ตอนที่ 296 ลูกแมวสวยงาม

ตอนที่ 296 ลูกแมวสวยงาม

ซูเถาตกตะลึง

เธอเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับการที่เฮยจือหม่าของตนไปลักพาตัวแมวของคนอื่นมา และได้ให้กำเนิดลูก จากนั้นมันก็พาเมียและลูก ๆ มาที่บ้านของเธอ?!

แมวขนยาวสีขาวตัวนั้นสวยงามมากแม้ว่าจะมีรอยเปื้อนบนตัวแต่ก็ไม่สามารถปกปิดความงามของมันได้ มันเป็นเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ

แต่ดูเหมือนเจ้าหญิงน้อยจะกลัวคนมาก และดุร้ายมากเช่นกัน มันถึงกับขู่ฟ่อเสียงต่ำขณะคาบลูกไว้ในปาก และถอยห่างไปทีละก้าว

ขณะที่ซูเถากำลังจะก้าวเข้าไป เจ้าหญิงน้อยก็ตกใจกลัวจนวิ่งหนีไปพร้อมกับลูกในปาก

เฮยจือหม่าก็ส่งเสียงร้องออกมาหลายครั้ง จากนั้นมันก็รีบวิ่งตามออกไป แมวทั้งสองตัวหายไปในราตรีอย่างรวดเร็ว ทิ้งซูเถาไว้ตามลำพังในสายลม

เมื่อเฉียนหลินได้ยินเสียง เธอก็ออกมาจากห้องและถามว่า “มีอะไรเหรอ?”

ขณะที่สวมรองเท้า ซูเถากล่าวว่า “เฮยโต้วของฉันเอาแมวขาวกลับมา และแมวขาวตัวเล็กนั้นก็คาบลูกไว้ในปากด้วย ฉันรู้สึกว่ามันจะตายถ้าเราไม่รีบช่วย ฉันจะออกไปตามหามัน”

เฉียนหลินก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น และรู้ทันทีว่าแมวตัวนั้นเป็นแมวตัวที่เฮยโต้วชื่นชอบ…

“ฉันจะไปกับคุณ!”

ทั้งสองค้นหาเฮยจือหม่าตามตำแหน่งของมันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง แต่พวกเธอคิดไม่ถึงว่าเฮยจือหม่าจะวิ่งเข้ามาพร้อมลูกแมวในปากของมัน และวางไว้ที่เท้าของซูเถา

ลูกแมวตัวน้อยไม่แม้แต่จะลืมตา ขนบนตัวของมันยังเปียกราวกับเพิ่งเกิดได้ไม่นาน

ถ้าไม่ใช่เพราะศีรษะเล็กขยับเป็นครั้งคราว คงคิดว่ามันตายไปแล้ว

เธอหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาจากพื้นที่ในมิติเพื่อห่อตัวลูกแมว

เฮยจือหม่าส่งเสียงร้องสองสามครั้ง และวิ่งไปยังทิศทางหนึ่ง และทันใดนั้นก็มองไปที่ซูเถา

ในวินาทีถัดมา ซูเถารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผ่านการมองเห็นร่วมกัน

แมวสีขาวตัวนี้ดูเหมือนจะหนีออกจากร้านขายสัตว์เลี้ยง

มันไม่ไว้ใจมนุษย์และกลัวมนุษย์มากด้วย เมื่อมันหนี มันก็ไปซ่อนตัวอยู่ในท่อน้ำและมันก็หิวเกินกว่าจะออกมาได้

ที่ซ่อนนี้ถูกค้นพบโดยเฮยจือหม่าผู้ซึ่งชอบสอดแนมและลาดตระเวน

เพราะมันกำลังตั้งท้องลูก แมวขาวจึงระแวดระวังมาก และเมื่อมันเห็นเฮยจือหม่ามันก็เริ่มข่วนทันที

ในวันแรก เฮยจือหม่าไม่กล้าเข้าใกล้มันจริง ๆ จึงรีบเดินจากไป

วันต่อมา… เฮยจือหม่าเอาอาหารกระป๋องที่เหลือของตัวเองครึ่งกระป๋องแล้วไปหาแมวน้อยสีขาว

แน่นอนว่าแมวขาวเปลี่ยนที่ซ่อน

แต่พื้นที่ขนาดใหญ่ที่นี่ถูกเฮยจือหม่า ‘ตรวจพบ’ มานานแล้ว มันจึงพบแมวขาวภายในสิบนาที

เพราะมีอาหาร คราวนี้แมวน้อยเลยมีท่าทีอ่อนลง?

เป็นเพราะมันหิว และเมื่อมันได้กลิ่นหอมของอาหารมันจึงไม่ได้สนใจอะไร และก้มหน้าจดจ่ออยู่กับการกิน

เฮยจือหม่าพาตัวมันกลับบ้าน และบอกว่าจะมีอาหารกระป๋องมากมาย แต่ก็ยังถูกแมวขาวตัวน้อยข่วนอยู่ดี

และเมื่อเข้าวันที่สาม ซึ่งก็คือวันนี้ เฮยจือหม่าไปหาแมวน้อยสีขาวอีกครั้ง และมันก็ได้ให้กำเนิดลูกออกมาแล้ว!

ซูเถาเห็นชัดเจนว่ามีลูกแมวตัวน้อยถือกำเนิดขึ้นสามตัว!

แล้วอีกสองตัวล่ะ?

เธอกำลังจะดูภาพเหตุการณ์ต่อไป แต่เฮยจือหม่าตัดการมองเห็นร่วมกันแล้วรีบวิ่งหนีไป

ซูเถาอุ้มลูกแมวที่หายใจรวยรินและรู้สึกงุนงงว่าเธอไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้หรือเปล่าที่ต้องมาเลี้ยงดูลูกคนอื่น

เฮยจือหม่าอาจรู้ว่าลูกแมวกำลังจะตาย มันจึงมาหาเธอเพื่อขอความช่วยเหลือ

การคาดเดาที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจของซูเถา บางทีแมวอีกสองตัวอาจตายทันทีที่พวกมันเกิดและมีเพียงตัวนี้เท่านั้นที่รอดชีวิต

เธอรีบพูดกับเฉียนหลินว่า “รีบกลับกันก่อนเถอะค่ะ ไปช่วยสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ นี่ก่อน”

ซูเถา เฉียนหลิน และเฉียนหรงหรงอดหลับอดนอนทั้งคืนเพื่อผลัดกันเฝ้าดูแลลูกแมวตัวน้อย

สือจื่อจิ้นต้องการช่วยพวกเธอ แต่ซูเถากลัวว่าชายอกสามศอกอย่างเขาจะสัมผัสลูกแมวแรงเกินไป

นี่เป็นครั้งแรกที่พลตรีสือพบกับการถูกขับไล่อย่างไร้ความปรานี เขากลับไปที่ห้องของตัวเองด้วยความสิ้นหวัง

จนกระทั่งรุ่งสางลูกแมวก็ผล็อยหลับไปในที่สุดพร้อมกับส่งเสียงน้อย ๆ ออกมา จากนั้นทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ซูเถาเอามือกุมหน้าผาก “เรายังต้องหาแม่ของมันให้เจอโดยเร็ว เพราะการให้อาหารมันนั้นเหนื่อยมาก”

เฉียนหลินและลูกสาวก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ซูเถาพูด

แต่วันนี้คงไม่ทันการแล้ว เพราะอีกหนึ่งชั่วโมงพวกเธอก็ต้องออกไปเข้าร่วมการประชุม

เธอทำได้แค่พาลูกแมวไปเข้าร่วมการประชุมด้วยเท่านั้น

ซูเถาเอากระเป๋าสำหรับใส่เสบียงมา จากนั้นก็ปูด้วยเบาะนุ่มอันเล็ก ๆ และวางลูกแมวเข้าไป จากนั้นนำสิ่งของจำเป็น เช่น นมผง ขวดน้ำ และสำลีก้านไปด้วย

สือจื่อจิ้นหิ้วมันขึ้นมาเพื่อจะช่วยเธอสะพายเอาไว้

ซูเถาส่ายหัว “วันนี้คุณต้องพบเจอพูดคุยกับคนจำนวนมาก ฉันจะสะพายมันไว้เองและจะดูแลมันอย่างดี”

ส่วนหม่าต้าเพ่าก็ได้เตรียมพร้อมทางจิตใจแล้วที่จะเป็นหัวหน้าของเถาหยางตามคำแนะนำของซูเถา ในสองสามวันนี้เขาต้องเป็นคนออกหน้าแทนเธอ

และตกลงกันไว้ว่าซูเถาจะรับบทเป็นผู้ช่วยของเขาอีกที

สือจื่อจิ้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามที่เธอบอก “ผมส่งคนไปตามหาเฮยจือหม่าและแมวขาวที่คุณพูดถึงแล้ว พวกเขาน่าจะหาเจอภายในคืนนี้”

เพราะหากว่าหาไม่เจอภายในคืนนี้ เถาเถาของเขาต้องกลายเป็นแม่นมทั้งวันทั้งคืน แบบนี้เธอจะเอาเวลาที่ไหนไปพักผ่อน

ซูเถาพยักหน้าอย่างแรง การเป็นแม่ไม่ง่ายเลย

ในตอนเช้าตรู่ ซ่งเยว่ปินก็มาหาพวกเธอแต่เช้าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกรงใจ เพราะเขาเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่มีโควตา และต้องการเข้าร่วมการประชุมไปกับเฉียนหลินในฐานะคู่ครอง

เฉียนหลินก็กลัวว่าเขาจะทำตัวไม่ถูก จึงริเริ่มที่จะทักทายเขาก่อน “มาค่ะ เรากำลังเตรียมตัวไปขึ้นรถกันพอดี”

ซ่งเยว่ปินตอบรับด้วยความเขินอาย จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแมวเหมียวตัวเล็ก ๆ

เขาตกใจ “เสียงแมวมาจากไหน?”

ก่อนหน้านี้เขาออกตามหาแมวเหมือนคนบ้า เขาเกือบคิดว่าหูเขาเพี้ยนไปแล้วเนื่องจากหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้มานาน

เฉียนหรงหรงที่มีรอยคล้ำใต้ตาของเธอชี้ไปที่กระเป๋าของซูเถา

“เมื่อวานนี้เราเก็บลูกแมวเพิ่งคลอดได้ มันเกือบไม่มีชีวิตรอด”

ซ่งเยว่ปินจ้องมองไปด้วยความไม่เชื่อ “เก็บ เก็บได้?”

แมว และสุนัขถือเป็นของฟุ่มเฟือยในวันสิ้นโลก และความเป็นไปได้ที่มันจะออกมาเดินเพ่นพ่านนั้นต่ำยิ่ง ถ้าพวกมันหน้าตาน่ารักก็คงถูกคนจับไปขายแล้ว ส่วนพวกที่ไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่ก็กลายเป็นอาหารซอมบี้ ดังนั้นพวกแมวจรจัดไม่น่าจะมีโอกาสสืบพันธุ์

“ผมขอดูหน่อยได้ไหม?”

ดวงตาของซ่งเยว่ปินจ้องไปที่กระเป๋าของซูเถา

เมื่อเห็นดวงตาที่กระตือรือร้นของเขา ซูเถาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดกระเป๋าให้เขาดู “ตัวมันเล็กมากเลยค่ะ มันเกือบไม่รอด”

ซ่งเยว่ปินมองดูด้วยความตกตะลึง “มันน่าจะเป็นแมวน้อยสีขาวขนยาว มันดูดีมาก…”

จู่ ๆ เขาก็เงียบไป ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกและถามด้วยความตื่นเต้น

“เถ้าแก่ซู ขายแมวตัวนี้ไหม?”

ซูเถาตอบกลับด้วยความลำบากใจ “มันยังเล็กมาก รอมันโตกว่านี้ค่อยว่ากันอีกทีดีกว่าค่ะ”

เธอไม่คิดที่จะขายมันจริง ๆ

เพราะเธอไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เธอสามารถเอาเสบียงอะไรมาขายก็ได้ให้ได้ราคาดี เธอไม่จำเป็นต้องเอาลูกแมวตัวน้อย ๆ นี้มาขายเพียงเพราะอยากได้เงิน

แม้ว่าซ่งเยว่ปินจะผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่าเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ “ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็สามารถเรียกหาผมได้ทุกเมื่อนะ เรียกปุ๊ปมาปั๊ป”

ซูเถาถามว่า “คุณจะเอาแมวตัวนี้ส่งไปให้คุณนายคนนั้นเหรอ”

ซ่งเยว่ปินพยักหน้า “ผมก็คิดอยู่ แต่ถ้าเถ้าแก่ซูตัดใจปล่อยมันไปไม่ได้ ผมก็จะเลี้ยงดูมันให้เติบโตก่อนสักสามเดือน ก่อนที่จะส่งมันไป”

ตอนนี้แมวยังตัวเล็กเกินไป เขาก็ไม่วางใจเหมือนกัน กลัวส่งไปแล้วคุณนายคนนั้นจะไม่ดูแลมัน

ซูเถาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ลูกแมวน่ะมีการเปลี่ยนแปลงสูงมาก หากในสามเดือนนี้มันโตมาพิการล่ะ? คุณนายคนนั้นคงรับไม่ได้หรอกใช่ไหม?”

ไม่อย่างนั้นซ่งเยว่ปินคงไม่ต้องค้นหาแมวนานขนาดนี้ และยังไม่เจอตัวที่เหมาะสมสักที

แปลว่าคุณนายคนนั้นต้องมีข้อแม้เยอะอยู่พอสมควร