เฉินฮวนฮวนออกมาจากลิฟต์ แล้วเดินตรงไปทางประตูใหญ่ของโรงพยาบาล แต่กลับพบหรงจิ่นซิวเข้าโดยบังเอิญพอดี
เธอจึงนึกขึ้นได้ว่า โรงพยาบาลรุ่ยเอินก็คือโรงพยาบาลของหรงจิ่นซิว หรงจิ่นซิวคือรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลของที่นี่
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า โรงพยาบาลรุ่ยเอินที่ใหญ่โตขนาดนี้ ก็ยังจะมาเจอกันได้
“เฉินฮวนฮวน คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ?” หรงจิ่นซิวรีบเลิกงาน ไปเตรียมตัวเข้าร่วมงานเลี้ยง เพื่อต้อนรับหลีซืออวิ๋น
เขาก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะได้พบกับเฉินฮวนฮวนที่นี่
“เฮียสามไม่ได้พาคุณไปที่บลูส์คลับเหรอครับ?” เขาถามขึ้น
เดินทีเขาคิดว่าวันนี้เฟิงหานชวนจะพาเฉินฮวนฮวนไปร่วมงานเลี้ยง จากนั้นก็แนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก
“บลูส์ บลูส์คลับ?” ได้ยินชื่อนี้ เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
ถึงแม้จะได้สร้อยคอของคุณแม่กลับมาแล้ว แต่คนอย่างหลิวตงรุ่ย ตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังไม่ได้รับการลงโทษใด ๆ เลย
เรื่องคืนนั้นยังเป็นเงามืดในใจของเธอ
“ใช่ครับ เฮียสามไม่ได้บอกคุณเหรอ? เขามีห้องส่วนตัวพิเศษอยู่ที่บลูส์คลับ วันนี้มีเพื่อนคนหนึ่งของพวกเรากลับมาจากต่างประเทศ ก็เลยนัดกันที่บลูส์คลับ” หรงจิ่นซิวรู้สึกแปลกใจขึ้นมา
ตามหลักแล้ว ตอนนี้เจ้าสามดีกับเฉินฮวนฮวนเป็นอย่างมาก ทำไมถึงไม่พาเฉินฮวนฮวนไปบลูส์คลับนะ?
เฉินฮวนฮวนสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที สีหน้าดูแย่เป็นอย่างมาก
เธอได้ยินหรงจิ่นซิวพูดว่า เฟิงหานชวนมีห้องส่วนตัวพิเศษที่บลูส์คลับ ดูท่าแล้วหลิ่วเยว่เอ่อร์ไม่ได้โกหก
คนที่โกหกจริง ๆ นั้นก็คือ เฟิงหานชวน
เฟิงหานชวนเป็นคนที่ชอบเรื่องแบบนั้นจริง ๆ และหลิ่วเยว่เอ่อร์ยังพูดอีกว่า เฟิงหานชวนกับพรรคพวกของเขา ทำแบบนั้นกับเธอพร้อมกัน…
ในพรรคพวกของเขา ก็คงจะรวมหรงจิ่นซิวด้วย?
เฉินฮวนฮวนมองไปที่หรงจิ่นซิวด้วยสายตาหวาดกลัว เธอรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างอ่อนแรง จนเดินเซถอยหลังไปสองก้าว
“เฉินฮวนฮวน คุณเป็นอะไรครับ? สีหน้าไม่ค่อยดีเลย” หรงจิ่นซิวประคองเธอไว้
เธอเห็นท่าที่อ่อนโยนของหรงจิ่นซิว แต่ภาพแบบนั้นก็ปรากฏขึ้นในหัวเธอ มือเธอสั่นโดยไม่รู้ตัว
ความกลัวแบบนั้น
“คุณไม่สบายหรือเปล่า? ทำไมจู่ ๆ ถึงมาโรงพยาบาล? ไปครับ ผมพาคุณไปตรวจดูหน่อย” หรงจิ่นซิวค่อนข้างเป็นห่วงเฉินฮวนฮวน
ถึงยังไงผู้หญิงคนนี้ก็เปรียบเหมือนดอกท้อที่เบ่งบานเพียงดอกเดียวอยู่ในใจของคุณชายสาม หลังจากที่โสดมานานหลายปี
ในฐานะเพื่อนสนิทของเฮียสาม และก็เป็นหมอที่ช่วยกอบกู้โลก เขามีความจำเป็นต้องพาเฉินฮวนฮวนไปตรวจ
“ไม่ ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่น้ำตาลในเลือดต่ำนิดหน่อยค่ะ” เฉินฮวนฮวนโบกมือ พยายามแกล้งทำเป็นปกติ แล้วพูดปฏิเสธ
เธอไม่ได้ไม่สบาย ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่กล้าที่จะอยู่กับขยะสังคมแบบนี้ตามลำพัง เธอกลัวจริง ๆ ว่าเธอจะประสบเหตุร้ายเหมือนกับหลิ่วเยว่เอ่อร์
หรงจิ่นซิวที่ไม่รู้ความจริงอะไรเลย เมื่อรู้ว่าเฉินฮวนฮวนน้ำตาลในเลือดต่ำ สถานการณ์สอดคล้องกัน เขาจึงไม่ได้บังคับให้เธอไปพบแพทย์อีก
เพียงแต่ หรงจิ่นซิวอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นด้วยความสงสัย “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้?”
“ฉัน…ฉันมาเยี่ยมผู้ป่วย ฉันต้องรีบกลับแล้วค่ะ” เฉินฮวนฮวนตอบอย่างคลุมเครือ แล้วโบกมือลาหรงจิ่นซิว จากนั้นก็รีบเดินออกไป
เขามองดูแผ่นหลังของเฉินฮวนฮวนที่รีบร้อนออกไป หรงจิ่นซิวขมวดคิ้ว ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าวันนี้เฉินฮวนฮวนแปลกประหลาดนิดหน่อยนะ?
ดูเหมือนไม่กล้าสบตาเขาตรง ๆ ท่าทางหวาดระแวงเหมือนทำความผิดมายังไงยังงั้น?
หรงจิ่นซิวรู้สึกว่าเรื่องมันแปลก ๆ เดิมทีเขาตั้งใจจะออกจากโรงพยาบาลไป ก็เดินกลับเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่ ขอให้พยาบาลที่แผนกต้อนรับตรวจสอบบันทึกการเยี่ยมชมของเฉินฮวนฮวน
จากการตรวจสอบ เขาพบว่าคนที่เฉินฮวนฮวนมาเยี่ยมชื่อหลี่ซูฉิง เขาบังเอิญรู้สถานะของหลี่ซูฉิงคนนี้พอดี
ค่ารักษาพยาบาลและค่าผ่าตัดของหลี่ซูฉิน เป็นพ่อบ้านของตระกูลเยี่ยที่มาจ่ายเงิน เขาบังเอิญพบกับพ่อบ้านเข้าพอดี พ่อบ้านคนนั้นพูดปากพล่อยอยู่สองสามประโยค
หรงจิ่นซิวรู้ว่า หลี่ซูฉิงคือแม่แท้ ๆ ของคุณชายเล็กตระกูลเยี่ย
เพียงแต่ว่า จู่ ๆ เฉินฮวนฮวนมาเยี่ยมหลี่ซูฉิงนี่มันเรื่องอะไรกัน? ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกัน?
หรงจิ่นซิวครุ่นคิดอย่างละเอียดรอบคอบ แต่ก็ไม่เข้าใจสถานการณ์อยู่ดี เขางุนงงไปหมด จึงไม่ได้คิดอะไรมากมาย เขาออกจากโรงพยาบาลไป แล้วขับรถตรงไปยังบลูส์คลับ
…
เฉินฮวนฮวนนั่งรถเมล์กลับคฤหาสน์ตระกูลเฟิง
ตลอดทาง เธอสีหน้าหมองคล้ำ ดูแล้วไร้เรี่ยวแรง และรู้สึกว่าแผ่นหลังมีลมเย็น ๆ พัดมาตลอดเวลา
เธอกำลังหวาดกลัวอยู่ กลัวว่าตัวเองจะตกอยู่ในมือของปีศาจ
“ครืดครืดครืด…”
ในตอนที่เธอเหม่อลอยอยู่นั้น จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้น
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นสายของเฟิงหานชวน มือก็สั่นโดยไม่รู้ตัว เกือบจะจับโทรศัพท์ไว้ไม่นิ่ง
เฉินฮวนฮวนไม่อยากรับสายของเฟิงหานชวน แต่ว่าโทรศัพท์สั่นไม่หยุด
เธอกลัวว่าหากตัวเองตั้งใจไม่รับสายเฟิงหานชวน กลับจะทำให้เฟิงหานชวนเกิดความสงสัย จึงฝืนรับสายโทรศัพท์
“ฮัลโหล” เสียงของเธอเบามาก เผยความเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากออกมา
“กลับบ้านแล้วยัง?” ตอนที่เฉินฮวนฮวนออกมาจากคุก ซูอวี่ได้รายงานกับเขาแล้ว
ตอนนั้นเฉินฮวนฮวนบอกว่าจะไปที่ที่หนึ่ง ให้ซูอวี่กลับไปก่อน ดังนั้นเฟิงหานชวนจึงโทรศัพท์มาตอนนี้ เพื่อที่จะถามสถานการณ์ “ค่ะ ใกล้ถึงแล้ว ฉันนั่งรถเมล์อยู่ค่ะ” เฉินฮวนฮวนตอบตามความจริง
“ทำไมไม่ให้ซูอวี่ไปส่งคุณ?” เฟิงหานชวนตั้งใจถามขึ้น
“ฉันไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ไม่อยากให้ซูอวี่รอนานเกินไป อีกอย่างกลางวันแสก ๆ ฉันไม่มีทางเจอคนโรคจิตได้หรอก” เฉินฮวนฮวนไม่ได้พูดอะไรเยอะ
เธอไม่อยากบอกเฟิงหานชวนว่าเธอไปเยี่ยมหลี่ซูฉิง
“ญาติของคุณป่วยเหรอ?” เฟิงหานชวนอดที่จะถามไม่ได้ เขาอยากรู้ว่าเฉินฮวนฮวนไปเยี่ยมใคร
“ไม่ถือว่าเป็นญาติ เป็นคุณน้าท่านหนึ่งที่เมื่อก่อนดูแลฉันเป็นอย่างดี” เฉินฮวนฮวนอธิบายอย่างคลุมเครือ จากนั้นก็พูดขึ้น “ฉันใกล้ถึงป้ายแล้ว วางสายก่อนนะคะ คุณไปเลี้ยงฉลองดี ๆ ล่ะ”
พูดจบ ไม่ได้รอให้เฟิงหานชวนตอบกลับ เธอก็วางสายไป
มองดูหน้าจอที่มืดไป เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รู้สึกว่าตัวเองแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว
ถ้าหากไม่ได้รู้ความจริงจากหลิ่วเยว่เอ่อร์ ไม่แน่เธออาจตกหลุมพรางความอ่อนโยนที่เฟิงหานชวนถักทอขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้
ในตอนที่เฟิงหานชวนวางโทรศัพท์ เขาขมวดคิ้ว สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ทำไมเขารู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนเล่นละครตบตาเขาอย่างมาก? ทำเหมือนกับไม่อยากคุยกับเขา!
หรือว่าเขาคิดผิดไปเหรอ?
ในตอนนี้เอง ประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดออก หรงจิ่นซิวเดินพุ่งตรงเข้ามาหาเฟิงหานชวน แล้วนั่งลงข้างเขา
“เฮียสาม นายทายสิว่าฉันเจอใครเข้าที่โรงพยาบาล?” หรงจิ่นซิวหันหน้ามาเลิกคิ้วใส่เฟิงหานชวน
“ฮวนฮวน” เฟิงหานชวนตอบโดยตรง
“นายรู้ว่าเธอไปโรงพยาบาล? ฉันนึกว่านายไม่รู้นะเนี่ย! เพราะว่าท่าทางของเฉินฮวนฮวนเหมือนกับกำลังหลบฉันอยู่” หรงจิ่นซิวนั่งไขว่ห้าง เบ้ปาก แล้วพูดขึ้น “หลี่ซูฉิงคนนี้ นายรู้จักไหม?”
“หลี่ซูฉิง?” เฟิงหานชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“นายไม่รู้ว่าเฉินฮวนฮวนไปเยี่ยมใครเหรอ? เป็นหลี่ซูฉิงคนนี้แหละ แม่แท้ ๆ ของคุณชายเล็กตระกูลเยี่ยฉันกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเฉินฮวนฮวนของนายกับตระกูลเยี่ยอยู่ ว่ามีความสัมพันธ์อะไรกัน?” หรงจิ่นซิวใช้นิ้วลูบคาง
เฟิงหานชวนสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
ลูกชายคนเล็กของตระกูลเยี่ย ก็คือเยี่ยจิ่งเฉินไม่ใช่เหรอ?
ผู้เขียนพูดนอกเรื่อง : 5 บทจบไปแล้ว เหนื่อยมากเหนื่อยมาก ขอทุกคนเป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะคะ พรุ่งนี้ลุยกันต่อ!