ตอนที่ 170 การยั่วยุ
ชื่อของเขาคือหมัวชุ่ย และแท้จริงแล้วเขาเป็นพี่ชายของ [สุนัขจิ้งจอกเลือดปีศาจ] ที่เสียชีวิตในการทด สอบครั้งที่สอง!
และเขาโทษการตายของน้องชายเขาว่าเกิดจากพวกถังลี่เสวี่ย เพราะพวกเขาเข้าร่วมการทดสอบเดียวกัน กับน้องชายของเขา
หมัวปุยถึงกับสาบานต่อหน้าพวกเขา และนักเรียนคนอื่นๆ ว่าเขาจะไม่มีวันให้อภัยสําหรับสิ่งที่พวกเขาทํากับ น้องชายของเขา และเขาจะสอนบทเรียนอันโหดร้ายให้พวกเขาด้วยการท้าทายพวกเขาทุกครั้งที่พวกเขาได้รับ ชัยชนะมากกว่าสามครั้ง
ถังลี่เสวี่ยขมวดคิ้ว หลังจากที่เธอได้ยินเรื่องราวของพวกเขา และคิดว่า
หมัวก่ยเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ไร้เหตุผลจริงๆ! เขาเป็นคนประเภทเดียวกับน้องชายของเขา เขากลั่นแกล้งผู้ที่ อ่อนแอกว่าเขา เขากลับไม่รู้สึกอะไร แต่มารู้สึกไม่ยุติธรรมเมื่อถูกจิ้งจอกที่แข็งแกร่งกว่าทําร้ายบ้าง น่าเกลียดจ ริงๆเลย!!
อย่างไรก็ตาม ดวงตาสีฟ้าบุษราคัมของถังลี่เสวี่ยเปล่งประกายเจิดจรัสด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ เธอต้องการทดสอบความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเธอกับจิ้งจอกระดับ [หายาก] จากคลาสชั้นสูงอย่างหมัวชุ่ยคนนี้
แม้ว่าพวกเขาจะยุ่งอยู่กับการพูดคุยกันระหว่างทาง แต่พวกเขาก็ยังสามารถไปถึงอาคารการศึกษาได้ทันเวลา
ถังลี่เสี่ยเดินตามหลี่จิง และคนอื่นๆจากด้านหลัง และพวกเขาเดินไปที่ที่จัดชั้นเรียนแบบผสมในวันนี้
เมื่อถึงลี่เสวี่ยเข้าสู่ชั้นเรียนแบบผสมกับคนอื่นๆ เธอตระหนักว่านักเรียนที่นี่สวมชุดคลุมสามสี: น้ําเงิน แดง และด่า
เช่นเดียวกับที่อาจารย์เหมยหลานพูดกับพวกเขาก่อนหน้านี้ นักเรียนชุดสีฟ้าอยู่ในชั้นเรียนผู้ตรวจสอบเหมือนกับพวกเขา แต่อยู่ภายใต้อาจารย์ที่แตกต่างกัน นักเรียนชุดแดงมาจากคลาสปฏิบัติการ ในขณะที่นักเรียนชุดดํามาจากคลาสชั้นสูง
“อืม อืม… ดูนี่สิ นักเรียนชั้นผู้ตรวจสอบผู้หยิ่งยโสสุดท้ายก็ได้รับบทเรียนในที่สุด! ฉันสงสัยว่าแกยังจะกล้าหยิ่งเหมือนเมื่อก่อนไหม ฮ่าฮ่าฮ่า… โอ้ น่ากลัวจัง บางที่ฉันควรเรียกผู้อาวุโสจากคลาสชั้นสูงกลับมาสอนบทเรียนที่โหดร้ายกับพวกแกเหมือนเมื่อวาน ฮ่าฮ่าฮ่า..” นักเรียนชุดแดงเลือดหนึ่งหัวเราะออกมาดัง ๆ ขณะที่เยาะเย้ยกลุ่มของถังลี่เสวี่ย
“นั่นคือสิ่งที่แกได้รับเมื่อแกเย่อหยิ่งเกินไป! ยังจะกล้าพูดว่าแกทุกคนก็จะเอาชนะนักเรียนคลาสปฏิบัติการทุกคน!!” นักเรียนชุดแดงเลือดคนอื่นตะโกนใส่พวกเขา
หลี่จึง กันอาโอเมียว ปิงอี้และเฮยหยิงห่าวจ้องเขม็งไปที่จิ้งจอกเหลือง หวงห่าว แต่หวงห่าวยังคงทําราวกับว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
จากปฏิกิริยาของพวกเขา ถังลี่เสี่ยสามารถเดาได้ว่าคําพูดที่เย่อหยิ่งที่นักเรียนชุดแดงพูดนั้น มาจากจิ้งจอกสีเหลืองที่โง่เขลาอย่างแน่นอน
ถังลี่เสวี่ยและคนอื่นๆ ไม่สนใจการยั่วยุทั้งหมดของพวกเขา และเดินไปที่ที่นั่งว่างหลายที่ที่มุมขวาของห้องเรียน
อย่างไรก็ตาม นักเรียนชุดแดงหลายคนลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว และนั่งที่ว่างหลายที่ ก่อนที่กลุ่มของถังลี่เสวี่ยจะนั่งบนที่นั่งเหล่านั้น
ในขณะที่ถังลี่เสวี่ยเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว และเธอก็กําหมัดแน่นขึ้น
“นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คลาสปฏิบัติการทําได้หรองั้นหรอ” ถังลี่เสวี่ยถามด้วยน้ําเสียงเยือกเย็น แต่เสียงของเธอ ยังคงหวานหูของทุกคนเหมือนเมื่อก่อน
“ไม่แน่นอน ที่รัก! อะไรนะ คุณต้องการสนุกกับพวกเราทุกคนไหมล่ะ แต่เราต้องตรวจสอบรูปลักษณ์ของคุณก่อนน้า เพื่อดูว่ามันเหมาะกับรสนิยมของเราหรือไม่ ทําไมคุณไม่เปิดหน้ากากและให้พวกเราเห็นคุณล่ะ?” นักเรียนชุดแดงอีกคนตอบขณะเยาะเย้ยใส่ถังลี่เสวี่ย
“แก! แม้ว่าใบหน้าของเสวียตัวน้อยของเราจะถูกทําลายเพราะวิวัฒนาการของเธอ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแกมีสิทธิ์ที่จะล้อเลียนรูปลักษณ์ของเธอ! ตอนนี้ ขอโทษเสี่ยน้อยซะ หรือฉันจะ… ฉันจะถุยน้ําลายใส่คุณ!” หวงห่าวตะโกนอย่างโกรธที่นักเรียนชุดแดง
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของฉันที่น่าเกลียดหรือถูกทําลาย ทําไมปากของคุณถึงพูดพล่ามทุกอย่างดังมาก! เฮ้อ… ถ้าฉันไม่รู้จักคุณตั้งแต่การทดสอบนะ เฮ้อ… นี่คือเพื่อนร่วมทีมในตํานานงั้นหรอ ถังลี่เสวี่ยจ้องไปที่หวงห่าว แต่เธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องโกรธ ร้องไห้ หรือหัวเราะเยาะความโง่เขลาของเขา
อื่ม แต่ก็สะดวกสําหรับฉันอยู่แล้ว เพราะฉันไม่ต้องอธิบายให้ทุกคนหรือผู้สอนที่สอนในชั้นเรียนผสมนี้ฟังว่า ทําไมฉันถึงสวมหน้ากากในชั้นเรียน ฉันคงต้องขอบคุณจิ้งจอกเหลืองสําหรับเรื่องนี้ ถังลี่เสวี่ยพยักหน้าด้วย ความพึงพอใจในท้ายที่สุด
“โอ้ย หน้าเธอน่าเกลียดมากจนต้องใส่หน้ากากปิดหน้า! ฮ่าฮ่าฮ่า…ฉันก็คิดว่าคุณสวยมากซะอีก เพราะเสียงของคุณไพเราะขนาดนั้น แต่ใครจะรู้ว่าเป็นผู้หญิงขี้เหร่ แต่ทําเป็นลึกลับ! คุณสวมหน้ากากของคุณให้แน่นๆ แล้วกันนะ จะได้ไม่ต้องมีใครอ้วกเพราะเห็นใบหน้าที่น่าขยะแขยงของคุณ” นักเรียนชุดแดงจ้องไปที่ถังลี่เสวี่ยด้วยความรังเกียจ และเธอก็ทําราวกับว่าเธออยากจะอ้วกออกมา
เฮยหยิงห่าวกัดฟันจนเหงือกเลือดออก เขาก้าวออกมาพร้อมที่จะต่อสู้จนตายกับนักเรียนคลาสปฏิบัติการ แต่ถังลี่เสวี่ยรีบตบไหล่ของเฮยหยิงห่าวเพื่อให้เขาสงบลง
“เสวี่ย! ได้โปรด อย่าหยุดฉัน! ฉันต้องฆ่าพวกเลวๆ พวกนี้ให้หมดในวันนี้ มิฉะนั้นฉันจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับคุณโดยตรงได้ในอนาคต!” เฮยหยิงห่าวจ้องไปที่นักเรียนชุดแดงทั้งหมด และเจตนาฆ่าอย่างเข้มขันของเขาทําให้พวกนั้นสั่นเทาเล็กน้อย
ถังลี่เสวี่ยไม่สนใจที่จะปลอบโยนเฮยหยิงห่าว ขณะที่เธอก้าวไปข้างหน้าเขา และจ้องมองไปที่นักเรียนชุดแดงทั้งหมด
“อะ.. คุณต้องการอะไรงั้นหรอ! รู้หรือไม่ว่าห้ามต่อสู้ในห้องเรียน! ถ้ากล้าโจมตีพวกเราที่นี่ คุณจะถูก ลงโทษอย่างรุนแรง!” นักเรียนชุดแดงพูดกับถังลี่เสวี่ยด้วยน้ําเสียงประหม่า
นักเรียนชุดแดงทุกคนรู้ดีถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของกลุ่มถังลี่เสวี่ย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะท้าทายโดยตรง แต่พวกเขารู้ว่าไม่มีใครกล้าที่จะต่อสู้ในห้องเรียน นั่นคือเหตุผลที่พวกเขากล้าที่จะยั่วยุกลุ่มของถังลี่เสวี่ยอีกครั้ง และอีกครั้ง
“เหม็นมาก…” ถังลี่เสี่ยบีบจมูกของหน้ากากจิ้งจอกของเธอ และทําราวกับว่าเธอได้กลิ่นบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์
“อะไร?” นักเรียนชุดแดงถามด้วยความสงสัย
“ปากคุณเหม็นไปหมดเลย! เมื่อเช้าคุณกินขี้ตัวเองมาหรือไง! แล้วทําไมเอาแต่พูดพล่ามมากมายในตอนนี้! มันทําให้มีแต่กลิ่นเหม็นไปหมดจากปากของคุณ! แล้วสิ่งที่คุณทํามันก็ไร้สาระมาก ฉันว่าพวกคุณจะกลายเป็น พวกไร้ประโยชน์ ถ้ายังทําตัวไร้สาระไม่เลิกแบบนี้!” ถังลี่เสวี่ยกําลังพ่นการด่าเยาะเย้ยของเธอในลมหายใจเดียว
เฮย หยิ่งห่าว : ” “
ปิงอี้: “…”
หลี่จึงและคนอื่นๆ : “…”
นักเรียนชุดแดง: “…”
นักเรียนในห้องอ้าปากค้าง และตะลึงเมื่อได้ยินคําพูดของถังลี่เสวี่ย และห้องเรียนก็เงียบไปครู่หนึ่ง
ในฐานะน้องสาวคนเล็กของแก๊งอันธพาล บางครั้งเธอก็แอบได้ยินพี่ชายของเธอด่าคนอื่นแบบนี้ในโทรศัพท์ลับหลังเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องคัดลอกคําพูดของพี่ชายเพื่อสอนสุนัขจิ้งจอกที่โง่เขลาเหล่านี้ถึงวิธีการด่าผู้คนอย่างถูกต้อง
“คุณ… คุณ…” นักเรียนหญิงชุดแดงพูดตะกุกตะกักจนเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก ในขณะที่ชี้นิ้วไปที่ถังเสวี่ย
“อะไรหรอ ไก่ทั้งสามคนแบบคุณ กล้ายอมรับคําท้ายฉันมั้ยล่ะ! พวกคุณสามคนกับฉันคนเดียวตกลงมั้ย?!” ยังลี่เสี่ยชี้ไปที่นักเรียนชุดแดงสามคนและท้าทายพวกเขา
“คุณคนเดียวกับเราสามคนงั้นหรอ?” นักเรียนชุดแดงสามคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“เสวี่ย!”
“เสี่ยน้อย!”
เฮยหยิงห่าวและปิงอี้เรียกถังลี่เสี่ยด้วยน้ําเสียงที่เป็นกังวล และพวกเขาพยายามที่จะหยุดถังลี่เสวี่ยแต่เธอยังคงแน่วแน่ในเรื่องนี้ เนื่องจากเธอต้องการทดสอบความแข็งแกร่งในปัจจุบัน และความสามารถขั้นเทพอันใหม่ของเธอ
สรุปก็คือถังลี่เสวี่ยต้องการใช้นักเรียนคลาสปฏิบัติการสามคนนี้เป็นหนูทดลองของเธอ
“ชิ…ฉันคิดว่าคุณค่อนข้างแข็งแกร่งและฉลาด แต่คุณก็แค่ไอ่งเง่าปากใหญ่อีกคน! ทําให้ฉันตกใจแทบตาย! ดังนั้นมันจริงที่ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ! เอาล่ะ เรายอมรับ! ดังนั้นเป็นคุณคนเดียวที่จะต่อสู้กับเราสามคนใช่ไหม” นักเรียนชุดแดงหัวเราะเยาะใส่ถังลี่เสวี่ยราวกับว่าเธอกําลังหัวเราะเยาะความโง่เขลาของถังเสวี่ย
“ใช่แล้ว เมื่อไหร่ดีล่ะ?” ถังลี่เสี่ยพยักหน้า และถามด้วยน้ําเสียงขี้เกียจ
“วันนี้หลังจากคลาสนี้จบลงแล้ว! เราจะรอคุณ อย่าเพิ่งหนีไปไหนล่ะ!” นักเรียนชายชุดแดงลุกขึ้นจากที่นั่ง และตอบถึงลี่เสวี่ยอย่างเย็นชา
นักเรียนชุดแดงอีกสองคนลุกขึ้นจากที่นั่ง ขณะเยาะเย้ยถังหลี่เสวี่ย และเดินกลับไปที่ที่นั่งก่อนหน้าของพวกเขา
ถังลี่เสี่ยยังหัวเราะเยาะพวกเขาในขณะที่คิดว่า
วิธีการของสามคนนี้ไม่ปกติ พวกเขาดูเด็ดเดี่ยว และโอ้อวดเกินไป พวกเขาคงได้รับรางวัลจากผู้สอนและพี่ ของ [สุนัขจิ้งจอกเลือดปีศาจ] สําหรับการทําเช่นนี้… นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาดูกระตือรือร้นมาก
ปิงอี้และเฮยหยิงห่าวต้องการพูดอะไรบางอย่างกับถังเสวี่ย แต่ผู้สอนวิชาผสมก็เข้ามาในห้องเรียนแล้ว ดัง นั้นพวกเขาจึงรีบนั่งบนที่นั่งว่างตรงหน้าพวกเขา
ผู้สอนเป็นผู้หญิงที่สวยด้วยผมสั้นสีเขียว แม้แต่หจิ้งจอกขนยาวคู่หนึ่งบนหัวของเธอ และหางขนยาวของเธอก็สีเขียวด้วย
เธอสวมชุดสีเขียวอ่อนที่เข้ากับผมของเธออย่างลงตัว เธอสามารถกลายเป็นซูเปอร์โมเดลชั้นนําในโลกก่อนหน้าของถังลี่เสวี่ยได้อย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่สถาบันจิ้งจอกนับหมื่นที่ซึ่งผู้หญิงสวย และผู้ชายหล่อมีอยู่แทบทุกหนทุกแห่ง ลักษณะของผู้สอนนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยในหมู่พวกเขาเท่านั้น
แต่ออร่าที่คุ้นเคยของผู้สอนคนนี้คือประเภท สาวข้างบ้าน ที่ทําให้ผู้คนรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้เธอ ออร่าที่ผ่อนคลายของเธอทําให้เธอดูเรียบง่าย ใจดี และเข้าถึงได้ง่ายเมื่อเทียบกับผู้สอนคนอื่นๆ
แม้แต่ถังลี่เสวี่ยก็ยังรู้สึกว่าผู้สอนที่มีผมสีเขียวคนนี้อาจจะใจดีมากกว่าผู้สอนซาดิสม์ของเธออย่างอาจารย์เหมยหลาน
“อรุณสวัสดิ์ ทุกคน! วันนี้ฉันเป็นครูสอนคลาสผสมของคุณ ซูเจี้ยน ฉันไม่ใช่ผู้สอนส่วนตัวของคุณ เรียกฉันว่าอาจารย์ซูก็ได้ โอเคทุกคน! วันนี้ฉันจะสอนคุณเกี่ยวกับภูมิศาสตร์โลกของเรา ดังนั้นโปรดตั้งใจให้ดี เพราะบทเรียนนี้ค่อนข้างสําคัญสําหรับพวกคุณทุกคน!” ครูซูแสดงรอยยิ้มที่เรียบง่ายและแนะนําตัวเองด้วยเสียงที่ ผ่อนคลายของเธอ
“นักเรียนที่อยู่ตรงนั้น… ได้โปรด นําเท้าของคุณลงจากโต๊ะเถอะ!” ครูซูชี้นิ้วไปที่นักเรียนคนหนึ่งและถามอย่างสุภาพ
ทุกคนรวมถึงถังลี่เสวี่ยมองไปที่นักเรียนที่อาจารย์ซูบอก และตระหนักว่านักเรียนมาจากคลาสชั้นสูง เนื่องจากเขาสวมชุดคลุมสีดํา
เขานั่งในขณะที่วางเท้าทั้งสองลงบนโต๊ะข้างหน้าเขาอย่างสบาย ๆ เหมือนพวกเด็กเกเรในโลกก่อนหน้าของถังลี่เสี่ย
แม้หลังจากที่อาจารย์ซูเตือนเขาแล้ว นักเรียนชั้นยอดก็พยักหน้าเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ใส่ใจที่จะเอาเท้าของ เขาลงจากโต๊ะ
ถังลี่เสวี่ยขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ แต่เธอก็เข้าใจจากคําอธิบายของอาจารย์เหมยหลานก่อนหน้านี้ว่า นักเรียนชั้นยอดทุกคนจากคลาสชั้นสูงนั้นพิเศษ และแม้แต่ผู้สอนก็ไม่สามารถทําอะไรกับพวกเขาได้
นักเรียนชั้นยอดทุกคนจากคลาสชั้นสูงนั้นเป็นทรัพย์สินอันล้ําค่าของสถาบันจิ้งจอกนับหมื่น และพวกเขาได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยทรัพยากรที่ดีที่สุด พวกเขาเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างจากนักเรียนคลาสผู้ตรวจสอบ หรือนักเรียนคลาสปฏิบัติการ ซึ่งพวกเขาจําเป็นต้องยั่วยุ และต่อสู้กันเองเพื่อพิสูจน์ตัวเองและได้รับการยอมรับเพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าร่วมคลาสชั้นสูงในภายหลัง
เช่นเดียวกับที่ถังเสวี่ยคิด อาจารย์ซูเพิกเฉยต่อพฤติกรรมอวดดีของนักเรียนชั้นยอดคนนั้น และเดินไปที่กระดานไวท์บอร์ดหน้าห้องเรียน
เมื่ออาจารย์ซูหยิบแปรงใต้กระดานไวท์บอร์ด ถังเสวี่ยและอีกคนคิดว่าบทเรียนของวันนี้จะเริ่มขึ้นในที่สุด ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มให้ความสนใจกับไวท์บอร์ดมากขึ้น
ครูซูสะบัดแปรงเบา ๆ ด้วยนิ้วที่เรียวยาวของเธอ และแปรงก็หายไปจากการจับของเธอ
บูมมมมม w!!!
นักเรียนชั้นยอดผู้อวดดีกระเด็นถอยหลังเหมือนโดนกระสุนปืนใหญ่ และร่างกายส่วนบนของเขาครึ่งหนึ่งติดอยู่บนกําแพงทึบหลังห้องเรียน
ร่างกายของเขากระตุกอย่างรุนแรงสองสามครั้ง จากนั้นเขาก็หมดสติไป
นักเรียนทุกคนในห้องเรียนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แต่อาจารย์ซูไม่สนใจปฏิกิริยาที่ตกตะลึงของพวกเขา และพูดว่า
“เอาล่ะเด็กน้อย! มาเริ่มบทเรียนสําหรับวันนี้กันเถอะ!”
“อะไรกันเนี่ย! อาจารย์เหมยหลานช่างโกหกเก่งมาก! นักเรียนชั้นยอดทุกคนคือคนพิเศษของฉัน หืมมม! เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ซูคนนี้เกือบจะฆ่าคนนั้นด้วยแปรงเพียงอันเดียว!” ถังเสวี่ยเกือบจะสาปแช่งอาจารย์เหมยหลานออกมาดัง ๆ ในใจของเธอ
แปรงนั้นบินเร็วมาก แม้แต่ถังลี่เสวี่ยก็ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้หลังจากที่อาจารย์ซูสะบัดมัน
“โอเค ฉันขอถอนคําพูดทั้งหมดของฉันเกี่ยวกับผู้สอนคนนี้ว่าใจดีกว่าผู้สอนเหมยหลานมาก… พวกเขามาจากสายพันธุ์เดียวกันอย่างแน่นอน!’ ถังลี่เสวี่ยคิดในขณะที่ปากของเธอกระตุกเล็กน้อย
“แต่ว่ามาตรฐานความแข็งแกร่งของครูฝึกแข็งแกร่งขนาดไหนกันนะ! อยากรู้จังว่าอาจารย์เหมมยหลานใช้พละกําลังขนาดไหน เมื่อตอนที่ประลองกับพวกเราสามคน?! ฉันควรจะลองถามเธอทีหลังนะ!’ ถังลี่เสวี่ยตัดสินใจ
คราวนี้ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นอาจารย์ซูอีก แม้แต่นักเรียนชั้นยอดคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าพูดหรือประท้วงอะไร และพวกเขาก็ประพฤติตัวดีมาก
มันเป็นความจริง ความแข็งแกร่งของอาจารย์ทําให้พวกเขาหวาดกลัวอย่างมาก แต่ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องนั้น บทเรียนของเธอในครั้งนี้ได้เปิดหูเปิดตาและสําคัญมาก ทําให้พวกเขาไม่กล้าพลาดเลย
บทเรียนนี้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ของโลกอมตะ และสถานการณ์ปัจจุบัน!
มีกี่ทวีปในโลกอมตะ และทวีปวายุสวรรค์ของพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใดเมื่อเทียบกับทวีปอื่น?
ทําไมทั้งเผ่าพันธุ์อสูร และเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงเกลียดชังกันถึงกระดูก แต่ก็ยังไม่เกิดสงคราระหว่างพวกเขา?
อาจารย์ถามพวกเขาที่ละคนเพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของพวกเขา และถังลี่เสวี่ยต้องยอมรับว่าอาจารย์ซูทําได้ดีมาก เนื่องจากครั้งนี้นักเรียนทุกคนในห้องเรียนฟังเธออย่างสุดใจ