ตอนที่ 314 หลานสาวของฉันเป็นคนเข้มงวด

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 314 หลานสาวของฉันเป็นคนเข้มงวด

ตอนที่ 314 หลานสาวของฉันเป็นคนเข้มงวด

ขณะทุกคนกำลังกินอาหาร เฉินเจียเหอเหลือบมองเย่ไป๋ก่อนจะพูดขึ้นอย่างผ่อนคลาย “ยังไงซะนี่ก็ถึงเวลาแล้วจริง ๆ นายควรจะต้องหาคู่ครองได้แล้ว อีกอย่างนายก็อายุมากกว่าฉันหนึ่งปี ควรจะตามฉันให้ทัน”

ใบหน้าของเย่ไป๋บิดเบี้ยว “ฉันจะตามนายทันได้ยังไง? นายมีลูกชายอายุ 5 ขวบแล้วแต่ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคู่ครองของฉันอยู่ที่ไหน”

เฉินเจียเหอชี้เซี่ยไห่ที่อยู่ตรงข้ามซึ่งอีกฝ่ายกำลังตบหน้าอกสัญญากับลู่เจิ้งอวี่ว่าจะหาคู่ครองให้เขาภายในสามเดือน เวลานี้เขาก็ยกยิ้ม “เดี๋ยวให้เหล่าเซี่ยแนะนำให้นายไง เขาเองก็จะแนะนำคู่ให้กับเจิ้งอวี่อยู่แล้วนี่? ก็ให้เขาหาให้นายด้วย”

เย่ไป๋เหลือบมองเซี่ยไห่ แววตาของเขาเผยความประหลาดใจออกมา “แต่ตัวเขาก็ยังโสดไม่ใช่เหรอ?”

เป็นหมาโสดแต่หาคู่ให้ผู้อื่น

ไม่น่าเชื่อจริง ๆ

“ฉันยังไม่คิดเรื่องแต่งงานน่ะ”

สุดท้ายแล้วเย่ไป๋ยังหวาดกลัวกับการนัดบอด เขาจึงคิดว่าจะทำงานต่อไปและปล่อยให้ความรักเป็นเรื่องของโชคชะตา

เขาพูดกับเฉินเจียเหอว่า “ว่าแต่เจียวั่งจะไปพบเฒ่าเย่แพทย์แผนจีนเมื่อไหร่เหรอ? ฉันต้องไปกับเขาด้วย”

“น่าจะเป็นสุดสัปดาห์นี้ อาการของเขาดีขึ้นมาก และกลับมาเรียนได้แล้ว”

เย่ไป๋พึมพำ เขายกชาขึ้นจิบพร้อมครุ่นคิดบางอย่าง จากนั้นโน้มตัวเข้าหาเฉินเจียเหอแล้วถามว่า

“วันนี้ฉันมีบางอย่างจะบอกน่ะ เป็นความลับ”

“ความลับเหรอ?” เฉินเจียเหอเผยสีหน้าสนใจพร้อมยกยิ้มจาง

เย่ไป๋รู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขาไอสองสามครั้งก่อนจะพูดต่อว่า “ความจริงแล้ว เฒ่าเย่แพทย์แผนจีนที่กำลังจะรักษาเจียวั่งเป็นปู่รองของฉัน”

“อะไรนะ?” เฉินเจียเหอถึงกับวางตะเกียบลง

“ปู่รองของฉันเป็นหมอในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนหนานเฉิง ตอนที่เขายังหนุ่ม เขาถูกกดดันและเนรเทศออกไป ตอนนั้นเขากลัวว่าจะลากปู่ของฉันลงเหวไปด้วย พวกเขาเลยเลือกที่จะตัดสัมพันธ์กับครอบครัวของเราทั้งหมด พ่อบอกฉันตอนที่ฉันโตแล้วน่ะ”

“หลังจากปู่ของฉันตายไป พ่อของฉันก็ไม่รู้ว่าปู่รองอยู่ที่ไหนแล้ว ฉันเองก็ไม่เคยเห็นเขามาก่อนจนกระทั่งโตแล้วก็ตาม”

เขาเล่าต่อว่า “ฉันไม่รู้เรื่องราวจนกระทั่งกลับบ้านเมื่อไม่กี่วันก่อน ถึงพบว่าเฒ่าเย่แพทย์แผนจีนที่นายพูดถึงคนนั้นกลายเป็นปู่รองของฉัน และเป็นพ่อฉันนี่แหละที่พาเขากลับมา”

เฉินเจียเหออดไม่ได้ที่จะสับสนกับการที่ครอบครัวหนึ่งต้องตัดญาติกันเพราะเหตุผลพิเศษบางอย่าง

เฉินเจียเหอพูดขึ้น “เฒ่าเย่แพทย์แผนจีนคนนั้นดูเหมือนจะไม่มีลูกด้วย นายกับคุณลุงควรจะดูแลเขาให้ดี”

“แน่นอน”

เซี่ยไห่เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนที่กำลังพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ จึงเอ่ยปากถาม “เจียเหอ นายกระซิบอะไรกับหมอเย่?”

เฉินเจียเหอยืดตัวตรงก่อนจะพูดว่า “คุยกันนิดหน่อย”

ฟางจินเป่าดื่มจนได้ที่แล้ว หลังจากพูดคุยกับเซี่ยไห่เสร็จแล้วก็เข้าหาเฉินเจียเหอพร้อมแก้วไวน์

ทั้งเน้นย้ำว่าอย่าได้ปฏิบัติกับหู่จืออย่างเลวร้ายในอนาคต

ถังจวิ้นเฟิงพาฟางจินเป่ากลับมานั่งและบอกให้เขาหยุดพูด “นายพูดมากเกินไปแล้ว เหล่าเฉินเลี้ยงดูหู่จือมาลำพังตลอดเวลาห้าปี พวกเราไม่มีสิทธิ์ไปสั่งสอนเขา”

เซี่ยไห่และลู่เจิ้งอวี่เห็นด้วย

ทุกคนเห็นแล้วว่าเฉินเจียเหอใจดีกับหู่จือมากแค่ไหน

ฟางจินเปาถือแก้วไวน์เอาไว้แน่นก่อนจะอธิบาย “ฉันรู้ว่าสถานการณ์มันไม่ง่ายสำหรับเจียเหอ ทุกอย่างเปลี่ยนไป เขามีครอบครัวเป็นของตัวเองด้วย ฉันเลยอยากจะบอกว่าถ้าเขาไม่ว่างดูแล พวกเราสามารถผลัดกันดูแลเด็กให้เขาได้ ตอนนี้ลูกฉันสองคนก็โตแล้ว พี่สะใภ้ของพวกนายก็เริ่มว่าง นายจะส่งหู่จือมาพักที่บ้านของฉันก็ได้นะ”

เฉินเจียเหอพูดต่อว่า “พี่เป่า ไม่ต้องกังวลเรื่องของหู่จือหรอกครับ ยังไงเขาก็เป็นลูกชายของผม ผมจะดูแลเขาเอง”

กว่าทุกคนจะออกจากร้านอาหาร ฟ้าก็มืดแล้ว

เย่ไป๋ขี่มอเตอร์ไซค์กลับไป ถังอวิ้นเฟิงต้องไปส่งฟางจินเปากลับ

ลู่เจิ้งอวี่ตามเซี่ยไห่กลับไปที่ห้องเต้นรำ

วันนี้เขาจะเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ

งานแรกของเขาคือการเป็นผู้ช่วยของเซี่ยไห่

เซี่ยไห่คิดไว้ว่าจะค่อย ๆ ฝึกเขาทีละขั้นตอน

“เจิ้งอวี่ นายติดตามเฉียนต้าเฉิงไปดูว่าปกติแล้วพวกเราทำงานกันยังไงก่อนแล้วกัน”

เซี่ยไห่ตบไหล่หลินจินซานก่อนจะพูดต่อว่า “จินซานอย่าเพิ่งไปไหน ตามเจียเหอกลับไปที่บ้านเพื่อไปคุยกับเซี่ยเซี่ยสักหน่อยเถอะ”

หลินจินซานปฏิบัติตามทุกสิ่งที่เซี่ยไห่บอกกล่าว และยอมรับคำสั่งง่ายดาย

“ครับเถ้าแก่”

หลังจากกลับมาถึงบ้าน หลินเซี่ยกำลังสอนหู่จืออ่านหนังสือ

“ทำไมวันนี้คุณกลับมาช้าจัง?” หลินเซี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังได้กลิ่นไวน์จากร่างกายของเขา

เฉินเจียเหอสังเกตเห็นสีหน้าของภรรยา เขาจึงเริ่มโน้มตัวไปให้เธอดม “ผมไม่ได้ดื่ม ไม่ใช่กลิ่นของผม”

จากนั้นเขาบีบจมูกก่อนจะชี้ไปที่ผู้ชายด้านหลังก่อนจะเผยท่าทางรังเกียจ

“เขาต่างหากที่ดื่ม”

เซี่ยไห่ “…”

หลินจินซาน “…”

เซี่ยไห่เคยเห็นเฉินเจียเหอถูกหญิงสาวตัวน้อยทำให้อับอายมาก่อน และเขาก็อดไม่ได้ที่จะเหยียดหยามชายคนนี้

ยิ่งกว่านั้นเขาไม่เข้าใจความคิดของคนพวกนี้เลยว่าทำไมถึงยอมแต่งงาน? การถูกบงการแบบนี้มีความสุขนักเหรอ?

เวลานี้สาวน้อยตรงหน้ากลายเป็นหลานสาวของเขาแล้ว ความคิดของเขาจึงเปลี่ยนไปมาก

หลานสาวคนนี้เก่งมาก การศึกษาก็ดี และยังเป็นคนเข้มงวดด้วย

เซี่ยไห่กลัวหลินเซี่ยจะไล่พวกเขาออกไป จึงรีบอธิบาย “เซี่ยเซี่ย วันนี้เราเพียงพบเจอเฒ่าฟาง ฉันดื่มไปสองแก้วเลยมีกลิ่นติดนิดหน่อย แต่จริงๆ แล้วพวกเราดื่มกันไม่กี่แก้วหรอก”

“จินซานก็ไม่ได้ดื่มมากมายอะไรเลย”

หลินจินซานรีบยืนยัน “ใช่ ฉันไม่ได้ดื่มหนักเลย เธอลองดมดูได้”

ขณะหลินจินซานกำลังจะก้าวเข้ามา เฉินเจียเหอผลักเขาออกพร้อมยืนขวางหน้าหลินเซี่ยเอาไว้

เขาเอ่ยกร้าวด้วยสายตามืดครึ้ม “ดมกลิ่นอะไร?”

หลินจินซานถอยหลังออกไป ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอย่างงง ๆ

หลินเซี่ยเก็บหนังสือของหู่จือออกไปและบอกว่าจะพาเขาเข้านอนแล้ว

เซี่ยไห่พูดต่อว่า “เซี่ยเซี่ย ให้เจียเหอพาหู่จือไปนอนเถอะ ที่พวกเรามาหาเธอดึกแบบนี้เพราะมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ”

นี่ดึกมากแล้ว เซี่ยไห่จึงกล่าวเข้าเรื่องที่จะพูดคุยทันที

“วันนี้คุณย่ากับฉันพาพี่ใหญ่ไปที่ตรอกบนถนนโฮ่วฉาง และเขาได้เจอกับพี่อิงจื่อแล้ว แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีความทรงจำอะไรกับพี่อิงจื่อเลย”

เซี่ยไห่เล่าต่อ “แต่หลังจากเราพูดคุยกันถึงเทศมณฑลซีเหอ พี่อิงจื่อให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และบอกว่ารู้จักผู้ชายที่ชื่อเซี่ยเหลย เวลานั้นพี่ใหญ่ของฉันเลยขอดูรูปสมัยเด็กของหล่อนเผื่อว่าจะจดจำได้”

“น่าเสียดายที่รูปถ่ายพวกนั้นอยู่ที่บ้านเกิดของหล่อน” เซี่ยไห่เหลือบมองหลินจินซานก่อนจะพูดว่า “ฉันอยากให้จินซานกลับไปที่บ้านเกิดของหล่อนเพื่อเอารูปถ่ายของพี่อิงจือกลับมาให้พี่ใหญ่ของฉันดูสักหน่อย เผื่อเขาอาจจะจดจำอะไรได้บ้าง”

“ฉันไม่ติดขัดอะไรค่ะ” หลินเซี่ยมองหลินจินซานก่อนจะพูดว่า “มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพี่ใหญ่ฉันต้องการจะกลับไปไหม”

ก่อนหลินจินซานจะตอบกลับ เซี่ยไห่รีบพูดเรื่องผลประโยชน์กับหลินจินซานทันที “จินซาน นี่คืองานยิ่งใหญ่ ฉันจะจ่ายเงินค่าเดินทางและที่พักให้ พร้อมกับจ่ายเงินเดือนให้ตามปกติ อีกทั้งความดีความชอบนี้จะถูกหยิบยกใส่ไว้ในโบนัสและการเลื่อนตำแหน่งในอนาคตด้วย”

หลินจินซานได้ยินว่าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเพิ่มเงินเดือน เขารีบตอบกลับ “ผมเต็มใจครับ”

แน่นอน เขาจะทำ

มีแค่คนโง่เท่านั้นที่ไม่อยากกลับบ้านด้วยเงินคนอื่น และยังได้รับค่าจ้างตามเดิมด้วย

เซี่ยไห่เผยสีหน้าขอบคุณกับการตัดสินใจของหลินจินซาน

“เอาล่ะ นายจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า คืนนี้ไม่ต้องไปทำงานนะ กลับไปนอนพักผ่อนเถอะ แล้วฉันจะจ่ายค่าเดินทางให้”

หลินจินซานพูด “อย่างนั้นฉันก็ต้องพูดคุยกับแม่สักหน่อยและขอกุญแจที่บ้านเกิดนั้นด้วย”

หลินเซี่ยเอ่ยปากเตือน “พี่ชาย พี่ต้องกลับไปเงียบ ๆ อย่าให้หลินเอ้อร์ฝูและหญิงชรารู้เรื่องนี้ หากพวกเขารู้… อย่าบอกพวกเขาว่าพี่อยู่กับแม่ แค่บอกว่าไม่เคยพบเจอพวกเราเลยก็พอ”

“ฉันเข้าใจแล้ว”

หลินเซี่ยกล่าวเสริม “นอกจากนี้พี่ต้องเข้มแข็งและห้ามทำตัวสุภาพต่อวายร้ายพวกนั้นล่ะ”

หลินเซี่ยไม่ต้องการให้หลินจินซานไปเกี่ยวข้องกับหลินเอ้อร์ฝูและคนอื่น

วายร้ายจอมขี้เกียจพวกนั้นมักจะสร้างปัญหาไม่จบสิ้น

“เซี่ยเซี่ย ไม่ต้องห่วง พวกเขาติดตามเสิ่นเสี่ยวเหมยและทำผิดต่อฉันไว้ แน่นอนว่าฉันเห็นความคิดของพวกเขาแล้ว และฉันจะไม่สนใจพวกเขาไม่ว่ายังไงก็ตาม”

หลินจินซานออกเดินทางในตอนเช้า และเฉินเจียเหอไม่มีเวลาที่จะจัดหาของฝากให้ หลินเซี่ยเลยนำเงินออกมาสองร้อยหยวนเพื่อมอบให้ชายชราแทน

หลินเซี่ยเอ่ยปากถามหลินจินซาน “แล้วถังหลิงอยู่ไหน? เห็นร้านปิดไปแล้ว หล่อนหายไปไหน?”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ภารกิจสำคัญครั้งนี้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของนายแล้วนะจินซาน อย่าทำให้สูญเปล่านะ

ยัยถังหายสาบสูญไปแล้วมั้ง โดนครอบครัวสามีเก่ามาถล่มขนาดนั้น

ไหหม่า(海馬)