บทที่ 269 ห้ามให้เห็นเธอ
พนักงานร้านคนหนึ่งเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่อยู่ข้างนอกกำลังมองเข้ามา จึงเดินขึ้นพลางยิ้มถามว่า “คุณผู้หญิง คุณอยากเข้ามาดูชุดเจ้าสาวไหมคะ? ช่วงนี้ทางร้านมีแบบใหม่ๆเข้ามาเยอะเลยค่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อชะงัก
เวลานี้เอง ส้งหวั่นหวั่นและลี่จุนถิงที่อยู่ในร้านชุดเจ้าสาวก็ได้ยินเสียงจากข้างนอก แต่ลี่จุนถิงหันมาดูก่อน
ลี่จุนถิงเห็นเป็นเจียงหยุนเอ๋อ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เอียงตัวบังสายตาของส้งหวั่นหวั่นจากจิตใต้สำนึก
ลี่จุนถิงไม่คิดว่าเจียงหยุนเอ๋อจะโผล่มาที่ร้านชุดเจ้าสาว คนที่คิดถึงมาตั้งนานตอนนี้อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมา ลี่จุนถิงอยากออกไปกอดเธอมาก แต่เขาก็ต้องยับยั้งตัวเอง
เพราะว่า ส้งหวั่นหวั่นอยู่ที่นี่
ส้งหวั่นหวั่นก็แค่เห็นแผ่นหลังของเจียงหยุนเอ๋อรางๆ แต่เธอเห็นไม่ค่อยชัดมากนัก แค่รู้สึกคุ้นตานิดหน่อย
ส้งหวั่นหวั่นอยากเห็นให้ชัดกว่านี้ จึงรีบชะโงกหัวออกไป
แต่ลี่จุนถิงเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว จึงยืนอยู่ที่ข้างๆแล้วเปิดปากพูดให้ส้งหวั่นหวั่นแยกความสนใจออกมา “ตัวที่อยู่บนตัวเธอไม่สวย แสดงถึงความสวยของเธอออกมาไม่ได้ ไปเปลี่ยนอีกชุด”
ได้ยินที่พูด แน่นอนว่าส้งหวั่นหวั่นก็ไม่คิดจะดูต่อไปแล้ว
เพราะลี่จุนถิงจะชมตัวเองได้นั้นนับครั้งได้เลย
“อื้ม ได้ งั้นนายรอแป๊บนะ” สองมือของส้งหวั่นหวั่นยกชายกระโปรงชุดเจ้าสาวขึ้น เวลานี้ดีใจเหมือนกับเป็นภรรยาตัวน้อยๆ
ส้งหวั่นหวั่นกระโดดโลดเต้นเข้าไปในห้องลองเสื้อ หาชุดอีกตัวที่เห็นครั้งก่อนแล้วรู้สึกชอบ
เห็นส้งหวั่นหวั่นเข้าไปในห้องลองเสื้อแล้ว พอลี่จุนถิงหันไปดูใหม่ก็ไม่เห็นเงาของเจียงหยุนเอ๋อที่หน้าประตูร้านชุดเจ้าสาวแล้ว
ลี่จุนถิงพลันโล่งอก เขารู้ว่าตอนนี้จะให้ส้งหวั่นหวั่นเห็นเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ ตอนนี้เธออยู่ที่นี่แล้ว ส้งหวั่นหวั่นต้องหาวิธีทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อแน่ๆ
เขาจะไม่ยอมให้ส้งหวั่นหวั่นทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อสองแม่ลูกนี้อีกเด็ดขาด
แต่ลี่จุนถิงก็รู้สึกผิดหวัง ครั้งนี้ไม่เจอ ครั้งต่อไปก็ต้องรอถึงงานแต่งแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อตอนนั้นเห็นแค่แผ่นหลังของลี่จุนถิง เห็นเขาตั้งใจบังส้งหวั่นหวั่นเหมือนกับไม่อยากให้เธอเห็นว่าคนไหนเป็นใคร
และเห็นรอยยิ้มบนหน้าของส้งหวั่นหวั่น เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจ ลี่จุนถิงทำไมถึงได้ไปรักคนอื่นเร็วขนาดนี้? หรือว่าเขาถูกบังคับ?
เจียงหยุนเอ๋อเดินออกมาแบบจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รู้สึกเจ็บปวดสุดขีด
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกลับถึงบ้านยังไง รู้แค่ว่าดวงตาของเธอเหมือนไม่มีสีสันไปแล้ว เหลือแต่ความมืดมน
ในขณะที่เจียงหยุนเอ๋อนั่งเหม่ออยู่บนโซฟา เหยนกวานซืก็กลับมาแล้ว
“พี่” เหยนกวานซืซื้อผลไม้มาให้เจียงหยุนเอ๋อเยอะมาก เอาของตั้งไว้บนโต๊ะให้เจียงหยุนเอ๋อ
เห็นเจียงหยุนเอ๋อตาลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง เหยนกวานซืก็สะดุ้งตกใจ คิดว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่สบายจึงรีบเดินเข้าไปหา “พี่ พี่เป็นอะไร? ไม่สบายเหรอ?”
เจียงหยุนเอ๋อฝืนยิ้มออกมาพลางส่ายหัว “พี่ไม่เป็นอะไร”
เหยนกวานซืเห็นเจียงหยุนเอ๋อจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็รู้สึกไม่สบายใจ ในเมื่อเจียงหยุนเอ๋อบอกว่าไม่เป็นอะไร งั้นเหยนกวานซืก็จะไม่พูดอะไรมาก
“พี่ วันนี้ผมซื้อผลไม้มาให้พี่ด้วย พี่อย่าลืมกินนะ ในท้องยังมีเด็กอยู่ พี่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ”
เหยนกวานซืรู้ว่าถ้าพูดถึงลูกกับเจียงหยุนเอ๋อ เจียงหยุนเอ๋อจะต้องฟังเข้าแน่
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า แต่ในสมองกลับคิดถึงแต่ภาพที่เห็นในร้านชุดเจ้าสาวเมื่อกี้
ร้านชุดเจ้าสาว
ส้งหวั่นหวั่นใส่ชุดเจ้าสาวอีกตัวเดินออกมา แล้วหมุนตัวข้างหน้าลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงพยักหน้าแบบขอไปที “ชุดนี้ไม่เลว เอาชุดนี้แล้วกัน”
“จริงเหรอ?” ส้งหวั่นหวั่นแกว่งชายกระโปรงไปมาที่หน้ากระจก
ลี่จุนถิงพยักหน้า
ลี่จุนถิงพูดว่าดูดี แน่นอนว่าส้งหวั่นหวั่นก็ดีใจเป็นอย่างมาก “งั้นห่อชุดนี้ให้ฉันหน่อยค่ะ”
ส้งหวั่นหวั่นเข้าไปห้องลองเสื้อถอดชุดเจ้าสาวออก
ลี่จุนถิงถามซู่จี้งยี้ “แต่เดี๋ยวยังมีแพลนอะไรอีก?”
“เดี๋ยวต้องไปดูเครื่องประดับกับคุณหนูส้งครับ”
ลี่จุนถิงสะบัดมือ “พอเถอะ ผมไม่ไปดูเครื่องประดับด้วยแล้ว สายหน่อยคุณไปเอาก็พอ”
ท่าทางของเจียงหยุนเอ๋อเมื่อกี้ทำให้ลี่จุนถิงไม่มีกะจิตกะใจแล้ว
“จุนถิง แล้วนายจะไปไหน?” ส้งหวั่นหวั่นเพิ่งออกมาจากห้องลองเสื้อก็ได้ยินลี่จุนถิงพูดแบบนี้ สีหน้าก็ไม่ดีขึ้นมา
ลี่จุนถิงดูนาฬิกา “บริษัทฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ ต้องกลับไปก่อน”
ส้งหวั่นหวั่นได้ยินก็ไม่พอใจแล้ว เรื่องของบริษัทสำคัญกว่าเธอหรือไง?
แต่เธอก็ต้องแสร้งทำเป็นเข้าอกเข้าใจจึงพยักหน้า “งั้นก็ได้ จุนถิงนายไปเถอะ ฉันอยู่ที่นี่ดูชุดเจ้าสาวเองได้”
“ได้” ลี่จุนถิงหยักหน้าแล้วพาซู่จี้งยี้ออกจากร้านชุดเจ้าสาว
ลี่จุนถิงและซู่จี้งยี้เพิ่งออกไปส้งหวั่นหวั่นก็สั่งผู้ช่วยตัวเอง “นายตามจุนถิงไป ไปดูว่าเขาไปไหน อย่าให้เขาจับได้”
ผู้ช่วยพยักหน้ารับแล้วรีบขับตามรถของลี่จุนถิงไปทันที
ส้งหวั่นหวั่นก็ไม่ได้ออกจากร้านชุดเจ้าสาวทันที แต่อยู่ที่ร้านชุดเจ้าสาวต่อเพื่อเตรียมจะดูกล้องวงจรปิด
เมื่อครู่นี้เธอเห็นว่าเป็นเจียงหยุนเอ๋อ แต่ถูกลี่จุนถิงบังเร็วเกินไป เธอจึงไม่ทันได้เห็นใบหน้าชัดเจนมากนัก
เอาเป็นว่าสัมผัสที่หกของผู้หญิงบอกเธอว่านั่นก็คือเจียงหยุนเอ๋อ เพราะฉะนั้นเธอต้องอยู่ตรวจสอบให้แน่ใจ
เธออยากรับประกันว่างานแต่งของตัวเองต้องไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จำเป็นต้องกำจัดพวกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด
“เจ้าของร้านของพวกเธอล่ะ?” ภาพลักษณ์อ่อนโยนของส้งหวั่นหวั่นหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที กลับมาเป็นคุณหนูตระกูลส้งผู้สูงส่งเหมือนเดิม
“คุณหนูส้ง คุณไม่พอใจกับการบริการของพวกเราเมื่อสักครู่นี้เหรอคะ?” พนักงานร้านคนหนึ่งคิดว่าส้งหวั่นหวั่นจะร้องเรียนจึงเริ่มกลัวขึ้นมา
“ไม่ใช่ พวกเธอบริการได้ดี ฉันก็แค่มีเรื่องอยากคุยกับเจ้าของร้านพวกเธอนิดหน่อย” เพิ่งพูดจบ เจ้าของร้านก็มาพอดี
“คุณหนูส้ง ไม่ทราบว่าคุณหาฉันมีธุระอะไรเหรอคะ?” เจ้าของร้านได้ยินว่ามีคนมาหาตัวเองจึงรีบออกมา
ส้งหวั่นหวั่นไม่พูดมาก พูดออกมาตรงๆเลยว่าตัวเองต้องการดูกล้องวงจรปิด
“เรื่องนี้……” เจ้าของร้านได้ยินแล้วก็รู้สึกลำบากใจ ยังไงกล้องวงจรก็ไม่ใช่ใครจะมาดูก็ได้ “คงไม่ค่อยเหมาะนะคะ”
ส้งหวั่นหวั่นขมวดคิ้ว “ฉันไม่ได้จะทำอะไร ก็แค่เมื่อกี้ทำเครื่องประดับหาย ก่อนที่ฉันเข้ามายังมีอยู่ แต่เมื่อกี้เห็นว่ามันหายไปฉันให้คนลองหาในร้านแล้วแต่ก็ไม่เจอฉันเลยคิดว่าใช่ตกอยู่ที่หน้าประตูรึเปล่าเลยอยากขอดูกล้องวงจรปิดซะหน่อย ฉันจะได้หาได้ง่ายขึ้น”
เจ้าของร้านคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้าตกลงร่วมมือด้วยอย่างดี “ได้ค่ะ คุณหนูส้งตามฉันมานะคะ”
ส้งหวั่นหวั่นไปห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เปิดดูกล้องวงจรตั้งแต่ช่วงที่ตัวเองเข้ามา พบว่าคนที่ปรากฏที่หน้าประตูไม่ใช่เจียงหยุนเอ๋อ แต่เป็นแค่ผู้หญิงที่ดูเหมือนเจียงหยุนเอ๋อ
ในใจพลันรู้สึกโล่งใจขึ้นมา ตัวเองน่าจะคิดมากไปเอง ถ้าเจียงหยุนเอ๋อไม่ปรากฏตัว งานแต่งของเธอก็จะต้องสมบูรณ์แบบแน่นอน
“โอเคค่ะ ฉันพอจะรู้แล้วว่าทำตกที่ไหน ขอบคุณนะคะ” ส้งหวั่นหวั่นพูดจบก็เดินออกไปทันที