ตอนที่ 489 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (3) ตอนที่ 490 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สาม (1)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 489 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (3) / ตอนที่ 490 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สาม (1)
ตอนที่ 489 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (3)

ในอีกด้านหนึ่งของป่า ต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกโค่นและบดขยี้จนจมดิน คลื่นพลังวิญญาณมหาศาลกระจายตัวออกไปทั่วและแทรกซึมไปในทุกอณูของอากาศ เศษใบไม้มากมายม้วนตัวขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับสายลมที่ส่งเสียงหวีดหวิว

กลิ่นคาวเลือดรุนแรงลอยวนอยู่ในอากาศ และร่างที่สูงใหญ่ขนาดเท่ากับภูเขากำลังยืนตระหง่านอยู่ระหว่างฟ้ากับดิน เสียงคำรามก้องดังออกมาจากปากของมันอย่างต่อเนื่อง!

มันเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่ตัวใหญ่มาก กรงเล็บจากขาทั้งสี่ข้างของมันคมกริบราวกับใบมีด หางยาวสีขาวทั้งเก้าของมันกวัดแกว่งไปมาในอากาศอย่างดุเดือด และทุกครั้งไม่ว่าหางของมันจะกวาดไปทางไหน ทั้งต้นไม้และหินก็จะถูกตัดขาดในทันที มันมีเขาที่โค้งงอสองข้างบนหัว ดวงตาสีแดงเพลิงบัดนี้ยิ่งแดงก่ำด้วยแรงโทสะ

เนื่องจากสัตว์วิญญาณตัวนี้มันมีขนสีขาวตลอดทั้งตัว แสงสีแดงที่เปล่งออกมาจางๆ รอบตัวของมันจึงยิ่งเห็นชัดมากขึ้นอีก

สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่กำลังโกรธจัด สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าลงได้

ท่ามกลางซากแตกหักของก้อนหิน หลงฉีโยนร่างที่ได้รับบาดเจ็บของทหารกองทัพรุ่ยหลินคนหนึ่งไปซ่อนไว้หลังตอไม้ขนาดใหญ่

แขนข้างหนึ่งของทหารคนนั้น ถูกตัดด้วยใบมีดสายลมที่เกิดจากการสะบัดหางของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ มันเป็นเพียงแค่การโจมตีเดียว แต่แขนของทหารคนนั้นกลับถูกตัดขาดออกจากกันอย่างง่ายดาย เขามีใบหน้าซีดเผือดเนื่องจากเสียเลือดมากและความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็เข้าถาโถม ทำให้อุณหภูมิร่างกายของเขาลดลงจนน่าตกใจ

“ท่านแม่ทัพ ไม่ต้องสนใจพวกเรา…ท่าน…ท่านพาหรงเหิงและคนอื่นๆ ออกไปจากที่นี่ก่อน…” ทหารที่ได้รับบาดเจ็บคว้าแขนเสื้อของหลงฉีด้วยมืออีกข้างที่เหลือของเขาและพูด

“สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถรับมือได้ ใช้ประโยชน์จากตอนที่เสี่ยวอู่และคนอื่นๆ ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อยู่ พวกเราจะยื้อเวลาให้ท่านเอง ท่านต้องพาหรงเหิงและคนอื่นๆ ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ พวกเราตายไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่พวกเขาเป็นศิษย์ของคุณชายมู่ สำหรับกองทัพรุ่ยหลินของเราแล้ว พวกเขามีความสำคัญอย่างยิ่ง!” ทหารที่ได้รับบาดเจ็บอ้าปากหอบหายใจอย่างลำบาก สีหน้าของเขาดูย่ำแย่มากขึ้นเรื่อยๆ

การแสดงออกของหลงฉีตึงเครียดมาก สถานการณ์ที่พลิกผันอย่างรวดเร็วนี้ทำให้ขบวนเดินทางของพวกเขาตกอยู่ในวิกฤต

สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ แม้แต่เขาก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อน!

“ข้าจะไม่มีวันทิ้งพี่น้องของข้าไว้ข้างหลัง” หลงฉีกัดฟันแน่น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ดี หากว่าเขาทิ้งพี่น้องเหล่านี้ไว้แล้วพาคนอื่นๆ หนีไป คนที่เหลือจะต้องตายอย่างแน่นอน เนื่องจากได้ประมือกับสัตว์วิญญาณตัวนั้นมาสักพักหนึ่งและ หลายคนจึงเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ และวงแหวนภูติวิญญาณของพวกเขาก็ยื้อไว้ได้อีกไม่นานแล้ว อันที่จริงหากภูติวิญญาณประเภทอาวุธของเขาไม่สามารถจำแลงเป็นชุดเกราะได้ ป่านนี้เขาก็คงกลายเป็นศพนอนเย็นชืดอยู่บนพื้นไปแล้วเหมือนกัน!

ดวงตาของหลงฉีกวาดมองไปที่หรงเหิงและคนอื่นๆ ที่ประคองตัวอยู่ไม่ไกลนัก การเดินทางมายังป่าประลองวิญญาณในครั้งนี้ มีลูกศิษย์ของยอดเขาเทียมเมฆาเดินทางมาด้วยสามคน ขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติเมื่อสักครู่ พวกเขาก็เน้นปกป้องความปลอดภัยของคนทั้งสามเป็นหลัก

พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าทหารกองทัพรุ่ยหลินนั้นมีมากมาย ขาดพวกเขาไปเพียงไม่กี่คนก็ไม่เป็นไร แต่จะให้ลูกศิษย์ของยอดเขาเทียมเมฆาที่ติดตามมาด้วยเกิดเรื่องไม่ได้เป็นอันขาด ตราบเท่าที่ยังมีพวกเขาอยู่ กองทัพรุ่ยหลินก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต!

สถานการณ์ทางฝั่งของหรงเหิงคนอื่นๆ เองก็ใช่ว่าจะดี แม้ว่าพวกทหารจากกองทัพรุ่ยหลินจะต่อสู้เพื่อปกป้องพวกเขาด้วยชีวิต แต่ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ พวกเขาที่มีพลังวิญญาณอันแสนน้อยนิดแทบจะไม่สามารถต้านทานคลื่นพลังนั้นได้เลย ถึงจะไม่ได้ถูกโจมตีตรงๆ อย่างทหารกองทัพรุ่ยหลิน แต่เพียงคลื่นของพลังที่สะท้อนออกมาก็เพียงพอให้ศิษย์ที่เน้นฝึกฝนทักษะทางด้านการแพทย์อย่างพวกเขาได้รับบาดเจ็บไม่แพ้กัน

“แม่ทัพเอกหลง พวกเราทำให้พวกท่านต้องมาลำบากด้วยแล้ว” หรงเหิงมองไปที่หลงฉีด้วยใบหน้าขาวซีด หากไม่ใช่พวกเขาคอยถ่วงแข่งถ่วงขากองทัพรุ่ยหลินไว้ ด้วยทักษะความสามารถของพวกเขา มันก็เกินพอที่จะใช้หลบหนีไปจากที่นี่

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า เป็นข้าที่ประมาทเกินไป!” หลงฉีหรี่ตาลง ร่องรอยของความโกรธแค้นปรากฏขึ้นในดวงตาคม

“ไม่มีใครคาดคิดว่ากลุ่มศิษย์เหล่านั้นจะมีความคิดที่ชั่วช้าเลวทรามแบบนี้ หากพวกเขาไม่ไปยั่วยุสัตว์วิญญาณตัวนั้น มีหรือที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น เจ้าพวกสารเลวนั่นพากันหนีตายไปจนหมดทันทีที่พวกมันนำสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติมาหาพวกเรา!” ลูกศิษย์อีกคนของยอดเขาเทียมเมฆากัดฟันด้วยความเกลียดชัง!

ตอนที่ 490 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สาม (1)

สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติเป็นตัวตนที่ไม่มีใครกล้าไปยั่วยุ เดิมทีหลงฉีทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับหนิงซินว่าจะล่าสัตว์วิญญาณระดับสูงให้นางและกลุ่มของนางห้าตัว หลังจากไปถึงทะเลสาบจันทราวารีกระจ่างแล้ว เขาก็ปฏิบัติตามคำสัญญาโดยออกค้นหาร่องรอยของสัตว์วิญญาณระดับสูงทันที แต่ผู้ใดจะคิดว่าหนิงซินกับคนในกลุ่มของนางจะไปล่อสัตว์วิญญาณระดับผู้พิทักษ์ที่กำลังโกรธจัดเข้ามาหาพวกเขา! ส่วนคนพวกนั้นกลับอาศัยจังหวะช่วงชุลมุนหลบหนีไป ทิ้งหลงฉีและคนที่เหลือให้ตกลงสู่ขุมนรก!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของหลงฉีก็เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามากังวลถึงเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว!

ทหารทั้งห้าคนของกองทัพรุ่ยหลินยังคงต่อสู้กับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติแม้แต่น้อย แต่เพื่อซื้อเวลาให้กับหรงเหิงและคนอื่นๆ ได้มีเวลาหลบหนีมากขึ้น พวกเขาจึงทำได้เพียงเอาชีวิตและจิตวิญญาณของพวกเขาเข้าแลก ในฐานะหน่วยรบเหล็กโลหิต แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ โลหิตชุ่มโชกไปทั่วร่าง แต่เจตจำนงของพวกเขาจะไม่มีวันสั่นคลอน พวกเขาจะไม่มีวันละทิ้งหน้าที่ของตัวเอง แม้ผืนดินที่กำลังเหยียบย่ำอยู่จะถูกย้อมไปด้วยเลือด!

“รบกวนเจ้าพาพี่น้องของข้าออกไปด้วย พวกเราที่เหลือจะอยู่ซื้อเวลาให้เอง” ในที่สุดหลงฉีก็ส่งตัวทหารที่บาดเจ็บสาหัสให้แก่หรงเหิง และวิ่งกลับเข้าไปในสนามรบโดยไม่หันหน้ากลับมามองอีก!

“ท่านแม่ทัพเอก!” ทหารคนนั้นมองด้านหลังอันเด็ดเดี่ยวของหลงฉีอย่างสิ้นหวัง!

นอกวงของสนามรบที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด หนิงซินซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ มองดูฉากความสิ้นหวังด้วยดวงตาที่เย็นชา พลางหัวเราะเยาะที่มุมปากของนาง

“ศิษย์พี่หนิง พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติจริงๆ” อิ่นเหยียนติดตามอยู่ด้านข้างหนิงซิน เฝ้าดูทหารของกองทัพรุ่ยหลินถูกสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติกดดันให้ถอยหลังทีละก้าว

“พวกเขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติอยู่แล้ว บนโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถจัดการกับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติได้ แต่นั่นไม่นับรวมคนกลุ่มนี้เข้าไปด้วย อีกเดี๋ยวรอสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติฆ่าคนที่เหลือเสร็จ พวกเราค่อยไปเก็บหินวิญญาณระดับสูงบนตัวของพวกเขา” หนิงซินหรี่ตาลง แววตาของนางส่องประกายอย่างมีความสุขและสะใจ

นางจะไม่มีวันยกโทษให้ใครก็ตามที่กล้าทำให้นางอับอาย!

องครักษ์หลงคนนั้นกล้าหักหน้านางก่อน ก็สมควรแล้วที่จะมีจุดจบเช่นนี้!

อิ่นเหยียนก้มศีรษะลงและไม่พูดอะไร เขาค่อนข้างหวาดกลัวความชั่วร้ายของหนิงซิน อันที่จริงคนกลุ่มนี้ไม่ได้แย่เลย แต่เป็นเพราะพวกเขาทำให้หนิงซินเสียหน้า พวกเขาจึงต้องประสบกับหายนะเช่นนี้เพื่อสังเวยต่อความผิดพลาดที่พวกเขาได้ทำให้หนิงซินขุ่นเคืองใจ ภายใต้รูปลักษณ์ที่งดงามงามของหนิงซิน ความคิดที่ชั่วร้ายมากมายได้ถูกซ่อนเร้นไว้ และมันก็ทำให้อิ่นเหยียนรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทางนี้ทั้งสองคนกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง การเคลื่อนไหวหนึ่งก็ได้ดึงดูดความสนใจของหนิงซินและคนอื่นๆ!

พวกเขาเห็นเงาร่างสีดำสองร่างจู่ๆ ก็พุ่งออกมาจากป่าทึบ และวิ่งตรงไปที่สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่แข็งแกร่งตัวนั้น!

“นั่นอะไรน่ะ!” หนิงซินตกตะลึงไปชั่วครู่ เงาทั้งสองนั้นเร็วมากจนนางมองตามไม่ทันว่ามันคืออะไร

หลงฉีผู้ซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อยื้อเวลาให้กับคนของเขาอยู่ หลังจากถูกสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติจับได้ เกราะวิญญาณที่เขาสวมใส่อยู่ก็ถูกฉีกออกมาพร้อมกับชิ้นเนื้อบนแผ่นหลังของเขา โลหิตสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณทันที เมื่อเห็นแผ่นหลังนั้นที่เต็มไปด้วยเลือด ทหารกองทัพรุ่ยหลินสองสามคนก็รีบวิ่งขึ้นไปรับมือกับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติแทนและลากตัวหลงฉีออกมา!

ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและรุนแรงนี้ทำให้หลงฉีตาพร่า!

สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวนี้ สามารถฉีกเกราะซึ่งเป็นวงแหวนภูติวิญญาณของเขาที่จำแลงกายออกมาได้! ความแข็งแกร่งที่พลิกฟ้าสยบปฐพีเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ตัวเล็กจ้อยอย่างพวกเขาจะสามารถรับมือได้เลยจริงๆ!

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์สิ้นหวังมากขึ้นทุกขณะ หลงฉีก็กัดฟันกรอด ดูท่าว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของพวกเขาแล้ว พวกเขาทุกคนคงต้องทิ้งศพนอนตายอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติกำลังจะจู่โจมหลงฉี เสี้ยววินาทีนั้นเอง เงาร่างสีดำก็กระแทกชนเข้าที่หัวกะโหลกของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ!

ได้ยินเพียงเสียงคำรามก้องราวกับเสียงระเบิด!

กระแสลมแรงพัดพาทุกคนให้กระเด็นออกไปในทันที!

หลงฉีบินลอยคว้างอยู่กลางอากาศ แต่ในวินาทีต่อมาตัวของเขาก็ถูกคว้าไว้ด้วยแรงที่ทรงพลังก่อนจะตกลงสู่พื้น!