“คนนอกงั้นเหรอ?”
หลังจากได้ยินแบบนั้น จีเย่ก็มองไปที่อู่เฉียวและผู้เล่นคนอื่นจากภูเขามังกรคู่
หุบเขาร้อยเกสรอยู่ในที่ลับและซับซ้อน โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีชนพื้นเมืองคนใดในโลกนี้จะมาที่นี่โดยบังเอิญ!
นอกจากนี้ ชนพื้นเมืองทั่วไปจะไม่มีความกล้าที่จะไล่ตามแรงศักดิ์สิทธิ์
ต้องสังเกตว่าในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ติดตามตูคู่คิวเปยและมีชีวิตอยู่มาร้อยปี แร้งศักดิ์สิทธิ์จึงมีระดับวิสามัญอันดับ 6
ไม่ใช่แค่คนทั่วไป แม้แต่สัตว์ร้ายและแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญทั่วไปก็ไม่สามารถเทียบกับมันได้
ดังนั้นคนเหล่านั้นจึงเป็นได้แค่…
“ไปดูกันเถอะ!”
จีเผ่พยักหน้าให้กับผู้คนรอบตัวเขา
จากนั้นก็มีประกายแสงสีเหลืองบนตัวเขา และเขาก็มาถึงทางเข้าหุบเขาร้อยเกสรด้วยการย่นระยะทาง
เมื่อเขามาถึงทางเข้า เขาก็พบว่าคนนอกที่มายังหุบเขาร้อยเกสรเป็นหญิงสาวคน!
หนึ่งในหญิงสาวนั้นสูงและงดงาม เธอสวมชุดยาวสีเขียว
หญิงสาวอีกคนสวมชุดสีขาว ผิวของเธอดูซีดเซียว ใบหน้าของเธอซีดเล็กน้อยภายใต้ดวงอาทิตย์ เธอดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกที่คลุมเครือและดูราวกับเทพธิดา
ทั้งสองสาวมีความงามที่เป็นจริง
ด้วยชุดที่ปลิวไสวภายใต้สายลมของหุบเขาร้อยเกสร พวกเธอดูงดงามราวกับเทพเจ้า
หากเขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ในสนามรบแห่งโชคชะตาที่มีภูมิหลังมังกรหยก เขาอาจจะเข้าใจผิดว่าหญิงสาวสองคนนั้นเป็นสาวร่างบางทั่วไปที่เขารู้จัก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหญิงสาวทั้งสองจะงดงามมาก แต่ก็ไม่สามารถหยุดเขาจากกระถูกดึงดูดไปที่หญิงสาวคนที่สาม
หญิงสาวคนที่สามเป็นสาวทั่วไปที่มีใบหน้าอวบอ้วนกลม เธอสวมชุดสีน้ําเงินที่ค่อนข้างแน่นและถุงมือ
ในปัจจุบัน หญิงสาวคนนั้นกาลังขี่แพนด้าที่สูงมากกว่า 2 เมตร
แพนดายังคงแบกสัมภาระขนาดใหญ่บนหลังของมันอีกด้วย พวกมันจะต้องเป็นของทั้งสามสาว
มันยังเป็นเหตุผลให้หญิงสาวในชุดสีเขียวและสีขาวดูงดงาม ท้ายที่สุด ไม่ว่าพวกเธอจะงดงามมากเพียงใด แต่พวกเธอจะมีความงดงามน้อยลงหากพวกเธอแบกสัมภาระ
ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือแพนด้ากาลังเดินสองขาโดยจับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นขนมปังสีเขียวด้วยกรงเล็บั้งสองข้างด้านหน้าและกัดมัน
“หลงเออร์!”
ในขณะนั้นเอง หยางกัวผู้ที่เพิ่งมาถึงพร้อมกับแรงศักดิ์สิทธิ์นั้นก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นหญิงสาวในชุดขาว
“ฉันฝันไปหรือเปล่า?”
จากนั้นเขาก็พึมพ่าด้วยความไม่เชื่อมในดวงตาที่เบิกกว้างของเขา
“กัวเออร์!”
ดวงตาที่สงบนิ่งของหญิงสาวที่ดูเหมือนเทพธิดานั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธอเปิดปากกล่าวด้วยน้ําเสียงที่แผ่วเบา
ทว่าเสียงนั้นก็แผ่ไปถึงหูของหยางกัวกับจีเย่ราวกับว่าเธอกระซิบข้างพวกเขา
“หลงเออร์!”
หลังจากได้ยินแบบนั้น ในที่สุดหยางกัวก็ยืนยันได้ว่าหญิงสาวคนนั้นก็คือเซียวเหล่งนึ่งผู้ที่เขาฝันถึงมา 16 ปี
เวกระโดดลงจากหุบเขาราวกับอินทรีย์ยักษ์โดยปราศจากความลังเล โดยใช้ทักษะคล่องแคล่วที่ดีที่สุดของสานักสุสานโบราณ
“หลงเออร์ เป็นเธอจริงด้วย!”
หลังจากเขากอดเซียงเหล่งนึ่ง ดวงตาของหยางกัวก็เต็มไปด้วยน้ําตาอันร้อนแรง เขาไม่สนใจภาพลักษณ์ของนักดาบแร้งและปล่อยให้น้ําตาไหลออกมา
“กัวเออร์ ท่าไมนายถึงร้องไห้ล่ะ? ฉันปลอดภัยดีเห็นมั้ย?”
ในทางกลับกัน เซียวเหล่งนึ่งถอดหน้ากากและลูบผมของเขาเบาๆ ในขณะที่ปลอบโยนเขา เธอดูเท่กว่าหยางกัวมาก
หลังจากการฝึกฝนพระสูตรหัวใจสาวหยกของสํานักสุสานโบราณตั้งแต่เด็ก เธอก็ได้รักษาความสงบนิ่งในจิตใจไว้เสมอ แต่มันก็พังทลายไปก่อนหน้านี้เพราะหยางกัว อย่างไรก็ตาม เธอสามารถฟื้นฟูมันขึ้นมาได้ในช่วงสิบปีแห่งความโดดเดี่ยวที่กันหุบเขาไว้ใจ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ในที่สุดเธอก็ได้พบหยางกัวอีกครั้ง อันที่จริงเธอตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าหยางกัว แม้ว่าเธอจะดูสงบนิ่งก็ตาม!
“ห้ะ? เกิดอะไรขึ้นกับแขนของนายล่ะ?”
จากนั้นเซียวเหล่งนึ่งก็ลืมตาและสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของแขนที่ถูกตัดของหยางกัว
“เธอคือเซียวเหล่งนึ่งตัวจรนิ่ง มคนมาหาเธอก่อนหรือเปล่า?”
จีเย่ค่อนข้างสงบในตอนที่เขาเห็นแบบนั้น
เขารู้ว่าคนเหล่านั้นเป็นเพียงภาพฉายในสนามรบแห่งโชคชะตา ดังนั้นเขาจึงสงบนิ่งอย่างแท้จริงเมื่อเผชิญกับฉากดังกล่าว
นอกจากนี้ เขายังค่อนข้างมั่นใจว่าเมื่อถิ่นฐานบนโลกมีคุณสมบัติที่จะอัญเชิญหยางกัวกับเซียวเหล่งนึ่ง พวกเขาจะมายังถิ่นฐานเดียวกันอย่างแน่นอน และจะไม่แยกจากกันอีกต่อไป
ดังนั้นจีเยจึงไม่ตื่นเต้นกับการพบกันอีกครั้งของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม เขาค่อนข้างแปลกใจกับการมาถึงของเซียวเหล่งนึ่ง
เขาเคยพยายามที่จะเอาชนะความชื่นชมของอิดเต็งที่น่านับถือ จิวแป๊ะทง และวีรบุรุษคนอื่นในหุบเขาร้อยเกสรในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ก็ได้รับแจ้งจากผู้อาวุโสเมิงที่คุ้นเคยกับนิยายต้นฉบับเป็นอย่างดี เขาจะไม่มีวันมองข้ามเซียวเหล่งนึ่ง ตัวเอกของนิยายเรื่องนี้ไปได้
อันที่จริง นอกเหนือจากวีรบุรุษแล้ว หลี่ชิงและฉินเยวหยูก็อยู่ในทีมของผู้อาวุโสเมิงเช่นกัน
ภารกิจของพวกเขาก็คือการตามหาเซียวเหล่งนึ่งในหุบเขาไว้ใจและพาเธอกลับมารวมตัวกับหยางกัวในหุบเขาร้อยเกสร
หากพวกเขาทําแบบนั้น คู่รักจะขอบคุณพวกเขามากอย่างแน่นยอนและจะมายังป้อมปราการภูเขามังกรคู่ในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีรคนไปที่หุบเขาได้ใจก่อน!
“พวกเธอมาจากถิ่นฐานอื่นงั้นเหรอ?”
จีเย่มองไปที่ร่สาวหน้ากลมผู้ที่ขี่หมีแพนด้า
แม้ว่าจะแยกความแตกต่างระหว่างวีรบุรุษกับผู้เล่นได้ยาก แต่พวกเขาก็มีสไตล์ และเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกันซึ่งสามารถระบุได้ด้วยการสังเกตอย่างใกล้ชิด
ตัวอย่างเช่น หญิงสาวหน้ากลมนั้นสวมถุงมืออุ่น เสื้อโค้ทสีน้ําเงินของเธอมีลักษณะเป็นเสื้อโค้ทจากโลกเช่นกัน มีแม้กระทั่งแบรนด์อาร์กติกอยู่ด้วย
“เป็นเธองั้นเหรอ?”
ในขณะนั้นเอง ผู้เล่นที่เฝ้าดูหยางกัวและเย่ต่อสู้กันก็มาถึงทางเข้าหุบเขาเช่นกัน
หลังจากเห็นสาวอ้วนกลม อู่เฉียวก็เปลี่ยนสีหน้าของเธออย่างรวดเร็ว
“เธอคือใครกัน? เธอรู้จักงั้นเหรอ?” อันหยวนเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“ฉันรู้จักเธอเช่นกัน!”
“เธอคือ สาวแพนด้า สตรีมเมอร์คนแรกของจังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้จากเมืองกวน!”
ดวงตาของคุณชายบักเบิกกว้างเล็กน้อย
“เมืองกวน…”
เสียงของชูหยินค่อนข้างต่า
เธอมาจากเมืองกวนเช่นกัน และเช่นเดียวกับอู่เฉียว ถิ่นฐานแรกของเธออยู่ในอาณาเขตของเมืองกวน
ทั้งสองเสียชีวิตก่อนที่พวกเธอจะมาถึงป้อมปราการหุบเขามังกรคู่ ดังนั้นพวกเธอจึงมีความรู้สึกที่ซับซ้อนเกี่ยวกับถิ่นฐานที่มาจากเมืองที่พวกเธออาศัยอยู่
“สตรีมเมอร์… ดังนั้นเธอต้องเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งโชคชะตาใช่มั้ย?”
เมื่อมองไปยังหญิงสาวหน้ากลม จีเย่ก็คิดกับตัวเอง
มันไม่ใช่ความลับอีกต่อไปที่ เมล็ดพันธุ์แห่งโชคชะตา” มีอยู่ในทุกอารยธรรม
การคาดเดาหลักในฟอรั่มก็คือใครก็ตามที่ถูกสตรีมน่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งโชคชะตาของอารยธรรมโลก ไม่อย่างนั้นประสบการณ์ของพวกเขาในดินแดนแห่งมรดกควรถูกเก็บไว้เป็นคามลับแทนที่จะถูกเผยแพร่