงถูกฟ่านจิ่นกลืนลงคออย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้วและมองไปที่หลี่จื่อมู่แล้วกล่าวว่า “ตามข้าได้ แต่เจ้าต้องเชื่อฟัง ไม่อย่างนั้นข้าจะโยนเจ้าให้เป็นอาหารของสัตว์วิญญาณที่นี่ทันที!” เขาไม่ต้องการให้เจ้าคนอกตัญญูแบบนี้ตามเขาจริงๆ แต่เขาปฏิเสธสายตาของจวินอู๋เสียไม่ได้ เขาจึงทำได้เพียงแต่ยอมรับมัน

หลี่จื่อมู่หัวเราะออกมาทันทีแล้วกล่าวขอบคุณฟ่านจิ่นอยู่นาน โดยที่เมินเฉยต่อจวินอู๋เสียที่เป็นคนเปิดปากรับเขา

จวินอู๋เสียหรี่ตาลงไม่พูดอะไร

เหล่าลูกศิษย์ที่ถูกหลี่จื่อมู่ ‘ทรยศหักหลัง’ กำลังจะเดินจากไปด้วยความโมโห แต่จวินอู๋เสียก็พูดขึ้นมาแล้วโยนขวดโอสถสองสามขวดให้พวกเขา

“รักษาบาดแผล” จวินอู๋เสียกล่าว

เหล่าลูกศิษย์ที่รับขวดโอสถมาต่างมองจวินอู๋เสียด้วยความตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดนางจึงทำเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาก็ด่าว่าจวินอู๋เสียลับหลังไปไม่น้อย แต่ตอนนี้คนในกลุ่มของพวกเขาทิ้งพวกเขา แต่จวินอู๋เสียที่พวกเขาด่าว่ามาโดยตลอดกลับยื่นมือมาช่วยเหลือพวกเขา…

“หลี่จื่อมู่ไม่ใช่คนดี เจ้า… ระวังตัวด้วย” ศิษย์เก่าที่ดูแลหลี่จื่อมู่กำโอสถในมือไว้แน่น เหลือบมองจวินอู๋เสียแล้วเตือนนาง จากนั้นก็เดินจากไปพร้อมกับคนอื่นๆ

แต่การรู้จักกันเพียงเวลาสั้นๆ นี้ กลับเพาะเมล็ดพันธุ์บางอย่างไว้ในใจของคนเหล่านี้

“ผู้รู้สถานการณ์ คือผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ ศิษย์พี่ฟ่านแข็งแกร่งเพียงนี้ ข้าก็ต้องเรียนรู้นกและสัตว์ป่าที่หาต้นไม้ดีๆ เพื่ออยู่อาศัย” หลี่จื่อมู่ไม่ใส่ใจกับคำพูดของพวกเขา เขาเอาแต่เกาะติดฟ่านจิ่นอย่างเดียว

สีหน้าของฟ่านจิ่นไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจวินอู๋เสียต้องการทำอะไร

“โอ้ ช่างโง่เขลาจริงๆ” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นมาทันที

หลี่จื่อมู่หันไปมอง

เฟยเยียนยิ้มมุมปากแล้วมองหลี่จื่อมู่ด้วยความสงสาร

หลี่จื่อมู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เป็นแค่ศิษย์ของตึกรองกลับกล้าหยิ่งกับเขาหรือ!

“เจ้าโง่เฉียว พี่ฮวา” เมื่อจวินอู๋เสียแน่ใจว่าลูกศิษย์กลุ่มนั้นไปไกลแล้ว นางหันข้างแล้วกล่าวกับฮวาเหยาและเฉียวฉู่

ฮวาเหยายกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย เฉียวฉู่ยกกำปั้นชนกันแล้วกล่าวว่า “เข้าใจแล้ว”

ฟ่านจิ่นยังไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียจะทำอะไร ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นมาจากด้านข้างของเขา

หลี่จื่อมู่ที่พยายามเกาะฟ่านจิ่นเมื่อครู่ แต่ถูกฮวาเหยาและเฉียวฉู่จับไหล่ทั้งสองข้างไว้แล้วตบออกไปจนกระแทกเข้ากับลำต้นของต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังเขา