บทที่ 261 ชานมไข่มุก

เจ้าของร้านพิศวง

บทที่ 261 : ชานมไข่มุก

ตอนนี้หลินเจี๋ยกำลังนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์เหมือนที่เขามักจะทำ เขาผงะไปเล็กน้อยหลังได้ยินคำเหล่านี้เข้า และเขาก็มองมาอย่างเขิน ๆ นิดหน่อยเมื่อแอนดรูว์มอบคริสตัลสีแดงเลือดให้เขาด้วยสองมือ

ปากของเขากระตุกเล็กน้อยในขณะที่ค่อนแคะเงียบ ๆ

ไม่ได้! ไม่ใช่ว่าเจโรมตายไปแล้วเหรอ? แล้วคุณจะพาเขามาที่นี่ยังไงล่ะครับ?

มันจะเป็นไปไม่ได้เลยนอกเสียจากคุณจะพาร่างที่ตายแล้วของเขามา แต่นี่ไม่ใช่ศพของเจโรม มันมีเพียงสิ่งที่ดูจะเป็นศิลานักปราชญ์ที่วิถีแห่งดาบอัคคีหลอมขึ้นมาเท่านั้น

แต่ว่า…

ในเมื่อเจโรมตายไปแล้ว มันก็หมายความว่าแอนดรูว์ไม่เชิงทำในสิ่งที่เราขอสำเร็จได้ แต่พิจารณาจากความมั่นใจของเขาในตอนนั้นแล้ว นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องน่าอายสำหรับรองประธานสมาคมแห่งสัจธรรมอยู่นะเนี่ย

ศิลานักปราชญ์ชิ้นนี้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญต่อวิถีแห่งดาบอัคคี และมันก็ถือว่าเป็นสิ่งแทนเจโรมที่ตายไปแล้วในระดับหนึ่ง

ดังนั้นมันจึงเป็นธรรมดาที่แอนดรูว์จะให้ศิลานักปราชญ์ชิ้นนี้แทนตัวเจโรม แล้วใช้ ‘การเผลอพูด’ แบบนี้มาทำให้เรารู้สึกขำขัน แล้วก็ลบล้างทุกความน่าอับอายออกไป

เราคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่ารองประธานแอนดรูว์จะมีอารมณ์ขันแบบนี้ด้วย

ในเมื่อรองประธานไม่อยากจะพูดถึงความผิดพลาดที่ชวนกระอักกระอ่วนแบบนี้ หลินเจี๋ยก็ตัดสินใจเล่นตามน้ำแล้วต่อมุก

หลินเจี๋ยสังเกตเห็นการตระหนักที่น่าตกใจในแววตาของแอนดรูว์แล้ว แต่ยังคงยิ้มโดยไม่กะพริบตา “ทำได้ดีครับ ขอบคุณที่ลำบากนะครับ”

เขามีลูกไม้ต่าง ๆ อยู่ไม่น้อย และทำตัวสมกับชื่อเสียงรองประธานของเขาอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อขอขมาอย่างถ่อมตัวโดยไม่ถือตัวอะไรเลยเพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องที่พวกฮู้ดทำเอาไว้ แล้วตอนนี้เขาก็สามารถกลบความกระอักกระอ่วนได้ราวปาฏิหาริย์โดยใช้ทัศนคติที่จริงจังราวกับว่าตัวเองเป็นเพียงคนรับใช้มากกว่าจะเป็นลูกค้า…หรือนี่คืออุบายที่เขาใช้เพื่อเอาชนะใจคนกันแน่?

แต่ต้องพูดว่ามันรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยเลย

ในขณะที่ความคิดเหล่านี้แล่นผ่านในใจ หลินเจี๋ยก็วางถ้วยชานมในมือของเขาลง แล้วหยิบอัญมณีสีแดงวาววับนั้นขึ้นมา

แอนดรูว์ถอนหายใจโล่งอก เขารู้สึกราวกับน้ำหนักที่กดถ่วงเขาอย่างมหาศาลได้ถูกยกออกจากบ่าแล้วจริง ๆ ด้วย เจ้าของร้านหลินหมายความให้เราไปเอาศิลานักปราชญ์ที่หลอมขึ้นจากแก่นชีวิตของเจโรมมาให้เขาตอนที่เขาพูดว่า “พาเจโรมมาหาผมที”

ว่าไปแล้ว…เจ้านี่ก็ถูกวางไว้ในสถานที่เกิดเหตุอย่างจงใจ หรือนี่จะเป็นการแสดงความปรารถนาดีต่อเจ้าของร้านหลิน?

ดูเหมือนว่าวิถีแห่งดาบอัคคีจะกลัวเจ้าของร้านหลินอยู่จริง ๆ สงสัยจังว่าเจ้าของร้านหลินคิดยังไงกับองค์กรลับอันน่ากลัวที่จู่ ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้นี่กันนะ…

แอนดรูว์จัดท่าทางตนเองแล้วนั่งลงที่เก้าอี้สตูลตัวสูงที่เคาน์เตอร์ในขณะที่ความคิดเหล่านี้แล่นพล่านอยู่ในหัว แล้วตอนนั้นเอง เครื่องดื่มแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็ดึงสายตาของเขาไป

ชาแดงกับนม แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่มันก็ยังเป็นสูตรการผสมชานมที่เห็นได้ทั่วไป แต่การปั้นแป้งมันสำปะหลังเป็นก้อน ๆ แล้วเพิ่มลงไปในชานมนี่…เป็นสูตรชงชาที่ไม่เคยเห็น ช่างแปลกใหม่และน่าลิ้มลองจริง ๆ

นอกจากเป็นนักวิชาการแล้ว แอนดรูว์ก็เป็นผู้ดีและเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารในเวลาเดียวกันด้วย การไขว่ขว้าหาความสุขของเขาไม่เคยหยุดลงเลย

พูดได้ว่าแอนดรูว์ได้ลองชิมอาหารแทบทุกชนิดในอาซีร์แล้ว ไม่ว่ามันจะหายากหรือแพงแค่ไหน

แต่เขากลับไม่เคยได้เห็นเครื่องดื่มแบบนี้มาก่อนเลย…

ในขณะที่เขากำลังจ้องชานมอยู่นั้น เขาก็ได้ข้อมูลเกี่ยวกับมันจำนวนมากมาทันที แล้วในใจของเขาก็ได้จำลองรสชาติและสัมผัสของชานมนี้ขึ้นมาแล้ว

น่าสนใจ…และแปลกใหม่

แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ในขณะที่แอนดรูว์จ้องถ้วยชาโปร่งใสอยู่ ไข่มุกสีดำที่ดูคลุมเครืออยู่ในถ้วยกลับเริ่มดูคล้าย ๆ ลูกตาสีดำขลับที่กำลังหมุนไปมาอย่างแปลก ๆ

ความรู้สึกแปลกประหลาดและน่ากลัวอย่างจาง ๆ ครอบงำแอนดรูว์มากขึ้นทุกทีที่เขาจ้องมัน มันน่ากลัว…แต่ก็มีเพียงเครื่องดื่มแบบนี้แหละที่คู่ควรต่อประสาทรับรสของเจ้าของร้านหลินล่ะมั้ง?

เขาเงียบไปเมื่อคิดเช่นนี้

เมื่อสังเกตเห็นแอนดรูว์มองชานมของเขาแล้วตกสู่ภวังค์ หลินเจี๋ยก็หยิบถ้วยขึ้นมาโคลงเบา ๆ “วันนี้ คาเฟ่หนังสือเริ่มขายชานมไข่มุกแล้วนะครับ ถ้าคุณสนใจลองไปซื้อได้ที่ร้านข้าง ๆ บางทีคุณอาจพบเซอร์ไพรส์ดี ๆ ก็ได้”

ใช่แล้ว ในที่สุดคาเฟ่หนังสือก็เปิดตัวโครงการธุรกิจใหม่…ชานมไข่มุก!

หลินเจี๋ยได้เริ่มทดลองตั้งแต่เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนแล้ว เพราะถึงอย่างไร แค่การตกแต่งภายในและตัวหนังสืออย่างเดียวนั้นก็ยังห่างไกลจากคาเฟ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่ดี

ดังนั้นหลินเจี๋ยจึงหันไปจับจ้องที่เครื่องดื่ม

เพราะถึงอย่างไร นี่ก็คือเครื่องดื่มที่โด่งดังไปทั่วในโลกก่อนของเขา มันดึงดูดหนุ่มสาวนับไม่ถ้วนและแบรนด์ต่าง ๆ ที่โด่งดังบนอินเตอร์เน็ตต่างก็คิดสูตรใหม่ ๆ ออกมาเกลื่อนตลาดไปหมด

การนำความสำเร็จเก่า ๆ เหล่านี้มาสร้างขึ้นใหม่ดูจะเป็นไปได้มากในโลกที่คล้ายโลกขนาดนี้

หลินเจี๋ยไม่เคยลองชาสูตรผสมใหม่อันอลังการงานสร้างเหล่านั้นเลย และเขาก็ไม่รู้วิธีชงมันเลยด้วย ทว่าเขาพอจะมีความเข้าใจพื้นฐานในชมนมไข่มุกมาตรฐานอยู่บ้าง

เมื่อรวมกับนักเรียนผู้ปราดเปรื่องเสมออย่างมูเอนแล้ว รสชาติที่ดั้งเดิมนี้ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากการลองผิดลองถูกสองสามครั้งหลังจากที่หลินเจี๋ยได้อธิบายภาพรวมของมันให้เธอฟัง

แล้วจากนั้นการวิจัยตลาดที่ใช้เหล่าสาวกของศาสนาแห่งตะวันเป็นคนช่วยติชม พวกเขาก็ค่อย ๆ ปรับสูตรให้เป็นที่ยอมรับของผู้คนได้

และวันนี้ก็คือวันวางขายสินค้านี้อย่างเป็นทางการ

คนที่มีอายุและประสบการณ์อย่างแอนดรูว์คงไม่สนใจจะกินอะไรแบบชานมไข่มุกหรอก แต่ในเมื่อเขาบังเอิญมาร้านในวันนี้พอดี หลินเจี๋ยก็ย่อมดึงยอดขายอย่างสุดตัวอยู่แล้ว

คนมีอารมณ์ขันและเข้าอกเข้าใจคนอื่นอย่างรองประธานแอนดรูว์นั้นเป็นไปได้สูงมากที่ว่าเขาจะช่วยส่งเสริมกิจการของคาเฟ่หนังสือ หลินเจี๋ยจึงไม่พูดมากแล้วรักษารอยยิ้มไว้ขณะคิดเช่นนี้

และที่จริงแล้ว แอนดรูว์ก็รู้สึกตื้นตันใจมาก เขาพยักหน้าอย่างกระชุ่มกระชวยแล้วโพล่งออกมาอย่างตื่นเต้น “เป็นเกียรติของผมที่ได้รับใช้คุณหลินครับ!”

หลินเจี๋ยรู้สึกราวกับว่าแอนดรูว์ได้กลายเป็นเบ๊ของเขาไปแล้วหลังจากที่เขากลับมา

แต่จะว่าไป นี่อาจเป็นพลังของหนังสือก็ได้ ดูเหมือนว่าขุมทรัพย์สุดปลายฝันจะทำให้รองประธานคนนี้หาชะตากรรมของตัวเองเจอแล้ว และตอนนี้เขาก็เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง

ด้วยรอยยิ้มที่ไม่จางลงเลยของเขา หลินเจี๋ยตอบกลับอย่างพอสังเขป “คุณสุภาพไปแล้วครับ ลูกค้าทุกคนของผมก็เหมือนเพื่อนสนิทผมนั่นแหละ พวกเราสามารถคุยกัน ทำตัวเหมือนเพื่อนกันได้นะครับ”

แอนดรูว์ตอบกลับอย่างเทิดทูนสุดใจ “เข้าใจแล้วครับคุณหลิน”

ไม่เลยครับ คุณไม่เข้าใจอะไรเลยสักกะติ๊ด…

หนังตาของหลินเจี๋ยกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะถอนหายใจแล้วขยับอัญมณีสีแดงไปมา “เจโรมทำอาชญากรรมร้ายแรงและสมควรที่จะตาย แต่เขาควรจะได้รับความยุติธรรมและไม่ถูกจัดการแบบส่วนตัว”

“มันเป็นไปได้ว่าวิถีแห่งดาบอัคคีเลือกที่จะฆ่าเขาเพื่อรักษาความลับไว้ และกันไม่ให้เขาเอาข้อมูลมาแพร่งพรายได้อีก”

“พอพูดถึงหลุมพรางนี้แล้ว ในสมาคมแห่งสัจธรรมจะต้องยังมีไส้ศึกอยู่อีกแน่ ๆ ผมว่าคุณควรกวาดล้างพวกเขาให้เร็วที่สุดและตัดไฟแต่ต้นลมนะครับ”

หลินเจี๋ยหมุนศิลานักปราชญ์ที่หลอมขึ้นมาจากแก่นชีวิตของเจโรมบนปลายนิ้วของเขา ทำให้มันเปล่งแสงสีรุ้งออกมาจาง ๆ “ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่พวกคุณควรเร่งตามหาพี่สาวของพรีม่าได้แล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้น ถ้าทำไม่ไหว ให้โจเซฟช่วยดีไหมครับ?”

หลินเจี๋ยเหลือบขึ้นไปมองแอนดรูว์แล้วส่งรอยยิ้มปลอบประโลม

สมาคมแห่งสัจธรรมไม่เอาเรื่องแย่ ๆ ของตัวเองไปประจานต่อสาธารณะ และหลินเจี๋ยก็เข้าใจได้ แต่โจเซฟนั้นเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน

ทว่าใบหน้าของแอนดรูว์กลับซีดขาวราวกับกระดาษ