ตอนที่ 292 ต้องการทุบรถ

ตอนที่ 292 ต้องการทุบรถ

เติ้งจื่อเสวียน ไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะต้องเจอโจรระหว่างทาง และพ่อของเธอก็ต้องถูกฆ่าโดยที่ไม่มีใครช่วยเหลือ อีกทั้งเธอกับแม่ก็ถูกผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติที่จ้างมาทอดทิ้งไปอีก ภายใต้สถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ พวกเธอยังสามารถฝ่าฟันมาถึงซินตูได้

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอมีพี่สาวที่ดี

เติ้งจื่อฉิงพี่สาวของเธอไม่สามารถติดต่อพวกเธอได้ ดังนั้นเธอจึงรีบไปหาคนรักของเธอที่มีอำนาจในทันใด และขอให้เขาส่งคนช่วยออกตามหาพวกเธอระหว่างทาง

และใช้เวลาไม่นานก็สามารถหาตัวเธอและแม่พบ

เติ้งจื่อเสวียนและแม่ถูกพาไปที่ซินตู เมื่อเห็นพี่สาวของเธออาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ เธอก็รู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้นมาทันที

“พี่ พี่เขยรักพี่จริง ๆ ห้องพักดี ๆ แบบนี้ที่ลั่วหนานมีไม่เท่าไหร่เองนะ และแม้ว่าจะมี ก็ไม่ใช่ที่ที่เราสามารถเข้าไปอยู่อาศัย”

แม้ว่าเติ้งเฉิงเย่พ่อของพวกเธอสองคนจะมีตำแหน่งทางการสูงในลั่วหนาน แต่ก็มีหลายคนที่กดขี่เขา

ตอนนี้ไม่มีพ่อแล้ว ครอบครัวเติ้งของพวกเธออาจไม่มีสถานะในลั่วหนานอีกต่อไป

เติ้งจื่อฉิงจับมือน้องสาวและแม่ของเธอแล้วพูดว่า

“พ่อจากไปแล้ว พี่จะดูแลเธอกับแม่เอง แม่กับน้องย้ายมาอยู่กับฉันที่ซินตูนะ ถ้าเอ่อร์เฉิงยังอยู่ จะไม่มีใครในซินตูทำอะไรพวกเราได้”

เติ้งจื่อเสวียนได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของซินตูแล้ว อะไรที่ฐานลั่วหนานมี ที่ฐานซินตูก็มีเหมือนกัน ดู ๆ แล้วที่นี่แทบไม่มีอะไรต่างกับที่ลั่วหนาน เพราะสิ่งที่ลั่วหนานไม่มี ทางซินตูได้กระจายมาให้หมดแล้ว

และสิ่งนี้ทำให้เติ้งจื่อเสวียนตระหนักว่าเขามีความสำคัญเพียงใดในฐานะพี่เขยในอนาคต

เธอทั้งมีความสุขและอิจฉา…

ฟางเหยียนไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนเท่ากับลูกสาวคนเล็กของเธอ เธอจับมือลูกสาวคนโตเอาไว้

“ฉิงฉิง ลูกสัญญานะ อย่าลืมว่าพ่อของลูกตายยังไง ทั้งโจรพวกนั้น และคนที่ไม่ยอมให้ความช่วยเหลือพ่อของลูก ใช่แล้ว พวกเขามาจากที่เล็ก ๆ ชื่อเถาหยาง อีกอย่างนะไม่รู้ว่าคนพวกนั้นไปเอารถบ้านมาจากไหน แล้วก็…”

เติ้งจื่อฉิงรับฟังคำบอกเล่าจากแม่ของเธอ และจดข้อมูลสำคัญทั้งหมด

พวกโจรไม่จำเป็นต้องพูดถึง เมื่อการประชุมสุดยอดพันธมิตรสิ้นสุดลง ซินตูก็จะส่งกองกำลังไปฆ่าพวกเขา ไม่อย่างนั้นในอนาคตคงไม่มีใครกล้ามาที่ซินตูอีก

และสำหรับเถาหยางซึ่งเป็นสถานที่เล็ก ๆ ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นกังวล

พวกเขามาซินตูเพื่อเข้าร่วมการประชุมอย่างแน่นอน เธอต้องหาทางกำจัดโควตาของคนพวกนั้น เพื่อให้พวกเขาได้มีบทเรียน และอย่ายุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งด้วย

แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องให้เอ่อร์เฉิงเห็นด้วยก่อน

แต่เธอไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้เอ่อร์เฉิงถึงได้งานยุ่งมากขนาดนั้น

เติ้งจื่อฉิงรู้สึกสงสัย และแอบกังวลเล็กน้อยว่าผู้ชายของเธอจะมีผู้หญิงมาติดพันหรือเปล่า

จั๋วเอ่อร์เฉิงเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อม ติดอย่างเดียวคือเขาเป็นคนเจ้าชู้

แต่มันจะมีผู้ชายที่ร่ำรวยและมีอำนาจสักกี่คนที่ไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วใครจะได้แต่งงานเข้าครอบครัวจั๋ว มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนบุคคล

เดิมทีเติ้งจื่อฉิงต้องการใช้เวลาในการหาข้อมูลเถาหยาง แต่วันต่อมาเธอพาแม่และน้องสาวออกไปซื้อของ ก็ได้เห็นรถของศัตรูในลานจอดรถ

ฟางเหยีบนกำลังจะพุ่งตัวไปอาละวาด “รถคันนี้แหละ! เป็นรถของพวกคนใจจืดใจดำ ฉันต้องทุบมัน!”

เมื่อเห็นรถคันนี้แล้วนึกถึงสามีที่ตายไป เธอก็หนาวถึงกระดูก!

เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังเดินเข้ามาดูไม่เป็นมิตร ช่างซ่อมรถจึงพูดอย่างระมัดระวัง

“คุณกำลังจะทำอะไร?”

ฟางเหยียนแสยะยิ้ม “ทำอะไรเหรอ ก็ทุบรถน่ะสิ!”บราวนี่ออนไลน์

หลังจากพูดจบ เธอก็เตะเข้าที่กันชนที่ช่างเพิ่งติดตั้ง

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ช่างซ่อมก็ฉุนเฉียว “คุณรู้ไหมว่ารถคันนี้ราคาเท่าไหร่? ถ้ามันพัง คุณจะจ่ายไหวไหม!”

เดิมทีเติ้งจื่อฉิงต้องการจะหยุดเธอ เพราะว่าที่ตรงนี้เป็นพื้นที่จอดรถสาธารณะ

แต่เมื่อช่างถามว่าถ้าเสียหายจะชดใช้ได้ไหม เติ้งจื่อฉิงก็โกรธทันที

“อาเจี้ยน ทุบมันให้หนัก ๆ ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายเอง!”

อาเจี้ยนเป็นคนขับรถและคนดูแลที่จั๋วเอ่อร์เฉิงมอบหมายให้เธอก่อนที่เขาจะไป

แต่ว่าช่างซ่อมรถเข้ามาขวางไว้

เติ้งจื่อฉิงเตือนว่า “เรามีความคับข้องใจเป็นการส่วนตัวกับเจ้าของรถ และเราไม่ต้องการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ คุณควรอยู่เงียบ ๆ และออกไปให้เร็วที่สุด ไม่ต้องเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้”

ซูเถารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ช่างซ่อมรถพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปกป้องรถไม่ให้เสียหาย แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดที่ชื่ออาเจี้ยนขัดขวางโดยบีบคอของเขาไว้

ซูเถาเห็นดังนั้นก็โกรธจัด “ปล่อยเขาลงเดี๋ยวนี้!”

อาเจี้ยนได้ยินเสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่เขาจะหันไปดูว่าเป็นใคร เขาก็ต้องเจ็บข้อมืออย่างรุนแรงและปล่อยช่างซ่อมรถลงโดยไม่รู้ตัว

ใครกัน?!

เขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่าคน ๆ นั้นเคลื่อนไหวจนเข้ามาใกล้ได้อย่างไร!

ช่างซ่อมรถก้มลงและไออย่างต่อเนื่อง สือจื่อจิ้นเข้าไปพยุงเขา “คุณไม่เป็นไรนะ”

ลูกน้องที่มีท่าทีหวาดกลัวก็รีบเข้ามาถามไถ่อาการเขาเช่นกัน

ทั้งเติ้งจื่อเสวียนและฟางเหยียนจำสือจื่อจิ้นได้

เติ้งจื่อเสวียนกลัวเขาโดยสัญชาตญาณและถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่กล้าพูดอะไร

ในทางตรงกันข้าม ฟางเหยียนจับมือลูกสาวคนโตและพูดอย่างสั่นเทา

“ใช่ เขาคนนี้แหละที่สามารถช่วยพ่อของลูกได้ แต่เขาไม่ทำ พ่อของลูกเลยเสียชีวิตในอ้อมแขนของแม่…”

เติ้งจื่อฉิงคิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่ดูดีและมีท่าทางที่ไม่ธรรมดาแบบนี้

เมื่ออยู่กับจั๋วเอ่อร์เฉิงมาเป็นเวลานาน เธอมีสัญชาตญาณว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอไม่เลวไปกว่าจั๋วเอ่อร์เฉิงมากนัก

เขามีออร่าของความเหนือกว่า แม้แต่ความเป็นชายที่มากกว่าจั๋วเอ่อร์เฉิงไม่น้อย

เขาเป็นดาบที่แท้จริงในสนามรบ

เติ้งจื่อฉิงสังเกตเห็นฝ่ามือที่หยาบกร้านของเขา เธอก็พอจะสรุปอะไรได้

ความรู้สึกนี้แตกต่างจากสิ่งที่แม่และน้องสาวของเธอพูดพอสมควร?

เถาหยางเป็นสถานที่เล็ก ๆ เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ชายคนนี้อาจมีภูมิหลังมากมาย

เธอไม่แน่ใจอยู่ครู่หนึ่ง และไม่รู้ว่าในตอนนี้จะจบลงอย่างไร

อาจเป็นเพราะเธอคิดมากเกินไป เธออยู่กับจั๋วเอ่อร์เฉิงผู้มีดวงตายิ่งกว่ารังแตนมาเป็นเวลานาน และระมัดระวังตัวเกินไปหรือเปล่า?

ซูเถาวิ่งเข้ามาเพื่อดูว่าช่างซ่อมรถได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จากนั้นจึงไปดูรถ และพบว่าไม่มีความเสียหายอื่นใดนอกจากกันชนที่บุบเล็กน้อย

เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่สีหน้าของเธอก็ยังไม่ค่อยดีนัก ก่อนจะหันกลับมา และมองไปที่คู่แม่ลูกแซ่เติ้ง

“พวกคุณคิดจะทำอะไร? แค่เข้ามาขวางหน้ารถและเกือบทำให้พวกเราทุกคนเสียหลักเข้าข้างทางจนเกือบตายยังไม่พอ ตอนนี้พวกคุณก็ยังคิดจะมาทำลายรถของฉันอีกเหรอ?”

ฟางเหยียนไม่ได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่าเธอเองเป็นคนเข้าไปขวางรถของพวกเขา และเธอไม่เคยยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง แต่กลับรู้สึกรำคาญและพูดว่า

“รถเธอเหรอ? เธอเป็นใครล่ะ? ใครใช้ให้พวกเธอขับเร็วขนาดนั้นล่ะ?! อีกอย่างคนขับรถนั่นตาบอดหรือเปล่า? ไม่เห็นว่ามีคนร้องเรียกต้องการความช่วยเหลืออยู่เหรอ?”

เติ้งจื่อเสวียนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและมองไปที่สือจื่อจิ้น จากนั้นหลุบตาของเธอลงทันที เธอไปซ่อนตัวอยู่หลังพี่สาวของเธอและกระซิบ

“พี่ รถคันนี้ต้องถูกขโมยหรือไม่ก็ปล้นมาแน่ ๆ การตกแต่งภายในนั้นดีมาก ฉันคิดว่าพี่เขยไม่มีรถดี ๆ แบบนี้นั่งด้วยซ้ำ”

เติ้งจื่อเสวียนคิดว่าเธอพอจะเดาทางได้ จึงถามซูเถาโดยตรง “เธอมีใบขับขี่รถยนต์และหลักฐานการซื้อหรือเปล่า”

กลุ่มคนจากสถานที่เล็ก ๆ นี้จะมีรถเป็นขบวนได้ยังไงกัน?

ซูเถาไม่มีใบขับขี่รถยนต์และหลักฐานการซื้อจริง ๆ

เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูด เติ้งจื่อเสวียนก็รู้สึกภูมิใจเล็กน้อย

“พี่ คนพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกับพวกโจร ฉันแนะนำว่าให้อายัดรถไว้ก่อน แล้วค่อยให้พี่เขยส่งคนไปจับพวกเขา แล้วพากลับไปสอบปากคำ”