ตอนที่ 453 ป่าประลองวิญญาณ (3) / ตอนที่ 454 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่หนึ่ง (1)
ตอนที่ 453 ป่าประลองวิญญาณ (3)
“ข้า…ข้าวิ่งต่อไปไม่ไหวจริงๆ” หลี่จื่อมู่สะอื้นไห้ ขาทั้งสองข้างของเขาจะหักแล้ว
ศิษย์คนอื่นๆ ก็หมดแรงเช่นกัน หมาป่าเดียวดายฝูงนี้ไล่ตามพวกเขาทั้งคืน ในป่าที่มืดสนิทนี้ พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องหาทางหนี พวกเขายังต้องระวังหมาป่าเดียวดายที่ซุ่มโจมตี ทั้งร่างกายและจิตใจของพวกเขาได้มาถึงขีดสุดแล้ว
กรร หมาป่าเดียวดายตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาหลี่จื่อมู่ที่กำลังหอบอยู่ หลี่จื่อมู่ตกใจจนหน้าซีด เขาล้มลงกับพื้นแล้วคว้าก้อนหินและสิ่งขอวงที่อยู่ข้างๆ โยนไปทางหมาป่าเดียวดายที่พุ่งเข้ามาทันที
หมาป่าเดียวดายว่องไว ทุกสิ่งที่หลี่จื่อมู่โยนมามันหลบได้ทุกอย่าง เมื่อเห็นว่ามันกำลังจะกระโจนใส่หลี่จื่อมู่
ก็มีเสียงกรีดร้องดังออกจากปากของหลี่จื่อมู่ เขาสัมผัสโดนบางสิ่งที่เย็นจากพื้นแล้วรีบหยิบมันขึ้นมาแล้วโยนไปทางหมาป่าเดียวดายทันที
หมาป่าเดียวดายหลบอีกครั้ง แต่วัตถุสีขาวที่ไม่รู้จักได้ตกลงกับพื้น แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้ควันสีขาวฟุ้งกระจายไปตามลม
หมาป่าเดียวดายที่ดุร้ายในตอนแรก เมื่อได้กลิ่นของผงนั้นก็ส่งเสียงครวญครางออกมาทันที มันไม่ก้าวออกมาอีก มันหันหลังแล้ววิ่งหนีไปทันที ขณะที่หมาป่าเดียวดายตัวอื่นๆ ได้กลิ่นของผงนั้นก็วิ่งหนีไปอย่างไร้ร่องรอย
หนึ่งวินาทีที่แล้วกำลังเสียชีวิตในปากของหมาป่าเดียวดาย แต่วินาทีต่อมาหมาป่าเดียวดายกลับไม่จู่โจมแล้ววิ่งหนีไป
เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้เหล่าลูกศิษย์ที่เหนื่อยล้าตกตะลึงไปทันที หลี่จื่อมู่ก็ตกตะลึงเช่นกัน
“จื่อมู่ เมื่อครู่เจ้าโยนอะไรออกไป” ศิษย์เก่าที่รับผิดชอบดูแลหลี่จื่อมู่กล่าวถามด้วยความตกใจ
“ข้า…” หลี่จื่อมู่อ้าปาก ดวงตาของเขามองไปที่วัตถุที่เขาโยนออกไปเป็นครั้งสุดท้าย
กระเบื้องสีขาวแตกเป็นเสี่ยงๆ และผงสีขาวตกกระจายอยู่บนพื้นดิน
หลี่จื่อมู่กลืนน้ำลายและมองผู้คนที่กำลังมองเขาอยู่
แท้จริงแล้ว เป็นเขาเองที่เป็นคนนำฝูงหมาป่าเดียวดายนี้มา เขาหลงทางและบุกเข้าไปในอาณาเขตของหมาป่าเดียวดายจนทำให้กลุ่มของพวกเขาถูกไล่ฆ่า และศิษย์พี่ที่ดูแลเขาก็ถูกหมาป่าเดียวดายกัดเพราะช่วยชีวิตเขา ตอนที่ถูกหมาป่าเดียวดายจู่โจม ศิษย์ทุกคนต่างเรียกวงแหวนภูติวิญญาณของตัวเองออกมาต่อสู้พวกเขาก็บอกให้หลี่จื่อมู่เรียกวงแหวนภูติวิญญาณออกมา แต่หลี่จื่อมู่นั้นหวาดกลัวมากเกินไปเมื่อเห็นหมาป่าเดียวดายมากมายขนาดนั้น เขาจะปล่อยให้วงแหวนภูติวิญญาณของตัวเองออกมาได้อย่างไร เขาจึงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
เขาวิ่งหนีมาตลอดทาง หลี่จื่อมู่กลายเป็นภาระสำหรับกลุ่มนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของ สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ เขาก็คงถูกลูกศิษย์กลุ่มนี้ทิ้งไปแล้ว
หลี่จื่อมู่รู้ดีว่า ตอนนี้แม้แต่ศิษย์พี่ที่ดูแลเขาก็เริ่มไม่พอใจเขาแล้ว เขาจะต้องรีบทำอะไรบางอย่างเพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ในกลุ่มของเขา เพราะยังเหลือเวลาอีกหกวันกว่า เขายังต้องพึ่งกลุ่มนี้
“นั่นคือ… นั่นคือสิ่งที่ท่านพ่อของข้าให้ข้าไว้ มันสามารถขับไล่สัตว์วิญญาณได้ ก่อนหน้านี้ข้าไม่ทันเอาออกมาใช้ ข้าต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้ศิษย์พี่ได้รับบาดเจ็บ” หลี่จื่อมู่มองทุกคนด้วยสีหน้ารู้สึกผิดแล้วอ้างว่าของล้ำค่าที่ตัวเองพบเจอนั้นเป็นของตัวเอง
ศิษย์ทุกคนที่เริ่มไม่พอใจหลี่จื่อมู่ เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่จื่อมู่ แม้ว่าจะไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะหลี่จื่อมู่เป็นศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ อย่างน้อยหมาป่าเดียวดายฝูงนี้ก็เป็นเขาที่ขับไล่ไป
ไม่ต้องการบาดหมางกับศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ พวกเขาจึงทำได้เพียงยอมรับคำขอโทษของหลี่จื่อมู่
ตอนที่ 454 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่หนึ่ง (1)
ใต้ต้นไม้ หลี่จื่อมู่กำลังพยายามฟื้นฟูภาพลักษณ์ของเขา แต่เขาไม่รู้ว่าทุกการกระทำของเขาถูกคนที่อยู่บนต้นไม้มองเห็นอย่างชัดเจน
“เจ้าโง่เฉียว สิ่งที่เจ้าเด็กคนนั้นโยนออกไปคือผงโอสถที่น้องเสียให้เราทาเมื่อคืนใช่หรือไม่” เฟยเยียนเห็นกระเบื้องเคลือบที่ตกอยู่บนพื้นจึงหันไปถามเฉียวฉู่
เฉียวฉู่กะพริบตาแล้วกล่าวว่า “หลังจากที่เราใช้เสร็จเมื่อคืน ข้าก็ถามน้องเสียว่าเอาอีกไหม นางบอกไม่เอา ข้าจึงยัดใส่ในกระเป๋าเสื้อ คิดว่าเมื่อคืนมันคงหลุดออกจากกระเป๋าของข้าตอนที่ข้าหลับ”
“หึหึ ข้าคิดว่าศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวจะดีเพียงใด คิดไม่ถึงว่าจะแอบอ้างเอาความดีความชอบของผู้อื่นหน้าด้านๆ แบบนี้ สิ่งของของน้องเสียกลายเป็นของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่” เฟยเยียนหรี่ตาลง เขาไม่พอใจอย่างมากที่หลี่จื่อมู่แอบอ้างว่าผงโอสถของจวินอู๋เสียเป็นของตัวเอง เขาหันไปมองจวินอู๋เสียทันทีที่เขาพูดจบ
จวินอู๋เสียกำลังมองหลี่จื่อมู่ที่กำลังรับคำชมจากคนอื่นๆ
“น้องเสีย เจ้ารู้จักเขา” เมื่อเห็นจวินอู๋เสียมองไปที่หลี่จื่อมู่ เฟยเยียนก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง
จวินอู๋เสียไม่พูดจา แต่ฟ่านจิ่นที่อยู่ด้านข้างกระแอมแล้วกล่าวว่า “คนที่อยู่ใต้ต้นไม้ชื่อหลี่จื่อมู่ เขาไม่เป็นมิตรกับน้องเสียตอนที่อยู่ในสำนักศึกษา”
ฟ่านจิ่นไม่ได้พูดอะไรมากมาย หลี่จื่อมู่แค่ไม่เป็นมิตรกับจวินอู๋เสียหรือ
อาจกล่าวได้ว่าสาเหตุที่จวินอู๋เสียถูกด่าว่าในสำนักศึกษาเฟิงหัวมากมายเพียงนี้นั้นเป็นเพราะการกระทำของหลี่จื่อมู่ในโรงงอาหารวันนั้น
หากหลี่จื่อมู่พูดความจริงออกมาตั้งแต่แรก จวินอู๋เสียก็จะไม่กลายเป็นคนไร้ยางอายในสายตาของศิษย์คนอื่นๆ
“โอ้” เฟยเยียนหรี่ตาลง
ฮวาเหยาลุกขึ้นยืนบนกิ่งไม้แล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางจวินอู๋เสียแล้วกล่าวว่า “เขาหรือ”
จวินอู๋เสียเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาว่า
“เริ่มจากเขา”
ดวงตาของฮวาเหยาและคนอื่นๆ เผยเจตนาฆ่าออกมาทันที แต่ฟ่านจิ่นที่ยังไม่เข้าใจว่าจวินอู๋เสีย กำลังจะทำอะไรกลับสับสนเล็กน้อย เขายังไม่ทันกล่าวถาม ฮวาเหยาและคนอื่นๆ ก็กระโดดลงจากต้นไม้นั้น
ในขณะที่หลี่จื่อมู่กำลังพยายามฟื้นความสัมพันธ์กับศิษย์พี่ที่ได้รับบาดเจ็บ วงแหวนภูติวิญญาณของศิษย์พี่เหล่านั้นต่างได้รับบาดเจ็บ พวกเขาขอร้องให้หลี่จื่อมู่ใช้ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณรักษาวงแหวนภูติวิญญาณของพวกเขา
แต่หลี่จื่อมู่กลับปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ
“หลี่จื่อมู่ เจ้าหมายความว่าอย่างไร! วงแหวนภูติวิญญาณของพวกข้าได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเจ้า ตอนนี้ให้เจ้าช่วยรักษา เจ้ากลับปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าหมายความว่าอย่างไร!” ศิษย์ที่มีนิสัยอารมณ์ร้อนคนหนึ่งทนไม่ไหวด่าออกมา
สีหน้าของหลี่จื่อมู่ซีดขาวขึ้นมาทันที เขาหัวหดไม่กล้าพูดอะไร
เป็นเวลานานแล้วที่เขาเข้าสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ กู้หลีเซิงดูแลเขาดีมาก สิ่งนี้ทำให้หลี่จื่อมู่ภูมิใจมากในตอนแรก แต่ไม่นานเขาก็ไม่อาจภูมิใจได้อีกเพราะไม่ว่าเขาจะพยายามมากเพียงใด เขาก็ไม่สามารถเข้าใจทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณได้เลย เขาอยู่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณมานานขนาดนี้อย่าว่าแต่รักษาวงแหวนภูติวิญญาณเลย แม้แต่วิธีแปลงพลังวิญญาณเป็นพลังจิตวิญญาณ เขาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะการดูแลของกู้หลีเซิงทำให้ศิษย์พี่คนอื่นๆ ในสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณต่างเกลียดชังเขา หลี่จื่อมู่จึงทำได้เพียงอวดเบ่งต่อหน้าศิษย์สาขาอื่นเท่านั้น
ทุกคนที่รู้เรื่องนี้ต่างดูถูกเขาทุกคน
ตอนนี้คนเหล่านี้ต้องการให้เขาใช้ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณรักษาวงแหวนภูติวิญญาณของพวกเขา เขาใช้เป็นที่ไหน ถ้าคนกลุ่มนี้รู้ว่าเขาคือคนไร้ประโยชน์ที่ทำอะไรไม่เป็นเลย เขาจะต้องถูกเตะออกจากกลุ่มอย่างแน่นอน