บทที่ 329 เดิมพันหนึ่งหยวน
บทที่ 329 เดิมพันหนึ่งหยวน
“โอ้ว!”
ถังอวี่เฟยที่นั่งในรถของอู๋ฝาน เห็นเรื่องเกิดขึ้นผ่านกระจกมองด้านหลัง จึงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นยินดี
“ไอ้สารเลวนี่ได้รับผลกรรมแล้ว สมควรตายซะด้วยซ้ำ!” ถังอวี่เฟยพูดออกมา
เห็นได้ชัดว่าการกระทำก่อนหน้านี้ของหานเป่าฟาง ทำให้ถังอวี่เฟยโกรธแค้นมากถึงเพียงใด
“แรงปะทะเมื่อกี้นี้ ไม่น่าถึงตายหรอกครับ” อู๋ฝานตอบขึ้นมา “แต่ต้องบาดเจ็บแน่ ๆ”
“แบบนั้นก็ไม่เลวค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบรับ
หลังไช่หงและหานเป่าฟางต่างเกิดอุบัติเหตุกันไปเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้จึงไม่มีใครเป็นภัยคุกคามอู๋ฝานอีก ชายหนุ่มขับต่อไปตามทางอย่างราบรื่น และได้ที่หนึ่งอย่างง่ายดาย เพราะความเร็วรถของเขาถือเป็นที่สุด หลังมาถึงเส้นชัย ต้องรออีกราวห้านาทีกว่ารถคันที่สองจะตามมาถึง และคนที่ได้ที่สองก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นไช่หง
“นายน้อยอู๋ ยินดีด้วยครับ ยินดีด้วย!”
“นายน้อยอู๋ เท่บาดใจเกินไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าทั้งหานเป่าฟางและไช่หงจะยังไม่ใช่คู่ต่อกรของคุณ!”
“คิดว่าระดับของนายน้อยอู๋ ต่อให้เป็นนักแข่งมืออาชีพมาเอง ก็คงไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
ทันทีที่อู๋ฝานลงมาจากรถ ทุกคนจากทางฝั่งเจียงโจวต่างก็เข้ามาร่วมแสดงความยินดี ราวกับลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่พอใจกับการกระทำของชายหนุ่มเช่นไร
พวกเขาลืมเลือน แต่ถังอวี่เฟยไม่ลืม เธอเผยสายตาโอ้อวดจ้องมองกลุ่มคนพร้อมเอ่ย “ฉันจำได้ว่าก่อนจะเริ่มการแข่ง พวกคุณแต่ละคนไม่มองว่าเขาจะมีโอกาสชนะซะด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เปลี่ยนท่าทีกันเร็วยิ่งกว่างูลอกคราบซะแล้ว?”
“พี่ถัง นั่นเพราะพวกเรามีตาหามีแววไม่ต่างหาก ทำให้ไม่รู้ว่านายน้อยอู๋ยอดเยี่ยมขนาดไหน!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าคิดผิดไป ผมต้องขอโทษนายน้อยอู๋ด้วยครับ”
คนจากทางฝั่งเจียงโจวต่างเอ่ยขออภัยอู๋ฝานกันคนแล้วคนเล่า สารพัดคำขอโทษปลิวว่อนออกมา ส่วนไช่หงที่ก่อนหน้านี้ได้รับความโปรดปรานจากคนฝั่งเจียงโจว ตอนนี้กลับถูกลืมเลือนหมดใจแล้ว
ไช่หงพ่ายแพ้อย่างไม่น่ายินดี เขายังมองว่าฝีมือการขับรถของตนเองยังเหนือกว่าอู๋ฝาน ที่อีกฝ่ายชนะได้ ก็เพราะศักยภาพของรถที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ได้แพ้ในด้านฝีมือการขับรถ แต่แพ้เพราะรถต่างหาก!
“เหอะ! เรื่องใหญ่อะไรกัน ก็แค่เพราะรถดีกว่า ไม่งั้นจะเอาชนะมาได้งั้นเหรอ?”
“ถูกต้อง! ถ้าขับรถทั่วไป มีเหรอจะเอาชนะหานเป่าฟางได้?”
อู๋ฝานได้รับชัยชนะ คนทางฝั่งเจียงโจวดีใจออกนอกหน้า แต่คนฝั่งเมืองหลิวกลับโมโหแทบขาดใจ พวกเขาคิดเหมือนกับที่ไช่หงคิด นั่นคือมองว่าชายหนุ่มชนะมาได้ก็เพราะรถในครอบครอง ไม่ใช่ฝีมือการขับขี่
“ว่าอะไร ขี้แพ้ชวนตีงั้นเหรอ?”
“แพ้แล้วยังไม่ยอมรับ ถึงกับหาข้ออ้างเลยงั้นสิ? ถ้าเก่งจริง ทำไมไม่ไปหาซื้อรถที่ดีกว่ามาแข่งล่ะ? หารถที่ดีมาแข่งขันถือเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”
“หานเป่าฟางที่พวกนายคิดว่าชนะได้แน่ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว”
ก่อนที่อู๋ฝานจะเอ่ยทักท้วงอะไร กลุ่มคนจากเจียงโจว ที่ตอนนี้นับถือเขาเป็นฮีโร่กอบกู้สถานการณ์ ต่างพร้อมใจกันออกหน้าปกป้อง
แต่มันก็พอจะมองออกว่าในใจคนจากเจียงโจวเอง ก็มีความเห็นที่คล้ายกับคนจากเมืองหลิว พวกเขามองว่าเพราะศักยภาพรถของอู๋ฝานโดดเด่นเกินไปจึงสามารถชนะมาได้
อู๋ฝานที่เห็นเช่นนี้ก็เพียงยิ้ม ไม่ได้อธิบายอะไรออกไป
จริง ๆ แล้วฝีมือการขับรถของอู๋ฝานก็ไม่ได้เลวร้าย ด้วยวิชาขับขี่ระดับกลาง ถ้าเปรียบกับนักแข่งรถมืออาชีพ มันก็ยังมีข้อแตกต่างอยู่บ้าง แต่หากเทียบกับหานเป่าฟางและไช่หง สองคนที่เกษียณตัวเองจากวงการมาแล้วหลายปีจนระดับฝีมือเสื่อมถอย จึงมองได้ว่าฝีมือการขับรถของเขาก็ไม่เลวร้าย ทว่าเพราะศักยภาพของรถโดดเด่นจนเกินไป ทำให้กลบฝังความสามารถของชายหนุ่มไปหมด
แต่อู๋ฝานไม่ได้อธิบายอะไร เพราะหากเขาอธิบาย คนเหล่านี้ก็คงไม่เชื่อบราวนี่ออนไลน์
อย่างไรแค่เอาชนะมาได้ ส่วนที่เหลือก็ไม่ใช่สาระที่ต้องใส่ใจ
ขณะคนจากทางฝั่งเจียงโจวและเมืองหลิวโต้เถียงกัน รถคันอื่นก็เริ่มมาถึงกันคันแล้วคันเล่า รวมถึงหานเป่าฟางที่ถูกช่วยออกมาจากรถที่พลิกคว่ำ ก็กลับมาพร้อมกับคนของเมืองหลิว ตอนนี้เมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่าย หลายคนต่างต้องซี๊ดปากสูดอากาศเย็นกันเข้าไป
ตอนนี้ขาของหานเป่าฟางคล้ายจะหัก กางเกงทั้งสองข้างเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด สีหน้าค่อนข้างซีดเซียวอิดโรยไร้เรี่ยวแรง
หานเป่าฟางขาหัก!
หักทั้งสองข้างเสียด้วย!
สภาพตอนนี้อาจทำให้ต้องพึ่งวีลแชร์ไปตลอดชีวิตที่เหลือ ส่วนเรื่องการขับรถนั้น คงไม่มีโอกาสได้ขับอีก
แม้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นเช่นนี้แล้ว แต่กลับไม่มีใครเห็นใจเขาเลยสักคน
คนจากทางฝั่งเจียงโจวไม่ชอบหานเป่าฟางตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกับอู๋ฝานและถังอวี่เฟยที่ยิ่งเกลียดชังโกรธแค้น อีกฝ่ายสมควรได้รับแล้ว ในอนาคตจะได้ไม่มีโอกาสไปทำร้ายใครอีก
ส่วนคนฝั่งเมืองหลิว พวกเขาก็ไม่มีใครเห็นใจหานเป่าฟางเช่นเดียวกัน แม้สมัยที่อีกฝ่ายยังไม่ได้เกษียณจากวงการ จะถือได้ว่ามีชื่อเสียงพอสมควร แต่ในสายตาของคนจากเมืองหลิว พวกเขาต้องการเพียงแค่นักแข่งเท่านั้น และตอนนี้เขาก็ไม่มีค่าใดให้ต้องสนใจ อย่างไรชายคนนั้นก็สถานะต่ำกว่าพวกเขา อีกทั้งหานเป่าฟางยังเกษียณจากวงการแข่งมานานแล้ว คนเหล่านี้จึงยิ่งไม่คิดเก็บมาใส่ใจ
คนจากเมืองหลิวกระทั่งสบถก่นด่าหานเป่าฟางอยู่ในใจซะด้วยซ้ำ เพราะอีกฝ่ายคือคนที่พวกเขาต้องจ่ายค่าตัวจำนวนไม่น้อยจ้างมา โดยฝากความหวังว่าจะสามารถคว้าเอาชัยชนะจากการแข่ง เพื่อที่จะถ่มถุยคนของเจียงโจวได้ แต่อีกฝ่ายกลับพ่ายแพ้ ทำให้พวกเขาเสียทั้งหน้าและเงิน กระทั่งถูกคนของเจียงโจวเย้ยหยัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้มีหรือพวกเขาจะไม่สบถก่นด่าหานเป่าฟาง?
ดังนั้นหลังเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินมาเรียบร้อยแล้ว หานเป่าฟางจึงไปโรงพยาบาลเพียงลำพัง เพราะที่แห่งนี้ไม่มีใครสักคนที่ให้ความสนใจเขาอีกต่อไป
“การแข่งจบลงแล้ว เงินเดิมพันก็ควรต้องมอบให้ผมใช่ไหมครับ?” อู๋ฝานเอ่ยขณะมองทางฝูงชน
เงินเดิมพันทั้งหมดถูกวางรวมไว้เป็นก้อนเดียว บรรดาคนที่มาที่นี่ต่างก็เป็นคุณหนูคุณชายผู้ร่ำรวยจากทั้งเจียงโจวและเมืองหลิว พวกเขาย่อมไม่มีใครกล้าที่จะเบี้ยวหนี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์วันนี้ หากพวกเขากล้าเบี้ยวหนี้ขึ้นมา ต่อไปพวกเขาคงยากที่จะเข้าวงสังคมได้อีก
“แน่นอนครับ นายน้อยอู๋ชนะการแข่งขัน ย่อมต้องได้รับเงินครึ่งหนึ่ง!” ชายหนุ่มจากทางฝั่งเจียงโจวเอ่ยคำขึ้น
“ครึ่งหนึ่ง?” อู๋ฝานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางเอ่ยถาม “ตามกฎการเดิมพัน อีกครึ่งหนึ่งจะต้องแบ่งอย่างเท่าเทียมให้บรรดาผู้วางเดิมพันข้างคนชนะ นอกจากผมที่เดิมพันตัวเองแล้ว มีใครที่เดิมพันข้างผมบ้างไหมล่ะครับ?”
ทุกคนต่างชะงัก ตอนนี้เองที่พวกเขาจำได้ว่าก่อนเริ่มการแข่งขัน อู๋ฝานวางเดิมพันข้างตัวเองชนะหนึ่งหยวน ในเวลานั้นเขาถูกคนอื่นเยาะเย้ยเพราะวางเดิมพันแสนน้อยนิด แต่ขณะนี้ หนึ่งหยวนนั้นกลับกลายเป็นเงินจำนวนอันมหาศาลซะแล้ว
เพราะนอกจากอู๋ฝาน ก็ไม่มีใครเดิมพันว่าเขาจะชนะแม้แต่คนเดียว แม้ชายหนุ่มจะวางเดิมพันเพียงแค่หนึ่งหยวน แต่เพราะไม่มีใครที่ซื้อเดิมพันว่าเขาจะชนะ ดังนั้นจึงได้รับเงินอีกครึ่งที่เหลือทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
ด้วยเหตุนี้ อู๋ฝานจึงคว้าเอาเงินเดิมพันทั้งกองไปเป็นของตัวเอง
อู๋ฝานถือบัตรธนาคารพร้อมมองกลุ่มคน “ผมรับทั้งหมดไว้ คงไม่มีปัญหาอะไรกันใช่ไหมครับ?”
ทุกคนต่างส่ายหน้าราวมึนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น
พวกเขาเคยวางเดิมพันกันเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอสถานการณ์อย่างอู๋ฝาน ที่เดิมพันข้างตัวเองชนะเพียงคนเดียวและคว้าเอาชัยชนะมาได้จริง อีกทั้งอีกฝ่ายยังวางเดิมพันเพียงแค่หนึ่งหยวน มันเป็นจำนวนเดิมพันที่ตอนแรกมีแต่คนหัวเราะขบขัน
เชื่อว่าหลังวันนี้ มุกเดิมพันหนึ่งหยวนของอู๋ฝานจะต้องถูกบอกเล่าต่อในวงสนทนาของคนเหล่านี้อย่างแน่นอน