ตอนที่ 297 ทำไมซูเถาถึงมีชีวิตที่ดี

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 297 ทำไมซูเถาถึงมีชีวิตที่ดี

ตอนที่ 297 ทำไมซูเถาถึงมีชีวิตที่ดี

ซ่งเยว่ปินพยายามอย่างหนักเพื่อหาแมว

“แน่นอนว่าในช่วงสองสามเดือนแรกมันคงจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่แมวตัวนี้มีใบหน้ากลมโต อุ้งเท้าทั้งสี่และจมูกของมันเป็นสีชมพู ถึงเวลานั้นมันคงไม่พิการหรอก”

จริง ๆ แล้วเขาอยากจะบอกว่า หรือถ้ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นก็อาจเซอร์ไพรส์ว่าแมวตัวนั้นตาบอด

หางขนาดเล็กมีสีทองอ่อน ๆ หางของมันไล่สีเหมือนเปลวไฟ ถ้ามันโตขึ้นมันคงจะสวยงามมากจริง ๆ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้หัวใจของซ่งเยว่ปินก็อดคาดหวังไม่ได้

คุณนายจะต้องชอบอย่างแน่นอน

เมื่อถึงเวลานั้น ทีมของพวกเขาจะสามารถได้รับส่วนแบ่งในตลาดการขนส่งทางตอนเหนือจากอำนาจของหัวหน้าลั่วอย่างแน่นอน

แต่ว่าซูเถายังไม่เห็นด้วย เขาก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาลูกแมวให้แข็งแรง

ซ่งเยว่ปินไม่เก่งเรื่องการเถียงข้าง ๆ คู ๆ รอให้ลูกแมวโตกว่านี้ก่อน

รถยนต์หลายคันขับไปจนถึงศูนย์ประชุม

ซินตูลงทุนเงินจำนวนมากไปกับศูนย์ประชุมแห่งนี้ เป็นอาคารที่งดงามที่สุดในซินตู แม้แต่ถนนทั้งสองด้านก็กว้างกว่าที่อื่น ๆ ด้านข้างของถนนยังมีพื้นที่สีเขียว ซึ่งมองผ่าน ๆ ไม่ต่างจากถนนก่อนวันสิ้นโลก

อู๋เจิ้นมองไปที่พื้นที่สีเขียวและพูดว่า

“ซินตูน่าจะมีผู้ที่มีความสามารถด้านพฤกษาด้วย แต่คาดว่าน่าจะปลูกได้แค่พวกสนามหญ้าเท่านั้น”

อู๋เจิ้นยังคงมั่นใจในความสามารถของเขามาก ความสามารถของเขานั้นหลากหลายและซับซ้อน และผู้ที่มีพลังเช่นเขานั้นมีไม่มากนัก

เพียงครู่เดียวเท่านั้น ไม่ทันได้รู้ตัวพวกเขาก็มาถึงสถานที่จัดงาน…

ก่อนที่รถจะมาถึงทางเข้าศูนย์ประชุม ก็ต้องพบกับคิวยาวเหยียดอีกครั้ง

และในครั้งนี้ไม่มีหัวหน้าสวี่ช่วยพาพวกเขาเข้าไปช่องทางพิเศษเหมือนคราวที่แล้ว

ซูเถาที่กำลังจะงีบหลับสักพัก หลังจากหลับตาไปได้พักเดียว เฉียนหรงหรงที่อยู่เบาะหลังก็สะกิดเธออย่างระมัดระวัง

“พี่เถาจื่อ คนนั้นเหมือนคนที่เอาสตรอว์เบอร์รีมาส่งให้เรา…”

ซูเถาลืมตาด้วยความงุนงง และหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง เธอเห็นเจียงจิ่นเวยซึ่งอยู่ในแถวเดียวกันกับพวกเขา

เจียงจิ่นเวยจ้องมองเธอด้วยความประหลาดใจ และมีความไม่พอใจในสายตา

ซูเถากลับมามีสติเต็มร้อยอีกครั้ง เธอเดาว่าเจียงจิ่นเวยอาจเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย เพราะว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับรองหัวหน้าของการประชุมในครั้งนี้ การให้บัตรเชิญกับผู้หญิงของตัวเองมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

แต่เธอแค่คิดไม่ถึงว่าจะโชคร้ายได้มาอยู่แถวเดียวกัน

ซูเถาเลื่อนกระจกทุกบานขึ้น แล้วหันศีรษะไปนอนต่อ

เมื่อเห็นเธอหันหน้าหนีด้วยความดูถูก เจียงจิ่นเวยก็ยิ่งโกรธ

คนขับถามอย่างสงสัย “คุณเจียง คุณเจอคนรู้จักเหรอ?”

เจียงจิ่นเวยพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “ฉันไม่รู้จัก”

เธอยังไม่เข้าใจว่าทำไมซูเถาถึงมาอยู่ในคิว เธอเข้าร่วมการประชุมด้วยเหรอ?

จะเป็นไปได้ยังไง

แต่เมื่อเธอหันไปมองก็เห็นชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในที่คนขับข้างซูเถาผ่านกระจก เธอมองไม่เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน แต่เธอรู้สึกคุ้นหน้าเขาไม่น้อย

เธอพยายามมองให้ชัดเจน แต่จู่ ๆ ก็มีบุคคลที่มีตราการประชุมเข้ามาหาพวกเขา

เจียงจิ่นเวยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่คนนี้เป็นผู้ที่นำรถผ่านทางพิเศษ เอ่อร์เฉิงคงรู้สึกสงสารเธอ และไม่อยากที่จะปล่อยให้เธอรออยู่ข้างนอกภายใต้อุณหภูมิที่ร้อนจัด

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอไม่รู้ว่าทำอะไรให้เอ่อร์เฉิงไม่พอใจหรือเปล่า เพราะเขาเอาแต่ทำงานและหลีกเลี่ยงที่จะมาพบเธอ

แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง เจียงจิ่นเวยใช้ทักษะทั้งหมดของเธอในการออดอ้อนเขา และพยายามเกลี้ยกล่อมเขาต่าง ๆ แต่เขาบอกว่าเขาไม่ว่างและปล่อยให้เธอเข้ามาคนเดียว

เจียงจิ่นเวยทำหน้าบูดบึ้งเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่าเขาไม่ให้เธอมา

แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่า เอ่อร์เฉิงที่ในตอนแรกยืนยันว่าไม่ให้เธอมา เขาก็ยังส่งคนมาดูแลและต้อนรับเธอเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม เธอกำลังจะทักทายเจ้าหน้าที่ที่เดินเข้ามา แต่ทว่าพวกเขาไม่ได้สนใจรถของเธอ แต่กลับไปเคาะกระจกฝั่งของซูเถาและถามอย่างสุภาพ

“ขออนุญาต พวกคุณมาจากเถาหยางหรือเปล่า?”

ซูเถาตื่นขึ้น เธอลดกระจกรถครึ่งหนึ่งแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอ?”

ในเวลาเดียวกันสือจื่อจิ้นที่นั่งอยู่ในที่คนขับก็มีคนมาเคาะกระจกรถและถามว่าเขาคือพลตรีสือจากตงหยางหรือไม่

ทั้งสองคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาสอบถาม และไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รับการแนะนำให้เข้าไปในช่องทางพิเศษ

เจียงจิ่นเวยตกตะลึง

เธอถามคนขับด้วยความไม่เชื่อ “ทำไมเถาหยางถึงเข้าช่องทางพิเศษได้”

ฐานระดับหนึ่งและสองจำนวนมากไม่มีสิทธิพิเศษนี้!

ทำไมเถาหยางถึงได้ ไม่สิ ทำไมซูเถาถึงเข้าไปได้ แต่เธอกลายเป็นผู้หญิงที่โดดเดี่ยวที่ถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวตรงนี้?!

เธออดไม่ได้ที่จะส่งข้อความถึงจั๋วเอ่อร์เฉิง

หลังจากรอสองนาทีเขาก็ยังไม่ส่งข้อความกลับมา เธอก็รอไม่ไหวที่จะโทรหาเขา

จั๋วเอ่อร์เฉิงยุ่งอยู่กับงานมาก เขาได้ยินเสียงเรียกเข้า เขาก็ทนไม่ไหวต้องกดรับสาย “มีอะไรอีก”

เจียงจิ่นเวยค่อนข้างกลัวเขา และความโกรธทั้งหมดของเธอก็กลายเป็นความคับข้องใจ

“เอ่อร์เฉิง ซูเถาใช้ช่องทางพิเศษได้ แต่คุณให้ฉันยืนต่อแถวสามชั่วโมงภายใต้อุณหภูมิสูงได้ยังไงกัน”

จั๋วเอ่อร์เฉิงเข้าใจประเด็นทันที “ซูเถา? น้องสาวต่างพ่อของคุณน่ะเหรอ? เธอมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประชุมด้วยเหรอ?”

เจียงจิ่นเวยโกรธมากและพูดไม่ออก “คุณ คุณ …”

แต่เธอห้ามใจตัวเอง “ใช่ เธอน่าจะติดตามมากับผู้ชายคนหนึ่ง”

จั๋วเอ่อร์เฉิงจงใจให้ความสนใจกับซูเถาซึ่งเขาไม่เคยพบมาก่อน

ถ้าเธอมาในฐานะผู้ติดตามหญิง งั้นผู้ชายของเธอก็คงเป็นผู้มีอำนาจในเถาหยาง

ในความเป็นจริงซินตูตั้งใจที่จะนัดหมายกับเถ้าแก่ของเถาหยาง เพื่อจะได้พูดคุยกันอย่างสะดวก ว่าพอจะเป็นไปได้ไหมที่จะขอให้ทางเถาหยางส่งเสบียงให้กับซินตูเพียงแห่งเดียว

หลังจากการหารือ ทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะยึดเถาหยางไว้ในมืออย่างมั่นคง และใช้เป็น ‘ตัวให้ซินตูดูดเลือด’ ก่อนที่มันจะเติบโตเต็มที่

อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ค่อนข้างไม่สุภาพ และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจรจากับผู้จัดการและผู้นำที่แข็งแกร่ง

ดังนั้น ซินตูจึงต้องการสังเกตว่าเถ้าแก่ของเถาหยางเป็นคนแบบไหน เพื่อที่เขาจะได้เห็นคนสั่งการ แต่ยังไงเขาต้องให้เกียรติเถาหยางมากพอเสียก่อน

เมื่อจั๋วเอ่อร์เฉิงคิดถึงสิ่งนี้เขาก็หัวเราะออกมา

“โอเค ผมเข้าใจแล้ว เมื่อคุณไปถึงสถานที่แล้ว ให้คุยกับน้องสาวของคุณ พี่น้องจะมีเรื่องบาดหมางกันมากมายข้ามคืนได้ยังไง แล้วผมจะส่งคนไปรับคุณทีหลัง”

เจียงจิ่นเวยอยู่ในอารมณ์ที่สับสน

ทำไมดูเหมือนว่าเธอได้รับอนุญาตให้ใช้ช่องทางพิเศษได้เพราะซูเถากัน?!

ชีวิตของซูเถาดีมาก หลังจากถูกครอบครัวไล่ออกจากบ้าน เธอก็ไปคบหากับเจ้าหน้าที่ระดับสูง และแม้แต่ไปที่เถาหยางเพื่อตั้งรกราก และตอนนี้เธอยังมาที่ซินตูเพื่อเข้าร่วมการประชุม ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร แต่ก็ทำลายความมั่นใจของเจียงจิ่นเวยได้

ตอนนั้นเธอหนีทหาร และอุทิศตนให้กับผู้นำขององค์กรเล็ก ๆ และต่อมาได้พบกับจั๋วเอ่อร์เฉิงผู้เจ้าชู้ ซึ่งเธอได้เตะผู้นำตัวน้อยนั้นทิ้งทันทีและยกระดับตัวเองขึ้นไป ไม่มีใครรู้ว่าหกเดือนที่ผ่านมาเธอต้องเจอกับอะไรมาบ้าง เธอทำทุกอย่างเพื่อความก้าวหน้า ต้องการที่จะใช้ชีวิตเหนือกว่าคนอื่น และไม่ต้องกังวลเรื่องการกินการอยู่?!

แต่ทำไมซูเถาถึงมีชีวิตที่ดีโดยไม่ต้องแลกกับอะไรเลย?

เจียงจิ่นเวยบีบมือของเธอแน่น เธอต้องการที่จะปีนขึ้นไปให้สูงขึ้น ให้สูงกว่าซูเถา

แต่ซูเถาไม่รู้ว่ามีคนต้องการที่จะกำจัดเธอให้พ้นทาง เธอกำลังส่งจดหมายเชิญให้กับพนักงานต้อนรับในขณะนี้

เนื่องจากโควตาของเถาหยางได้รับมาจากหลาย ๆ ฝ่าย จึงทำให้มีรายชื่อผู้เชิญต่างกัน

พนักงานต้อนรับมองไปที่จดหมายเชิญจาก ‘ฐานตงหยาง’ ด้วยใบหน้าเฉยเมยและเย่อหยิ่ง จากนั้นพูดกับซูเถา

“เชิญ”

เธอรู้สึกได้ถึงความต่างและมีความรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ

ของเฉียนหลิน เธอได้รับคือจดหมายเชิญจากฐานอู๋ไถ ดังนั้นพนักงานต้อนรับจึงสุภาพกว่าเล็กน้อย

เฉินหยางโชคดีที่ได้โควตาของพี่ใหญ่เหลย พนักงานจึงยิ้มให้เขาอย่างต้อนรับ

เมื่อถึงตาของสือจื่อจิ้น เจ้าหน้าที่ก็สุภาพกับเขาเป็นอย่างมาก

“พลตรีสือ เชิญด้านใน คุณหลิงได้บอกให้เราพาคุณไปที่ห้องรับรองเมื่อคุณมาถึง”