บทที่ 361 เหมืองเพชรในคืนเดือนมืด

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 361 เหมืองเพชรในคืนเดือนมืด

บทที่ 361 เหมืองเพชรในคืนเดือนมืด

ทั้งสองคนได้ยินดังนั้นก็หมุนตัวจากไป นอกจากสามคนนี้แล้วในจำนวน 100 คนยังมีคนหนึ่งที่วรยุทธ์สูงที่สุดชื่อ ฮาวโยว

แต่ตามที่ฉู่เหินรู้มาแม้จะเก่งกาจ แต่เป็นคนหุนหันพลันแล่น ถ้าให้เขารับบัญชาการกองกำลังอาจเกิดปัญหาได้ แต่ฮาวโยวคนนี้มีน้องชายคนหนึ่งชื่อ ฮาวเย่ แม้วรยุทธ์จะไม่แกร่งกล้าเหมือนพี่ชาย แต่คน ๆ นี้ค่อนข้างเป็นคนเจ้าความคิด ถ้าให้เขาบัญชากองกำลังที่สี่จะเป็นตัวเลือกเหมาะสมที่สุด

“ฮาวโยว เดิมทีฉันจะให้นายเป็นบัญชาการ แต่นายนิสัยใจร้อนอาจทำให้เสียการใหญ่ ดังนั้นฉันจะให้นายเลือกอย่างหนึ่ง นายมาอยู่ข้างกายฉันออกไปสู้ด้วยกัน หรือจะไปเป็นผู้ช่วยของน้องชายนายก็ได้”

ฮาวโยวได้ยินแบบนี้กลับไม่โมโหแต่หัวเราะเบา ๆ แม้ในกลุ่มวรยุทธ์ของเขาจะไม่ต่ำต้อย แต่เขามีนิสัยใจร้อนโมโหง่าย เป็นผู้บัญชาการทัพไม่ได้จริง ๆ เขาเคยมีประสบการณ์บัญชาทัพ 2-3 ครั้ง แต่ทุกครั้งที่เริ่มศึกเขาจะเป็นคนแรกที่ออกตัวนำหน้าทุกคน ไม่เคยดูแลทัพของตัวเองเลยสักครั้ง

ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าตัวเองไม่เหมาะเป็นคนนำทัพ ส่วนน้องชายของเขามีความเฉลียวฉลาด ให้น้องชายเขาเป็นคนนำทัพครั้งนี้ก็ไม่เลวเลยจริง ๆ แต่การเป็นผู้ช่วยน้องชายยังไม่อาจเทียบกับการติดตามได้ฉู่เหิน เพราะถ้าเขาได้ติดตามฉู่เหินเขาคิดว่าเขาคงได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง

การอยู่ข้างกายฉู่เหินจะทำให้เขาได้ต่อสู้กับเหล่าศัตรูได้อย่างสบายใจ ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะเลือกอยู่กับฉู่เหิน หลังจากกองกำลังทั้งหมดแยกย้ายไปแล้ว ก็ยังเหลืออีกกว่าหนึ่งพันคน ฉู่เหินหยิบตำราหยกมามอบให้ฉู่ฉุน และมอบทหารพันกว่าคนให้กับน้องชาย ให้เขาฝึกซ้อมทหารเหล่านี้ตามที่ตำราหยกแนะนำ

หลังจากฉู่ฉุนรับคำสั่ง ในตอนนี้สามพันกว่าคนทั้งหมดก็แยกกันออกไปในค่ายทหารเหลือทหารไม่ถึงสองร้อยคน ฉู่เหินไม่รีบให้สองร้อยคนนี้ทำอะไร แต่ให้พวกเขารออยู่ที่เดิม จากนั้นฉู่เหินก็กลับจวนเจ้าเมืองไปยังหุบเขาที่มีห้องฝึกฝนนั้นอีกครั้ง

หลังจากเข้ามาภายในเขาก็สร้างค่ายกลขึ้นมาหนึ่งอัน ให้คนภายนอกไม่สามารถเข้ามาได้และเรียก พี่เสือ แรดเขาเดียว แมวนพเวทย์ ให้ออกมาส่วนนกคีรีบูนกับกระเรียนอวกาศถูกเก็บเอาไว้ก่อน เขากำชับให้เสี่ยวชิงอยู่ที่นี่ห้ามไปไหน ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องข้างนอกให้ฝึกฝนอย่างสบายใจในนี้ก็พอแล้ว

ฉู่เหินบอกว่าพวกเขาเป็นไพ่ตายลับอย่างหนึ่ง จงฝึกฝนวรยุทธ์ให้เก่งกาจ ในนี้ เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญจะได้ช่วยเหลือเขาได้ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องซอมบี้ข้างนอก

ซอมบี้เหล่านั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ การซ่อนตัวในนี้ก็เสมือนกับไม้ตายลับเลยก็ว่าได้

หลังจากสร้างค่ายกลป้องกันสำเร็จ ฉู่เหินถึงได้ออกมาจากหุบเขาแห่งนี้ ที่นี่เป็นสถานที่ต้องห้าม ไม่ซอมบี้ยังไม่ชนะจนตีเมืองแตก ก็ไม่มีทางที่ใครจะเข้ามาในนี้ได้เลย

หลังจากกลับไปฉู่เหินก็ให้ทุกคนสวมชุดดำคล้ายชุดนิจา พวกเขาวางแผนว่าจะไปเหมืองเพชรที่ว่านั้น ถ้าพวกเขาได้วัตถุดิบที่ต้องการ ชัยชนะก็ตกเป็นของพวกเขาไปครึ่งหนึ่งแล้ว อีกทั้งเขาคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่รู้แน่ ๆ ว่าพวกเขาคิดจะสร้างค่ายกล ตอนนี้จึงเป็นโอกาศที่ดี

การไปเหมืองเพชรไม่จำเป็นต้องเอาคนไปเยอะ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเปิดเผยจุดมุ่งหมายของตัวเอง แต่ถ้าคนน้อยเกินไปก็จะไม่มีคนขุดเหมือง ทว่าปัญหานี้ไม่ใช่สำหรับฉู่เหินเพราะแหวนมิติของเขาสามารถบรรจุคนเอาไว้ภายในได้ เขาเพียงแค่เอาคนเข้าไปในแหวนมิติพอถึงเวลาค่อยปล่อยออกมาก็ได้แล้ว

เมื่อถึงเวลากลางคืนฉู่เหินก็ไปกับฮาวโยว ทั้งสองคนเดินทางอย่างระมัดระวัง ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาจากเมืองโบราณได้แล้ว ด้วยชุดสีดำสนิททำให้พวกเขากลืนไปกับความมืดยามราตีได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตุเห็น

หลังจากทั้งสองออกมาจากเมืองได้ไม่เท่าไรพวกเขาก็เห็นซอมบี้อยู่บางตาพวกมันนั่งยอง ๆ อยู่ไม่รู้ว่าทำอะไรกัน ซอมบี้เหล่านี้ดูแล้วไม่ต่างอะไรกับมนุษย์เลย โดยเฉพาะเมื่อค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ซอมบี้พวกนี้ ฉู่เหินก็พบว่าใบหน้าของพวกมันแสดงอารมณ์คล้ายกับกำลังเจ็บปวด

ทว่าเขาไม่รู้ว่ามันเพราะอะไร และตอนนี้ก็ไม่มีเวลาให้คิดแล้วด้วย หลังจากไตร่ตรองสักพัก ทั้งสองก็รีบออกเดินทางและใช้ประโยชน์จากความมืดจากไปอย่างรวดเร็ว!

ระหว่างทางพวกเขาพบกับซอมบี้ ซึ่งน่ากลัวว่าจะมากมายนับหมื่นตัว และที่ทำให้ฉู่เหินรู้สึกแปลกใจก็คือใบหน้าของซอมบี้ทุกตัวไม่เหมือนจะไม่ได้เจ็บปวดทรมานอะไร ไม่เหมือนตัวข้างนอกที่เจอ มันแปลก ๆ

พื้นที่เหมืองแห่งนี้ เป็นที่รวมตัวของซอมบี้กลุ่มหนึ่ง เพราะว่าหน้าประตูนั้นมีซอมจำนวนกว่าร้อยตัวพักผ่อนอยู่ หลังจากฉู่เหินเห็นแบบนี้ก็ค่อนข้างแปลกใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมซอมบี้เหล่านี้ถึงเลือกเหมืองเพชรเป็นสถานที่พักผ่อน

ถ้าเดินไปแบบเปิดเผยคงโดนซอมบี้พวกนี้จับกินได้แน่ แต่ฉู่เหินมีแผนแล้ว แผนของเขาคือจะสร้างภาพมายาหลอกล่อ เมื่อภาพมายากำบังร่างกายก็จะสามารถผ่านทัพซอมบี้เหล่านี้ไปได้ โดยไม่มีปัญหา

หลังจากฉู่เหินสร้างภาพมายาเสร็จ เขากับฮาวโยวก็ค่อย ๆ เดินผ่านซอมบี้ไปอย่างช้า ๆ โดยที่ซอมบี้เหล่านี้ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

พอเริ่มชินกับการเดินหลบซอมบี้ ความกล้าหาญก็เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกสนุกสนานไม่เบา แต่พวกเขาก็ไม่ลิมที่จะเตรียมพร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ

ทว่าฉู่เหินก็เดินเข้ามาลึกขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านซอมบี้ตัวแล้วตัวเล่าก็ไม่มีสักตัวที่จะสัมผัสพวกเขาโดน ในใจของฮาวโยวตอนนี้รู้สึกนับถือฉู่เหินจากใจจริง

ฮาวโยว ไม่รู้เรื่องภาพมายา เขารู้เพียงแค่ฉู่เหินบอกให้เขาเดินเข้ามาแล้วห้ามส่งเสียงเด็ดขาด ตอนแรกเขาหวาดกลัวไม่น้อยแต่ไม่คิดว่า ฉู่เหินจะทำให้เขาผ่านมาได้จริง ๆ

ทั้งสองเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ผ่านซอมบี้ตัวแล้วตัวเล่าโดยใช้เวลาแค่สิบนาที ระหว่างที่พวกเขาเดินเข้ามา ในส่วนลึกของเหมืองก็ไม่ปรากฏร่างของซอมบี้อีกแล้ว คาดว่าซอมบี้เหล่านี้มีไว้เพื่ออารักขาทางเข้าเท่านั้น หลังจากคิดได้ดังนี้ฉู่เหินก็ร่างกายสั่นเทา

ซอมบี้มากมายมาปกป้องทางเข้า หรือว่าด้านในนี้จะมีแผนชั่วร้ายอะไรที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้ พอคิดถึงตรงนี้เขาก็รีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว เขาอยากรู้ว่าข้างในมันมีอะไรกันแน่

เหมืองแห่งนี้คล้ายกับถ้ำที่แบ่งเป็นห้อง ๆ ด้านในกว้างพอที่จะเดินได้อย่างสะดวกสบาย ๆ ในตอนแรกพวกเขายังไม่เจออะไรพิเศษ แต่ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็พบว่าถ้ำสองข้างปรากฏวัตถุดิบระดับหกเต็มไปหมด

วัตถุดิบเหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่ภายในเหมืองเพชรแห่งนี้ ตอนที่เจอวัตถุดิบเหล่านี้ฉู่เหินไม่ลังเลที่จะเก็บมันมาด้วย แต่น่าเสียดายที่วัตถุดิบมีไม่มากพอ เขาใช้เวลาหานานกว่าครึ่งชั่วโมงก็เก็บรวบรวมได้แค่ 10 ชิ้น