บทที่ 325 ไล่ตามทัน

บทที่ 325 ไล่ตามทัน

ตอนนี้รถทั้งสองคันที่กำลังโลดแล่นอยู่ด้านหน้า ต่างก็ไม่ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ทางด้านหลัง ในสายตาของพวกเขา แม้จะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวนมาก แต่คู่แข่งที่แท้จริงนั้นมีแค่หนึ่ง ตราบใดที่เอาชนะอีกฝ่าย ก็สามารถคว้าชัยในการแข่งขันครั้งนี้ได้ ส่วนคนอื่นที่เหลือ ก็เป็นได้เพียงแค่เครื่องเคียงหรือเครื่องประดับประกอบฉากการวิ่ง

หานเป่าฟางกำลังจ้องมองถนนตรงหน้า บางครั้งหางตาก็จะหันไปมองรถที่ขับมาข้าง ๆ อีกฝ่ายคืออดีตคู่แข่งมืออาชีพ คนทั้งสองเคยเป็นนักแข่งรถมืออาชีพในช่วงเวลาเดียวกัน เคยแข่งขันกันมาแล้วหลายครั้งหลายครา ผลลัพธ์ที่ได้นั้น หานเป่าฟางชนะมากกว่าแพ้ ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้าไช่หง เขาจึงได้เปรียบทางสภาพจิตใจ

แต่สถานการณ์ของวันนี้แตกต่างออกไปอยู่บ้าง เพราะคนทั้งสองต่างก็เกษียณตัวเองกันแล้ว ฝีมือการขับรถย่อมต้องมีเสื่อมถอย ทั้งหมดก็เพราะไม่ได้ฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นในทุก ๆ วันเช่นสมัยยังแข่งอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะหานเป่าฟาง ตลอดหลายปีมานี้ทั้งเสพติดแอลกอฮอล์และมีความสัมพันธ์ไม่ขาดช่วง ร่างกายย่อมเสื่อมโทรมลงไปมาก แม้สภาพจิตใจยังดี แต่สภาพร่างกายกลับสวนทาง เรียกได้ว่าไม่อาจเทียบกับสมัยก่อนได้เลยแม้แต่น้อย

ทว่าหากเป็นเพียงแค่การแข่งขันกับกลุ่มเด็กน้อยทายาทคนรวย หานเป่าฟางก็เชื่อมั่นว่าแม้สภาพปัจจุบันของตนเองจะเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็สามารถเอาชนะได้ อย่างไรเขาก็เปี่ยมด้วยประสบการณ์ และไม่ได้เสียฝีมือการขับรถไปหมดแต่อย่างใด

ทว่าวันนี้ปรากฏคู่แข่งเก่าเข้าร่วมการแข่งขัน เป็นอดีตนักแข่งรถมืออาชีพที่เกษียณตัวเองมาแล้วเช่นเดียวกัน มันทำให้ตัวเขารู้สึกกดดัน แน่นอนว่าหลังการแข่งเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ แม้รีดเค้นกำลังออกมาเพื่อหาทางแซงหน้าอีกฝ่าย แต่หลังพยายามหลายครั้ง เขากลับไม่อาจชนะ ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองแทบไม่เคยปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด กระทั่งตอนนี้ไช่หงราวกำลังจะได้เปรียบแล้วด้วยซ้ำ

ความภาคภูมิเก่าในตัวหานเป่าฟางไม่อาจยอมรับสถานการณ์นี้ได้

“ฉันต้องชนะ! ตลอดมาแกมันก็เป็นได้แค่ลูกหมาที่คอยถามฉัน” หานเป่าฟางบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าดำมืด จากนั้นเขาก็หักเลี้ยวพวงมาลัยอย่างรุนแรง เบียดชนไช่หงอย่างโหดเหี้ยม

ตอนนี้ไช่หงค่อนข้างรู้สึกพึงพอใจ

ตอนที่เขาและหานเป่าฟางยังไม่เกษียณออกมา พวกเขาเคยเป็นอดีตคู่แข่ง ในตอนนั้น เขาพ่ายแพ้หานเป่าฟางอยู่บ่อยครั้ง และหานเป่าฟางก็เป็นคนปากเสียมาแต่ไหนแต่ไร หลังชนะได้ ตลอดเวลามักข่มและเหยียดผู้แพ้ ไช่หงย่อมไม่ยินดี แต่ฝีมือของเขากลับไม่อาจเทียบหานเป่าฟางได้จริง ๆ ต่อให้ใจไม่ยินดีกับคำพูดของอีกฝ่าย เขาก็ไม่อาจทักท้วงหรือทำอะไร ใครใช้ให้เขาไม่เก่งเท่าอีกฝ่ายเล่า?

เพียงแต่สถานการณ์วันนี้แตกต่างออกไป หานเป่าฟางที่หากเทียบกับในอดีต แม้ความอวดดียังล้นพ้นเหมือนเช่นเคย แต่สภาพของคนหลังเกษียณนั้นตกต่ำลงไปมาก แน่นอนว่าฝีมือเป็นสิ่งที่ลดทอนลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ไช่หงรู้สึกได้ดี หานเป่าฟางพยายามเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่อาจแซงขาดรถของเขาได้ คนทั้งสองกำลังสูสี กระทั่งว่าไช่หงไล่ตามจนเหลือช่องว่างไม่มากแล้วด้วยซ้ำ จนกระทั่งสุดท้ายขึ้นมาทัดเทียมกันได้ ไช่หงที่ยังพอมีความมั่นใจอยู่บ้าง ในช่วงเวลาสุดท้ายเช่นตอนนี้ ในที่สุดเขาก็กำลังจะข้ามหานเป่าฟางไปชนะการแข่งขัน

“หานเป่าฟาง แกเองก็มีวันนี้เหมือนคนอื่นสินะ มาดูกันว่าฉันจะเหยียดหยามแกยังไง ฮ่า ฮ่า!” ไช่หงกำลังนึกยิ้มย่องอยู่ในใจ

แต่ตอนนี้เองที่ไช่หงกลับรู้สึกได้ว่ารถของตนเองถูกชนอย่างรุนแรง เขาถูกเหวี่ยงไปตามแรงรถ ตัวคนเพิ่งได้ตระหนักว่ามีคนขับรถเข้ามาเบียดชน ส่วนที่ว่าเป็นใครนั้น เขาแทบไม่จำเป็นต้องคิดเสียด้วยซ้ำ

และก็ไม่ผิด ไช่หงเห็นรถที่คุ้นเคยของหานเป่าฟางอยู่บริเวณหางตา ขณะเดียวกันนั้น หานเป่าฟางก็หักพวงมาลัยเข้ามาเบียดอีกครั้งหนึ่ง

“บ้าฉิบ! หานเป่าฟาง แกมันไร้ยางอายเกินไปแล้ว เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด!” ไช่หงสบถอย่างรุนแรงอยู่ในใจ ตอนที่พวกเขายังไม่ได้เกษียณออกมา หานเป่าฟางก็มักใช้วิธีการเดียวกันนี้กำจัดคู่แข่ง เพื่อคว้าเอาชัยชนะในการแข่งขันไปครอบครอง ในการแข่ง แม้จะเกิดการปะทะระหว่างรถบ่อยครั้งก็จริง แต่มันไม่เหมือนที่หานเป่าฟางทำ อีกฝ่ายมักจะเป็นฝ่ายตั้งใจเข้าไปชนรถของคนอื่น เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นน้อยครั้ง และมันเป็นเหตุว่าทำไมหานเป่าฟางถึงได้ชื่อเสียงติดตัวมา

และวันนี้ หานเป่าฟางกำลังพยายามทำเช่นเดิมอีกครั้ง

แน่นอนว่าไช่หงย่อมไม่อาจเปรียบเทียบด้านนี้ได้ แม้เขาไม่ใช่คนจิตใจอ่อนแอ แต่เมื่อเห็นหานเป่าฟางชนอย่างไม่ยั้งคิด เขาจึงลดความเร็วลงเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะจากอีกฝ่ายให้มากเท่าที่จะทำได้ ถอยหรือเสี่ยงตาย ไช่หงย่อมเลือกอย่างชาญฉลาด

“ตึง!”

รถทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน รถทั้งสองสูญเสียการควบคุมไปเล็กน้อย ส่วนหน้าของรถเริ่มไร้เสถียรภาพ ยางรถกำลังจะรับไม่ไหว มันกำลังเสียดสีกับพื้นถนนด้วยเสียงประหลาด

ทั้งสองคนที่อยู่ในรถแต่ละคนต่างไม่วางใจ ไม่ว่าใครในพวกเขาก็ไม่ได้ต้องการสถานการณ์เช่นตอนนี้ ทว่าพวกเขาก็ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายชนะบราวนี่ออนไลน์

“ตึง!”

รถทั้งสองปะทะกันอีกครั้งหนึ่ง สภาพภายนอกของรถเริ่มได้รับความเสียหาย รถทั้งสองมีมูลค่าคันละหลายล้าน หรืออาจหลักหลายสิบล้าน ความเสียหายของสีหรือลวดลายเพียงเล็กน้อย ก็มากพอทำให้เจ้าของรถรู้สึกปวดใจอยู่นาน ทว่าคนทั้งสองกลับไม่สนอะไรอื่นอีกต่อไปแล้ว พวกเขาจะไม่ยอมผ่อนปรนให้อีกฝ่าย ตอนนี้จึงเลือกปะทะกัน

“ตึง!”

“ตึง!”

“ตึง!”

……

เพียงช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที รถทั้งสองก็เบียดกันหลายครั้ง ไม่ว่าใครในพวกเขาต่างก็กำลังตอบโต้

“ต้องชนะ! ชนกันให้แหลกเลย!”

“เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้เห็นการชนปะทะกันดุเดือดขนาดนี้”

“นักแข่งมืออาชีพนี่แตกต่างจริง ๆ ต่อให้เกษียณจากการเป็นมืออาชีพกันไปแล้ว แต่ฝีมือการขับรถก็ยังเป็นแถวหน้า”

“คิดว่าใครจะชนะ?”

“ไม่รู้แล้ว สถานการณ์ดุเดือดขนาดนี้ ใครจะชนะก็เป็นไปได้ทั้งนั้น”

บรรดาผู้รับชมที่จุดเริ่มต้น พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการแข่ง ทว่ามีโดรนที่ส่งไปอยู่ตามตำแหน่งทั้งหลายส่งภาพถ่ายทอดสดกลับมา ทำให้ได้รับชมทุกกระบวนการที่แข่งขัน ทั้งหานเป่าฟางและไช่หงต่างก็เป็นผู้ที่มีโอกาสชนะสูงสุด ทั้งสองจึงเป็นจ่าฝูงนำหน้ารถคันอื่น กล้องจึงค่อนข้างให้ความสนใจพวกเขามากกว่า

“เดี๋ยวสิ พวกนายดู! นั่นอะไร?!” ขณะนี้เองที่มีอีกคนส่งเสียงอุทานดังขึ้น

“รถคันนั้นกำลังไล่ตามมาจากทางด้านหลัง เร็วมากด้วย ใกล้สองจ่าฝูงแล้ว!”

“นั่นรถของนายน้อยอู๋!” คนที่มีสายตาเฉียบคมเพียงมองก็จำแนกตัวตนของรถได้ พร้อมระบุแม่นยำว่าเป็นรถของอู๋ฝาน เพราะสีดำที่เปรียบดั่งน้ำหมึกดำสนิท มันเท่เกินกว่ารถคันอื่นจะมีได้!

กลุ่มคนเริ่มประหลาดใจ

เพราะก่อนหน้านี้กล้องจับภาพส่วนใหญ่เน้นไปที่สองคันจ่าฝูง ภาพของรถหานเป่าฟางและไช่หงปรากฏแทบจะตลอดเวลา กลุ่มคนจึงไม่ทราบว่ารถของอู๋ฝานขึ้นนำฝูงรถทางด้านหลังมาได้อย่างไร

ตอนนี้รถของอู๋ฝานนำหน้า ไล่ตามหลังมาด้วยฝูงรถคันอื่น และกำลังจะเข้าใกล้รถสองคันที่นำหน้าในเวลาไม่นาน

แท้จริงแล้ว อู๋ฝานได้ทิ้งห่างรถคันอื่นที่ตามหลังมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขาตัดสินใจควบคุมความเร็วไม่ตามสองคันหน้ากระชั้นชิดจนเกินไป เพื่อให้รถสองคันหน้าแข่งขันกันเอง และในช่วงเวลาที่จ่าฝูงทั้งสองปะทะกันจนเกิดความเสียหาย ตอนนั้นอู๋ฝานค่อยตัดสินใจเร่งความเร็วเพื่อแซงหน้ารถทั้งสองคันไป

หานเป่าฟางและไช่หงที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดอยู่นั้น ตอนนี้เพิ่งตระหนักว่ามีรถอีกคันเข้ามาใกล้ พวกเขาต่างต้องประหลาดใจ เพราะแม้พวกเขาจะเบียดชนกันหลายครั้ง แต่ความเร็วของรถก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย พวกเขาควรทิ้งห่างฝูงรถด้านหลังมาไกลมากแล้วซะด้วยซ้ำ ไม่น่าจะมีรถคันอื่นไล่ตามมาทันได้

แต่ตอนนี้ความจริงกลับปรากฏว่าพวกเขาคิดผิด ความเร็วของพวกเขาไม่ได้ช้าลง แต่เป็นความเร็วรถของอู๋ฝานต่างหากที่เร็วมากขึ้น โดยเฉพาะกับตอนที่ไม่มีรถคันอื่นมาขวางทาง มันแล่นเร็วเสียยิ่งกว่าเครื่องบินที่กำลังจะเทคออฟซะด้วยซ้ำ

——————————