บทที่ 278 มือถือหรือคอมพิวเตอร์ เคยถูกคนเคลื่อนไหว

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ความกลุ้มใจที่อธิบายไม่ได้มันทำลายจิตใจของหยานชิงเจ๋อ หมัดของเขากำแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งข้อต่อนั้นขาวซีด รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่กลางฝ่ามือ

“พี่ชายสุดหล่อ เชิญคุณเต้นรำกับฉันสักเพลงได้ไหม?” เด็กสาวที่อยู่ข้างๆเรียกหยานชิงเจ๋ออยู่หลายครั้ง : “พี่ชายสุดหล่อ? คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

เธอเรียกอยู่นาน แต่หยานชิงเจ๋อไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเธอเลยสักนิด บนใบหน้าที่งดงาม แต่กลับแสดงออกอย่างเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

เวลานี้หญิงสาวคนนั้นถูกความโกรธที่เก็บกดเอาไว้ของหยานชิงเจ๋อทำให้ตกใจกลัว จนไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่หันกลับวิ่งออกไป

และเวลานี้ ที่ฟลอร์เต้นรำจู่ๆก็มีเสียงเอะอะขึ้นมา

“จูบเลย จูบเลย!” เสียงที่ตื่นเต้นของชายหนุ่มหญิงสาว ดึงสติหยานชิงเจ๋อกลับมาเล็กน้อย เขาหันกลับไปมอง อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าตกตะลึง

ในฟลอร์เต้นรำ ฟู่สีเกอกับเฉียวโยวโยวที่เพิ่งจะเต้นเพลงสุดท้ายจบ แต่ปากของฟู่สีเกอนั้น อยู่ห่างจากริมฝีปากของเฉียวโยวโยวเพียงหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น

ท่าโพสต์จบของคนทั้งสอง ดูลึกซึ้งอย่างมาก เหมือนต้องการจะจูบแต่ก็ไม่ได้จูบลงไป

เดิมทีคนโดยรอบที่ให้ความสนใจการเต้นรำของพวกเขาอยู่ตลอด เวลานี้เห็นคนทั้งสองทำท่าทีนี้ ก็เลยส่งเสียงเชียร์กันขึ้นมา

หยานชิงเจ๋อหรี่ตาลง คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้แม้แต่เพื่อนรักของหลานเสี่ยวถางฟู่สีเกอก็จะเล่นด้วย!

เขากำลังจะเข้าไปเตือนฟู่สีเกอ ก็เห็นว่าฟู่สีเกอก้มหน้าลงไปจริงๆ จากนั้นริมฝีปากของเขาก็กดลงบนริมฝีปากของเฉียวโยวโยว

จากนั้นเขาก็นำเฉียวโยวโยวหมุนตัวกลับ ทั้งสองคนเปลี่ยนท่าทาง เขาโอบกอดเฉียวโยวโยวไว้แน่น หลังจากนั้นก็จูบลงไปอย่างลึกซึ้ง!

ทันใดนั้นการกระทำนี้ก็เหมือนจุดระเบิดให้คนทั้งงาน คนโดยรอบส่งเสียงกรี๊ดด้วยความตื่นเต้น ประหนึ่งว่าเป็นตนเองที่ถูกจูบ

เดิมทีฝีเท้าของหยานชิงเจ๋อที่ก้าวเข้าไปก็หยุดลงอย่างกะทันหัน

แต่เขาจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ฟู่สีเกอมีคนคุยด้วยหลายคน แต่ตั้งแต่ฮั่วชิงชิงเสียชีวิตไป ถึงแม้ว่าเขากำลังคุยกับใคร ก็ไม่เคยจูบผู้หญิงเหล่านั้นเลย……

หยานชิงเจ๋อแค่รู้สึกว่าโลกใบนี้ดูเหมือนจะเริ่มทำลายความรู้ความเข้าใจของเขาไปหมดแล้ว และภาพของซูสือจิ่นที่เพิ่งจะร้องไห้ออกไปก็อดไม่ได้ที่จะปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา อารมณ์เช่นนี้ทำให้เขายิ่งกลัดกลุ้มใจมากขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงก้าวลงจากเวทีไป

เวลานี้ ในที่สุดฟู่สีเกอก็สิ้นสุดการจูบอันลึกซึ้งกับเฉียวโยวโยว เขาละออกจากเธอเล็กน้อย แล้วพูดกับเธอว่า : “รสชาติยิ่งนานวันยิ่งหวานขึ้นเรื่อยๆเลยนะ!”

คนโดยรอบเห็นท่าทีที่หวานชื่นของคนทั้งสอง จึงเริ่มพูดคุยกันขึ้นมา : “ทั้งสองท่านน่าจะเป็นคู่รักกันใช่ไหม? ตอนแรกที่เห็นก็รู้สึกว่าต้องไม่ใช่คู่ที่คุณสือจัดให้ชั่วคราวอย่างแน่นอน!”

“ใช่ๆ พวกคุณดูเข้ากันได้ดีมาก เป็นคู่รักกันจริงๆใช่ไหม?”

ฟู่สีเกอได้ยินก็ยืนตัวตรง แขนของเขาโอบอยู่บนไหล่ของเฉียวโยวโยว พูดด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ว่า : “ทุกคนตาถึงมาก!”

เฉียวโยวโยวเห็นท่าทางลำพองใจของเขา จึงใช้ศอกกระแทกไปที่ซี่โครงของเขา : “ใครเป็นคู่รักกับคุณห๊ะ?!”

นิ้วมือของฟู่สีเกอลูบบนคางของเฉียวโยวโยวเบาๆ แล้วพูดกับคนที่ให้ความสนใจอยู่รอบๆว่า : “พวกคุณดูสิ เธอเขินเลย!”

ฉับพลันทุกๆคนก็หัวเราะกันขึ้นมา แล้วก็มีคนพูดว่า : “ยินดีกับทั้งสองท่านล่วงหน้าด้วย จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ล่ะ?”

“ใช่ๆ จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ เราจะได้มางาน!”

มือของฟู่สีเกอค่อยๆเลื่อนลงมาที่ท้องน้อยของเฉียวโยวโยว จากนั้นก็แสดงสีหน้าเศร้าออกมา : “คุณภรรยา เราจัดการเรื่องงานแต่งงานให้เร็วหน่อยเถอะ คุณรอต่อไปได้ แต่ในท้องคุณเขาจะรอไม่ไหวนะ……”

ดวงตาของเฉียวโยวโยวเบิกกว้างขึ้นทันที เธอเห็นว่าทุกๆคนที่อยู่โดยรอบกำลังมองมาที่ท้องของเธอด้วยแววตาเป็นประกาย สายตาของพวกเขาราวกับเครื่องอัลตราซาวนด์

ชั่วขณะเฉียวโยวโยวก็แทบจะเป็นบ้า : “ไอ้บ้าสีเย็น คุณบอกฉันมาให้ชัดเจนนะ เขาที่อยู่ในท้องคืออะไร? ในท้องของฉันมีอะไรซะที่ไหนกัน?!”

“ยายโง่โยว คุณเรียกฉันว่าไอ้บ้าสีเย็นเหรอ ถ้าเด็กคนนั้นเกิดมาไม่มีพ่อจะทำอย่างไร?” ฟู่สีเกอแสดงออกด้วยท่าทางโกรธเคืองอย่างมาก

พูดจบ ฟู่สีเกอเห็นเฉียวโยวโยวกำลังจะทุบตีตนเอง เขาจึงวิ่งหนีเธอ

เฉียวโยวโยวทั้งโกรธทั้งอาย ยกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยแล้ววิ่งไล่ตามฟู่สีเกอไป

ทุกๆคนที่อยู่ด้านหลังตึงเครียดขึ้นมา : “เพื่อนเจ้าสาวระวังด้วย ในท้องคุณมีเด็กอยู่ ยังใส่รองเท้าส้นสูงอีก ระวังจะหกล้มนะ……”

เฉียวโยวโยวได้ยินก็กัดฟันแน่น อยากจะฆ่าฟู่สีเกอให้ตายไปเลยจริงๆ!

เพราะฟู่สีเกอกับเฉียวโยวโยวเป็นคนขับเคลื่อนบรรยากาศ จึงทำให้บริเวณฟลอร์เต้นรำครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้ง

มีคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่ฟลอร์ตอนนี้ บวกกับเพลงที่เร็วขึ้น ฉะนั้นทุกๆคนจึงสนุกสุดเหวี่ยงกันอยู่ที่ฟลอร์เต้นรำ หนุ่มโสดสาวโสดหลายคนก็ได้พบกับคนรักที่รอคอยมานานอีกด้วย

ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว วันนี้สือมูเฉินเชิญเชฟทำอาหารมาจากหลากหลายทั่วโลก เพื่อเป็นการตอบสนองรสนิยมที่แตกต่างของแขกทุกท่าน

และเวลานี้ หลานเสี่ยวถางกำลังต่อสู้อยู่กับคอมพิวเตอร์ที่ด้านหลังเวที

เธอพิมพ์บนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว ลองใช้คำสั่งที่แตกต่างกัน และเชื่อมต่อกับทางด้าน DR นั้นไปด้วย

“เสี่ยวถาง ทานอาหารสักหน่อยนะ” สือมูเฉินเดินถือถาดอาหารเข้ามา อาหารที่วางอยู่วางในนั้นเป็นของที่หลานเสี่ยวถางชอบทานทั้งนั้น

หลานเสี่ยวถางไม่ได้เงยหน้ามองสือมูเฉิน แต่พูดกับสือมูเฉินว่า : “โอเค วางไว้ตรงนั้นแหละ ฉันจะเขียนตรงนี้ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยทาน มูเฉิน คุณออกไปต้อนรับแขกเถอะ!”

“ไม่เป็นไร ฉันไม่อยู่สักพัก พวกชิงเจ๋อเขาก็ทำหน้าที่แทนได้” สือมูเฉินพูดจบ ก็ยกเก้าอี้มานั่งลงข้างๆหลานเสี่ยวถาง

เขายกถาดอาหารมา ใช้ช้อนตักเนื้อตุ๋นขึ้นมาหนึ่งชิ้น : “ฉันรู้ว่าถ้าฉันปล่อยไป อาหารเย็นแล้วคุณก็ไม่ได้ทาน ฉะนั้นฉันจะป้อนคุณ เสี่ยวถาง อ้าปากสิ”

หลานเสี่ยวถางหันหน้ามองไป ก็เห็นสือมูเฉินกำลังยิ้มให้เธอ เธอถูกรอยยิ้มของเขาทำให้ใจลอยขึ้นมาในทันที พอดึงสติกลับมา จึงเอ่ยปากว่า: “มูเฉิน คุณดีจริงๆเลย!”

“เรียกสามีให้ฟังสักคำซิ” สือมูเฉินกล่าว

หลานเสี่ยวถางรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที เธอกัดเนื้อวัวคำหนึ่ง แล้วกล่าวอย่างไม่ชัดเจนว่า: “สามี”

สือมูเฉินยิ้มขึ้นมาทันที เขาช่วยเธอจัดเส้นผมที่ห้อยลงมา: “โอเค เดี๋ยวกลางคืนค่อยฟังก็ได้ คุณตั้งใจเขียนโปรแกรมเถอะ แค่อ้าปาก ฉันก็จะป้อนคุณ จะได้ไม่เสียเวลา”

“โอเคค่ะ”

ด้วยเหตุนี้ สือมูเฉินจึงป้อนข้าวหลานเสี่ยวถางไปแบบนี้จนหมดจริงๆ

เธอลูบๆท้อง แล้วกล่าวว่า: “ช่วงนี้เหมือนกับจะอยากอาหารมากขึ้น ดีกว่าตอนที่เพิ่งท้อง อย่างน้อยก็ไม่อยากอาเจียนแล้ว”

สือมูเฉินนึกอะไรขึ้นได้ จึงพยักหน้า: “ผ่านไปอีกเดือนหนึ่ง ฉันก็จะได้ยกเลิกคำสั่งห้ามแล้ว”

หลานเสี่ยวถางเข้าใจได้ในทันที ใบหูของเธอก็ร้อนผ่าวเล็กน้อย แต่สือมูเฉินลุกขึ้นยืน: “เสี่ยวถาง อย่าหักโหมเกินไปนะ ฉันไปทักทายแขกก่อนนะ คุณก็อย่าเครียดเกินไปนะ”

หลานเสี่ยวถางพยักหน้า แล้วคิดว่าจะหาวิธีถอดรหัสอย่างไรต่อไป และเวลานี้ ทางด้านDRก็โทรศัพท์เข้ามา: “พี่สะใภ้ พวกเราหาวิธีได้แล้ว แต่อย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลา19ชั่วโมง”

หัวใจของหลานเสี่ยวถางจมดิ่ง: “ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ?”

ทางด้าน DRกล่าวว่า: “ไม่มีแล้วครับ พวกเราเคยวิเคราะห์แล้ว น่าจะมีแค่วิธีนี้ที่สามารถถอดรหัสไวรัสได้”

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ลองไปก่อนเถอะ!” หลานเสี่ยวถางวางสายแล้ว ก็ถอนหายใจยาว

หรือว่า ถูกกำหนดไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องพ่ายแพ้ให้กับมั่วหลิงชวน?

คล้ายกับว่าความคิดเวลานี้ของหลานเสี่ยวถางจะถูกต้อง มั่วหลิงชวนได้โทรเข้ามา: “ผู้พิทักษ์ พวกคุณหาวิธีถอดรหัสได้แล้วหรือยัง?”

มือของหลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะออกแรงกำมือถือแน่น: “ทำไม?”

“ฮ่าๆ ฉันเข้าใจแล้ว!” น้ำเสียงของมั่วหลิงชวนแฝงไปด้วยความมั่นใจว่าชัยชนะอยู่ในกำมือ: “เอาแบบนี้แล้วกัน วันนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันจะรอให้แขกคนสุดท้ายในงานวันนี้ออกไปก่อน แล้วค่อยเผยแพร่วิดีโอ”

เขาเน้นคำว่าแขก ก็บอกเป็นนัยแล้วว่า ไม่นับตนเอง

แต่งานแต่งงาน แขกจะอยู่ตลอดจนดึกดื่น หรือไม่ก็พักค้างคืน?

ดังนั้น ที่เขาเรียกว่าผ่อนปรนเงื่อนไขให้ อันที่จริงก็เท่ากับพูดไปโดยเปล่าประโยชน์

“ถึงเวลานั้น จอ LEDในห้างสรรพสินค้าใหญ่ในหนิงเฉิง สถานีโทรทัศน์ จะถ่ายทอดสดวิดีโอเดียวกัน” มั่วหลิงชวนกล่าวว่า: “ตื่นเต้น เร้าใจมากเลยใช่ไหม?”

หลานเสี่ยวถางกำมือถือแน่น: “คุณสบายใจได้ คุณทำไม่สำเร็จหรอก!”

“อย่างนั้นเราก็มาดูกัน!” มั่วหลิงชวนวางสายไป

เก็บมือถือแล้ว หลานเสี่ยวถางที่นั่งอยู่หน้าคอม มองวิธีที่ทางด้านDRส่งเข้ามา

เธอรีบดูคร่าวๆอีกรอบหนึ่ง ไม่ยอมรับไม่ได้ว่า นี่คือรหัสที่สมบูรณ์แบบมากชุดหนึ่ง แต่เนื่องจากความเร็วในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันและข้อจำกัดอื่นๆ ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 19ชั่วโมงจริงๆ

ถ้าทำแบบนั้นจริงๆ ถึงแม้จะถอดรหัสได้จริงๆก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ถึงอย่างไร สิ่งที่เธอต้องการทำมาโดยตลอด ก็ไม่ใช่การประลองฝีมือกับมั่วหลิงชวน แต่เป็นการรักษาความลับของสือมูเฉิน

รู้สึกกระหายน้ำเล็กน้อย หลานเสี่ยวถางจึงหยิบน้ำที่อยู่ข้างๆขึ้นมา

แต่เพราะวางเอาไว้สักพักแล้ว น้ำจึงค่อนข้างเย็น

หลานเสี่ยวถางกำลังจะลุกขึ้นยืนแล้วเรียกคนให้เอาน้ำอุ่นมาให้แก้วหนึ่ง จู่ๆฝีเท้าก็หยุดอยู่กับที่

วิธีถอดรหัสไวรัส พวกเขามักจะคิดหาจุดอ่อน และกำจัดมัน แต่ทำไมไม่แช่แข็งไวรัสมันไปซะเลยล่ะ?

ทำให้โปรแกรมไวรัสเข้าสู่สถานะหยุดทำงานโดยไม่มีเงื่อนไข แบบนี้ ถึงจะไม่ได้ถอดรหัสมัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?!

พอเกิดความคิดนี้ขึ้น หลานเสี่ยวถางก็นำแผนการวิเคราะห์ของทางด้านDRมาเป็นข้อมูลทันที แล้วเริ่มจัดให้เป็นหมวดหมู่อย่างจริงจัง

เวลาผ่านไปทีละน้อยๆ จนกระทั่ง ดวงตาของเธอเป็นประกาย!

เธอสามารถเขียนอีกโปรแกรมหนึ่งได้ แสดงให้เห็นว่าสามารถหลอมรวมกับไวรัสนี้ได้ แต่ในความเป็นจริง หลังจากที่เธอเริ่มดำเนินการ โปรแกรมทั้งสองก็จะเข้าสู่โหมดสลีปพร้อมกัน!

หลานเสี่ยวถางคำนวณเล็กน้อยแล้ว ก็คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง

ตอนนี้ทุกคนกำลังทานอาหาร หลังจากทานอาหารเสร็จ ก็น่าจะพูดคุยกันพอสมควรแล้วจึงกลับไป เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ก็มีความหวังอย่างมาก!

ด้วยเหตุนี้ หลานเสี่ยวถางก็ดื่มน้ำที่เย็นแล้วอึกหนึ่ง จากนั้น ก็หมกมุ่นอยู่ในเครื่องหมายคำสั่งต่างๆ

หลานเสี่ยวถางยุ่งอยู่กับงาน จึงไม่ได้รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยสิ้นเชิง และด้านนอก ก็มีแขกบางคนเริ่มทยอยออกไปตามกำหนดการก่อนหน้านี้แล้ว

พอได้เดินไปส่งแขกหลายคนออกไปแล้ว หยานชิงเจ๋อก็เห็นคนในงานที่ยิ่งน้อยลงๆ ใจก็เป็นกังวลขึ้นมา แต่กลับไม่ได้แสดงออกมาแม้แต่น้อย

เขาเดินมายังตรงหน้าสือมูเฉินแล้วกล่าวว่า: “สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”

“เสี่ยวถางกำลังพยายามอยู่ พวกเราอย่าไปกดดันเธอเลย” สือมูเฉินคิดๆแล้วกล่าวว่า: “ชิงเจ๋อ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้แปลกประหลาดมาก ถึงแม้จะมีคนของมั่วหลิงชวนมาเป็นแขกในงาน แต่ก็สามารถบุกรุกด้วยไวรัสได้ นี่ชัดเจนว่ามีปัญหาอื่น…..”

หยานชิงเจ๋อหรี่ตามอง: “มีไส้ศึก?”

สือมูเฉินพยักหน้า เงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยปากว่า: “แต่ฉันเชื่อใจกลุ่ม DRมากพอ ฉันคิดว่าสามารถเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ก็มีเพียงแค่มือถือหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของพวกเราเท่านั้น ที่เคยถูกคนเคลื่อนไหว อีกทั้งเป็นคนของมั่วหลิงชวนที่ลงมือ”