ตอนที่ 90-2 ป่วยหนัก
หลี่เว่ยหยางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ราวกับว่านางกําลังค้นหาอะไรบางอย่างและยกยิ้มขึ้นขณะเผชิญหน้ากับฮูหยินใหญ่
“ข้าได้ยินมาว่าบ้านหลังนี้มีสิ่งชั่วร้ายแอบแฝงอยู่ ทําให้ท่านแม่รู้สึกหวาดกลัวจนล้มป่วยเว่ยหยางเป็นคนขี้กลัวมาก..แล้วจะกล้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
“เว่ยหยาง!”
ฮูหยินใหญ่ตะคอกพร้อมกับจ้องมองนางด้วยความโกรธเคืองพลางถอนหายใจและกล่าวอย่างเย็นชา :
“ข้าจะต้องมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีความสุข ดังนั้นสิ่งต่าง ๆ เช่นภูตผีหรือสัตว์ประหลาดจะมิสามารถทําอันตรายข้าได้ เจ้าอย่ากล่าวเรื่องไร้สาระเช่นนี้อีก!!”
“ท่านแม่กล่าวถูกแล้ว หากเราเป็นคนดี สิ่งชั่วร้ายก็จะมิสามารถทําอันใดเราได้ และแน่นอนว่าคนดีอย่างท่านแม่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะต้องคุ้มครอง” หลี่เว่ยหยางกล่าวด้วยยิ้ม
ฮูหยินใหญ่เฝ้าดูการจากไปของเด็กสาวด้วยความโกรธแค้นที่พยายามระงับอยู่นาน ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นและเป็นลมล้มตึงไปในที่สุด
“ฮูหยินใหญ่!” แม่นมตูร้องตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ
จากนั้นก็เกิดความโกลาหลในการดําเนินการในตําหนักของฮูหยินใหญ่ โดยแม่นมตูรีบวิ่งไปตามแพทย์และเชิญคุณชายใหญ่หลี่หมินเฟิง
เมื่อหลี่หมินเฟิงเข้ามา เขาก็เห็นฮูหยินใหญ่นอนอย่างอ่อนแรงบนเตียงของนาง
“ท่านแม่!” เขาเดินไปที่เตียงอย่างรวดเร็วและเห็นเปลือกตาของฮูหยินใหญ่ค่อย ๆ เปิดขึ้น
“ท่านแม่เป็นอย่างไรบ้าง?”
“แม่สบายดี…”
ฮหยินใหญ่กล่าวด้วยท่าทีอิดโรยและถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทําให้หลี่หมินเฟิงรู้สึกหงุดหงิดและโกรธมาก:
“นังตัวแสบมาเยี่ยมท่านหรือ?”
“ใช่! คุณชายใหญ่…เมื่อครูคุณหนูสามพูดบางสิ่งที่ค่อนข้างน่าขนลุก ซึ่งนั่นทําให้ฮูหยินใหญ่หน้ามืดด้วยความโกรธ”แม่นมตกล่าวเบา ๆ
เมื่อหลี่หมินเฟิงทราบเช่นนี้จึงกล่าวด้วยความโกรธเคือง:
“นังตัวแสบนั่น!” เขาก้มศีรษะลง:
“ท่านแม่, ได้โปรดทานยาก่อน ท่านจะต้องหายดีในมิชและมิตกเป็นเหยื่อในกลอุบายของนาง! นางเป็นคนทําให้จางเล่อถูกส่งตัวไป ข้าจะต้องหาวิธีล้างแค้นนางอย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของ ฮูหยินใหญ่ก็เปลี่ยนไป:
“คราวนี้เจ้ารู้หรือยัง?! ข้าบอกเจ้ามานานแล้วว่าเว่ยหยางร้ายกาจมาก! ก่อนหน้านี้ข้าพยายามจะเผานางทั้งเป็นแต่นางมีสาวใช้ที่มาจากไหนมิทราบช่วยเอาไว้ โดยนังนั่นมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่เก่งกาจมาก
อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับจิวหยินเหนียงก็ส่งผลกลับมาที่ข้าเช่นกันทําให้พ่อของเจ้ามิยอมเหลียวแลข้าเลยและยังทําร้ายน้องสาวของเจ้าอีกด้วย ถ้าแม่จัดการกับนางมิได้ เจ้าก็คงจะจัดการมิได้เช่นเดียวกัน!”
หลี่หมินเฟิงพูดไม่ออก เขาเกลียดหลี่เว่ยหยางมาก แต่ด้วยสถานะปัจจุบันของนางในฐานะเซียนจูซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์ที่มีทักษะสูงเขาจึงไม่มีทางจัดการกับนางได้
“เรามสามารถทําอันใดนางได้!” ฮูหยินใหญ่รู้สึกหดหู แต่เมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางก็กล่าวว่า
“เอาพู่กันกับกระดาษมาให้ข้า!”
หลี่หมินเฟิงรู้สึกงุนงง:
“ท่านแม่ ท่านอาการมิค่อยดี เหตุใดท่านจึงอยากเขียนหนังสือในเวลานี้”
“เจ้ามิต้องกล่าวสิ่งใด รีบหยิบของมาให้ข้า!”
เมื่อได้ยินดังนั้นหลี่หมินเฟิงจึงสั่งให้คนรับใช่ไปหยิบแพู่กันและกระดาษมา ขณะที่เขาเฝ้าดูฮูหยินใหญ่เขียนจดหมายอย่างระมัดระวังด้วยมืออันสั่นเทา
“ท่านแม่กําลังเขียนจดหมายถึงท่านยายหรือ?” หลี่หมินเฟิงกล่าวด้วยอาการตกตะลึง
ท่านยายของหลี่หมินเฟิงเป็นผู้อาวุโสในครัวเรือนของบ้านตระกูลซี
ฮูหยินใหญ่พยักหน้า:
“ข้ากําลังร้องขอความช่วยเหลือจากท่านยายของเจ้าเพื่อแจ้งให้ท่านพ่อและพี่น้องทราบถึงปัญหาของข้าและเชิญพวกเขากลับมาที่เมืองหลวง”
หญิงชราเจียงเป็นบุตรสาวของหลินซิน แม่ทัพใหญ่ของแคว้นเป่ยเหลียง) นางไม่เพียงแต่มีความรู้และฉลาดเท่านั้น แต่ยังมีบุคลิกที่เข้มแข็งและสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วโดยนางมีบทบาทสําคัญในการช่วยเหลือเพียงกั่วกงเป็นอย่างมากและซีกั่วกงมีภารกิจสําคัญในการปกป้องชายแดนทางภาคใต้
แต่เนื่องจากมีอายุมาก หญิงชราซีจึงไม่ได้ติดตามเขาไปที่นั่นและยังคงอยู่ในบ้านของท่านแม่ทัพใหญ่ซีปกติแล้วฮูหยินใหญ่ไม่ต้องการรบกวนท่านแม่ของตนเอง เพราะสุขภาพของหญิงชราซีไม่ค่อยดีในช่วงนี้ ..
แต่ตอนนี้ฮูหยินใหญ่รู้สึกว่าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของตนเอง นางคงจะไม่สามารถจัดการกับหลี่เว่ยหยางได้
หัวใจของหลี่หมินเฟิงกําลังตื่นตระหนก เมื่อเขาเห็นฮูหยินใหญ่มีอาการสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้หลังจากเขียนอักษรได้เพียงไม่กี่คํา
ท่านแม่ป่วยหนักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ท่านแม่ควรทําทุกอย่างที่ต้องการทําในวันพรุ่งนี้ และวันนี้ควรพักผ่อนให้เพียงพอเสียก่อน” เขากล่าวด้วยน้ําเสียงทุ่มต่ําและฮูหยินใหญ่ทราบดีว่าตนเองไม่สามารถเขียนต่อได้นางจึงวางพู่กันลงและสั่งแม่นมต:
“สั่งคนรับใช่ให้เข้ามาช่วยข้าเปลี่ยนชุด”
หลี่หมินเฟิงหยุดนิ่งไปชั่วขณะก่อนที่จะเอ่ยว่า
“ท่านแม่จะไปไหน?”
“แทนที่จะส่งจดหมายมันจะดีกว่าหากข้าเดินทางไปด้วยตนเอง” ฮูหยินใหญ่ตอบอย่างเย็นชา
ไปเยี่ยมคฤหาสน์ของซีกั่วกงตอนนี้หรือ?
หลี่หมินเฟิงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากสุขภาพของฮูหยินใหญ่อ่อนแอมาก แต่นางก็ยังต้องการนั่งรถถ้าอยู่! นั่นไม่ใช่การแสวงหาความตายให้กับตนเองหรือ?
เขารีบพยายามห้ามปรามนาง แต่ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ฮูหยินใหญ่ก็ปฏิเสธ เนื่องจากคํากล่าวของหลี่เว่ยหยางที่บอกนั้นเป็นนัยอย่างชัดเจนว่าหลี่เสี่ยวหรันอาจมต้องการให้หลี่จางเล่อกลับมา! แล้วนางจะปล่อยให้ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร!นางต้องหาทางให้จางเล่อกลับมาที่บ้านตระกูลหลี่ให้ได้!
และตอนนี้แม้ว่านางจะพยายามอย่างเต็มที่ในการลุกขึ้นยืน ทว่าฮูหยินใหญ่กลับกระอักเลือดสีแดงสดออกมาทําให้ผู้มีอยู่รอบข้างต่างก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก