ตอนที่ 291 ซูเถา ทำไมคุณถึงไม่ชอบผ

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 291 ซูเถา ทำไมคุณถึงไม่ชอบผม

ตอนที่ 291 ซูเถา ทำไมคุณถึงไม่ชอบผม

ซูเถาตกตะลึง

ดวงตาสีทองของเหลยสิงเข้มกว่าปกติ

“ทำไมมันถึงไม่เหมาะ มันไม่เหมาะตรงไหน คุณบอกผมมาเลย 1 2 3 4 หรือ 5 ข้อ ถ้าคุณไม่สามารถโน้มน้าวใจผมได้ คุณต้องรับของขวัญชิ้นนี้ แม้ว่าคุณไม่อยากรับก็ต้องรับ!”

ซูเถาไม่อยากจะใช้อารมณ์ เธอรินชาให้เขาหนึ่งถ้วยแล้วผลักมันไปตรงหน้าเขา

“พี่ใหญ่เหลย ถ้าคนสองคนไม่เหมาะสมกัน ก็คือไม่เหมาะกัน จะให้ฉันอธิบายอะไร”

เหลยสิงตอบกลับ “แล้วคุณกับสือจื่อจิ้นเหมาะสมกันหรือไง ผมไม่เห็นว่าพวกคุณจะเหมาะสมกันตรงไหน อย่างน้อยผมก็รู้ว่าผมต้องปกป้องผู้หญิงของผม แล้วเขาทำได้อย่างผมหรือเปล่า!”

เขาคงกำลังพยายามระงับอารมณ์จริง ๆ ไม่เพียงแต่หูของเขาออกมาเท่านั้นแต่หางของเขายังยื่นออกมาอีกด้วย ท่าทางหางลู่หูตก…

แม้แต่ซูเถาก็ยังเห็นฟันเขี้ยวที่แหลมคมของเขา…

ซูเถาถอนหายใจและพึมพำ

“ฉันกับเขาก็คงไม่เหมาะสมกัน แต่เหลยสิง แล้วฉันมีอะไรดีเหรอ? คุณเดินทางไปทั่วสารทิศ ได้พบกับผู้หญิงมากมายที่ทั้งสวย ฉลาด และมีความสามารถ มันต้องมีบางคนที่เต็มใจฝ่าฟันอุปสรรคไปพร้อมกับคุณ คุณคือคนที่มีความสามารถนะ วันสิ้นโลกเป็นโอกาสและเวทีสำหรับคุณ เป็นเรื่องน่าเศร้าใจสำหรับคุณที่ต้องถูกกักขังอยู่ในโลกสี่เหลี่ยมอย่างเถาหยาง”

และด้วยเพราะเหตุนี้ เธอคงต้องการที่จะหาคู่ที่สามารถอยู่กับเธอในเถาหยางเพื่อสร้างและต่อสู้ไปด้วยกัน

จวงหว่านอิจฉาความสามารถในการสร้างอาคารสูง ๆ ของเธอ

แต่เธอกลับอิจฉาจวงหว่าน ที่หมอจงสามารถละทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอ และมาอาศัยอยู่กับเธอในเถาหยาง

แต่คำพูดเหล่านี้ไม่สามารถโน้มน้าวใจเหลยสิงได้เลย

“ผมไม่สนใจคนอื่น ไม่ว่าที่อื่นจะใหญ่โตหรือเจริญแค่ไหน ผมก็ไม่สนใจ ซูเถา ทำไมคุณถึงไม่ชอบผม เพราะผมเป็นคนปากร้าย เข้ากับคนอื่นได้ยาก คุณไม่พอใจตรงไหน ขอแค่คุณบอกมา ผมจะเปลี่ยนให้”

ซูเถาพูดไม่ออก

เขาต้องการให้เธอพูดออกมาตรง ๆ เหรอ ว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา?

เธอไม่ได้รู้สึกกับเขาแบบชายหญิงหรือมีความรู้สึกอะไรแบบนั้น?

ภายใต้การจ้องมองที่แผดเผาของเหลยสิง เธอก็ยังคงพูดอย่างกล้าหาญ

เธอกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพราะเธอไม่ต้องการให้เหลยสิงเสียเวลากับเธออีกต่อไป

เธอรู้สึกว่าเหลยสิงมีเสน่ห์เป็นพิเศษ แต่ถึงเธอจะชื่นชมแบบนั้น เธอก็ไม่ได้มีความรู้สึกในเชิงนั้นกับเขา

เขาเป็นเหมือนเสือดาวที่พร้อมจะพุ่งเข้าชน และเธอเป็นฝูงแกะที่ตกเป็นเหยื่อและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เสือดาวที่เต็มไปด้วยความอันตรายจะยอมจำนนต่อลูกแกะอย่างเธอได้อย่างไร

ตอนนี้เขากำลังสับสนในความรู้สึกที่มีต่อหญิงสาว

เหลยสิงหลับตาลง เขาคลายกำปั้นแล้วก็กำแน่นขึ้นอีก คลายกำปั้นแล้วก็กำแน่นขึ้นอีกอยู่อย่างนั้น

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น “ค่อย ๆ กิน มื้อนี้ผมจ่ายเอง”

ซูเถาไม่มีเวลาแม้แต่จะเรียกเขา เพราะจู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกผลักออกไป

พนักงานพูดอย่างกระวนกระวาย “คุณผู้หญิงคะ ไม่ได้นะคะ..”

หญิงสาวรูปร่างผอมสูง คิ้วสวยโก่ง ตาแข็งทันมีที่เธอเห็นเหลยสิง

“ที่แท้นายก็มาอยู่ที่นี่นี่เอง!”

ฉู่หมิงมองไปที่ซูเถาที่ทำหน้าเหลอหลา เธอเปลี่ยนสีหน้าทันทีและถามเหลยสิงด้วยความโกรธ

“พวกนายรวมหัวกันโกหกฉันเพราะผู้หญิงคนนี้น่ะเหรอ”

เธอทั้งแปลกใจทั้งโกรธ

เดิมที เธอแค่สงสัยว่าเหลยสิงกำลังมีอะไรบางอย่างปิดบังเธอ ดังนั้นเธอจึงติดตามเขามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีนัดกับผู้หญิง!

หลายปีที่ผ่านมาเหลยสิงไม่เคยริเริ่มที่จะออกเดทกับผู้หญิงคนไหนเลย!

ผู้หญิงคนนี้ต้องล่อลวงเขาแน่ ๆ!

ยังเด็กอยู่แท้ ๆ แต่ก็ร้ายไม่เบา!

เหลยสิงคิดไม่ถึงว่าเธอจะตามมา และยังบุกมาถึงที่นี่ เมื่อเห็นแบบนี้เขาก็อารมณ์ขึ้นทันที

“ฉู่หมิง! ผมจะมากินข้าวกับใครจำเป็นต้องรายงานคุณด้วยหรือไง! คุณเป็นอะไรกับผม จะเอาแต่ใจตัวเองก็ให้มันมีขอบเขตหน่อย!”

คำพูดนั้นรุนแรงจนเสียงของฉู่หมิงสั่นสะท้าน

“เหลยสิง อย่าถลำลึกไปหน่อยเลย! ถึงฉันจะเอาแต่ใจ แต่ก็ดีกว่าการหลอกล่อคุณด้วยวิธีการที่ไม่บริสุทธิ์!”

ซูเถาตกตะลึง

หมายถึงเธอเหรอ?

ดูเหมือนว่าเธอจะถูกปรักปรำ!

เหลยสิงย่อตัวลงพร้อมกับก้าวไปด้านหน้าฉู่หมิงเพียงสองก้าว จากนั้นก็ดึงเธอให้มายืนต่อหน้าซูเถา

“ขอโทษเธอซะ!”

ดวงตาของฉู่หมิงเบิกกว้าง “ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น?”

เธอคืออัญมณีล้ำค่าของตระกูลฉู่ ตั้งแต่ยังเด็ก เธอไม่เคยต้องกล่าวขอโทษใคร มีเพียงคนอื่นเท่านั้นที่ต้องขอโทษเธอ และเธอไม่มีทางก้มหัวให้ใครก่อนแน่นอน!

เหลยสิงตอบ “เพราะการกระทำที่ไร้สาระของคุณไง เมื่อไหร่ที่คุณอ้าปาก คุณก็พร้อมที่จะพูดสาดเสียเทเสียใส่คนอื่น!”

แต่ฉู่หมิงไม่สนใจสิ่งที่เขาบอก

“แล้วสิ่งที่ฉันคิดมันผิดหรือไง? ผู้หญิงคนนี้ไปทำอีท่าไหนล่ะ เธอเข้าหานายยังไง เธอไม่ได้สวย แถมหุ่นก็ไม่ดี เธอบรรลุนิติภาวะหรือยังก็ไม่รู้ เธอสามารถหลอกล่อให้นายมากินอาหารเย็นกับเธอโดยไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรได้ยังไง?!”

ทันใดนั้นซูเถาก็ลดศีรษะลงเพื่อมองดูซาลาเปาลูกเล็ก ๆ ของเธอ และเคลื่อนสายตามองไปที่ภูเขาของฉู่หมิง

จากนั้นการแสดงออกของเธอก็เปลี่ยนไป

ถูกเหยียดหยาม!

ซูเถาชี้ไปที่เธอ “มันจะมากเกินไปแล้ว! ถ้าคุณอยากมาตามหาเหลยสิงก็เชิญคุณตามสบาย แต่อย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยว! มานี่มา ห้องวีไอพีนี้ฉันยกให้คุณแล้วกัน”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็หันหลังและจากไป

เหลยสิงต้องการที่จะวิ่งตามซูเถาไป แต่เธอโบกมือแล้วพูดว่า “พลตรีสือรอชั้นอยู่ข้างล่าง เชิญพวกคุณพูดคุยกันตามสบาย”

ฝีเท้าของเหลยสิงหยุดชะงักทันที

ฉู่หมิงยังคงโวยวาย “นี่ เธอหมายความว่ายังไง?! อย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยวเหรอ? หึ ฉันไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่!”

เหลยสิงพยายามหยุดการมีปากเสียงในครั้งนี้

“ฉู่หมิง ผมขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย อย่าเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตผมอีก! ผมไม่สนหรอกนะว่าคุณจะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ถ้ายังสร้างความเดือดร้อนให้ผมอีก ผมจะบุกไปที่บ้านคุณเพื่อเอาเรื่องคุณให้ถึงที่สุด ไม่เชื่อก็ลองดู!”

ฉู่หมิงสงบลงเล็กน้อย

เธอจำภาพน่าอายที่เหลยสิงขังเธอไว้ในบ้านตระกูลฉู่ก่อนหน้านี้ และต่อมาเธอก็ถูกพ่อตำหนิอย่างรุนแรง

เหลยสิงอาจไปที่บ้านตระกูลฉู่เพื่อสร้างปัญหาให้กับที่บ้านของเธอ และทำให้ทุกคนต้องเสียหน้า

เธออดทนและพูดว่า “ฉันขอเตือนนายด้วยเหมือนกัน ว่าผู้หญิงคนนั้นในวันนี้ได้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว ดังนั้นอย่าเข้าใจฉันผิด”

เหลยสิงไม่สนใจเธอ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและจากไป

ซูเถาเข้าไปในรถนั่งอยู่ในตำแหน่งข้างคนขับด้วยสีหน้าบึ้งตึง

สือจื่อจิ้นมองขึ้นไปชั้นบนก่อน แต่ไม่เห็นเหลยสิง จากนั้นจึงถามอย่างใจเย็น

“ไม่ราบรื่นเหรอ?”

ซูเถายังคงโกรธมาก “เจอหมาบ้า”

สือจื่อจิ้นสงสัยว่าเหลยสิงถูกลดระดับจากเสือดาวเป็นหมาบ้าแล้วเหรอ

ในใจของเขารู้สึกพึงพอใจเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า

“ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม เดี๋ยวผมพาไปกิน”

ภายในเวลาอันสั้นนี้ คงได้แต่ทะเลาะเบาะแว้งและยังไม่ได้มีเวลากินข้าว

ซูเถาส่ายหัว “ฉันไม่อยากอาหาร คุณพาฉันกลับเถอะ ขากลับผ่านลานจอดรถใช่ไหม แวะไปดูหน่อยว่ารถซ่อมไปถึงไหนแล้ว”

สือจื่อจิ้นที่กำลังอารมณ์ดีก็ต้องลดความรู้สึกเหล่านั้นลงเล็กน้อย

ตัดเหลยสิงไปได้แล้ว แต่ก็ยังเหลือคนที่ส่งของขวัญชิ้นนี้มาให้ซูเถาอย่างกู้หมิงฉือ

ทั้งสองคนไม่พูดอะไรเลยระหว่างทาง เมื่อมาถึงที่จอดรถ ซูเถาก็เปิดประตูรถลงไปและได้ยินเสียงโต้เถียงกันแต่ไกล

ช่างซ่อมรถที่กำลังโกรธจนหน้าแดง และมีเส้นเลือดที่คอปูดออกมา

“ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นใคร แต่วันนี้รถคันนี้อยู่ในความดูแลของผม และผมจะไม่ยอมให้คุณมาทำลายมันได้อย่างเด็ดขาด! ถ้าคุณแค้นเจ้าของรถ คุณก็ไปเอาเรื่องกับเจ้าตัว แต่อย่ามาใช้โอกาสที่เจ้าของไม่อยู่เพื่อระบายความโกรธกับรถ ผมไม่เคยเห็นคนที่ไร้เหตุผลแบบคุณมาก่อนเลยจริงๆ!”

หญิงสาวคนนั้นมีท่าทีหยิ่งผยองมากขึ้น

“รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร อย่าว่าแต่รถสองสามคันนี่เลย ฉันจะทำลายรถทั้งลานจอดรถนี้ก็ย่อมได้ และจะไม่มีใครสามารถทำอะไรฉันได้!”

หญิงสาวที่อายุน้อยกว่าก็มั่นใจเมื่อเห็นสิ่งนี้

“ใช่ พี่สาวของฉันเป็นภรรยาของหัวหน้าจั๋ว ถ้ารู้แบบนี้แล้วก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ”

ซูเถาจำพวกเธอได้แม้เห็นพวกเธอจากระยะไกล หญิงที่ดูอาวุโสที่สุดเป็นคนที่วิ่งมาขวางหน้ารถเธอ ตอนที่กำลังเดินทางมาที่ซินตู!

ส่วนผู้หญิงอีกคนน่าจะเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวเติ้ง ที่แสดงท่าทางสนใจในตัวสือจื่อจิ้นวันนั้น

นึกว่าสองแม่ลูกคู่นี้จะตายระหว่างเดินทางแล้วซะอีก?