ตอนที่ 316 ถอดเสื้อของคุณออก
ตอนที่ 316 ถอดเสื้อของคุณออก
เซี่ยอวี่ไม่ได้นั่งรถแท็กซี่ แต่เลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
ในช่วงสองสามวันที่ออกจากบ้านนี้หล่อนพบว่าไม่มีใครในเมืองไห่เฉิงรู้จักตน
แม้จะไม่สวมแว่นกันแดดก็ไม่มีใครจดจำหล่อนได้
แต่สุดท้ายแล้วด้วยรูปลักษณ์โดดเด่นและการแต่งกายที่ทันสมัยก็ยังทำให้ผู้คนบนถนนอดไม่ได้ที่จะมองหล่อนอย่างชื่นชม
เซี่ยอวี่ลงจากรถโดยสารและเห็นว่ายังต้องเดินต่อไปอีกสักพักกว่าจะถึงโรงพยาบาล
หล่อนกำลังคิดว่าจะซื้อบางอย่าง แต่ก็จำได้ว่าเซี่ยหลานกำลังจะย้ายลูกของตัวเองไปโรงพยาบาลอื่น
หากมีข้าวของเพิ่มเติมอีกคงจะไม่สะดวกนัก อย่างนี้การให้ซองโดยตรงน่าจะดีกว่า
เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกหนัก ถนนที่มีแต่หลุมบ่อจึงเต็มไปด้วยน้ำโคลน
หล่อนพยายามเดินอย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่ารองเท้าจะสกปรก
ทันใดนั้นก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นผ่านแอ่งน้ำข้าง ๆ เธอ…
เซี่ยอวี่ก้มศีรษะลง…
ชุดสูทและกางเกงขายาวสีขาวเปื้อนคราบดำเป็นด่างดวง
และยังมีอีกสองสามหยดเปรอะเปื้อนใบหน้าของหล่อนด้วย
สิ่งสำคัญคือ… นี่ไม่ใช่น้ำสะอาด แต่เป็นแอ่งโคลน
หล่อนถอนหายใจสองสามครั้ง ก่อนจะปาดน้ำโคลนออกจากใบหน้า
จากนั้นตะโกนใส่มอเตอร์ไซค์ด้วยความโกรธ “นี่ ตาบอดหรือไง!”
หล่อนไม่สามารถทนมองร่างกายที่สกปรกของตัวเองได้เลย
ขณะนั้นมอเตอร์ไซค์จอดห่างออกไปห้าเมตร
เขาถอดหมวกกันน็อคก่อนจะก้าวลงจากรถ
ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏตรงหน้า
ผู้ชายคนนั้นสวมแว่นตากรอบสีทอง ผิวขาว ใบหน้าอ่อนโยนและดูสะอาดสะอ้าน รูปลักษณ์ของเขาสง่างามดูสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น
แต่ว่าสิ่งที่เขาเพิ่งทำลงไปนั้นร้ายแรงมาก
เซี่ยอวี่ตะโกนด้วยความโกรธ
“หน้าตาก็ดี แต่ทำไมไม่มีมารยาททางสังคมเลย? ไม่เห็นเหรอว่ามีคนเดินอยู่? คุณตั้งใจขับผ่านแอ่งน้ำแล้วสาดโคลนใส่ฉันใช่ไหม? ฉันจะไปร้องเรียนกับองค์กรที่คุณทำงานอยู่ข้อหากลั่นแกล้งผู้หญิงบนท้องถนน!”
ผู้ชายคนนั้นก้าวลงจากมอเตอร์ไซค์และเห็นคราบขนาดใหญ่บนกางเกงสีขาวของผู้หญิงตรงหน้า เขาเผยสีหน้าหดหู่ใจก่อนจะกล่าวขอโทษอย่างสุภาพ “ผมขอโทษครับ ผมไม่ทันมองน่ะ ตอนนี้ผมรีบมากเลยไม่ได้สังเกต”
“ไม่สังเกตงั้นเหรอ? ไม่เห็นได้ยังไงแอ่งน้ำใหญ่ขนาดนี้? แล้วฉันทั้งคนยืนอยู่ตรงนี้คุณไม่เห็นงั้นเหรอ? คุณน่าจะตั้งใจทำแบบนี้มากกว่า!”
เซี่ยอวี่โกรธจัดและยิ่งอับอายเมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองสกปรกแค่ไหน หล่อนอยากจะวิ่งหนีไปเสียเดี๋ยวนี้
นับตั้งแต่เข้าสู่วงการบันเทิง หล่อนให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์เสมอมา และไม่ได้พบเจอกับความอับอายมานานหลายปีแล้ว
แต่ตอนนี้หล่อนอยู่บนท้องถนน…
“งั้นผมขอจ่ายค่าเสื้อผ้าให้คุณได้ไหม? ผมกำลังรีบมาก”
ผู้ชายคนนั้นเผยท่าทางกังวลก่อนจะหยิบธนบัตรสิบหยวนออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เซี่ยอวี่ด้วยความสุภาพ
“ผมชดใช้ค่าเสื้อผ้าให้คุณนะ ขอโทษด้วย ผมต้องรีบไปทำงานแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ”
“จะออกไปทั้งแบบนี้เหรอ? แล้วฉันจะเดินไปทั้งสภาพแบบนี้ได้ยังไง?”
อีกฝ่ายเพียงยื่นเงินให้ แต่หล่อนกลับรู้สึกว่าตนถูกเหยียดหยาม
หล่อนโกรธมากเพราะภาพลักษณ์ยอดเยี่ยมถูกทำลาย และการที่เขาให้เงินแบบนี้ก็ทำให้หล่อนยิ่งโกรธมาก “รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
ผู้ชายคนนั้นรู้สึกว่าเขาได้เผชิญหน้ากับคุณหนูนิสัยเสียแล้ว เขาตอบกลับสั้น ๆ “ผมไม่รู้”
เขาเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้งก่อนจะรีบพูดอย่างกระวนกระวาย “ผมต้องไปแล้ว คุณรับเงินนี้ไว้เถอะนะ”
ขณะพูดอย่างนั้น เขาก็ยังคงพยายามยื่นเงินให้หล่อน
เซี่ยอวี่สบฟันแน่นเพราะความโกรธ
หล่อนดูเหมือนขาดเงินงั้นเหรอ?
หล่อนเป็นดารา และต้องรักษาภาพลักษณ์
สายตาของหล่อนพลันสว่างวาบขณะจ้องมองเสื้อคลุมยาวของผู้ชายคนนั้น
หล่อนมองเขาก่อนจะออกคำสั่ง “ถอดเสื้อของคุณออก”
ชายหน้าตาดีคนนั้นถึงกับตกอยู่ในความสับสน
หล่อนพูดย้ำอีกครั้ง “ขอเสื้อคลุมของคุณให้ฉัน!”
เซี่ยอวี่เห็นเขายืนนิ่ง ก็กลัวว่าเขาจะวิ่งหนีไป หล่อนจึงเริ่มดึงเสื้อของเขาออก
ผู้ชายตรงหน้าเผยท่าทางตื่นตระหนก ราวกับไม่เคยพบเจอหญิงดุร้ายเช่นนี้มาก่อน
ใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา แต่กลับกล้าหาญมากจนกระทั่งคว้าเสื้อของเขาออกไปบนท้องถนน
และเมื่อหล่อนเข้าใกล้ กลิ่นกายสาวก็ปะทะกับจมูกของเขาทันที
แก้มของเขากลายเป็นสีแดงเรื่อขึ้นมา ลูกกระเดือกที่ลำคอขยับเล็กน้อยพร้อมจ้องมองด้วยความเขินอาย
เขารีบถอดเสื้อกันลมออกและยื่นให้หล่อน เซี่ยอวี่รีบสวมมันทับอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งภาพหมึกเลอะเทอะก่อนหน้าถูกปกปิดแน่นหนา
ผู้ชายคนนี้สูงมาก และสูงกว่านักแสดงชายที่หล่อนเคยร่วมงานด้วย เสื้อกันลมของเขายาวจนเกือบถึงข้อเท้า คลุมร่างกายของหล่อนไว้เสียมิดชิด
หล่อนกอดรัดตัวเองแน่นก่อนจะโบกมือให้เขา “อืม ไปได้แล้ว”
“โอ้”
ผู้ชายคนนั้นมองเสื้อผ้าของตัวเองที่พันรอบกายหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้าของเขาถึงกับแดงเรื่อขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
เขามองหล่อนอีกครั้งก่อนจะรีบขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วจากไปทันที
เซี่ยอวี่สวมเสื้อคลุมก่อนจะยืนสาปแช่งในความโชคร้ายของตัวเองอยู่ริมถนน
หล่อนอยากจะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อีกเดี๋ยวก็จะถึงทางเข้าโรงพยาบาลแล้ว หล่อนอยากเจอเซี่ยหลานโดยเร็ว
หบ่อนก้มศีรษะมองดูสภาพของตัวเองในเวลานี้ และพึมพำว่าโชคดีที่รูปร่างของหล่อนยอดเยี่ยมจนสามารถสวมใส่เสื้อกันลมของผู้ชายได้
อีกอย่างหล่อนก็ได้ยินว่าเซี่ยหลานอาศัยอยู่ในหอพักโรงพยาบาล และเดี๋ยวได้พบเจอกันค่อยขอยืมเสื้อผ้าของเซี่ยหลานก็ได้
หล่อนเข้าไปในโรงพยาบาลก่อนจะขึ้นชั้นบน จากนั้นบอกกล่าวว่าต้องการพบเจอกับเซี่ยหลานเพื่อถามทาง
ผู้คนมากมายเดินเข้าออกโรงพยาบาลนับไม่ถ้วน
พยาบาลสองคนด้านหลังกระซิบกัน
เซี่ยอวี่คิดว่าอีกฝ่ายคงจะรู้จักหล่อน และในฐานะผู้เป็นนักแสดงก็ค่อนข้างภูมิใจเล็กน้อย
แต่อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของหล่อนในวันนี้ไม่ค่อยดีนัก
หล่อนสวมแว่นกันแดดและเดินก้มศีรษะออกไปอย่างรวดเร็ว
“ใช่แน่นอน นั่นคือเสื้อกันลมของหมอเย่ ไม่ผิดแน่”
“โห หมอเย่นี่สุดยอดเลย แฟนของเขาสวยขนาดนี้เชียว ดูผิวของหล่อนสิ ขาวอย่างกับหิมะเชียว”
“ท่าทางการเดินของหล่อนราวกับนางเอกละครเลย รวดเร็วเสียจริง”
เซี่ยอวี่ตรงไปที่วอร์ด ประตูห้องถูกแง้มไว้ ก่อนจะเห็นชายคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง ข้างเตียงมีผู้หญิงวัยกลางคนกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเก็บข้าวของ
เซี่ยอวี่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังก้มลงเพื่อหยิบของบางอย่างจากใต้เตียง ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกมา
ผู้หญิงที่เคยสดใส และฉลาดคนนั้นเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
เซี่ยหลานสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาภายในประตู หล่อนจึงหันหลังกลับมา
เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่หน้าประตูก็ตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนจะพูดขึ้นว่า “เสี่ยวอวี่เหรอ?”
“หลานหลาน” เซี่ยอวี่โผเข้ากอดอีกฝ่าย
ทั้งสองคนกอดกันแน่น เซี่ยอวี่อดไม่ได้ที่จะสะอื้น “ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“ใช่ ไม่เจอกันนานเลยนะ”
ผู้หญิงสองคนกอดกันหลังจากไม่ได้พบเจอกันเนิ่นนาน ทั้งคู่จึงควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้นัก
เป็นเพราะพวกหล่อนไม่ได้เจอกันมานานกว่าสิบปี
ครั้งแยกจากกับเซี่ยอวี่หล่อนมีอายุยี่สิบปี และตอนนี้ใกล้จะสี่สิบปีแล้ว
แต่เซี่ยหลานเองก็ไม่ได้ดูแก่มากนัก ยังไม่มีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า แล้วก็ยังคงสวยงามเช่นเมื่อก่อน และยังดูภูมิฐานมากขึ้นด้วย
เซี่ยหลันถามเสียงสะอื้น “แล้วทำไมถึงไม่กลับมาตั้งหลายปี?”
“ฉันยุ่งกับงานน่ะ”
“เธอนี่ใจร้ายมาก”
“ใจร้ายมากจนกระทั่งไม่เขียนจดหมายหาฉันเลย เธอไม่ได้ขอที่อยู่ของฉันจากเซี่ยไห่เหรอ?”
เซี่ยหลานถอนหายใจ “ต่อให้กระดาษจะแผ่นเล็ก แต่ความรักมันมากมาย ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มเขียนตรงไหน”
“เธอใจร้ายเกินไป ฮือฮือ รู้ไหมว่ามันยากแค่ไหนที่ฉันต้องอยู่ลำพังตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
เซี่ยอวี่กอดเซี่ยหลานพร้อมกับร้องไห้ออกมา
“หมอเซี่ย นี่คือรายชื่อ…” ประตูเปิดออก เย่ไป๋เดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารย้ายของเสิ่นอวี้หลง หลังจากก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว เขาเห็นว่าผู้หญิงสองคนกำลังกอดกันร้องไห้ เวลานี้เขาตกตะลึงจนไม่รู้ว่าจะเดินออกไปหรืออยู่ต่อดี
แต่ว่า…
ทำไมผู้หญิงที่ร้องไห้และกอดกับหมอเซี่ยถึงดูคุ้นเคยจัง? อีกอย่างนั่นมันเสื้อของเขาหรือเปล่า?
เซี่ยหลานเห็นเย่ไป๋เข้ามาแล้วก็รีบปล่อยมือจากเซี่ยอวี่พร้อมเช็ดน้ำตาบนใบหน้า “หมอเย่ นี่คือเอกสารการย้ายใช่ไหมคะ?”
เย่ไป๋ตอบ “ครับ แค่ไปชำระเงินให้เรียบร้อยก็พอ ผมเตรียมรถพยาบาลไว้แล้ว และเขาจะมารับอวี้หลงตอนเที่ยงครับ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
เซี่ยอวี่ปรับอารมณ์อย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินว่าหมอคนอื่นเข้ามา
แต่เมื่อหันกลับมาก็พลันตกตะลึงกับรูปลักษณ์ของหมอคนนี้
หล่อนรีบหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว
ในใจนึกคิดว่าเขาคงจะไม่ทันเห็นหล่อน ต้องไม่เห็นแน่ ๆ
แต่ความจริงแล้ว อีกฝ่ายไม่เพียงแต่เห็นหน้าหล่อนเท่านั้น แต่ยังเห็นชัดเจนด้วย
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
บุพเพอาละวาดแล้วหรือเปล่า อันที่จริงคู่ที่ผู้หญิงอายุเยอะกว่าก็น่ารักดีนะคะ
ไหหม่า(海馬)