ตอนที่ 491 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สาม (2) / ตอนที่ 492 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สาม (3)
ตอนที่ 491 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สาม (2)
มันเป็นสัตว์ร้ายสีดำขนาดยักษ์ที่ใช้หัวของมันรองรับร่างที่ตกลงมาของหลงฉีไว้ก่อนเขาจะกระแทกพื้น หางยาวสีดำที่แข็งแกร่งพันร่างของหลงฉีและเหวี่ยงเขาขึ้นฟ้า จากนั้นถึงค่อยคว้าร่างที่ลอยอยู่กลางอากาศให้ลงมาแตะพื้นอย่างนุ่มนวล วางเขาไว้ในพื้นที่เปิดโล่งซึ่งห่างออกไปไม่ไกล
แผ่นหลังของหลงฉีร้อนระอุด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามฝืนความเจ็บนั้นแล้วยืนขึ้นมองเจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่เข้ามาช่วยเขาไว้ด้วยความประหลาดใจ เงาร่างขนาดใหญ่นั้นวิ่งกลับเข้าไปในสนามรบด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์ และเพียงไม่อึดใจทหารของกองทัพรุ่ยหลินทั้งหมดก็ได้รับการช่วยเหลือ
ทันทีที่เขาได้เห็นร่างของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำชัดๆ หลงฉีก็ตัวแข็งค้าง!
สัตว์ร้ายสีดำตัวนั้นช่างคุ้นตาเหลือเกิน! กี่ครั้งแล้วที่เขาเดินตามหลังเจ้าสัตว์ร้ายสีดำตัวนั้น มองดูร่างเล็กกะทัดรัดที่นั่งอยู่บนหลังของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นสูง!
เสียงฝีเท้าเบาหวิวดังขึ้นจากทางด้านหลังของหลงฉี หลงฉีตัวแข็งทื่อไปในทันที!
“ถ้ายังไม่อยากตาย ก็อยู่นิ่งๆ” น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังก้องอยู่ในหูของเขา และเสียงเย็นนั้นก็เปรียบเสมือนน้ำอุ่นๆ ที่ไหลเข้าสู่ร่างของหลงฉี!
หลงฉีหันกลับไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดขึ้นไปทั่วทั้งตัว ทันใดนั้นเขาก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง ก้มศีรษะที่หยิ่งทระนงของเขาลง และตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแกมยินดีว่า “หลงฉีคารวะคุณหนูใหญ่ขอรับ!”
น้ำเสียงนั้นสั่นเครือเล็กน้อย
เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคิดถึง
ร่างเล็กกะทัดรัดเข้ามาหยุดต่อหน้าหลงฉี หลงฉีเงยหน้าขึ้น คนตรงหน้ายังคงดูบอบบางเช่นเคย แต่กลับทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและสบายใจมากกว่าใครๆ!
บนใบหน้าที่ละเอียดอ่อน สีหน้าของนางยังคงไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เช่นเคย บรรยากาศเย็นเยียบรอบตัวทำให้ใครก็ตามที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับร่างเล็กนี้รู้สึกเกรงขาม!
เมื่อเสียงของหลงฉีหายไป เจ้าสัตว์ร้ายสีดำก็วิ่งกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มันนำร่างของทหารกองทัพรุ่ยหลินคนอื่นๆ ที่เหลือมาด้วย มันวางคนพวกนั้นลงกับพื้นก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างร่างเล็ก
ทหารกองทัพรุ่ยหลินที่ถูกช่วยเหลือออกมายังไม่ฟื้นสติจากการต่อสู้อันน่าเศร้าดี ยิ่งเมื่อได้เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายสีดำที่บุกเข้าไปช่วยชีวิตพวกเขาไว้ เวลานี้ทุกคนตกใจมากจนพูดไม่ออกแล้ว!
ในฐานะทหารกล้าของกองทัพรุ่ยหลิน หน้าที่หลักของพวกเขาที่ถูกวางไว้คือการอารักขาความปลอดภัยให้กับสกุลจวินทั้งสามรุ่น ในวันที่เกิดการปิดล้อมเมืองหลวง หลงฉีและพวกเขาทุกคนที่ติดตามไปด้วยย่อมได้เห็นฉากที่เด็กสาวคนหนึ่งตัดสินใจประหารขุนนางชั่วอย่างเด็ดขาดกับตา!
และความทรงจำทั้งหมดเหล่านี้ ดูเหมือนจะมีเจ้าสัตว์ร้ายสีดำตัวใหญ่และน่าเกรงขามปรากฏอยู่ด้วยเสมอๆ ซึ่งมันก็มีรูปร่างและลักษณะเหมือนกับตัวที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานี้ทุกประการ!
ตอนนี้ท่านแม่ทัพเอกของพวกเขากำลังคุกเข่าลงต่อหน้าเด็กหนุ่ม แต่ร่างเล็กๆ ที่อยู่ต่อหน้าพวกเขานี้กลับให้ความรู้สึกทั้งแปลกหน้าและคุ้นเคยในเวลาเดียวกัน
พวกเขาไม่เคยเห็นใบหน้านี้มาก่อน แต่ดวงตาคู่นั้นและอากาศรอบตัวที่เย็นเยียบทำให้พวกเขาได้สติ พลันกระจ่างแจ้งขึ้นมาในทันที!
“คุณหนูใหญ่!” ทหารหลายคนของกองทัพรุ่ยหลินคุกเข่าลงต่อหน้าเด็กหนุ่มด้วยอาการสั่นไปทั้งตัว พวกเขาเพิกเฉยต่ออาการบาดเจ็บของตัวเองโดยสิ้นเชิง ในน้ำเสียงของแต่ละคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น!
ภายใต้สวรรค์และโลกนี้ มีเพียงสามคนเท่านั้นที่สามารถทำให้ทหารกองทัพรุ่ยหลินยินดีคุกเข่าลงและโค้งคำนับด้วยความเคารพและจริงใจได้!
หลินอ๋องจวินเสี่ยน อ๋องน้อยจวินชิง และคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องจวินอู๋เสีย!
และมีเพียงคนเดียวในโลกเท่านั้นที่สามารถควบคุมเจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่น่ากลัวนี้ได้!
แม้ว่าใบหน้าของนางจะเปลี่ยนไป แต่พวกเขาไม่มีวันจำผิด คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาพร้อมกับเจ้าสัตว์ร้ายสีดำในเวลานี้ ก็คือคนคนเดียวกับเทพธิดาเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจของพวกเขาจวินอู๋เสีย!
เด็กสาวผู้นำปาฏิหาริย์มาสู่จวนหลินอ๋องและกองทัพรุ่ยหลินทั้งหมด!
อย่างไรก็ตามร่างเล็กกะทัดรัดนั้นกลับไม่ได้ตอบสนองใดๆ ต่อการคุกเข่าของคนทั้งหลายเลย นางเพียงยืนมองทหารกองทัพรุ่ยหลินทั้งหมดจากมุมที่สูงกว่า พลิกตัวและกระโดดขึ้นไปบนหลังของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำและยกมือขึ้นทิ้งขวดยาจำนวนกว่าหนึ่งโหลไว้ให้กับพวกเขา และสั่งให้สัตว์ร้ายสีดำทะยานออกไป พุ่งเข้าไปหาสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่เกือบจะฆ่าหลงฉีและทุกคน!
ตอนที่ 492 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สาม (3)
หลงฉีและคนอื่นๆ ใจหล่นวูบ แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบสนองใดๆ จู่ๆ ร่างอีกหลายร่างก็พุ่งออกมาจากป่าทึบ!
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อหลายคนนั่งอยู่บนหลังของหลังหมียักษ์ พุ่งผ่านหน้าหลงฉีและคนอื่นๆ ไปอย่างรวดเร็ว!
“กุ๋นกุ่น! บุกขึ้นไป! พี่ฮวา! เสี่ยวเยียน! หรงรั่ว! เรียกภูติวิญญาณของพวกเจ้าออกมาเดี๋ยวนี้!” เฉียวฉู่กระโดดลงจากหลังของกุ๋นกุ่น แล้วกัดปลายนิ้วหัวแม่มือ ป้ายเลือดที่ซึมออกมาลงไปที่หว่างคิ้ว ทันใดนั้นแสงสีม่วงก็ส่องสว่างเต็มร่างกายของเขาในทันที!
พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เบิกตากว้างไปตามๆ กัน!
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่ไม่ปรากฏตัวมากว่าร้อยปีแล้ว กลับยืนอยู่ตรงนี้ในรูปลักษณ์ของศิษย์สำนักศึกษาอายุสิบหกหรือสิบเจ็ดปี!
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันจะให้พวกเขาได้หายใจหายคอ…
แสงสีม่วงอีกสามสายก็สว่างขึ้นติดๆ! ในบรรดาศิษย์คนอื่นๆ ที่มากับชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนนี้ ยังมีคนที่มีพลังวิญญาณขั้นสีม่วงอยู่อีกถึงสามคน!
ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงทั้งสิ้นสี่คน!
แถมทุกคนยังเป็นเพียงศิษย์ของสำนักศึกษาเท่านั้น!
นี่ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!
งูกระดูกสองหัวขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไปข้างหน้า ตามด้วยผีเสื้อกลืนศพสีเงินยวงที่กระพือปีกอยู่ในอากาศ สุดท้ายก็คือวานรยักษ์ที่ส่งเสียงคำรามไปบนท้องฟ้า!
เป้าหมายของพวกเขาทั้งหมดล้วนมุ่งไปที่สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวนั้น!
เมื่อแสงและเงาหายไป เสียงคำรามก็ระเบิดก้องไปทั่ว!
สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวใหญ่ถูกจู่โจมอย่างรุนแรงจากทุกทิศทาง มันส่งเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด เสียงนั้นทำเอาแก้วหูของทุกคนที่อยู่โดยรอบแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
เยี่ยซากระโดดเข้าไปร่วมวงเป็นคนสุดท้าย เขามุ่งจู่โจมไปที่ดวงตาของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติโดยตรง แสงเย็นวาบเบิดใส่ดวงตาของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง
จวินอู๋เสียและสัตว์ร้ายสีดำหลบหลีกอย่างคล่องแคล่วและโจมตีมันจากใต้ฝ่าเท้าอย่างไม่ลดละ ยับยั้งการก้าวเดินของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ!
ผีเสื้อกลืนศพจำนวนนับไม่ถ้วนบินวนเวียนอยู่รอบๆ สัตว์วิญญาณนั้น ปีกของผีเสื้อกระพือเบาๆ และผงละเอียดที่มีฤทธิ์ทำให้ประสาทสัมผัสด้านชาและเป็นอัมพาตก็ถูกโปรยลงไป ขณะที่วานรยักษ์กับกุ๋นกุ่นประสานการโจมตีซัดไปที่ใบหน้าของสัตว์วิญญาณนั้นเต็มแรง เสียงคำรามก้องของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติดังขึ้นไม่หยุด แต่วานรยักษ์กับกุ๋นกุ่นไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด พวกมันอ้อมไปข้างหลังแล้วยันขาทั้งสองข้างของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติไว้ ไม่อนุญาตให้มันถอยหนีหรือก้าวไปทางใดได้!
งูกระดูกสองหัวที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เลื้อยขึ้นไปและใช้ร่างกายที่เต็มไปด้วยกระดูกอันแข็งแรงของมันรัดหางที่ทรงพลังทั้งเก้าของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติไว้!
เฉียวฉู่ ฮวาเหยา เฟยเยียน และหรงรั่ว สั่งภูติวิญญาณของพวกเขาให้เข้าจู่โจมสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติอย่างไม่หยุดพัก เสียงระเบิดดังติดต่อกันไม่หยุดตั้งแต่พวกเขาปรากฏตัวออกมา
พลังวิญญาณระดับสีม่วง ระเบิดส่องสว่างไปทั่วสนามรบขนาดย่อม!
ในชั่วพริบตา สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง ก็ถูกการโจมตีที่ประสานงานกันเป็นอย่างดีระหว่างจวินอู๋เสียและสหายของนางควบคุมไว้!
หลงฉีและคนอื่นๆ ที่ในที่สุดก็สามารถหายใจได้โล่งคอ พวกเขาจับจ้องไปยังทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าความเหลือเชื่อ!
สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติถูกมนุษย์จำกัดการเคลื่อนไหวได้จริงๆ! ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลย!
“ท่านแม่ทัพเอกหลง คนหนุ่มสาวพวกนั้นเป็นใครหรือขอรับ ทำไมพวกเขาถึงมาช่วยคุณหนูใหญ่จัดการกับสัตว์วิญญาณตัวนั้น” ทหารทั้งหมดของกองทัพรุ่ยหลินตะลึงงัน พวกเขาเบิกตากว้างมองภาพทั้งหมดด้วยความรู้สึกครั่นคร้ามในหัวใจ
ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงอายุสิบหกหรือสิบเจ็ดปีอย่างนั้นหรือ
วงแหวนภูติวิญญาณที่ทรงพลังถึงขนาดที่พวกเขาไม่อาจบอกระดับได้
แถมยังมีสัตว์วิญญาณทรงพลังตัวนั้นที่ถูกหยุดไว้!
ทั้งหมดนี้ช่างคล้ายฝันจนทำให้ผู้คนรู้สึกกังขาว่ามันคือความจริงหรือไม่
หัวใจของหลงฉีเต้นแรง ลมหายใจของเขาเกือบจะสะดุด แต่เมื่อเขาได้ก้มลงมองขวดยาในมือที่จวินอู๋เสียทิ้งไว้ให้ เขาก็ได้สติกลับมาแล้วรีบแจกจ่ายเม็ดยานั้นให้กับเหล่าพี่น้องของเขาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“รีบรักษาตัวเองเดี๋ยวนี้! คุณหนูใหญ่กำลังเสี่ยงชีวิตเพื่อพวกเราอยู่! เราจะมาเสียเวลาที่นี่ไม่ได้!” หลงฉีตะโกนสั่งด้วยเสียงต่ำ
หรงเหิงและศิษย์ของยอดเขาเทียมเมฆาอีกสองคนที่ยืนตะลึงอ้าปากเหวออยู่ข้างๆ หลังจากได้ยินเสียงคำรามของหลงฉีก็ได้สติกลับมาเช่นกัน พวกเขารีบเข้าไปประคองทหารกองทัพรุ่ยหลิน ช่วยป้อนยาและรักษาอาการบาดเจ็บคร่าวๆ ให้