ด้านนอกห้องโถงสำนักงานเขต หยานชิงเจ๋อถูกลมเย็นๆพัดให้ตื่นขึ้นมา
เดิมทีแล้วรถของเขามีน้ำมันไม่มากนัก เปิดลมร้อนอยู่ตลอด ก็ค่อยๆกินน้ำมันจนหมดเกลี้ยง เป็นธรรมดาที่ลมอุ่นจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมกับสีของท้องฟ้าที่มืดลง อุณหภูมิก็เข้าใกล้ศูนย์องศาแล้ว ขนตาของเขาสั่นไหว จากนั้นก็ลืมตาขึ้น
เมื่อเห็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัว หยานชิงเจ๋อก็สับสนงุนงงเล็กน้อย
จนกระทั่งตระหนักได้ถึงว่าตนเองยังคงอยู่ที่หน้าประตูสำนักงานเขต จึงพยุงตัวที่แข็งทื่อนี้ขึ้นมา แล้วขยับตัวเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเหน็บหนาวหรือว่าอะไร หลังของเขาถึงได้ชาไปหมด หยานชิงเจ๋อพบว่ารถไม่มีน้ำมันแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ความหามือถือของตนเอง เตรียมจะโทรออกไป
เมื่อเขาเปิดหน้าจอดู ก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับหลายสาย และทั้งหมดก็เป็นสายของพ่อกับแม่
แทบจะไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร
ในฉับพลันความหงุดหงิดในใจก็ผุดขึ้นมา เขาไม่ได้สนใจสายเหล่านั้น ยังคงโทรไปหาผู้ช่วยของตนเอง
ยี่สิบนาทีต่อมา ผู้ช่วยก็จัดการให้คนเอาน้ำมันมาเติมให้เขาจนเต็ม เขาจึงสตาร์ตรถแล้วขับไปที่โรงพยาบาล
ที่ห้องอายุรกรรมภายนอก เมื่อหยานชิงเจ๋อถอดเสื้อออก หมอก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ : “คุณผู้ชาย คุณมีอาการบาดเจ็บที่หลังอย่างรุนแรง ฉันแนะนำว่าคุณควรนอนโรงพยาบาลแล้วให้ยาปฏิชีวนะน่าจะดีที่สุด”
หยานชิงเจ๋อส่ายหัว : “ตอนกลางคืนฉันต้องกลับไป”
หมอไม่อาจเปลี่ยนใจเขาได้ ทำได้เพียงให้ยาฆ่าเชื้อแก่เขา จากนั้นก็จัดยาแก้อักเสบให้ และให้น้ำเกลือแก่หยานชิงเจ๋อ
เวลานี้มือถือของหยานชิงเจ๋อก็ดังขึ้น
เขาจึงหยิบขึ้นมารับ : “แม่”
“ชิงเจ๋อ คุณกับเสี่ยวจิ่นทานข้าวกันอยู่เหรอ?” แม่หยานกล่าวว่า : “วันนี้เป็นคืนแต่งงานของพวกคุณ ฉันรู้ว่าไม่ดีเลยที่จะโทรหาพวกคุณ แต่ฉันก็ยังคงเป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บของคุณว่าหายดีแล้วหรือยัง คืนนี้ คุณว่าพวกคุณจะกลับมาหรืออยู่ที่อพาร์ตเมนที่คุณซื้อไว้ก่อนหน้านี้ล่ะ?”
หยานชิงเจ๋อฟังความหมายแฝงในคำพูดของแม่หยานออก เขาหรี่ตาลง เดิมทีแม่ของตนคิดว่าเขากับซูสือจิ่นทานข้าวกันอยู่เหรอ? ฉะนั้นเวลานี้เธอยังไม่ได้ไปส่งข่าวใช่ไหม?
ดังนั้นเขาจึงตอบกลับไปว่า : “ครับ กำลังทานข้าวอยู่ ตอนกลางคืนเราจะกลับไปที่อพาร์ตเมน แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
แม่หยานยิ้มแล้วพูดว่า : “วันนี้นับว่าเป็นคืนวันแต่งงานของพวกคุณ เป็นการดีที่จะอยู่ในโลกของคนสองคน ต้องดูแลเสี่ยวจิ่นให้ดีๆนะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับมาที่บ้านก็ได้”
หยานชิงเจ๋อตอบกลับแบบขอไปทีว่า : “ครับ ทราบแล้ว”
เมื่อวางสายไปเขาก็พบว่าอัตราเร่งของน้ำเกลือมันค่อนข้างช้า ด้วยเหตุนี้จึงให้พยาบาลมาปรับให้เร็วขึ้นเล็กน้อย เดิมทีต้องใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าจึงจะสามารถให้ยาปฏิชีวนะเสร็จ แต่เขาไม่ถึงสองชั่วโมงก็ให้เสร็จแล้ว
ออกจากโรงพยาบาลมา หยานชิงเจ๋อขับรถออกมา คำพูดของแม่ตนเองก็ดึงขึ้นข้างๆหูอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าซูสือจิ่นไม่เพียงแต่โกหกว่าพวกเขาอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้น่าจะไม่ได้กลับบ้านอีกด้วย เขากลุ้มใจขึ้นมาทันที ลังเลอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ยังคงวางมือถือลง
คนเดินถนนตอนกลางคืนในฤดูหนาวมีไม่มากนัก และเวลานี้ร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งก็ชนเข้ากับสายตาของเขา
มือของหยานชิงเจ๋อบีบพวงมาลัยแน่น ความเจ็บปวดแผ่ซ่านบาดลึกอยู่ภายในใจ
เมื่อได้สติกลับมา เขาจึงเหยียบเบรกทันที รีบลงจากรถ จากนั้นก็วิ่งเข้าไปหาเจียงซีหยู่
บาดแผลที่ด้านหลังเริ่มเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง แต่เขาทำเป็นไม่รับรู้ไม่สนใจ จนกระทั่งไปคว้าแขนของเจียงซีหยู่เอาไว้ได้
“ว้าย——” เจียงซีหยู่หันไปก็เห็นว่าเป็นหยานชิงเจ๋อ
เขาราวกับว่าวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน เพราะด้วยฤดูหนาวที่หนาวเย็นอย่างมาก อีกทั้งไม่ได้สวมเสื้อโค้ต สวมแค่เสื้อเชิ้ตสีขาว เขาดูสูงโปร่งสะอาดสะอ้าน เหมือนในตอนแรกที่ได้เจอกัน
หัวใจของเธอเต้นแรงทันที เงยหน้าขึ้นมองหยานชิงเจ๋อ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า : “คุณมาทำอะไรที่นี่?!”
หยานชิงเจ๋อถูกคำถามแบบนี้ จึงตระหนักได้ว่า เขาออกมาจากโรงพยาบาลกำลังจะกลับอพาร์ตเมนของตนเอง เลยถือโอกาสขับผ่านบ้านเช่าของเจียงซีหยู่ไปด้วย
ลูกกระเดือกของเขากลิ้งไปมา : “ซีหยู่ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ”
เธอกำลังจะปฏิเสธ แต่เห็นปากของหยานชิงเจ๋อแตกจนเป็นรอยเลือด เขาสวมแค่เสื้อเชิ้ตบางๆตัวเดียวแล้วยังอยู่ในที่แบบนี้ และดวงตาก็ยังคงมีความเงียบเหงาเล็กน้อย
จู่ๆเธอก็ใจอ่อน ชี้ไปที่อพาร์ตเมนของตนเอง : “ขึ้นไปแล้วค่อยคุยกัน”
หยานชิงเจ๋อพยักหน้า กลับไปที่รถแล้วดับเครื่อง หยิบมือถือออกมา เดินตามเจียงซีหยู่ไปที่อพาร์ตเมนของเธอ
สถานที่ที่เธอพักอาศัยอยู่ เขาเคยมาหลายครั้งแล้ว ฉะนั้นที่ชั้นวางรองเท้าข้างๆประตูห้องจึงมีรองเท้าแตะผู้ชายเตรียมไว้ให้เขาโดยเฉพาะ
เขาเปลี่ยนรองเท้าแล้ว ก็ตามเจียงซีหยู่เข้าไป
เจียงซีหยู่เงียบอยู่พักหนึ่ง จึงถามหยานชิงเจ๋อว่า : “อยากดื่มอะไรหน่อยไหม?”
“น้ำเปล่าก็พอ” หยานชิงเจ๋อกล่าว
เจียงซีหยู่รินน้ำอุ่นให้หยานชิงเจ๋อหนึ่งแก้ว เขายื่นมือออกไปรับ ไม่ทันระวังปลายนิ้วจึงไปขนเข้ากับมือของเธอ
เจียงซีหยู่หดกลับมาเล็กน้อย แต่ในขณะนั้น ก็เห็นที่หลังมือของหยานชิงเจ๋อมีรอยบอบช้ำจากรูเข็มอยู่
เธออดไม่ได้ที่จะถามเขาว่า : “คุณไปให้น้ำเกลือมาเหรอ?”
หยานชิงเจ๋อก้มหน้าลงไปมอง ก็ปรากฏรอยยิ้มจางๆที่มุมปาก: “ไม่เป็นไรหรอก”
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ต่างประเทศ เจียงซีหยู่ก็รู้ว่า ร่างกายของหยานชิงเจ๋อดีมาก มีอยู่สองสามครั้งที่ต้องให้น้ำเกลือ ก็เป็นเพราะดื่มเหล้าเป็นเพื่อนลูกค้ามากเกินไปจึงเกิดอาการแพ้
อีกอย่างแต่ไหนแต่ไรเขาคนนี้เป็นคนที่ไม่ชอบแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็น ดังนั้น เขาบอกว่าไม่เป็นไร คาดว่าคงต้องรุนแรงกว่าที่เธอคิดอย่างแน่นอน
พอเธอคิดแบบนี้แล้ว สายตาก็ตกไปที่ใบหน้าของหยานชิงเจ๋อ รูม่านตาอดไม่ได้ที่จะหดแคบลงเล็กน้อย
ไม่ได้เจอกันแค่ครึ่งค่อนวัน คาดไม่ถึงว่าในดวงตาของเขาจะมีร่องรอยความหม่นหมองจางๆ ริมฝีปากก็ทั้งแห้งทั้งแตก แก้มก็คล้ายกับว่าผ่ายผอมลงไป ใบหน้าที่เดิมทีงดงามก็ซีดเซียวลงไปอย่างชัดเจน จนทำให้คนรู้สึกเจ็บปวดใจ
เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย คำพูดที่เดิมทีเจียงซีอยู่ต้องการจะพูด ชั่วพริบตาก็ติดอยู่ในลำคอ คาดไม่ถึงว่าจะพูดไม่ออก
ในห้อง เงียบสงัดถึงขีดสุด
หยานชิงเจ๋อค่อยๆดื่มน้ำแก้วหนึ่งหมดแล้ว ก็เงยหน้าแล้วกล่าวกับเธอว่า: “ยังมีอีกไหม?”
“ฉันจะรินให้คุณค่ะ” เจียงซีหยู่พูดพลาง รินน้ำให้หยานชิงเจ๋ออีกแก้วหนึ่ง
หยานชิงเจ๋อคล้ายกับกระหายน้ำอย่างมาก ดื่มน้ำเสร็จแล้ว จากนั้น ก็มองไปที่บนแก้ว ก็มองภาพเงาที่ปรากฏบนแก้ว อารมณ์ก็ยิ่งไม่ชัดเจน
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นอึดอัดหยุดนิ่งขึ้นมาทีละน้อยๆ
ในที่สุด ขณะที่เจียงซีหยู่กำลังจะอดทนต่อไปไม่ไหว หยานชิงเจ๋อก็เงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวว่า: “ซีหยู่ ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ”
เขาพูดพลาง ในดวงตาที่งดงามก็ปรากฏความรู้สึกที่เจ็บปวดออกมา ระหว่างหน้าผากก็แฝงไปด้วยความโศกเศร้าเล็กน้อย เขาออกแรงบีบแก้วน้ำ แล้วกล่าวกับเธอว่า: “ซีหยู่ ฉันขอโทษ”
เพียงเจียงซีหยู่ได้ฟังคำพูดของเขา ทันใด ในดวงตาก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา: “ทำไม? หยานชิงเจ๋อ คุณรู้ไหมว่า เมื่อวานคุณพาฉันไปพบพ่อแม่ของคุณ! คุณต้องการให้ฉันกลายเป็นลูกสะใภ้ในอนาคตของพวกเขา จึงพาไปแนะนำตัวกับพวกเขาไม่ใช่เหรอ?!”
“ขอโทษ” หยานชิงเจ๋อลุกขึ้นยืน โค้งคำนับต่อเจียงซีหยู่: “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันเอง”
เธอเห็นท่าทีของเขาในเวลานี้ ก็จนปัญญาที่จะใจเย็นต่อไป เจียงซีซีหยู่จึงเดินเข้าไปแล้วยกมือขึ้นทุบตีที่หน้าอกของหยานชิงเจ๋อ: “สุดท้าย วันต่อมาก็ทำให้ฉันเห็นว่าคุณนอนอยู่ด้วยกันกับคนที่เรียกว่าน้องสาวคนนั้น! คุณจะไม่ให้ฉันผิดหวังได้ยังไงห๊ะ?!”
ใบหน้าของเขาเศร้าเสียใจ: “ฉันรู้ดีว่าตอนนี้พูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ ที่วันนี้ฉันมาหาคุณ ก็เพื่อมากล่าวขอโทษคุณด้วยความจริงใจ”
หยานชิงเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในดวงตาคล้ายกับมีน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย: “ฉันก็ไม่รู้ว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้…….ซีหยู่ เมื่อคืนฉันดื่มเหล้า แล้วคิดว่าเธอเป็นคุณ”
“ฉันไม่ต้องการคำอธิบายแบบนี้! ฉันไม่ต้องการ!” เจียงซีหยู่ทุบตีหยานชิงเจ๋อไม่หยุด: “ฉันแค่อยากให้คุณบอกว่า เมื่อคืนคุณกับเธอ ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นทั้งนั้น! พวกคุณแค่นอนหลับไป ใช่ไหม? ชิงเจ๋อ คุณบอกฉันมาสิ! บอกฉันมาเร็วเข้า! ถึงจะโกหกฉันก็ได้!”
เป็นครั้งแรกที่หยานชิงเจ๋อเห็นเจียงซีหยู่อยู่ตรงหน้าเข้าด้วยท่าทีที่หมดอาลัยตายอยาก เขารู้สึกว่าหัวใจอุดอู้ขึ้นมาในทันที แต่ทว่า เขายังคงส่ายหน้า: “ซีหยู่ ฉันมีความสัมพันธ์กับเธอแล้ว จุดจุดนี้ ฉันไม่สามารถโกหกคุณได้”
“ฉันไม่อยากฟัง! ไม่อยากฟัง!” เจียงซีหยู่คว้าแขนของหยานชิงเจ๋อ: “คุณเก่งมากไม่ใช่เหรอ? แล้วก็มีกลุ่มDRไม่ใช่เหรอ? คุณทำให้เวลามันย้อนกลับมาได้ไหม? ฉันก็จะทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลย!”
หลังของหยานชิงเจ๋อถูกเธอดึงรั้งจนเจ็บปวด เพียงแต่ เขายังคงกล่าวว่า: “ซีหยู่ ฉันไม่สามารถย้อนเวลากลับมาได้ ดังนั้น พวกเรากลับไปไม่ได้แล้ว”
เจียงซีหยู่ได้ฟังคำพูดของเขาแล้ว ก็ปล่อยมือจากหยานชิงเจ๋อทันที เธอคล้ายกับว่าถูกโจมตีอย่างรุนแรง ถอยหลังไปสองก้าว นั่งลงยองๆ กุมหัวของตัวเอง: “ชิงเจ๋อ ทำไมล่ะ แม้แต่คำพูดโกหกคุณก็ไม่เต็มใจที่จะให้ฉัน!”
เขาเห็นเธอร้องไห้สะอึกสะอื้น ความเจ็บปวดก็เริ่มลุกลามเข้าสู่หัวใจทีละน้อย เพียงแต่ ยังคงไม่ก้าวเท้าเข้าไปแม้แต่ครึ่งก้าว และไม่ได้เข้าไปกอดเพื่อปลอบโยนเธอแม้แต่น้อย
หยานชิงเจ๋อหลับตาลงอย่างหดหู่ใจ: “ซีหยู่ ที่ฉันมาวันนี้ ก็คือมากล่าวขอโทษคุณ จากนั้นก็หวังว่า คุณจะลืมฉันไปซะ”
เดิมทีเจียงซีหยู่ที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นได้ฟังประโยคนี้แล้ว ก็ลุกขึ้นยืนในทันที ตัวของเธอสั่นอย่างรุนแรง: “ดังนั้น คุณก็จะทิ้งฉันไปใช่ไหม?”
สายตาของเธอแสดงออกถึงความไม่อยากจะเชื่อ: “เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่คุณกลับมาเอ่ยปากเลิกกับฉัน?! ชิงเจ๋อ ในความคิดของคุณ เธอคือที่หนึ่งมาโดยตลอดเลยใช่ไหม?!”
หยานชิงเจ๋อนึกถึงซูสือจิ่น หัวใจก็กลัดกลุ้มขึ้นมาทันที เขาขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นชา: “ฉันเห็นเธอเป็นน้องสาวของฉันมาโดยตลอด!”
“ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว คุณก็ยังเห็นเธอเป็นน้องสาวอยู่อีกเหรอ?!” เจียงซีหยู่ร้องไห้อย่างหนัก แล้วก็ยิ้มออกมา: “ฉันเข้าใจแล้ว คุณก็เหมือนกันกับผู้ชายคนอื่น ที่ไม่สามารถควบคุมร่างกายส่วนล่างของคุณได้ใช่ไหม? เพราะฉันปฏิเสธคุณมาตลอด ดังนั้น แม้แต่น้องสาวของคุณก็ทำได้ใช่ไหม?”
เรื่องเมื่อคืนนี้ เป็นตราบาปของหยานชิงเจ๋อมาโดยตลอด ตัวเขาเองก็ไม่อยากหวนกลับไปนึกถึง ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่อยากถูกคนเปิดโปงขึ้นมาอีก!
หน้าอกของเขาแปรปรวนเล็กน้อย พยายามระงับความคิดที่เข้ามาก่อกวน: “ซีหยู่ ขอโทษนะ ฉันรู้ว่าเรื่องราวมันเกิดขึ้นแล้ว จะอธิบายยังไงก็ไม่มีประโยชน์ หลังจากนี้ไป ฉัน——”
คำพูดของเขายังไม่ทันจบ ทันใด ก็ถูกการกระทำของเจียงซีหยู่ทำให้ต้องตกตะลึง
เจียงซีหยู่ถอดเสื้อไหมพรมและเสื้อตัวในออก ทันใด ด้านบนก็เหลือเพียงแค่เสื้อชั้นใน
เธอกล่าวกับเขาด้วยตาที่แดงก่ำว่า: “คุณต้องการฉันไม่ใช่เหรอ? โอเค ฉันจะให้คุณเดี๋ยวนี้! ชิงเจ๋อ ฉันแค่อยากให้คุณรู้ว่า ซูสือจิ่นสามารถให้คุณได้ ฉันก็ให้ได้เหมือนกัน!”
พูดพลาง เจียงซีหยู่ก็เดินมาถึงด้านหน้าของหยานชิงเจ๋อ จากนั้น ก็คล้องที่คอของเขาเอาไว้ เขย่งปลายเท้าขึ้น แล้วเงยหน้าขึ้นต้องการจะไปจูบเขา