“เฮ้คุณรู้ไหมว่าหมอหลิงไปไหน?” พยาบาลปรากฎตัวขึ้นที่โรงพยาบาลพร้อมใบหน้าที่ดูมีลับลมคมใน
โรงพยาบาลนั้นประกอบด้วยเคาน์เตอร์สองเคาน์เตอร์ซึ่งมีความยาวประมาณยี่สิบหกฟุต มีนางพยาบาลสิบคนอยู่ที่นั่นเหมือนผู้พิทักษ์ประตู ทุกวันพวกเธอต้องเผชิญกับผู้ป่วยจำนวนมากรวมทั้งญาติๆของผู้และยังต้องเป็นด้านหน้าของโรงพยาบาลในการรับแขก
พยาบาลสามารถหยุดพักได้เมื่อพวกเธอแอบเข้าไปอยู่ในห้องเล็ก ๆ ด้านหลังเคาน์เตอร์เพื่อพักผ่อน ในขณะที่พวกเธออยู่ที่นั่นพวกเธาทำตัวเหมือนกองทหารสื่อสารที่ใช้เวลาไปกับการนินทาและเม้าเรื่องไร้สาระ
หัวข้อของพยาบาลหวังจะกระตุ้นความสนใจของพยาบาลคนอื่นอย่างแน่นอน พยาบาลสาวสองสามคนมองมาที่เธอก่อนที่จะมีคนถามว่า “วันนี้หมอหลิงอยู้บ้านหรอเนี่ยแล้วเขาจะกลับเขามารับเคสผ่าตัดไหม”
“ฉันมีความรู้สึกขอให้อย่าเป็นอย่างนั้นต่อให้เธอจะเดาถูกก็จาม” พยาบาลหวังลดเสียงของเธอลงและพูดว่า “ฉันได้ยินข่าวมาจากเพื่อนของฉันที่อยู่โรงพยาบาลเมืองหยางหยวนว่าหมอหลิงไปทำการผ่าตัดที่นั้น”
“โรงพยาบาลเมืองหยางหยวน?” สถานที่นั้นมันไกลมากจนพยาบาลบางคนไม่รู้จักว่ามันอยู่ตรงไหน
“หมอหลิงไปเป็นศัลยแพทย์อิสระ” วังเจียพูด
คำว่า “ศัลยแพทย์อิสระ” เคยเป็นรหัสซึ่งต่อมากลายเป็นศัพท์แสลงในหมู่แพทย์ อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนรู้จักมันอีกครั้งมันก็กลายเป็นคำนามที่เรียบง่าย
แม้ว่าในปัจจุบันมีแพทย์ที่มีทักษะสูงซึ่งทำงานเป็นศัลยแพทย์อิสระตลอดทั้งปีหัวข้อนี้ยังคงเป็นข้อห้ามในโรงพยาบาล
พยาบาลสาวสองสามคนมารวมตัวกันเพื่ออ่านวีแชทของพยาบาลหวังและพวกเขาเห็นโพสต์รูปหลิงรันจากภาพมุมด้านหน้าและด้านหลังของเขา … ยังมีรูปหมู่กับพยาบาลที่ขณะที่เดินไปตามทางของโรงพยาบาล…
เมื่อพวกเขาเห็นรูปสุดท้ายพยาบาลสาวทั้งหลายรู้สึกไม่พอใจมาก
“ไร้ยางอาย”
“มีรูปถ่ายอะไรที่พวกเขาถ่ายตัวเองที่ด้านหน้าและภาพถ่ายตามทางกับหลิงรันในระยะไกล? ถ้าเราต้องการถ่ายภาพกับหลิงรัเราก็สามารถถามเขาและไปถ่ายกับเขาได้ด้วยสิ”
“บ้า!”
ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ศัตรูร่วมของพวกเธอก่อนที่พวกเขาจะเริ่มดูภาพของหลิงรันต่อไป
พยาบาลหวังต้องการดาวน์โหลดรูปถ่ายและส่งไปยังโทรศัพท์ของเธอ เมื่อพยาบาลหวังทำเช่นนั้นเธอต้องดาวน์โหลดรูปถ่ายซ้ำแล้วส่งไปยังโทรศัพท์อื่นของเธอด้วย
ในขณะที่เธอกำลังยุ่งอยู่กับการร้องขอทั้งหมดจากพยาบาลเธอได้ยินใครบางคนพูดว่า “นี่หมายความว่าหมอหลิงเริ่มมีรายได้อย่างแท้จริงหรือไม่?”
“ศัลยแพทย์อิสระ, ใช่มั้ย”
“ฉันได้ยินว่าศัลยแพทย์อิสระได้รับเงินมากถึง 10,000 หยวนทุกครั้งต่อการผ่าตัดครั้งหนึ่ง”
“ซึ่งหมอส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลของเรามักจะได้รับเพียงไม่กี่พันหยวนต่อครั้งสำหรับการผ่าตัดทุกครั้ง นางพยาบาลหลิวโผล่ออกมาทันที แม้ว่าเธอจะแก่กว่านางพยาบาลคนอื่น ๆ แต่เธอก็ดูรูปของลิงรันด้วย “จุจุ” เธอพูด “ไม่ว่าอะไรหมอหลิงของเราจะไม่มีวันอดตาย”
“หมอหลิงเขาก็มีเงินตั้งแตกแรกอยู่แล้ว” พยาบาลหวังพูดขัดพยาบาลหลิว
“ฮ่าฮ่า!” พยาบาลหลิวหัวเราะเบา ๆ เธอต้องการบอกหญิงสาวเกี่ยวกับผลกระทบของลัทธิวัตถุนิยมในการแต่งงานและสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการแต่งงาน นอกจากนี้เธอยังต้องการอธิบายความสัมพันธ์ของพวกเขากับการสร้างอารยธรรมทางจิตวิญญาณพร้อมกับการส่งเสริมการรับรู้ทางสังคมที่เป็นสากลและการรับรู้ทางสังคมที่เป็นสากลต่อพฤติกรรมทางสังคมของมนุษย์ ซึ่งมันดูแป็นหลักการที่น่าเบื่อทั้งนั้น
พยาบาลหลิวเปลี่ยนใจหลังจากนั้น เธอชี้ไปที่รูปหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นด้านข้างของหมอหวังและพูดว่า “ฉันเดาว่าหลิงรันตามหัวหน้าแพทย์หวังจากแผนกศัลยกรรมมือที่นั่นหัวหน้าแพทย์หวังจะได้รับ 10,000 หยวนสำหรับการผ่าตัดอิสระแต่ละครั้งที่เขาทำการผ่าตัด”
“คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”
“หัวหน้าแพทย์วังหวังเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง ‘ฉันได้รับอย่างน้อย 10,000 หยวนสำหรับการผ่าตัดอิสระหนึ่งครั้ง … ‘” นางพยาบาลหลิวเลียนแบบเสียงของหมอหวัง เธอหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “จริง ๆ แล้วเขามีค่าเป็นหมื่น”
พยาบาลหวังเข้าใจและพยักหน้า “ถ้าเขาได้รับ 10,000 หยวนหมอหลิงจะได้รับเงิน 10,000 หยวนด้วยใช่ไหมว้าว! หมอหลิงนี้น่าทึ่งจริงเชียวๆ … “
พยาบาลหลิวสับสนมาก “ หากพวกเขาไปด้วยกันพวกเขาจะต้องแบ่งค่าตอบแทนแน่นอนมันไม่มีเหตุผลที่พวกเขาได้รับประมาณ 10,000 หยวนต่อคนด้วย”
“หมอหลิงจะยังคงได้รับเงินจำนวนมากถ้าเขาได้รับ 9,000 หยวนในขณะที่หัวหน้าแพทย์หวังได้รับแค่ 1,000 หยวน” พยาบาลที่ตื่นเต้นทุกคนคิดการจัดสรรเงินให้หมอทั้งคู่แทน การกระทำของพวกหล่อนก็ทำให้นางพยาบาลหลิวหัวเราะ ในขณะนั้นไม่มีใครสนใจจริง ๆ ว่าเงินจะถูกจัดสรรอย่างไร
วันถัดไป…
หลิงรันถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มของพยาบาลสาวในวินาทีที่เขาก้าวเข้ามาในแผนก
โดยปกติแล้วหลิงรันนั้นคุ้นเคยกับการถูกล้อมรอบไปด้วยหญิงสาว เขายืนนิ่งและรอให้พวกเขาพูด
“หมอหลิงมาถ่ายรูปกันเถอะ” พยาบาลสาวยืนอยู่ที่ด้านหน้าของกลุ่มร้องขอและหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปกับหลิงรันทันที
หลิงรันยืนนิ่งโดยไม่พูดอะไรเลย เขาไม่เคลื่อนไหวเช่นกัน เขาดูเหมือนแบล็กกาวเหมือนกับเวลาที่เขาต้องแขวนป้ายบนหน้าอกของเขาที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อได้รับเงินค่าถ่ายรูปกับเขาสมัยเด็ก
หลิงรันเดินต่อไปหลังจากพยาบาลทุกคนเสร็จสิ้นการถ่ายภาพและเริ่มอัพโหลดพวกมันลงบนอินเทอร์เน็ต เขาถามว่า “วันนี้มีคนไข้ที่มีอาการนิ้วขาดหรือเปล่า”
เขาได้รับการแจ้งเตือนการผ่าตัดในโทรศัพท์ แต่ข้อความไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดของสถานการณ์
พยาบาลหวังตอบทันทีว่า “มีช่างซ่อมบ้าน ตอนนี้นิ้วของเขาขาดเมื่อเขากำลังตัดกระเบื้องเซรามิกนิ้วสองนิ้วของเขาถูกตัดเขากำลังเดินทางมาโรงพยาบาลของเราและจะมาถึงในอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง”
“เขาอยู่ไกลมากเหรอ?”
“ใช่เขาถูกส่งมาจากชานเมืองญาติของเขาอยู่ที่นี่” พยาบาลหวังพูดและเธอก็พยายามแสดงท่าทางว่าญาติของผู้ป่วยออยู่ที่ไหน
หลิงรันมองไปในทิศทางที่เธอชี้ไปเขาเห็นแม่ของผู้ปวยนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถงรอลูกสาวของเธอและเธอก็ร้องไห้
เมื่อเขาเห็นเธอ เธอก็สังเกตเห็นเขาเช่นกัน
ผู้หญิงคนนั้นมีปฏิกิริยาแตกต่างจากญาติคนอื่นๆ เพรา ญาติผู้ป่วยมักจะตอบสนองเมื่อพวกเขาเห็นแพทย์ ผู้หญิงที่สังเกตเห็นหลิงรันรีบปล่อยลูกสาวของเธอออกมาแล้ววิ่งไปหาเขา คุณเป็นหมอเหรอ สามีของฉันอยู่ที่นี่ใช่ไหม?
“ รถพยาบาลยังอยู่ระหว่างการเดินทาง” หมอหวังอธิบายทันที
“คุณเป็นหมอที่จะรักษาให้กับสามีของฉันใช่ไหม” ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ยืนยันที่จะรับคำตอบสำหรับคำถามของเธอ เธอถามคำถามเชิงตรรกะต่อไปแทน
หลิงรันไม่ค่อยสื่อสารกับญาติของผู้ป่วย สิ่งนี้ทำให้เขางุนงงชั่วครู่หนึ่ง
“คุณต้องเป็นหมอหลิง! ฉันเห็นคุณบนอินเทอร์เน็ตพวกเขาบอกว่าไม่มีใครปลูกถ่ายนิ้วได้เยี่ยมยอดเท่าคุณในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวคุณเป็นเพียงคนเดียวที่ทำได้และยังเป็นหมออายุน้อยและหล่อด้วย” หญิงสาวกล่าว เธอเช็ดหน้าและพยายามฝืนยิ้ม “ฉันชื่อจินโชว์ ครอบครัวของฉันขายผลผลิตทางการเกษตร”
“สวัสดี” หลิงรันทักทายเธอและพูดว่า “ฉันยังไม่เห็นคนไข้เลยดังนั้นตอนนี้ฉันยังไม่รู้สถานการณ์ของเขา”
จินโชว์เธอหยิบกระดาษทิชชู่ชิ้นหนึ่งออกมาแล้วเป่าจมูกด้วยกำลังของเธอทั้งหมด จากนั้นเธอพูดว่า “ฉันรู้ฉันแค่อยากจะบอกคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ในครอบครัวของเรา -“
“ขอโทษฉัน … หมอหลิงต้องแสดงรอบวอร์ดของเขาตอนนี้ … ” พยาบาลหวังตั้งใจขัดขวางเธอ
จินโชว์เธอจ้องไปที่หลิงรันและพูดว่า “ฉันขอเวลาไม่กี่นาที”
“ยังงั้นก็ว่ามาได้เลย” หลิงรันไม่ได้เดินออกไปในทันที
“หยวนเว่ยสามีของฉันทำงานอย่างหนักเพื่อครอบครัวของเรา” จินโชว์กล่าว “พ่อของฉันหนีไปเมื่อสองปีก่อนเพราะเป็นมะเร็งเขาทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ก่อนที่เขาจะตายพ่อของหยวนเหว่ยซึ่งเป็นพ่อตาของฉันก็เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคมะเร็ง แต่โชคไม่ดีที่เขายังทิ้งไว้หนี้ก้อนโตไว้ให้เราดังนั้นหยวนเหว่ยต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อจ่ายคืนหนี้เขาช่วยฉันขายผลผลิตทางการเกษตรในช่วงฤดูปลูกเมื่อใดก็ตามที่เขาว่างเขาเข้าเมืองและทำงานเพื่อปรับปรุง คนงานเขาไม่กลัวที่จะทำงานหนักเขา…เขา…ทำไมเราถึงโชคไม่ดีอย่างนี้…”
จินโชว์เริ่มร้องไห้ขณะที่เธอพูพร้อม ลูกสาวของเธอที่ขี้อายที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอก็เริ่มร้องไห้เช่นกัน
หลิงรันหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่เขาจะหายใจออก
จินโชว์ เล่าถึงประวัติครอบครัวของเธอเท่านั้น เธอไม่ได้ขออะไรเลยทำให้เกิดเสียงอึกทึก อย่างไรก็ตามภูมิหลังครอบครัวดังกล่าวสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อหลิงรัน
“ขอให้แผนกการถ่ายภาพทางการแพทย์เตรียมพร้อมให้พวกเขาทำการสแกนเอ็มอาร์ไอกับผู้ป่วยเมื่อรถพยาบาลมาถึง” ตอนนี้หลิงรันสามารถให้คำแนะนำนั้นได้เท่านั้น
*สูดอากาศ.*
จินโชว์เป่าจมูกอีกครั้งบนกระดาษชำระอีกชิ้นแล้วร้องไห้ต่อไป แรงกดดันจากชีวิตของเธอทำให้เธอร้องไห้จนพอใจเมื่อตอนที่เธออยู่ในโรงพยาบาล
[ภารกิจ: การเย็บอย่างสมบูรณ์แบบ]
[รายละเอียดภารกิจ: ใช้ทักษะการปลูกถ่ายนิ้วมือระดับที่สมบูรณ์แบบและเย็บนิ้วมือของผู้ป่วยหยวนเว่ยอย่างสมบูรณ์แบบ]
[รางวัล: หีบสมบัติระดับกลาง]