บทที่ 240 ไร้พ่าย
ทางฝั่งเสี่ยวเถียน ตอนนี้เด็กหญิงมีชื่อเสียงมากในโรงเรียน
เดิมทีเฝิงเสียงอวี่เป็นพวกเด็กเกเร แต่เขาพ่ายแพ้ให้เด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่ง ข่าวคราวนี้ไม่มีใครในโรงเรียนไม่รู้
เสี่ยวเถียนคิดว่าด้วยชื่อเสียงจะทำให้เธอได้เรียนอย่างสงบ
ใครจะรู้เล่าว่าบางคนกลับคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าขบขัน
เด็กผู้หญิงคนเดียวจะไปทำอะไรได้?
และคนที่ไม่เคยโดนเฝิงเสียงอวี่จัดการก็คิดว่าอีกฝ่ายไร้ค่า เลยยอมแพ้ให้กับเสี่ยวเถียน!
บางคนที่ถูกเฝิงเสียงอวี่ต่อย พวกเขารู้ว่าหมัดของอีกฝ่ายทรงพลังขนาดไหน แต่คิดว่าน่าจะมีเหตุผลอื่นที่เจ้าตัวตั้งใจยอมแพ้ให้เธอ
เมื่อผลลัพธ์เป็นเช่นนี้ เสี่ยวเถียนจึงโดนท้าทายเป็นเวลาสามวันติดกัน เสี่ยวเถียนไม่ได้รังเกียจนะ แต่… เธอปฏิเสธทั้งหมดเลย
เมื่อผลลัพธ์เป็นเช่นนี้ เธอจึงไม่มีเวลาเรียนอย่างสงบเลย
ซูเสี่ยวเถียนขมวดคิ้ว มันจะมีคนชอบโดนต่อยตีด้วยหรือ?
เฝิงเสียงอวี่เป็นคนที่ซูเสี่ยวเถียนยอมรับ พอเห็นคนพวกนี้มาท้าทายเสี่ยวเถียนไม่หยุด เขาก็กอดอกมองเหมือนกำลังชมการแสดงอยู่
ในเมื่อเขาต่อยคนเดียวไม่ได้ ถ้าเป็นหลายคนอาจจะดีก็ได้นะ
พอถึงวันที่สี่ก็มีคนมาท้าทายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกแล้ว และในที่สุดเสี่ยวเถียนก็ตกลงจะคุยด้วย
เดิมทีคิดว่าเด็กหญิงจะไม่ยอม แม้แต่พวกเด็กผู้ชายที่คิดจะคุยโวโอ้อวด ครั้นเห็นเสี่ยวเถียนที่จู่ ๆ ก็ตอบตกลง พวกเขาก็มึนงงไปชั่วขณะ
ไม่ใช่ว่าไม่กล้าตกลงหรือ? ทำไมจู่ ๆ ถึงยอมได้ล่ะ?
หรือคิดว่าในบรรดาคนพวกนี้เห็นเขาเป็นไก่อ่อน?
เด็กชายคิดไปเรื่อยเปื่อย แต่ไม่คิดว่าหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็รับรู้ได้ว่าตัวเองเป็นไก่อ่อน
จริง ๆ
ไม่ทันได้เคลื่อนตัวก็โดนเสี่ยวเถียนเตะตวัดร่างลงไปนอนหมอบกับพื้นเสียแล้ว
“ยังอยากสู้ต่อหรือพอแล้ว?” ซูเสี่ยวเถียนถามด้วยท่าทางสบาย ๆ “ถ้าอยากสู้ต่อก็มาเลย แต่ถ้าอยากพอแล้วจากนี้ไปไม่ต้องมารบกวนฉันอีก!”
เด็กชายนอนอยู่บนพื้น รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว
เขาจะกล้าพูดที่ไหนว่าอยากสู้ต่อ?
พอเห็นอีกฝ่ายโดนเตะจนล้ม เสี่ยวเถียนก็ไม่อยากเจอเรื่องนี้อีกในภายภาคหน้า เลยเหลือบมองไปคนรอบข้างแทน
“ยังมีคนคิดอยากร่วมวงด้วยอีกหรือ ฉันไม่อยากสู้กับคนอื่นทุกวันหรอกนะ!”
ด้วยความมั่นใจของเธอ ทำให้คนที่คิดจะมาท้าทายเสี่ยวเถียนตกตะลึง
เด็กสาวตัวผอมแห้งมั่นใจถึงขนาดที่ว่าอยากให้ทุกคนมาร่วมวงเลยหรือ?
แต่มีเด็กผู้ชายบางส่วนที่คิดว่าชัยชนะไม่ใช่การต่อสู้ และพวกเขาไม่อยากจะเข้าไปด้วย
แต่ก็มีบางคนที่อยากลอง
พลังของเสี่ยวเถียนสูงกว่าเฝิงเสียงอวี่มาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะต้องจัดการกับคนไร้ทักษะเลย
เสี่ยวเถียนไม่ได้ปฏิเสธคนที่เข้ามาหา ต้องพูดว่าเธอไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ คนที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่ล้มเลย แต่คนที่ท้าทายกลับโซเซถอยหลังไปหลายก้าวจนแทบทรงตัวไม่ได้
บ่ายวันนั้นเธอสู้กับเด็กผู้ชายไปยี่สิบสี่คน
ในที่สุดก็ไม่มีใครมาท้าเธอต่อสู้อีกแล้ว ก่อนหน้านี้ที่คิดว่าเฝิงเสียงอวี่สงวนท่าทีก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด
พอครูใหญ่กัวรู้ข่าวก็ไม่รู้จะตอบสนองอย่างไรดีถึงจะเหมาะ
ลูกบ้านหัวหน้าเฉินจะเหมือนกับหัวหน้าเฉินไหม?
เห็นกันจะ ๆ ว่าเธอเป็นสาวน้อยที่เงียบขรึม แต่มีชื่อเสียงด้านการต่อสู้ในโรงเรียนมาก
ทว่าเสี่ยวเถียนกลับคิดออกแค่วิธีเดียว และในที่สุดมันก็สงบเสียที จะได้ตั้งใจเรียนหนังสือแล้ว
ครูประจำวิชาต่าง ๆ ก็รู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเด็กหญิงจดจ่อกับการเรียนมาก
ปกติเด็กที่เรียนดีจะไม่เก่งเรื่องต่อยตี
และเด็กที่ต่อยตีจะเรียนไม่เก่ง
แต่เหมือนเสี่ยวเถียนจะเป็นกรณีพิเศษ ทั้งเรียนดีและต่อยตีได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอมีวินัยในตนเองมาก เห็นเธอเมื่อไรก็มักจะตั้งใจเรียนเสมอ
เด็กที่ใส่ใจแบบนี้ไม่เห็นมากี่ปีแล้ว?
ทางฝั่งคุณย่าซู เธอเข้าเมืองมาดูแลหลาน ๆ บางครั้งที่พวกสะใภ้พักผ่อนหรือเลิกงานเร็วก็จะมาช่วยคุณย่าทำงาน
ฉีเหลียงอิงไม่ได้นอนที่โรงงานแล้ว แต่กลับมาอยู่บ้านแทน แม้แต่คู่เหล่าซานที่เช่าบ้านก็ย้ายมาอยู่ที่นี่
ครอบครัวใหญ่แบบนี้ทำให้มีชีวิตชีวามาก
บรรยากาศในครอบครัวดีเหลือเกิน
แต่คุณย่าซูก็มีปมหนึ่งในใจ
เงินกับตั๋วที่ซื้อบ้านมาจากเสี่ยวเถียน ทว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้
คุณย่าซูรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ควรเป็นของหลานสาว
แต่เธอกลับพูดออกไปไม่ได้เนี่ยสิ
เธอพูดความจริงออกไปได้ที่ไหน?
สุดท้ายแกก็ตัดสินใจว่ารอเด็ก ๆ หยุดก่อนแล้วค่อยกลับบ้านไปปรึกษาสามี
เธอจะให้เรื่องบ้านหลังนี้มาทำให้พวกลูกชายแตกแยกไม่ได้
คุณย่าซูกังวล แต่คนอื่นไม่รู้และใช้ชีวิตกันตามปกติ
เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เสี่ยวเถียนก็เก็บเงิน และตั๋วได้จำนวนหนึ่งแล้วให้ย่าทั้งหมด
เพราะมาเรียนที่อำเภอ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จึงสูงมาก
โชคดีที่ตอนนี้เธอหาเงินจากการอ่านหนังสือได้เยอะ
อีกอย่างพวกพี่ชายก็อ่านเหมือนกัน เสี่ยวเถียนจะต้องได้เงินกับตั๋วเพิ่มอีกแน่ ๆ และความเร็วในการหาเงินก็จะเพิ่มขึ้นด้วย